ท่านแม่ทัพเฉินลู่เจินผู้ปกครองภูมิภาคเหนือที่กลับมาจากสงครามชายผู้สมบูรณ์แบบในทุกสิ่ง
หลังจากนั้นไม่นาน ชื่อของ 'ท่านแม่ทัพเฉินลู่เจิน' ก็เป็นที่รู้จักกันไปทั่วทุกสารทิศ ว่ากันว่าเขาเป็นบุรุษที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถและพรสวรรค์มากมาย ทั้งด้านการรบและด้านวรยุทธ
ยามอยู่ในสมรภูมิรบเขาไม่เคยพ่ายแพ้ จนในที่สุดก็ได้ปราบเผ่าโจรเร่ร่อนในแถบชายแดนทางเหนือ ด้วยวัยเพียงยี่สิบเอ็ดปีเขาจึงได้รับความดีความชอบมากมาย
ด้วยเหตุนี้เองที่ทําให้คนในตระกูลสูงส่งทั้งหลาย อยากยกบุตรีให้เขาเป็นอย่างมาก หากได้เกี่ยวดองกับสกุลเฉิน ย่อมหมายความว่าอำนาจในมือล้นฟ้า จนแม้แต่จักรพรรดิยังต้องเกรงใจ
''แต่ข้าได้ปฏิเสธไปแล้วเพราะเจ้าต้องหมั้นหมายกับบุตรสาวของสหายข้า''
ประโยคนี้ของท่านพ่อทำให้เฉินลู่เจินถึงกับหยุดการ ฝึก เห็นทีปัญหาของเขาคงหนักกว่าการฝึกนี่เสียแล้ว
''ข้าไม่เอา''
''ไม่เอาไม่ได้เจ้าต้องทำห้ามปฏิเสธ!''
เฉินไฮ่ผิงเอ่ยกับบุตรชาย เพราะรู้ดีว่าบุตรชายตนนั้นต้องปฏิเสธอย่างแน่นอน
''ต่อให้เป็นบุตรสาวของสหายท่านพ่อหรือลูกขุนนางข้าก็ไม่เอา''
''ดื้อรั้นจริงๆ''
''ข้ายังมิเคยได้เห็นหน้าค่าตานางแม้แต่น้อยจะให้ข้าไปหมั้นหมายกับนางได้เยี่ยงไร ข้าต้องการแต่งงานกับสตรีที่รักข้าและข้ารักนางอย่างแท้จริงมิใช่การมาบังคับข้า''
''สายตาเจ้าไม่เคยแลสตรีใด แล้วจะมีหญิงที่เจ้ารักได้ อย่างไรกันเล่า"
''ท่านพ่อ! รอให้ชายแดนสงบกว่านี้เสียก่อน ข้าจึงจะค่อยคิด เรื่องความรัก''
คนที่ไม่รู้จักความรัก จะไปคิดเรื่องความรักได้อย่างไร เฉินไฮ่ผิงคิดอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับบุตรชายดื้อรั้นคนนี้
เขาเหนื่อยหน่ายกับคำถามแบบนี้ทุกๆวันทำให้เฉินลู่เจินเดินทางเข้าเมืองเพื่อหวังที่จะหาสีสันหรือความสุขให้กับตัวเองเสียบ้างตั้งแต่ที่เขากลับมาจากสนามรบท่านพ่อนั้นพูดแต่เรื่องหมั้นหมายจนทำให้เขานั้นทนฟังไม่ไหวจึงเลือกที่จะเดินหนีไป
เฉินลู่เจินมาหยุดอยู่ที่ หน้าเรือนไม้หลังใหญ่ที่ประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดงเต็มไปหมด มองซ้ายมองขวาก็รู้ว่าย่านนี้คือย่านการค้าอะไร
'หอนางโลม'
หญิงสาวในชุดเสื้อผ้าเนื้อบางออกมายืนหน้าร้าน เรียก ชายทั้งแก่ทั้งหนุ่มให้เข้าไปในหอที่ตัวเองประจำอยู่เขาอยู่ที่หอนางโลมเกือบอาทิตย์จนชาวบ้านแถวนั้นรู้เข้ารีบพากันไปพูดคุยกันสนุกปากว่า ท่านแม่ทัพเฉินลู่เจินนั้นหลังกลับมาจากสนามรบก็โดนบังคับให้หมั้นหมายแต่ตนมิยอมจึงมากกอยู่แต่หอนางโลมนี้เกือบอาทิตย์ได้แล้ว ข่าวนี้รู้เข้าไปถึงหูของเฉินไฮ่ผิงหัวหน้าตระกูลเฉินทำให้เฉินไฮ่ผิงนั้นโกรธเคืองเป็นอย่างมากทำให้เขาต้องเข้าไปตาม บุตรชายที่ดื้อรั้นที่หอนางโลมอย่างโกรธเคือง
''เฉินลู่เจินเจ้าอยู่ที่ไหนออกมาเดี๋ยวนี้!!''
''ลู่เจิน!!!''
ร่างงามมายืนอยู่ตรงหน้าหัวหน้าตระกูลเฉินพร้อมก้มคำนับ
''ท่านมาตามแม่ทัพเฉินลู่เจินใช่หรือไม่เจ้าคะ''
''ใช่!!ไอ้เด็กหัวรั้นนั้นมันอยู่ที่ไหนพาข้าไปเดี๋ยวนี้!''
''ท่านหัวหน้าตระกูลใจเย็นลงก่อนเถิดเจ้าค่ะ โปรดตามข้ามาทางนี้''
ร่างงามพาหัวหน้าตระกูลกับเหล่าองครักษ์เดินตามนางไป จะมาตามท่านแม่ทัพเฉินลู่เจินหรือว่าจะมาจับเขากันแน่? ร่างงามคิดในใจแต่มิกล้าที่จะเอ่ยออกมาใครๆก็ต่างเกรงกลัวสกุลเฉินแม้แต่จักรพรรดิก็ตาม
พอมาหยุดที่หน้าห้องหนึ่งข้างหน้าห้องประดับประดาไปด้วยลวดลายราคาแพงสีสันสวยงาม พอเปิดประตูเข้าไปนั้นทำให้เฉินไฮ่ผิงถึงกับต้องส่ายหน้า บุตรชายดื้อรั้นของเขานอนเมาไม่ได้สติอยู่ที่เตียง
ถามกับคนแถวนั้นพบว่าบุตรชายของเขาแค่มาดื่มเพียงเท่านั้นมิได้ซื้อหญิงบริการเพียงแต่อย่างใด ได้ยินเช่นนี้เขาถึงกลับโล่งใจเฉินไฮ่ผิงบอกให้องครักษ์ลากตัวบุตรชายของเขากลับไปไว้ที่จวน ครั้งนี้ต้องสั่งสอนจริงๆเสียแล้ว