2.1 พลังของเซียงรื่อ

1622 Words
สอง พลังของเซียงรื่อ “โอ้ย!” เซียงรื่อร้องลั่นเมื่อจู่ๆ ฝูหมิงที่หมดสติก็โถมตัวใส่ น้ำหนักที่มากกว่าที่คิดส่งผลให้ร่างเล็กเสียการทรงตัวล้มตึงลงกับพื้นโดยมีร่างสูงใหญ่นอนทับอยู่ด้านบน ของเหลวที่ไหลเปื้อนผ้าคลุมอาบน้ำย้อมผ้าขาวจนกลายเป็นสีแดงฉาน ลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดลงตรงลำคอเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขายังมีชีวิตอยู่ทำให้ เธอลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตามเนื้อหาในการ์ตูน อาการบาดเจ็บของฝูหมิงจะทำให้เขาเป็นไข้สูงและไม่ได้สติไปอีกสามวัน จนกระทั่งเซียงรื่อยอมใช้พลังไร้รูปของตนเองช่วยเหลือเขาจึงได้รอดพ้นความตายมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะแบบนี้ท่านเจ้าเมืองจึงใช้ข้ออ้างที่เคยช่วยชีวิตเขามาบังคับให้ฝูหมิงเป็นหนึ่งในทาสบำเรอที่คอยปรนนิบัติอุ่นเตียงให้นาง การ์ตูนชุดพิเศษนี้ถูกจัดอยู่ในเรท 19+ ตั้งแต่ต้นเรื่อง ต่างจากการ์ตูนชุดหลักอย่าง ‘เจตจำนงแห่งรัก’ ที่เพิ่งมีฉากเรทในช่วงท้าย ฝูหมิงกับท่านเจ้าเมืองถือเป็นตัวละครที่มีความเจ้าชู้อย่างเรียกได้ว่าศีลเสมอกัน ขณะที่ประมุขพรรคมารอันดับหนึ่งชอบเรียกตัวสาวใช้เข้าไปปรนนิบัติที่ห้องนอนอยู่เป็นประจำ ทุกค่ำคืนของท่านเจ้าเมืองก็มักจะมีทาสหนุ่มหล่อเหลามาอยู่เป็นเพื่อนแก้เหงา พอมีเวลามาคิด ข้อเสียของตัวละครที่เธอเข้ามาอาศัยอยู่ในร่างรังแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเหงื่อเม็ดใสๆ เริ่มผุดออกมาจากหน้าผากมนของหญิงสาว “เฮ้อ...” เซียงรื่อถอนหายใจ หากเธอไม่สงสารฝูหมิงในระหว่างที่อ่านการ์ตูนล่ะก็ การปล่อยให้เขาตายไปตั้งแต่ตอนนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องยาก ช่างเถิด ต่อให้ท่านเจ้าเมืองจะเป็นสตรีที่มากตัณหามากแค่ไหน เธอซึ่งมาอยู่ในร่างของนางจะไม่มีวันทำแบบนั้น แต่การบังคับฝืนใจอย่างยาวนานนั่นทำให้ฝูหมิงคลุ้มคลั่งและฆ่าท่านเจ้าเมืองทิ้งอย่างเหี้ยมเกรียม ในทางกลับกัน...หากเธอช่วยชีวิตเขาและหยิบยื่นน้ำใจให้ เธอก็คงพอซื้อใจลาสต์บอสคนนี้เพื่อชดเชยให้แก่เรื่องที่จับเขามาเป็นทาสได้บ้าง สุดท้ายต่างคนต่างแยกย้ายกันด้วยดีก็เป็นอันจบ แผนการของเธอมันวิเศษมาก เพียงแต่มันติดปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง ...เธอใช้พลังไร้รูปไม่เป็น เซียงรื่อคิดพลางพยายามผลักร่างใหญ่หนาของฝูหมิงออกจากตัว แต่ต่อให้ออกแรงมากเพียงไรเขากลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิด ถ้าเธอเรียกคนเข้ามาช่วยยกร่างของเขาออกไป คนรับใช้ด้านนอกก็คงพากันสงสัย เมื่อไรก็ตามที่พวกเขามองออกว่าเธอไม่ใช่ท่านเจ้าเมืองตัวจริง ภัยอันตรายที่อยู่รอบด้านมันช่างละเอียดและเล็กไม่ต่างจากเข็ม เพียงถูกตำทีเดียวก็ว่าเจ็บแล้ว...ทว่าสิ่งที่เธอเผชิญไม่ใช่แค่เข็มเล่มเดียวแต่เป็นทะเลเข็ม! นัยน์ตากลมโตหรี่ตาลงก่อนจะออกแรงผลักร่างฝูหมิงมากขึ้น “ออกไปเสียที หนักจะตายอยู่แล้ว!” เธอบ่นพึมพำขณะเกร็งกล้ามเนื้อไปทั่วร่าง เหงื่อเม็ดใสๆ ที่ซึมออกมาทางมือกับหน้าผากทำให้ทั้งหงุดหงิดและไม่สบายตัว ครั้นเธอหลับตาเพื่อรวบรวมพละกำลังทั้งหมด จู่ๆ ที่ท้องก็ร้อนวูบ กระแสพลังร้อนดังกล่าวพุ่งผ่านเรียวแขนทั้งสองมายังฝ่ามือ กว่าเซียงรื่อจะรู้สึกตัวอีกครั้งก็เป็นยามที่ร่างหนักอึ้งของสุดยอดจอมมารได้ลอยละลิ่วไปทางประตูเสียแล้ว โครม! เซียงรื่อรีบเด้งกายยืนขึ้น ครั้นเห็นภาพร่างใหญ่ที่นอนหายใจโรยรินอยู่บนซากประตูที่พังทลาย เธอก็สูดปากเสียงดัง “อั้ยหยา...” เธอตั้งใจจะช่วยชีวิตฝูหมิงแท้ๆ แต่สุดท้ายกลับเป็นการทำให้เขาเจ็บหนักมากกว่าเดิม หากเขาทราบความจริงว่าเธอทำร้ายเขาซ้ำเติมแบบนี้ แผนการที่หมายมั่นจะผูกมิตรคงพังทลายลงอย่างไม่เป็นท่า แถมสิ่งที่เธอใช้ไปดูท่าจะไม่ใช่พลังไร้รูป แต่เป็นกำลังภายใน คาดว่าเขาคงมีอาการบาดเจ็บภายในเพิ่มขึ้น เป็น-ตายเท่ากัน! “ท่านเจ้าเมือง!” เซียงรื่อได้ยินเสียงฝีเท้ามากมายดังขึ้นจากด้านนอก จากนั้นเงาร่างของเด็กหนุ่มสามคนก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามายังบริเวณสระน้ำ เมื่อพวกเขาเห็นร่างของฝูหมิงนอนสลบจมกองเลือด สายตาของพวกเขาก็ตวัดมาหาเธอแทน หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อพบว่าพวกเขาทั้งสามหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน ต่างกันก็แค่ผมสีแดงที่เป็นคนละเฉดสีซึ่งไล่จากเข้มไปอ่อน แม้จะยังไม่โตเป็นหนุ่มเต็มตัวแต่ก็มีเค้าความรูปงาม พวกเขาทั้งสามเป็นตัวละครที่เธอจำได้ดีเพราะเป็นแฝดสามหนึ่งเดียวในเรื่อง กู้ชิง พี่ชายคนโตมีผมสีแดงเข้มแบบเลือดหมู กู้เฉิง พี่ชายคนรองมีผมสีแดงสว่างเหมือนดวงตะวันยามรุ่งอรุณ กู้เฉียง น้องชายคนเล็กมีผมสีแดงอ่อนค่อนข้างซีด พวกเขาทั้งสามเป็นองครักษ์ส่วนตัวของท่านเจ้าเมืองเซียงรื่อ ความเอ็นดูที่ท่านเจ้าเมืองที่ชมชอบบุรุษรูปงามมีให้เด็กหนุ่มทั้งสามหาใช่ความใคร่แบบหนุ่มสาว แต่เหมือนพี่สาวที่ต้องดูแลฝูงทะโมนเสียมากกว่า “ท่านเจ้าเมือง ทาสผู้นี้กล้าทำให้ท่านต้องลงมือเอง ข้าสังหารมันทิ้งเลยดีหรือไม่!” กู้ชิง “ท่านเจ้าเมือง มนุษย์ต่ำต้อยผู้นี้ไม่คู่ควรให้ท่านแปดเปื้อน ให้ข้าสั่งสอนมันเองเถิด!” กู้เฉิง “ท่านเจ้าเมือง เวลาของท่านเป็นสิ่งมีค่า เพียงแค่คิดว่าท่านต้องเสียเวลากับทาสไร้ประโยชน์นี่ ข้าก็แทบอยากจะฉีกลิ้นมันออกมาเสียให้รู้แล้วรู้รอด!” กู้เฉียง บัดนี้บริเวณสระน้ำซึ่งควรเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจกลับมีบรรยากาศไม่ต่างจากลานประหาร “ไม่ต้อง!” เซียงรื่อร้องห้าม “เอาเขาไปไว้ที่ห้องนอนข้า เรียกคนมาทำแผลเพื่อยื้อชีวิตเขาให้ได้ แล้วก็...หาคนมาเช็ดคราบเลือดสกปรกเหล่านี้ให้เรียบร้อยด้วย” “ท่านจะไปไหนหรือ” กู้ชิงถามขึ้นเมื่อหญิงสาวพูดเป็นเชิงว่าจะไปที่ไหนสักแห่ง เธอไม่ตอบแต่กลับถามเขากลับ “นี่กี่ยามแล้ว” “ปลายยามเซิน[1] ขอรับ” ปลายยามเซิน... เซียงรื่อขมวดคิ้ว เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันประมาณกี่โมงถ้าเทียบกับปัจจุบัน “อวิ๋นซูกลับไปแล้วหรือยัง” เธอเลือกที่จะถามเข้าประเด็นแทนเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ครั้นพูดถึงชื่อ ‘อวิ๋นซู’ ขึ้นมา เด็กหนุ่มทั้งสามก็ทำปากยื่นหน้าบึ้งออกมาอย่างเห็นได้ชัด “เขาอยู่ที่หอเปี่ยมมิตร” กู้เฉิงเป็นผู้ตอบ “อ้อ...” เซียงรื่อลากเสียงตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก ทั้งที่ความจริงเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสถานที่ดังกล่าวมันอยู่ที่ไหน “ข้ามอบหมายให้พวกเจ้าทำงานที่ข้าสั่ง เรียกคนมารักษาเขาเสีย หากข้ากลับมาแล้วเขาเป็นอะไรไป ข้าจะลงโทษพวกเจ้า!” เด็กหนุ่มผมแดงทั้งสามหันมามองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าอย่างกะตือรือร้น “ขอรับ! ท่านเจ้าเมือง” พวกเขารับคำเสร็จก็ก้มตัวรวบร่างของบุรุษที่ไร้สติ ก่อนจะพากันลากตัวออกไปราวกับอีกฝ่ายเป็นแค่กระสอบข้าว คราบโลหิตที่ไหลเปื้อนเป็นทางส่งผลให้ผู้มองกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ ฝาแฝดเหล่านี้สืบเชื้อสายมาจากสัตว์อสูรตระกูลหมาป่า ทุกค่ำเดือนเพ็ญพวกเขามักจะอาละวาดไล่เข่นฆ่าผู้อื่นโดยไม่สนมิตรหรือศัตรู กระทั่งบิดามารดายังถูกสังหารด้วยน้ำมือของพวกเขา ผู้ที่จะกำราบพวกเขาได้มีเพียงแค่เซียงรื่อแต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นนางจึงต้องรับตัวพวกเขามาอยู่ข้างกายตั้งแต่เด็ก สามพี่น้องสกุลกู้ที่สูญเสียครอบครัวยกย่องนางอยู่ในฐานะมารดาที่อยู่สูงกว่า เพราะมีเพียงท่านเจ้าเมืองเท่านั้นที่มีพลังในการช่วยพวกเขาได้ เปรียบเสมือนแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวในความมืดอันไร้ขอบเขต ...ดังนั้นหากเธอไม่อาจใช้พลังไร้รูปของท่านเจ้าเมืองได้ล่ะก็ พวกเขาก็คงกลายร่างเป็นปีศาจที่สร้างความเสียหายอย่างหนัก และเธอซึ่งอยู่ใกล้พวกเขาก็คงไม่รอดด้วยเช่นเดียวกัน เซียงรื่อก้มหน้ามองเสื้อคลุมอาบน้ำของตนที่เปื้อนเลือด ถอนหายใจเสร็จก็ปลดมันออกอย่างรีบร้อน ครั้นหันไปมองผ้าใหม่ที่วางรออยู่ก็หยิบออกมาคลี่ดู พบว่าชิ้นส่วนของชุดเหล่านี้ต้องสวมใส่ซ้อนทับกันหลายชั้น จากที่เคยเห็นผ่านๆ ในหนังสือเรียน เซียงรื่อคิดว่ามันน่าจะเป็นชุดที่ผสมผสานกันระหว่างชุดของราชวงศ์ชิงกับราชวงศ์หมิง “เยี่ยม” เธอผงกศีรษะขณะที่น้ำตาตกใน ใส่ไม่เป็น... [1] ยามเซิน คือเวลา 15.00 – 16.59 น. ในปัจจุบัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD