ความในใจของเด็กสาว

1562 Words
“ขอแรง ๆ หนึ่งที่ค่ะ” เสียงหวานข่มอารมณ์หงุดหงิดเอาไว้ เอ่ยปากสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์ตรงหน้า อบเชยไม่ได้กลับไปหาเพื่อนที่โต๊ะ เธอมานั่งดื่มคนเดียวที่หน้าบาร์ “ได้แล้วครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มวางเครื่องดื่มให้ลูกค้าสาว ก่อนจะหันไปรับออเดอร์กับลูกท่านอื่น เด็กสาวกระดกเครื่องดื่มลงคอพรวดเดียว รสชาติของมันขมพอ ๆ กับชีวิตอีกด้านหนึ่งของเธอ “บ้าไปแล้วยัยเชย” สองมือเรียวกุมหน้าตัวเองเมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอเพิ่งทำลงไป “ตบหน้าเพื่อนลุงหมอกได้ยังไงกัน” เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ผสมกับความโกรธที่ถูกต่อว่า ทำให้เธอพลั้งมือและขาดสติทำเรื่องที่ไม่ควรทำลงไป สาวน้อยถอนหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า นึกอยากกลับไปขอโทษคนอายุมากกว่า แต่อีกใจก็ไม่กล้าสู้หน้า นั่งอยู่หน้าบาร์พักใหญ่ก็นึกขึ้นได้พอดีว่าเธอวางกระเป๋าไว้ที่โต๊ะแล้วลงมาเต้นกับเพื่อนที่ชั้นล่าง จะเอาเงินที่ไหนจ่ายล่ะทีนี้? หมับ! หากแต่ยังไม่ทันจะเอ่ยปากบอกบาร์เทนเดอร์หนุ่มว่าจะไปเอากระเป๋าสตางค์ มือใหญ่ของใครบางคนก็คว้าต้นแขนเธอเอาไว้ “ลุง…” ดวงตาคู่สวยมองคนตรงหน้าก่อนจะสะบัดหัวไปมาหน่อย ๆ เมื่อเริ่มมึนหัว เครื่องดื่มที่เธอเพิ่งกระดกลงไปนั้นแรงพอสมควร คนคออ่อนอย่างเธอดื่มแค่แก้วเดียวก็เดินไม่ไหวแล้ว “ถ้าเธอไม่กลับฉันจะบอกลุงเธอ” ร่างใหญ่ขู่ “จ่ายเงินให้เชยก่อน กระเป๋าเชยอยู่กับเพื่อน” “...?” ใบหน้าหวานแดงก่ำไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์เอ่ย นิ้วยาวชี้ไปยังบาร์เทนเดอร์ที่กำลังง่วนอยู่กับการชงเครื่องดื่มให้ลูกค้า เจ้าที่แกร่งพ่นลมหายใจออกมาหน่อย ๆ เขาไม่เข้าใจอารมณ์เธอนัก เมื่อกี้เพิ่งตบเขาไปแท้ ๆ แต่ตอนนี้มาบอกให้จ่ายเงินให้ “จ่ายแล้ว ทีนี้ก็กลับได้สักที” เสียงทุ้มเอ่ยหลังจากจัดการค่าเครื่องดื่มให้เด็กสาว ร่างเล็กยืนขึ้นโดยมีวงแขนแกร่งประคองเอวบางเอาไว้ สองขาเรียวก้าวไปได้เพียงนิดก็อ่อนยวบลง วงแขนแกร่งจึงอุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าสาวอย่างเลี่ยงไม่ได้ “ลุง~ เชยขอโทษที่ตบ” เสียงหวานหย่อนยานเอ่ยกับเจ้าของวงแขนแกร่ง “ลุงอย่าบอกลุงหมอกนะ ทุกเรื่องเลย~” คนในอ้อมแขนเริ่มเพ้อไปเรื่อย “รับปากฉันว่าจะไม่มาที่แบบนี้แล้วก็เลิกทำตัวน่าเกลียดก่อนสิ” เสียงทุ้มว่าพลางมองคนในอ้อมแขน ร่างใหญ่กำลังตรงไปยังห้องน้ำ อาการของเด็กสาวไม่ค่อยดีนัก เขาอยากให้เธอล้างหน้าสักหน่อย “เชยไม่ได้อยากทำแบบนี้ แล้วเชยก็ไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้ด้วย~” คนในอ้อมแขนพึมพำ “ไม่ว่าเชยจะทำแบบไหน จะแต่งตัวยังไง อ่อยผู้ชายหรือผู้หญิง จะทำตัวใจง่ายหน้าด้านขนาดไหน ก็ไม่มีใครสนใจเชยเลย~” เจ้าที่แกร่งฟังเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไร เขาวางเธอลงบนเคาน์เตอร์ในห้องน้ำ เปิดน้ำจากก๊อกแล้ววักน้ำขึ้นหมายจะล้างหน้าเธอ ซ่าา! “เฮ้ย! อะไรของเธอ!” ดวงตาสีมืดตวัดใส่สาวน้อยอย่างไม่ชอบใจนักเมื่อมือเรียวปัดมือเขาออก น้ำที่วักขึ้นมาทำเสื้อเขาเปียก ทว่าก็ชะงักเมื่อบางอย่างที่ปรากฏขึ้นบนข้อมือเล็กมันคล้ายกับ…ด้ายสีแดงที่มีชื่อของเขาสลักไว้ “...” ครู่หนึ่งด้ายนั้นก็เลือนหายไป ก่อนจะปรากฏขึ้นมาอีก กลิ่นอายอาคมแก่กล้าที่แผ่ออกมาจากด้ายนี้เป็นของเขาไม่ผิดแน่ แหงล่ะว่าความทรงจำเมื่อสิบห้าปีก่อนก็วนกลับเข้ามาในหัว ไอ้สองบริวารนั่น ไม่เตือนเขา! และเขาเองก็ไม่ทันสังเกตเสียด้วย เพราะมัวแต่วุ่นอยู่กับเรื่องฝันร้ายของเธอ ไหนจะเรื่องผีเจ้าที่ในบ้านเธออีก “เสื้อฉันเปียกหมดแล้ว ทำบ้าอะไร!” พอตั้งสติได้ก็กลับมาทำท่าถมึงทึงใส่เด็กสาว หากแต่ดวงตาเขายังจับจ้องอยู่ที่ข้อมือเล็ก เขาต้องหาทางเอาด้ายนี้ออก แต่ต้องรอให้เธอได้สติก่อน เอาด้ายออกตอนเธอไม่มีสติไม่ได้ “ลุงนั่นแหละจะทำอะไร” คนที่เหมือนจะตั้งสติได้เอ่ยถามด้วยสีหน้าตกใจ “ล้างหน้าให้เธอไง คิดว่าตัวเองมีสติแล้วเหรอ” “อย่ายุ่งกับหน้าเชยนะ” เสียงแหลมปนหย่อนยานแหวใส่เจ้าที่แกร่ง ร่างเล็กกระโดดลงจากเคาน์เตอร์แต่ก็เซถลาจนคนตรงหน้าต้องคว้าตัวเธอเอาไว้ ร่างใหญ่ยกสะโพกมนขึ้นมานั่งบนเคาน์เตอร์ดังเดิม “อยากหัวฟาดพื้นหรือไง” เสียงดุว่าให้เด็กสาว “ล้างหน้าล้างตาก่อน มีสติแล้วจะได้กลับ ขืนยังเมาแบบนี้แล้วอ้วกใส่ฉันจะทำยังไง” เสียงดุว่าต่อ “เชยน่ะ… ถึงจะแต่งตัวแบบไหน พยายามทำตัวให้เด่นยังไง เรียนหนังสือเก่งแค่ไหน อยู่หน้าเพจของมหาวิทยาลัยบ่อยแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครสนใจเฉยเลย~” คนที่นั่งบนเคาน์เตอร์ก้มหน้ามองเท้าตัวเองแกว่งไปมาเริ่มเพ้ออีกครั้ง “เชยไม่ได้อยากแต่งตัวแบบนี้ ไม่ได้อยากใส่เสื้อผ้าพวกนี้ ไม่ชอบแต่งหน้าจัด ๆ แบบนี้ ไม่ชอบทุกอย่างตอนนี้” น้ำเสียงเหม่อลอยเอ่ยต่อ ร่างใหญ่ฟังเงียบ ๆ เขาใช้กระดาษเช็ดมือในห้องน้ำชุบน้ำให้เปียกแล้วเช็ดหน้าให้เธอ “ไม่ชอบแล้วทำทำไม” เสียงทุ้มถามอย่างไม่เข้าใจนัก ที่สำคัญคือทำไมเขารู้สึกคล้ายกับว่าที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะเขา เขาทำอะไรผิด? บ้าน่า เขาไม่ผิดสักหน่อย… “เชยอยากมีแฟนเหมือนคนอื่นบ้าง แค่คนคุยสักคนก็ยังดี” คำตอบของเด็กสาวทำคนไม่สนใจความรักถึงกับส่ายหัว ของแบบนั้นสำหรับเขามันไม่สำคัญเลย แต่ก็นะ ในโลกคนเป็นที่แสนน่าเบื่อของแบบนั้นมันอาจจะสำคัญก็ได้ “ลุงจะบอกว่าเชยไร้สาระใช่ไหมล่ะ เรื่องแค่นี้ทำไมถึงทำขนาดนี้ใช่ไหม” ดวงตาหวานสบตากับคนตรงหน้าก่อนจะเอ่ยต่อ “เชยแค่อยากสัมผัสกับความรู้สึกแบบนั้นบ้างสักครั้ง ตั้งแต่เกิดมาแค่จะโดนแซวสักครั้งก็ยังไม่เคยเลย” สาวน้อยมองเข้าไปในนัยน์ตามืดมิดไร้ชีวิตชีวา ครู่หนึ่งเธอเห็นว่ามันวูบไหวแต่แล้วก็กลับมาเฉยชาดังเดิม แม้หมอกจะเลี้ยงดูหลานสาวมาเป็นอย่างดี ไม่ให้เธอรู้สึกขาดอะไร แต่ช่วงชีวิตหนึ่งของเด็กสาว เธอก็อยากจะลองมีความรักอย่างคนหนุ่มสาวดูสักครั้ง อาจจะไม่ใช่รักที่ยืนยาวหรือมั่นคง แต่เพียงแค่รักกันประสาเด็กทั่วไปเธอก็ยังไม่เคยมี แม้แต่ใครสักคนที่จะมองเธอด้วยความรู้สึกดี ๆ มีใจให้ อยากเข้าหา หรือเอ่ยปากแซวอย่างชู้สาว เธอก็ไม่เคยได้สัมผัสกับความรู้สึกพวกนั้น ความสงสัยมากมายตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นจนถึงตอนนี้ ทำให้เด็กสาวชาวบ้านธรรมดาครุ่นคิดอยู่ตลอดว่าเธอไม่ดีตรงไหน เธอบกพร่องตรงไหน มีสิ่งใดที่เธอไม่เหมาะสมหรือไม่คู่ควรกับใครต่อใครหรือเปล่า ทั้งที่ตั้งใจเรียนหนังสือ เป็นเด็กกิจกรรม ไม่เคยทำเรื่องไม่ดีหรือมีข่าวฉาว เธออาสาทำทุกอย่างให้โรงเรียน กระทั่งเข้ามหาลัยแล้วก็ยังคงทำแบบนั้นอยู่ คอยทำให้ตัวเองโดดเด่นอยู่ตลอดเวลาเพื่อหวังว่าจะมีใครสักคนสนใจเธอ แต่ยิ่งทำมันก็ยิ่งไร้ความหมาย แม้เพื่อนผู้หญิงด้วยกันจะบอกว่าเธอนั้นเฟอร์เฟค ควรค่าแก่ความรัก เหมาะกับคนโน้นคนนี้มากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครมองเธออย่างชู้สาวเลยสักครั้ง หรือเธอยังดีไม่พอ… หรือเพราะเป็นคนที่มาจากตระกูลสัปเหร่อ เป็นเด็กกำพร้า หรืออะไร… “เชยเคยทำแบบนี้กับใครหลายคนด้วยนะ ทำเหมือนเพื่อน ๆ เขาทำกัน แต่ก็โดนปฏิเสธทุกทีเลย แต่ทำไมเพื่อนเชยถึงไม่โดนเหมือนเชย” เรียวปากบางเอ่ย เงยหน้าสบตากับคนตรงหน้า สองมือน้อยประคองใบหน้าคมคายของคนหน้านิ่งเอาไว้ ทาบริมฝีปากลงบนกลีบปากหนาช้า ๆ แล้วละออก ทำอย่างที่เพื่อนสาวสอน มันคือวิธีเชื้อเชิญฝ่ายตรงข้าม แต่ทุกครั้งที่เธอเพียงแค่เอื้อมมือไปแตะใบหน้าของอีกฝ่าย ก็โดนบ่ายเบี่ยงและเลี่ยงหนี มันเพราะอะไรกัน... “ลุงเชื่อไหม พอเชยทำแบบนี้แล้วไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิง เขาปฏิเสธเชยหมดเลย” เสียงแผ่วเอ่ยหลังจากผละออกจากกลีบปากหนา “ลุงก็จะเดินหนีเชยใช่ไหมล่ะอื้อ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD