บทที่ 1

1894 Words
เมืองหลวงต้าเทียน  รัชศกซีเฉินปีที่5  ฮ่องเต้นามว่า อวิ๋นซีเฉิน  เมืองหลวงต้าเทียนแห่งนี้ คือเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ท่ามกลางแคว้นทั้งสี่ ประกอบไปด้วยแคว้นฉินตั้งอยู่ทางทิศเหนือ แคว้นหาน ตั้งอยู่ทางทิศใต้ แคว้นเยี่ยนตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก และแคว้นเย่ว์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก เมืองต้าเทียนโอบล้อมไปด้วยภูเขาและต้นไม้มากมาย ให้ความเย็นสบายตลอดทั้งปี อีกทั้งยังโอบล้อมด้วยแม่น้ำฉางเจียง ซึ่งให้ความอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี เมืองต้าเทียนจึงอุดมไปด้วยเสบียงอาหารที่พร้อมสรรพ และนับเป็นเมืองมหาอำนาจที่สุดในสี่แคว้น หยาดน้ำฝนที่ตกลงมาเป็นสาย สลับกับสายลมที่พัดมาเป็นครั้งคราว ทำให้ต้นไม้ดอกไม้น้อยใหญ่ต่างเปียกชุ่มฉ่ำและเขียวขจีชวนมอง ราวกับหยาดน้ำทิพย์จากแดนสวรรค์ที่ส่งมาปลอบประโลมดินแดนมนุษย์ สตรีนางหนึ่งกำลังนั่งเหม่อมองไปที่ด้านนอกหน้าต่าง ดวงตาคู่สวยทอดมองไปยังสระน้ำที่ยามนี้ดอกเหลียนฮวาหลากสี (ดอกบัว) กำลังเบ่งบานรับหยาดฝนอย่างงดงาม มือเรียวสวยยื่นออกไปรองรับหยาดฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสายที่ด้านนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่เศร้าหมอง  หลายวันก่อน  "พี่เหลียนฮวา ข้ายังมิอยากอภิเษกสมรสกับฝ่าบาทเลยเจ้าค่ะ" สวีเหลียนฮวาหันไปมองสาวน้อยที่ทำน้ำเสียงออดอ้อนนางพร้อมกับซบใบหน้าลงมาที่หัวไหล่ของนางราวกับเด็กน้อยที่กำลังขอขนมกินไม่มีผิด "หลานฮวา พี่ดีใจกับเจ้าด้วย สตรีทั่วทั้งเมืองหลวงต่างอิจฉาเจ้า ฝ่าบาทเองก็ทรงชื่นชอบเจ้าเป็นอย่างมาก เทศกาลซีซีปีที่ผ่านมา เจ้าเข้าร่วมแข่งขันศิลปะหลายแขนง จนสามารถเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งต้าเทียนได้ ฝ่าบาทจึงทรงอยากรับเจ้าเข้าไปเป็นฮองเฮาในวังหลวง" สวีหลานฮวาเบ้ปากอย่างไม่เห็นด้วย นางเองยังมิอยากแต่งงานเลยด้วยซ้ำ ยามนี้นางเพิ่งจะอายุครบสิบเจ็ดปีเต็ม นางยังอยากท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง ยังคงอยากจะใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรีมากกว่าการถูกกักขังอยู่ในวังหลวงแห่งนั้น  จวนตระกูลสวีเป็นจวนที่มีอำนาจมากที่สุดในเมืองต้าเทียน สวีเจียงเสวี่ย ผู้เป็นบิดาของสวีเหลียนฮวาและสวีหลานฮวานั้น ดำรงตำแหน่งเป็นท่านแม่ทัพใหญ่แห่งต้าเทียน ตระกูลสวีสืบทอดอำนาจทางการทหารมาหลายชั่วอายุคน อีกทั้งยังเป็นสหายรักกับฮ่องเต้พระองค์ก่อนอีกด้วย สวีเหลียนฮวาเป็นพี่สาวฝาแฝดของสวีหลานฮวา แม้จะมีใบหน้างดงามเหมือนกัน แต่ทว่านิสัยกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง  สวีเหลียนฮวา เป็นสตรีที่เรียบร้อย และขี้กลัว นางเองมิมีความสามารถใดใดเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังมิเป็นที่ชื่นชอบของบิดาอีกด้วย เพราะนางอ่อนแอมิสมกับเป็นบุตรีของเขาเลยแม้แต่น้อย  แต่ทว่าสวีหลานฮวากลับเป็นสตรีที่งดงามและเพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง นางเก่งทั้ง ดีดพิณ คัดอักษร หมากรุก และร่ายรำ เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก  แต่ถึงอย่างนั้น สวีเหลียนฮวาก็ไม่เคยอิจฉาริษยาสวีหลายฮวาเลยแม้แต่น้อย นางมิคิดต่อสู้แย่งชิงความโปรดปรานใดใดจากใครเลยด้วยซ้ำ สวีเหลียนฮวายื่นมือสวยไปลูบเส้นผมดำสลวยของสวีหลานฮวาด้วยแววตารักใคร่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนน่าฟัง  "หลานฮวา เจ้าน่ะโชคดีมากนะรู้หรือไม่?" "โชคดีอย่างไรกัน ข้าน่ะยังมิเคยเห็นพระพักตร์ฝ่าบาทเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งข้าเคยได้ยินผู้คนเขาเล่าลือกันว่า ฮ่องเต้พระองค์นี้ทรงจิตใจอำมหิตที่สุด แค่คิดข้าก็รับไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ!!" สวีหลานฮวาส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เห็นด้วย หลังจากจบเทศกาลซีซีเมื่อปีที่แล้ว นางก็ได้รับราชโองการจากวังหลวง ว่าฮ่องเต้ทรงจะรับนางเข้าวังหลวงไปเป็นฮองเฮา แม้ว่าเขาดูรูปงามราวเทพสวรรค์แค่ชื่อเสียงของเขานั้นน่าหวาดกลัวเสียจนใจสั่น จะให้นางแต่งได้อย่างไรเล่า!! "หลานฮวา เจ้าอย่าเพิ่งคิดไปไกลนักเลย ฝ่าบาทน่ะ ทรงมีเมตตาเป็นอย่างมากนะ" "พอเถิด!!! พี่เหลียนฮวา ข้ามีเรื่องอยากขอให้ท่านพี่ช่วยเจ้าค่ะ" "เรื่องใดหรือ?" "พี่เหลียนฮวา ช่วยอภิเษกกับฝ่าบาทแทนข้าได้หรือไม่เจ้าค่ะ!!!" เพล้ง!! ถ้วยชาในมือของสวีเหลียนฮวาร่วงตกลงพื้นด้วยความตกใจ สวีหลานฮวาที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบถลึงตามองแฝดผู้พี่ทันที  "เบาๆสิเจ้าค่ะ เดี๋ยวท่านแม่ก็มาได้ยินเราสองคนพูดคุยกันจนได้!!" "หลานฮวา พี่.." "ท่านพี่ เพียงแค่สลับตัวกันเท่านั้น เราสองคนเหมือนกันจนแยกไม่ออกขนาดนี้ ฝ่าบาทมิอาจจับได้หรอกเจ้าค่ะ ท่านพี่เชื่อข้าเถอะ!!" "หลานฮวา หากฝ่าบาททรงรู้เข้า ตระกูลสวีเรา..." "ไม่มีทาง!!เชื่อข้า!!" "เหตุใดเจ้าจึงทำเช่นนี้!!! "ท่านพี่!!ข้ายังมิอยากแต่งงาน นะเจ้าค่ะ!!ท่านพี่ช่วยข้าด้วยนะเจ้าคะ!!" สวีหลานฮวาโผเข้าไปกอดสวีเหลียนฮวาผู้เป็นพี่สาวด้วยความหวาดกลัว นางมิอยากทนรองรับอารมณ์ของฮ่องเต้อำมหิตผู้นั้น นางมิอยากแต่งงานและต้องทนอยู่สามีเช่นนี้ไปชั่วชีวิต  สวีเหลียนฮวารู้สึกสงสารน้องสาวฝาแฝดของตนเองอย่างสุดหัวใจ รู้อยู่เต็มอกว่าหากเกิดถูกจับได้ขึ้นมา ชะตาชีวิตของนางคงไม่รอดเงื้อมมือของฮ่องเต้เป็นแน่ ไหนจะท่านพ่อกับท่านแม่เล่า!! ตำหนักมังกรสวรรค์  อวิ๋นซีเฉินกำลังนั่งเหม่อมองออกไปที่ด้านนอกหน้าต่างด้วยสายตาที่มีความสุข แววตาคมดุจเยี่ยว คิ้วโก่งได้รูปของเขาบางคราดูเหมือนคนเจ้าเล่ห์ ใบหน้าหล่อเหลาชวนให้เหล่าสตรีทั้งเมืองหลวงต่างอยากถวายตัวและใจให้แก่เขา  อวิ๋นซีเฉินในวัยยี่สิบห้าปี เขาขึ้นครองราชย์ตั้งแต่อายุยี่สิบปี ตอนที่ยังเป็นองค์รัชทายาท ในตอนนั้นเขาอายุเพียงสิบห้าปีเท่านั้น แต่กลับต่อสู้กับเหล่ากบฏต่างแคว้นจนได้รับชัยชนะ เขานำหัวพวกมันกลับมาถวายให้แก่เสด็จพ่อ เขาถือเป็นอ่องเต้หนุ่มที่ทรงเก่งกาจและน่ายำเกรงเป็นอย่างมาก  ในวังหลังของเขามีสนมนางในหลายสิบคน ประกอบไปด้วยเฟยทั้งสี่ สนมขั้นผิน สนมกุ้ยเหริน แต่จนแล้วจนรอดเขาเองก็ไม่เคยเปิดป้ายเรียกพวกนางให้มาปรนนิบัติเลยสักครา และยังไม่คิดแต่งตั้งฮองเฮาเลยสักครั้ง จนได้เขาได้พบกับนางในคืนนั้น เขาปลอมตัวเป็นชาวบ้าน สวมใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าเพื่อเข้าไปเที่ยวเล่นในเทศกาลซีซี และได้เห็นสวีหลานฮวาที่มีความสามารถเก่งกล้าหาสตรีใดเทียม ใบหน้าของนางงดงามล่มเมือง หวานล้ำราวหยาดน้ำผึ้ง อีกทั้งยังได้ตำแหน่งสตรีงามแห่งต้าเทียนในครั้งนั้นอีกด้วย  นี่แหละ!!ฮองเฮาที่เขาตามหา! เขาตามสืบจนรู้ว่าที่แท้นางคือบุตรสาวของท่านแม่ทัพตระกูลสวี ซึ่งเป็นสตรีที่เสด็จพ่อทรงหมายมั่นให้อภิเษกกับเขา เสด็จพ่อกับท่านแม่ทัพสวียังเป็นสหายสนิทกันมาตั้งแต่วัยเด็ก จึงทำสัญญาหมั้นหมายระหว่างเขากับบุตรสาวตระกูลสวีเอาไว้  และเขายังได้รู้อีกว่านางมีฝาแฝดนามว่าสวีเหลียนฮวา! แต่สตรีนางนั้นเขารู้สึกมิถูกตาต้องใจนางเอาเสียเลย แม้ใบหน้าของนางจะเหมือนกับสวีหลานฮวา แต่นางดูอ่อนแอ อีกทั้งยังมิเชี่ยวชาญเรื่องใดใดเลยแม้แต่น้อย ดูๆไปแล้วเหมือนกับสตรีโง่งมและอ่อนแออย่างไรอย่างนั้น!!  เขาไม่มีวันรับสตรีไร้ความสง่างามเช่นนี้เข้ามาในวังเป็นอันขาด!!! เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงเขียนราชโองการอภิเษกสมรสกับสวีหลานฮวาทันทีอย่างไม่รั้งรอ จะรอช้าไปทำไมเล่า!!เขาชื่นชอบนางยิ่งนัก!! "ฝ่าบาท" อวิ๋นซีเฉินหันไปมองราชเลขาคนสนิทที่เดินเข้ามาหาเขาด้วยท่าทีนอบน้อม  "มีสิ่งใด?" "การจะแต่งตั้งฮองเฮาทรงต้องปฏิบัติตามประเพณี เราจะต้อง.." "หุบปาก!!!ข้าจะแต่งนางเข้ามาเช่นไรก็เรื่องของข้า ต้องให้พวกเจ้ามาสั่งสอนด้วยหรือ!!!" "หามิได้พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!!!" "ไสหัวไป!!ส่งคนไปจัดเตรียมชุดให้นางที่ตระกูลสวี!!ข้าจะแต่งกับนางในอีกสามวันข้างหน้า!!" "พ่ะย่ะค่ะ!!" ราชเลขาพยักหน้ารับก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปทันที  อวิ๋นหลัว อดีตฮ่องเต้พระองค์ก่อนทรงมองบุตรชายของตนด้วยแววตาเอือมระอา อวิ๋นซีเฉินก็เป็นพระโอรสเพียงองค์เดียวของเขา เขามีฮองเฮาเป็นภรรยาเพียงผู้เดียวและไม่รับนางสนมใดอีก เมื่อนางตายจากไปเขาจึงสละราชบัลลังก์และให้พระโอรสองค์นี้ขึ้นครองราชย์แทน ส่วนเขาก็ใช้ชีวิตปลูกผักทำสวนอยู่ที่ตำหนักท้ายวังอย่างมีความสุข  แต่จนแล้วจนรอดอวิ๋นซีเฉินก็ยังเอาแต่ใจตนเองไม่เปลี่ยน!! เขาพยายามหาสตรีมาให้มากมายหวังจะดัดนิสัยพระโอรสจอมโอหังแต่กลับไร้ผล  ทว่าไม่นานมานี้อวิ๋นซีเฉินกลับมาบอกเขาว่าชื่นชอบสตรีนางหนึ่ง โชคดียิ่งนักที่เป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพสวี เขาจึงเห็นดีเห็นงามด้วย  "อาเฉิน" "เสด็จพ่อ" "เจ้าอย่าดุด่าเหล่าบ่าวรับใช้นักเลย" "หากจะมาเพื่อต่อว่าข้า ก็ทรงกลับไปเถิด!' บัดซบ!!ลูกเวรนี่กล้าไล่ข้ารึ!! "ข้าเบื่อจะพูดกับเจ้าแล้ว!!!" "ลูกก็เบื่อเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ ลูกจะรับนางเข้าวังมาเป็นฮองเฮาในอีกสามวันข้างหน้า" "มิเร็วไปหรือ?" "ไม่พ่ะย่ะค่ะ ลูกต้องการนาง สวีหลานฮวา ช่างงดงามเพียบพร้อมยิ่งนัก ในใต้หล้านี้ไม่มีสตรีใดเทียบนางได้อีกแล้ว" "แต่สวีเหลียนฮวาก็ใช้ได้นะ" "หึ!!โง่งมเช่นนั้น ลูกมิต้องการพ่ะย่ะค่ะ!!" "เอาเถิด แต่ใครเข้ามาก็เหมาะสมทั้งนั้น อย่างไรเสียตระกูลสวีก็มีอำนาจเหมาะสมคู่ควรกับราชวงศ์ของเรา" "พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ" อวิ๋นซีเฉินรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เขาจะได้แต่งงานกับนางแล้ว เขามิเคยชื่นชอบสตรีใดเท่านางมาก่อนเลย  ด้านสวีเหลียนฮวากำลังนั่งครุ่นคิดอย่างหนัก นางมิยอมตกปากรับคำขอของสวีหลานฮวา จนน้องสาวเสียใจและหนีกลับเรือนไป  สามวันให้หลังตระกูลสวีก็เกิดเรื่องวุ่นขึ้นมา เมื่อสวีหลานฮวาเกิดหายตัวไปจากจวน สวีเจียงเสวี่ยสั่งคนให้ออกตามหาบุตรสาวไปทั่วทั้งจวนแต่ก็ไม่พบ  งานแต่งกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว อีกสามวันสวีหลานฮวาจะต้องเข้าวังหลวงแล้ว จะทำเช่นไรดีเล่า!!!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD