บทที่ 7 อ้อนวอน

2071 Words
บทที่ 7 อ้อนวอน @ W UNIVERSITY ใต้ตึกคณะรัฐศาสตร์ที่มีหญิงสาวทั้งสามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินภายใต้ต้นไม้ใหญ่ ในตอนนี้เป็นช่วงบ่ายครึ่งซึ่งทั้งสามคนนั้นกำลังนั่งรอเวลาเรียนคาบตอนบ่ายสองโมงด้วยความเบื่อหน่าย “ง่วงว่ะ กูโคตรไม่ชอบวิชานี้เลยยัยอาจารย์อรสั่งงานเยอะชิบ!” “เออจริง กูก็ไม่ชอบ รายงานเดี่ยวฉันยังไม่เริ่มเลย” มะเหมี่ยวเอ่ยเสริมเพื่อนสนิทพลางยกมือขึ้นเท้าคางด้วยความเบื่อหน่าย “อีเหมี่ยว! ส่งอาทิตย์หน้าแล้วนะเว้ย!” บิวพูดตาโต เนื่องจากวิชาอาจารย์ค่อนข้างเข้มงวดและดุในเรื่องงานมากหากส่งช้าก็จะโดนหักคะแนนหรือไม่ก็ไม่รับส่งงานย้อนหลังเลยก็ว่าได้ “เอออีเหมี่ยว มึงจะทำทันไหมเนี่ย” หมีพูดอีกเสียงแม้ว่าตัวเขาเองจะเรียนไม่ค่อยเก่งและเรื่องงานที่อาจารย์สั่งเธอก็ตั้งใจทำทุกชิ้น “เห้อออ ฉันเอฟวิชานี้แน่เลยว่ะ” หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อรู้ชะตากรรมของตัวเอง ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากทำรายงานแต่ช่วงนี้เธอมีเรื่องให้ต้องคิดมากมายซึ่งเรื่องน่าปวดหัวเหล่านั้นก็คบไม่พ้นเรื่องครอบครัวของเธอ หลังจากที่พ่อและแม่ของเธอนั้นบินไปต่างประเทศเมื่ออาทิตย์ก่อนทั้งสองคนก็โทรมาแจ้งอีกว่าต้องอยู่ต่ออีกหลายเดือนเลยทำให้เธอรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวขึ้นมา แม้ว่าเธอจะอยู่คนเดียวจนชินและเธอเองก็เป็นคน ๆ หนึ่งที่ต้องการความรักจากพ่อแม่เช่นกัน เธอเข้าใจในหน้าที่การงานของท่านแต่เธอก็ต้องการเวลาบ้างสักนิดก็ยังดี “ไม่หรอกน่า อย่าคิดมากดิ” “งั้นวันนี้เราไปห้องสมุดกันไหม แกคิดไว้ยังว่าจะทำเรื่องอะไร” มะเหมี่ยวส่ายหน้าแทนคำตอบ “เอาจริงๆนะ กูลืมแล้วด้วยว่าอาจารย์สั่งให้ทำรายงานเกี่ยวกับอะไร” “โอ๊ย! อีเหมี่ยว! อะไรของมึงเนี่ย ปกติมึงไม่ใช่คนเลอะเทอะไม่รับผิดชอบนี่หว่า!” “เห้ออ กูก็ไม่รู้ว่ากูเป็นอะไรเหมือนกัน รู้แค่ว่ากูเบื่อ” มะเหมี่ยวฟุบหน้าลงกับกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะม้าหินพลางทำหน้าบึ้งอย่างหมดหนทาง “อาจารย์ให้มึงทำรายงานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเมืองที่น่าสนใจ มึงสนใจเรื่องไหนเป็นพิเศษรึเปล่า เดี๋ยวกูช่วยหา” “ไม่ ไม่สนใจอะไรเลย” “อีเหมี่ยว! มึงอยากแดกเอฟจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย!” “งั้นเอาเรื่องรัฐประหารในประเทศแล้วกัน” มะเหมี่ยวเอ่ยขึ้นทำให้เพื่อนทั้งสองคนทำตาโตและมองเธออย่างแปลกใจ “เชี่ย! หัวข้อโคตรเด็ดกูชอบ!” “แล้วกูก็ต้องหาสาเหตุในการทำรัฐประหารใช่ไหมมึง แล้วก็ผลที่ตามมาส่งผลอย่างไรกับสายตาของต่างประเทศ” “ถ้าจะให้ดีใส่ความคิดเห็นของประชาชนไปด้วยว่ามีความคิดเห็นยังไง” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทำให้ทั้งสามคนชะงักและหันไปมองยังต้นเสียงก็พบว่าเป็นวายุที่เสนอหัวข้อขึ้นมา “นาย!” “หืม! เริ่ด! ดีมาก ๆ เลยอะวา” “เก็บอาการหน่อยค่ะเพื่อน” มะเหมี่ยวเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้เพื่อนที่สนิทเนื่องจากรู้รับดีว่าเพื่อนของเธอนั้นชื่นชอบวายุมากแค่ไหน “มึงจดสิอีเหมี่ยวเดี๋ยวก็ลืมหรอกว่าต้องใส่หัวข้ออะไรบ้าง” “จำได้อยู่แล้วน่า” “เพิ่งทำรายงานกันเหรอ ใกล้ได้เวลาส่งแล้วนะ” วายุเอ่ยถามก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะม้าหินข้างๆมะเหมี่ยว “นายจะมานั่งข้างฉันทำไมเนี่ย!” มะเหมี่ยวบ่นอุบอิบพร้อมกับทำหน้าไม่พอใจใส่คนข้างกาย “ฉันกับบิวน่ะทำแล้ว แต่อีเหมี่ยวนี่สิยังไม่ได้เริ่มเลย ไม่รู้เป็นอะไรของมัน” “ทำไม่ทันแน่” วายุยักคิ้วกวน ๆ ส่งไปให้ทำเอามะเหมี่ยวถลึงตาใส่ด้วยความหงุดหงิด “ฉันได้ยินมาว่าวาทำเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ ทำเรื่องอะไรล่ะ” “ฉันทำเรื่องสงครามของประเทศซูดานน่ะ” “เห็นว่าหามาจากหนังสือภาษาอังกฤษทั้งนั้นเลยใช่ไหม เก่งโคตร” “จริงดิ! รู้ว่าวาเก่งแต่ก็ไม่คิดว่าจะเก่งขนาดนี้ น่าอิจฉาจัง” มะเหมี่ยวที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับกลอกตาไปมาอย่างนึกหมั่นไส้ที่เพื่อนสนิทของเธอทั้งสองคนเอาแต่ออกปากชมวายุไม่หยุด “งั้นวาก็ช่วยเหมี่ยวมันหน่อยสิ” “ไอ้บิว!” คนตัวเล็กถึงกับต้องรีบเอ่ยแทรก เธอไม่จำเป็นต้องร้องขอความช่วยเหลือจากใครและเธอก็ไม่ต้องการความหวังดีด้วย “มึงทำไม่ทันหรอกเหมี่ยว ให้วาช่วยดีกว่ามึง” “ฉันช่วยได้นะ แต่เพื่อนเธอน่ะรั้นเกิน คงคุยด้วยลำบาก” วายุเอ่ยพร้อมกับเสียงขำสร้างความหงุดหงิดให้กับมะเหมี่ยวอยู่ไม่น้อย “นี่! นายว่าฉันเหรอ” “หรือไม่จริงอะ” “ไม่จริง!” “โอ๊ย! พอทั้งคู่ จะเถียงกันทำไมเนี่ย” หมีเอ่ยห้ามทำให้มะเหมี่ยวหันหน้าหนีและกอดอกอย่างไม่พอใจ “เอาเถอะอีเหมี่ยว เพื่อคะแนนนะมึง ให้วาช่วยดีกว่า” “ฉันเห็นว่าหนังสือเกี่ยวกับเรื่องรัฐประหารในห้องสมุดมีคนยืมไปแล้ว เธอคงหาข้อมูลลำบากแน่ ๆ” “จริงดิ เห้ออีเหมี่ยวมันโดนตัดหน้าไปซะและ” “แล้วข้อมูลในอินเตอร์เน็ตไม่มีเลยเหรอ” มะเหมี่ยวเอ่ยถามพลางมีสีหน้าที่ลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด “มีน้อย” วายุตอบกลับไปเสียงเรียบ “ซวยแล้วไงไอ้เหมี่ยว เปลี่ยนเรื่องดีไหมวะมึง” “เห้อออ เอาเรื่องอะไรดีวะมึง คิดไม่ออกแล้วอะ” “บ้านฉันมีหนังสืออยู่นะ แต่เธอไม่ต้องการความช่วยเหลือจากฉัน น่าเสียดายจัง” วายุพูดด้วยรอยยิ้มทำให้มะเหมี่ยวรีบหันขวับไปมองคนตัวโตอย่างเอาเรื่อง “แล้วนายจะให้ฉันยืมไหมล่ะ” “ให้ดีไหมนะ” “นี่! อย่ามากวนประสาทกันนะ!!” “อีเหมี่ยว มึงใจเย็นๆดิ” “พูดดี ๆ ก่อน เดี๋ยวจะให้ยืม” วายุยังคงกวนคนตัวเล็กไม่เลิก ยิ่งเห็นเธอโกรธเขากลับยิ่งชื่นชอบ “ฮึ่ย!” “พูดดี ๆ ดิมึง เพื่อคะแนนนะเว้ย” “อีหมี! มึงนี่ไม่เคยเข้าข้างกูเลยนะ” “ก็แล้วแต่นะ นั่นมันคะแนนเธอไม่ใช่คะแนนฉัน” เสียงเข้มเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะม้าหินและเดินเข้าไปในตึก “เห้ย เขาไปแล้วอีเหมี่ยว รีบตามไปดิวะ” “ฉันเนี่ยนะ!?!” เธอได้รับคำตอบเป็นสายตาจากเพื่อนทั้งสองคนที่จ้องมายังเธอนิ่ง คนตัวเล็กยู่หน้าก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นและรีบวิ่งตามวายุเข้าไปในตึกด้วยความรีบร้อน “เดี๋ยว! รอด้วย!!” ขาเล็กวิ่งเข้าไปหาวายุที่กำลังเดินเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับตะโกนเรียกเสียงดังซึ่งการกระทำนั้นกลับทำให้เขาพึงพอใจเป็นอย่างมากที่ทำให้คนตัวเล็กตามเขามาได้แบบนี้ “อะไรอีก” “นายจะช่วยฉันจริงๆใช่ไหม” “ไม่อะ ไม่อยากช่วยแล้ว” “นะ นี่! ฉันขอยืมแค่หนังสือเอง ให้ฉันยืมเถอะนะ” “ไม่” เสียงเข้มตอบกลับไปทันควันพลางเดินผ่านมะเหมี่ยวเข้าไปในลิฟต์ของตึกคณะ “นี่นาย! เดินหนีฉันไม่ได้นะ!!” มะเหมี่ยวรีบวิ่งตามเข้าไปพร้อมกับพูดเสียงดังอย่างไม่พอใจ ไม่เคยมีใครหน้าไหนกล้าเมินเธอเลยสักคน! “อะไรของเธอวะเนี่ย หนวกหูชิบ! คนบ้าอะไรเสียงโคตรแหลม!” “ฉันแค่ยืมหนังสือเอง นายไม่ต้องช่วยฉันก็ได้ แค่ให้ฉันยืมหนังสือ นะ ๆ นะวา ฉันร้อง” มะเหมี่ยวเอ่ยเสียงหวานออดอ้อนเพื่อหวังให้คนตรงหน้าใจอ่อน “จะให้ดีไหมน้า” “ดีสิ ดีมาก ๆ นะวา ฉันขอร้อง พลีส” “อืม...ไหนพูดหวานๆกับฉันซิ” “นี่! นายชักจะเอาใหญ่แล้วนะ!!” คนตัวเล็กเท้าเอวและมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างเอาเรื่อง แค่เธอยอมพูดดีด้วยมันก็มากเกินพอแล้ว “งั้นก็ไม่ให้ยืม” “ฮึ่ย! งานนี้มันสำคัญมากเลยนะนายก็รู้ นายจะใจร้ายกับฉันไปถึงไหน” “ก็แค่พูดดีๆเหมี่ยว พูดดีๆหวานๆมันไม่ตายหรอก” “...” “แล้วแต่เธอนะ” ติ้ง! ลิฟต์ถูกเปิดออกวายุจึงเดินออกไปทำให้มะเหมี่ยวรีบไปคว้าแขนแกร่งของเขาเอาไว้ “กะ ก็ได้! ฉันขอร้องนะวายุ ให้ฉันยืมหนังสือเถอะนะ นายอยากได้อะไรบอกฉันได้เลย อยากกินอะไร อยากได้อะไร หรืออยากได้เงินเท่าไหร่บอกฉันมา ฉันให้นายได้” “หึ ลูกทูตอย่างเธอคงถนัดแต่เรื่องใช้เงินฟาดหัวคนอื่นสินะ” “มะ ไม่ใช่แบบนั้นนะ ฉัน...ฉันไม่รู้จะตอบแทนนายยังไงแค่นั้นเอง” เสียงเล็กเอ่ยตะกุกตะกักเมื่อสบสายตาคมของวายุที่จ้องมองเธอราวกับจับผิด “เลี้ยงข้าวฉันดิ ขอแค่นั้นแหละ” “จะ จริงเหรอ แค่เลี้ยงข้าวเองเหรอ” “อืม” “ได้! นายอยากกินอะไรบอกฉันได้เลยเต็มที่!!” “อ้าวเหมี่ยว!” เสียวเข้มของใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นทำให้คนตัวเล็กหยุดชะงัก “กร มาทำอะไรตึกนี้เหรอ” “วิชาเสรีน่ะ โชคดีจังได้เจอเหมี่ยวด้วย” “อ่อ...แหะ ๆ” มะเหมี่ยวส่งยิ้มแหยไปให้ในใจก็นึกอยากด่าโชคชะตาที่ทำให้เธอมาเจอกับผู้ชายที่เธอเคยคุยด้วย “เหมี่ยวไม่ตอบแชทเราเลย รู้ไหมว่าเราคิดถึง” “คือเราไม่ค่อยว่างน่ะกร ยุ่ง ๆ เรื่องทำรายงาน” วายุที่ยืนมองสถานการณ์อยู่นั้นก็พอจะเดาออกว่าคนตัวเล็กข้างกายนั้นกำลังรู้สึกเช่นไร “เย็นนี้เหมี่ยวว่างไหม เราไป...” “ไม่ว่าง” เสียงนั้นเป็นของวายุที่เอ่ยแทรกออกไปทำเอามะเหมี่ยวรีบหันขวับไปมองคนตัวโตด้วยความตกใจ “เธอมีทำรายงานกับฉันไม่ใช่เหรอเหมี่ยว” “ห้ะ!? เอ่อ...” “ใครเหรอเหมี่ยว เพื่อนเหมี่ยวเหรอ” “เอ่อ...ใช่ ๆ เพื่อนเราเอง” “มีคนไม่รู้จักฉันด้วยเหรอเนี่ย ฉันเป็นคนดังของคณะเลยนะ” วายุเอ่ยพร้อมกับเค้นเสียงขำและเงยหน้ามองคนตรงหน้าอย่างไม่ลดละ “เอ่อ...เย็นนี้เราไม่ว่างน่ะกร ขอโทษด้วยนะ” “แล้วเหมี่ยวว่างวันไหนหรอ” “ไม่ว่างก็คือไม่ว่าง ยังจะตามตื๊ออยู่อีก น่ารำคาญว่ะ!” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงตามตอแยคนตัวเล็กไม่เลิกวายุจึงเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “มึงเป็นใครวะ อย่ามาเสือก!!” “วะ วา...หยุดนะ” มือเล็กคว้าแขนของวายุเอาไว้เมื่อรู้ว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น “ใครกันแน่ที่เสือก!” “พอ พอได้แล้ว ไปกันเถอะ วา! พอได้แล้ว” ทะเหมี่ยวออกแรงดึงให้วายุเดินตามเธอออกไปซึ่งเขาก็ยอมทำตามแต่สายตายังคงจดจ้องกับอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่องเช่นกัน “นายเป็นบ้าอะไรเนี่ย” เมื่อพาวายุเดินออกมาเสียงเล็กก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับมองคนตัวโตอย่างคาดโทษ “อะไรของเธอวะ คนอุตส่าห์ช่วย” “ช่วยบ้าอะไรของนาย เกือบจะมีเรื่องกันอยู่แล้วเนี่ย” “หรือเธออยากไปกับมัน” “เหอะ! จะบ้าเหรอไม่มีทาง” “สายตามันแม่งเหมือนกำลังจะกินเธอไปทั้งตัว” “ทำไม หึงฉันเหรอ หึงคนที่วันไนท์ด้วยงั้นเหรอวายุคนฮอตของคณะรัฐศาสตร์” มะเหมี่ยวเอ่ยหยอกล้อพลางกอดอกมองคนตรงหน้า “หึ หลงตัวเองไปรึเปล่า” “ชิ! ฉันก็สวยนะ ฉันก็เป็นสาวสวยที่ติดท็อปของคณะเหมือนกันแหละย่ะ!” “พูดมากว่ะ” “เดี๋ยวสิ นายจะไปไหน” มะเหมี่ยวเอ่ยเรียกเมื่อวายุทำท่าจะเดินออกไป “เข้าห้องเรียนดิ” “แล้วเรื่องหนังสือล่ะ ตกลงนายให้ฉันยืมแล้วใช่ไหม” “อืม” “แล้ววันไหนล่ะ ฉันต้องรีบทำนะ” “หลังเลิกเรียนเดี๋ยวจะพาไปเอา” “วันนี้เหรอ” “ทำไม ไม่ว่าง?” “ก็...” คนตัวเล็กเอ่ยเสียงแผ่วพลางมองคนตรงหน้าอย่างใช้ความคิด “...ก็ได้ ฉันว่าง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD