EP. 03
หล่อนจิกตามองมือของวรัทอย่างโกรธเกรี้ยว
“ไม่ปล่อย ผมไม่ยอมรับหรอกนะไอ้เงินที่คุณจะให้ตั้งมากมายแบบนั้นน่ะ”
“ทำไมหรือ มันคงจะมากไปสำหรับนายสินะ”
“ไม่เลยครับ มันจะมากจะน้อยไม่ใช่ปัญหาเท่ากับคุณที่คิดว่าน่าจะกำลังเรียนอยู่ เรื่องเงินน่ะแน่นอนพ่อแม่ของคุณท่านมีให้ทุกครั้งที่ขอ แต่สิ่งเดียวที่ผมไม่ยอมเด็ดขาดที่จะให้คุณเอาเงินพวกนั้นมาฟาดหัวพวกผมเล่น คุณน่าจะลองไปทำงานหาเงินดูนะว่าทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มามันยากเย็นแค่ไหน ไม่ใช่เอามาเผาเล่นแบบนี้”
“นั่นมันเรื่องของฉัน ฉันมีให้พวกนายก็แล้วกัน และที่สำคัญ นายจงปล่อยมือออกจากแขนของฉันเดี๋ยวนี้”
“ไม่ปล่อย คุณจะต้องไปโรงพัก ไปดำเนินการทางกฎหมาย”
“ฉันเจ็บ ปล่อย...”
หล่อนจิกมือลงบนหลังมือของชายหนุ่มหมายจะแกะออก หากนั่นกลับช้าไปกว่าวรัทที่กระชากร่างบางๆ ของเธอให้ออกห่างจากตัวรถ
“อย่ามาแกล้งทำขึ้นไปนั่งบนรถ ผมรู้หรอกนะว่าคุณจะขับหนี ไอ้เรื่องเงินแสนสองแสนน่ะมันอาจจะอยู่ในแผนการของคุณก็ได้ยายคุณหนู”
“ใช่ ฉันเป็นคุณหนู ดีไปสถานีตำรวจก็ดีเหมือนกัน ฉันจะให้พี่ชายของฉันจัดการนายเป็นคนแรก”
“เชิญตามสบาย หากว่าพี่ชายของคุณทำในสิ่งที่คุณต้องการก็เท่ากับว่าทำผิดต่อกฎหมาย วินัยยิ่งร้ายแรงเพราะเป็นผู้รู้ซึ่งข้อกฎหมายดีกว่าประชาชนคนธรรมดาอย่างพวกผม”
เขาเชิดหน้าอย่างไม่สนใจ ขณะเด็กสาวรู้สึกขัดใจเป็นหนักหนากับใบหน้าหล่อกวนส้นเท้าของเธอของนายหน้าขาวนั่น
“นี่นายหน้าจืด จะไปสถานีตำรวจก็ได้ แต่ปล่อยแขนฉันได้แล้ว เอามือสกปรกของนายออกไป ว้าย...” ประโยคท้ายร้องลั่นเมื่อแรงที่เธอดึงแขนกับเขาส่งผลให้เซถอยหลังจนเสียหลักก้นจ้ำเบ้า “ไอ้บ้า จะปล่อยทำไมไม่บอก”
“อ้าว ก็คุณบอกให้ผมปล่อยเองนี่ มาโทษคนอื่นทำไมล่ะ”
“ไอ้บ้า ไอ้หน้าจืด”
“ถึงหน้าของผมจะจืด มันก็ไม่ได้หนักส่วนไหนของคุณนี่ ไป...ลุกขึ้นได้แล้ว จะได้ไปตกลงกันที่โรงพัก”
“ไอ้บ้า...” เด็กสาวเอ็ดก่อนจะพยุงตัวเองลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ท่ามกลางสายตาเย้ยหยันของผู้คนรอบข้างที่หล่อนมองว่ามันน่าขัดใจเป็นหนักหนา ในใจคิดแค้นจะเอาคืนทุกคนให้สาสมหากถึงสถานีตำรวจ “เรื่องนี้ฉันจะให้พี่พตจัดการพวกนายให้สาสม”
เกือบเที่ยงคืนนายตำรวจหนุ่มอนาคตไกลพาดชุดเครื่องแบบตัวนอกพาดกับพนักโซฟา โดยไม่ห่างนักมีคุณดารารายนั่งรอคอยอยู่ ครั้งเห็นเด็กสาวคนสวยเดินเข้ามาด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียดหล่อนจึงโผเข้าไปกอดปลอบโยนอย่างห่วงใย
“เป็นอย่างไรบ้างลูก โอ๋ๆ บุบสลายตรงไหนบ้างเนี้ย พรุ่งนี้แม่จะพาหนูไปโรงพยาบาลตรวจเช็คทุกตารางนิ้วเลยนะ โอ๋ๆ หรือจะไปตอนนี้ดี บรรพต ออกรถให้แม่”
“คุณแม่คะ นกยูงไม่ยอม หนูไม่ยอมเด็ดขาด คุณแม่จะต้องจัดการพี่พตให้หนูนะคะ หนูไม่ยอม”
“มันเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ บรรพตไหนบอกแม่มาซิ” มารดาหันไปทางลูกชายคนโตแล้วเค้นเสียงถาม ขณะเด็กสาวในอ้อมกอดทำท่าฮึดฮัดแล้วบอกเสียงดังราวกับเด็กฟ้องผู้ใหญ่
“พี่พตน่ะสิคะ ไม่ยอมจัดการนางพวกนั้นให้นกยูง พี่พตไม่ยอมจับพวกมันยัดคุก คุณแม่ดูสิคะ พวกมันทำนกยูงเจ็บที่แขน เจ็บที่ก้น เจ็บที่อก เจ็บที่ใจ ฮือๆ”
“บรรพตทำไมไม่จัดการให้น้องล่ะลูก ไหนว่าพวกมันทำน้องเจ็บยังไงล่ะ”
“ใครกันแน่ครับคุณแม่ ยายนกยูงนะสิไปขับรถชนพวกเขา ทั้งข้าวของที่เสียหาย ผมก็อุตส่าห์ช่วยยายน้องทุกทางแล้วนะครับ แต่มันมีไอ้หนุ่มนักศึกษาคนหนึ่งรู้กฎหมาย ผมบิดเบือนแกล้งพวกมันตามที่ยายน้องทำไม่ได้หรอกนะ ถ้าทำผมก็ผิดเต็มๆ สิ”
“โกหก พี่พตเข้าข้างพวกมัน ฮือๆ คุณแม่จะต้องจัดการกับเรื่องนี้นะคะ”
“วุ้ย ถ้าอย่างนั้นก็จัดการกันเองก็แล้วกัน ผมขอไม่เกี่ยวแล้ว ขอตัวก่อนนะครับคุณแม่”
นายตำรวจหนุ่มว่าแล้วคว้าเสื้อตัวนอกพาดบ่าแล้วเดินขึ้นห้องไป ไม่สนเสียงหวีดร้องกรีดเกรี้ยวของยายน้องสาวตัวดีอีก
“โอ๋ๆ หนูไม่ผิดนะ โอ๋...นกยูงคนสวยของแม่ ไม่ร้องนะคะ ไม่ร้อง ไหนมาให้แม่ดูซิว่าเจ็บตรงไหนบ้าง”
มารดาปลุกปลอบแล้วลูบหลังลูบไหล่ จูบหน้าผากสลับกับไรผมอย่างทะนุถนอม ขณะนกยูงหรือนางสาวมยุรา บรมฤทธิกุลเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างโกรธแค้น ดวงตาคู่สวยก่อประกายแดงก่ำชัดเจน
“ฝากเอาไว้ก่อนเถอะไอ้หน้าจืด....”