EP.02

984 Words
EP. 02 ทั้งวรัทและกณธีออกมารับประทานอาหารเย็นที่ร้านค้าเจ้าประจำหน้ามหาวิทยาลัย ก่อนจะพากันไปซื้อบรรดาสิ่งของกินเล่นระหว่างอ่านหนังสือในค่ำคืนแรกก่อนการสอบปลายภาคที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต กระทั่งได้สิ่งที่ต้องการ ทั้งขนม นม น้ำดื่ม รวมไปถึงเครื่องดื่มกระตุ้นสมองอย่างแบรนเนอร์โปรตีนที่กณธีบอกกับวรัทว่ากะจะให้จำทุกบรรทัดของตัวหนังสือเอาไปสอบ “อะไรวะ มีแบรนเนอร์โปรตีนด้วย กินตอนนี้มันจะช่วยได้หรือวะ” วรัทเปรยขึ้นหลังเห็นเจ้ากล่องเล็กๆ สีน้ำตาลเพิ่มขึ้นจากรายการอาหารกินเล่นของพวกเขา “เออ กินตอนนี้ ออกฤทธิ์อีกตั้งสามวัน คงจะทัน” เจ้าตัวทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมระหว่างตอบ “คงจะทันนะ” เดือนมหาวิทยาลัยปีล่าสุดว่าพลางอมยิ้ม รอยบุ๋มตรงแก้มและฟันสีขาวแซมด้วยเขี้ยวเสน่ห์หรือที่กณธีมักจะแซวเขาประจำว่าเขี้ยวหมาปรากฏชัดขึ้นบนใบหน้า ทำให้บรรดาหญิงสาวที่อยู่แถวหน้าร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตมองแล้วยิ้มตาม “ทันไม่ทันก็ต้องกินไว้ก่อน ใครมันจะหัวดีอย่างกับท่านล่ะครับ” “แค่นายไม่เล่นเกม แล้วตั้งใจเรียนตอนที่อาจารย์สอนฉันว่านายจะต้องทำข้อสอบได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์โดยไม่ต้องพึ่งเจ้าสิ่งนี้หรอกนะ” “การเรียนมันของเครียด ส่วนเกมมันคือสิ่งผ่อนคลายเว้ย ไป กลับไปตั้งใจอ่านหนังสือกันดีกว่า” กณธีโอบมือคล้องคอเพื่อนหนุ่ม ก่อนจะผิวปากพากันเดินกลับห้องพัก ไม่ไกลกันนักมีบรรดาสาวสวยในชุดนักศึกษาประมาณสี่ถึงห้าคนจับกลุ่มวิจารณ์ถึงทั้งสองคู่หูที่สนิทสนมกันไกลไปถึงคู่ขารักร่วมเพศจนเป็นที่สนุกสนานเฮฮา ขณะเจ้าของบทวิจารณ์นั้นไม่ได้ยินหรือสนใจ พวกเขามองซ้ายและขวากำลังจะข้ามถนน ทันใดนั้นกลับมีรถเก๋งคันหรูพุ่งมาจากทิศทางไหนไม่ทราบ แฉลบผ่านหน้าพวกเขาจนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ก่อนเจ้ารถคันนั้นจะพุ่งไปชนรถเข็นของร้านขายข้าวไม่ไกลกันนัก เสียงหวีดร้องตกใจดังระงมถึงวินาศกรรมที่เกิดขึ้น เจ้ารถเก๋งคันนั้นมาจากไหน มันมาได้อย่างไรถึงได้สร้างความเสียหายมากขนาดนี้ ไม่นานกลุ่มคนทั้งชายหญิง เด็กหนุ่มยันคนแก่ต่างร่วมกันใช้สิทธิ์สำนวนไทยมุงกันถ้วนหน้า รวมไปถึงวรัทและกณธีที่ตั้งตัวได้จึงกระโจนถึงรถคันนั้นทุบกระจกรถฝั่งคนขับเสียงดัง “นี่คุณ ขับรถประสาอะไรฮะ” กณธีตะคอกถามเสียงดัง มองทุกความเคลื่อนไหวในรถอย่างจดจ่อ “หวังว่าคงไม่ขับประสาพี่ติ๊กนะ” วรัทว่าทั้งสีหน้าเคร่ง “ไม่ใช่เวลาเล่นนะวรัท ฉันเจ็บแขน...” หันไปว่าใส่เพื่อนแล้ว กณธีจึงหันไปทำหน้าที่ทุบกระจกต่อ “นี่คุณ ออกมาคุยกันนะ ขับรถยังไงกัน” ไม่ถึงนาที เจ้าของรถคันนั้นจึงปลดล็อคประตู ก่อนจะผลักประตูออกมาอย่างแรงจนถูกวรัทที่ยืนอยู่ใกล้เซจนเสียหลัก “หลีกไป เกะกะ” เจ้าของน้ำเสียงใสดั่งระฆังแก้วนั้นคือเด็กสาววัยใสในชุดเดรทสีแดงเพลิง ใบหน้าที่ซีดสนิทมีร่องรอยถูกขีดเขียนวงหน้าจนเกินอายุ “นี่คุณ ทำผิดแล้วยังจะพาลว่าคนอื่นอีก ดูนี่ แขนของผม กับนี่ เพื่อนของผมก็โดน ทั้งหมดนี่ก็ฝีมือของคุณ” “ฉันไม่ได้ตั้งใจ” เด็กสาวคนนั้นเชิดหน้ามองกณธีและวรัท หล่อนกวาดสายตามองบรรดาผู้คนและความวินาศสันตะโรจากฝีมือของตนเองด้วยสายตาว่างเปล่า “ขอโทษก็แล้วกัน” “หน็อย สงสัยจะเป็นลูกคนมีอันจะกิน ถึงได้ทำอะไรไปอย่างไม่ยีหระ แบบนี้จะต้องจับยัดคุกไปนอนกินข้าวแดงเสียให้เข็ด” ป้าเจ้าของรถเข็นที่พังติดแหง็กอยู่หน้ารถพูดขึ้นด้วยความโมโห “แล้วก็จะต้องเรียกค่าเสียหายให้หนักๆ ด้วย” “เท่าไหร่...” แม่สาวน้อยว่าพลางตวัดตาอันสวยเฉี่ยวไปทางแม่ค้านางนั้น ขณะที่คุณป้ากวาดมองความเสียหายแล้วประมวลราคาก่อนจะว่าเสียงดัง “ห้าหมื่นบาท ค่าซ่อมรถ ค่าซ่อมของ ค่ารักษาพวกฉันทุกคน” “ฉันจะให้สองแสนบาท” เจ้าหล่อนทำยิ้มอย่างเหนือชั้นกว่า ขณะผู้คนในที่นั่นต่างร้องโฮกันอย่างไม่คาดคิดกับค่าเสียหายที่ได้ง่ายๆ “หวังว่ามันคงจะพอกับค่าซ่อมรถ ค่าซ่อมของและค่ารักษาของทุกคนนะ” วรัทมองหน้าเด็กสาวอย่างไม่คาดคิดในสิ่งที่เกิดขึ้น เด็กสาวตัวแค่กระเปี๊ยก หาเงินเองยังไม่น่าจะได้ นี่ก็คงจะกำลังเรียนอยู่เป็นแน่แท้ แน่นอนที่เป็นลูกคนรวย เพราะดูจากบรรดาข้าวของที่ใช้รวมทั้งรถเจ้าปัญหาคันนั้นดูแล้วก็ราคามากเอาการ มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกที่ควรแน่หากหล่อนคิดจะปิดปากชาวบ้านด้วยเงินจำนวนนั้น คนอย่างเขา ถึงแม้จะเป็นคนจนและไม่เคยกำเงินก้อนหนึ่งแสนบาทมาก่อน แต่เขารู้ค่าของเงิน เงินทุกบาททุกสตางค์ที่คนจนๆ อย่างเขาหรือแม่ค้าหรือคนในย่านนี้ทุกคนต่างแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ ไม่ใช่เอามาล้างผลาญทิ้งเช่นนี้ “ไม่พูดต่อแสดงว่าโอเค ถ้าอย่างนั้นรอสักเดี๋ยวนะ ฉันจะให้คนที่บ้านเอาเงินมาให้เดี๋ยวนี้” หล่อนว่าพลางจะถอยเข้ารถ ขณะวรัทคว้าข้อมือบางเอาไว้ได้ทัน “เดี๋ยวก่อน...” “อะไรอีกยะ เอามือสกปรกของนายออกจากแขนฉันเดี๋ยวนี้” หล่อนจิกตามองมือของวรัทอย่างโกรธเกรี้ยว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD