“คุณแม่ใจเย็นๆก่อนนะคะ วิเชื่อว่ามันต้องมีทางออกค่ะ เรื่องแบบนี้ว่าไม่ได้นะคะ บทจะมาก็มาแบบไม่ทันตั้งตัวค่ะ” วิมลพูดปลอบใจแม่สามีขณะที่ทุกคนนั่งทานข้าวร่วมกัน
“อือ ฉันก็หวังไว้อย่างนั้น ถ้าไม่มีจริงๆฉันจะใช้ไม้ตายกับตาอิท” ไม่ใช่ว่าไม่มีหนทางเลยแต่คุณย่าบงกชเอาไว้เป็นทางเลือกสุดท้ายต่างหากล่ะ
“แล้วนี่ตาเมศไม่มีเพื่อนๆผู้หญิงเลยเหรอลูก ไม่หามาให้พี่เขาหน่อยล่ะ” บงกชบอกหลานชายคนละแม่กับอิทธิพัทธ์ซึ่งอายุห่างกันเกือบยี่สิบปี
“โธ่คุณย่า หายากนะครับ ใครๆเขาก็อยากมีสามีหนุ่มๆกันทั้งนั้นแหละครับ” ก็จริงอย่างที่ปารเมศว่าเขาพยายามหาช่วยแล้วแต่พอรู้คร่าวๆว่าต้องมาเจอกับมนุษย์หินพันปีก็ไม่มีใครกล้าจริงจังสักคน
รถยนต์สีดำเลี้ยวเข้ามาจอดในที่ประจำของบ้านทรงโมเดิร์นขนาดชั้นครึ่งหลังคาไล่เป็นสามระดับภายนอกถูกตกแต่งไว้ด้วยโทนสีเทาขาวดูเรียบง่ายแต่ทันสมัยมีพื้นที่ใช้สอยมากพอที่จะอยู่เป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกได้อย่างสบาย ภายในบริเวณบ้านกว้างขวาง
“อ้าว คุณอิทไหนว่าไปทานข้าวบ้านใหญ่คะ” แม่บ้านเอ่ยทักหลังจากเห็นร่างใหญ่ก้าวเข้ามาในบ้าน
“เปลี่ยนใจแล้วครับป้า อารมณ์ไม่ค่อยดีก็เลยกลับมาก่อน ป้ามีอะไรกินบ้างครับ” ชายหนุ่มถามแม่บ้านคู่ใจที่อยู่กับเขามาเกือบสิบปีตั้งแต่สมัยเขายังอยู่บ้านใหญ่ จนรู้จักนิสัยใจคอเจ้านายเป็นอย่างดี
“ป้าทำข้าวผัดแบบที่คุณอิทชอบไว้น่ะค่ะ เกรงว่ากลับมาดึกๆแล้วจะหิว” ป้าน้อยรู้ดีว่าอิทธิพัทธ์ไม่ใช่คนเรื่องมากในเรื่องการกินอยู่ แค่เรื่องมากในการหาภรรยาก็เท่านั้น
“ยกมาเลยครับป้า” อิทธิพัทธ์กินข้าวยังไม่ทันจะอิ่มโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ชายหนุ่มมองหน้าจอแล้วลอบถอนหายใจเบาๆก่อนจะรับสาย
“ครับคุณย่า” ปากก็เคี้ยวข้าวไปด้วยหูก็รอฟังปลายสายว่าจะบ่นอะไรอีกที่หลานชายไม่รอทานข้าวเย็นด้วย
“ย่าให้เวลาอีกสองเดือนนะตาอิท ถ้าหาไม่ได้ย่าจะให้อิทแต่งงานกับหนูริสาข้างบ้านเรานี่แหละ” อิทธิพัทธ์แทบจะสำลักข้าวออกมา เล่นทำแบบนี้หลานชายตัวแสบก็เหวอไปเลยสิ ใครๆก็รู้ว่าสองแม่ลูกที่อยู่ข้างบ้านรัตนโสภาปากเป็นยังไง ถึงลูกสาวจะอายุย่างเข้าเลขสาม ดีกรีเรียนจบจากต่างประเทศและถึงหน้าตาจะสะสวยมากแค่ไหนเขาก็ไม่มีทางเอาชีวิตไปแลกกับผู้หญิงคนนี้เป็นอันขาด ใครได้ไปเป็นผัวคงเหมือนตกนรกทั้งเป็น
“คุณย่าคร้าบ ผมอยู่คนเดียวแบบนี้ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนี่ครับ ผมมีทุกอย่างแล้วยังจะหาความทุกข์มาให้ผมอีกทำไมล่ะครับคุณย่า” เสียงอ้อนวอนที่เอ่ยออกไปนั้นเหมือนจะไม่มีค่าอะไรเลย
“ยังไงก็ไม่ได้ ย่าไม่ยอมจริงๆนะตาอิท ถ้ายังดื้ออยู่แบบนี้อย่าหาว่าย่าไม่เตือน” สีหน้าอิทธิพัทธ์มีความกังวลมากยิ่งขึ้น มือเลื่อนจานข้าวออกจากตรงหน้าไม่กินต่อเอาดื้อๆ
“โอ้ยจะบ้าตาย! หาเมียภายในสองเดือนเนี่ยนะ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆใครจะไปหาทันว้า” อิทธิพัทธ์สบถออกมากับตัวเองอย่างหัวเสียก่อนจะเดินขึ้นห้องไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด
ทำไมคุณย่าไม่เคยเข้าใจอะไรง่ายๆเลย ก็คนบอกว่าไม่แต่งๆยังจะบังคับ ในความคิดของบงกชเธอจะไม่ยอมให้หลานคนไหนอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิตแน่ตราบใดที่ย่าคนนี้ยังมีชีวิตอยู่
จากที่อิทธิพัทธ์คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่กลายเป็นว่าเขาอยู่นิ่งไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่อย่างนั้นต้องโดนจับแต่งงานกับริสาที่ต้องตามจิกเขาไปทุกที่แน่ ไม่ใช่ว่าริสาจะมีแต่ข้อเสียทั้งหมดนะแต่ข้อดีนั้นมันน้อยนิดเกินไปสำหรับคนรักอิสระอย่างเขา
ที่จริงถ้าย่าของเขาไม่ใช่บงกชเขาก็อาจจะไม่ต้องมาคิดหนักเรื่องนี้ คืนนั้นทั้งคืนอิทธิพัทธ์นอนไม่ค่อยหลับเอาเสียเลย แทบจะอยากเอาเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผาก จะไปหาเมียที่ไหนภายในเวลาแค่สองเดือน แล้วทำไมต้องมาโดนบังคับตอนแก่มันไม่สนุกเอาเสียเลย แต่คิดอีกทีเพื่อนๆของเขาก็มีลูกกันหมดแล้ว
เช้าวันถัดมาร่างสูงเดินลงจากมาชั้นสองของบ้านท่าทางเอื่อยๆ
“คุณอิทดูหน้าตาไม่ค่อยสดชื่นเลยค่ะ”
“ครับป้า มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”
“อย่าบอกนะคะว่าเรื่องเดิม” ป้าน้อยพอรู้มาบ้างว่าปัญหาเรื่องการหาหลานสะใภ้คนโตเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมาเป็นปีตอนนี้บงกชก็ใกล้จะแปดสิบ ร่างกายเริ่มไม่แข็งแรงก็เลยต้องมีการบังคับกันเกิดขึ้น
“อืม เมื่อคืนนี้ผมนอนไม่ค่อยหลับ” อิทธิพัทธ์ยกแก้วกาแฟที่มีไอความร้อนโชยขึ้นมาส่งกลิ่นหอมกรุ่นที่ป้าน้อยเตรียมให้ขึ้นดื่ม เพราะปกติช่วงเช้าอิทธิพัทธ์จะดื่มกาแฟหนึ่งแก้วบางครั้งก็มีขนมปังบ้างแล้วค่อยออกไปทำงาน
“แล้วแบบนี้ยังจะเข้าไปสาขาอีกเหรอคะ” ครอบครัวรัตนโสภาทำธุรกิจเกี่ยวกับขายวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านซึ่งตอนนี้มีห้าสาขาที่อยู่ในนครปฐมตั้งแต่สาขา A ถึง E ซึ่งสาขา A เป็นเหมือนสำนักงานใหญ่ อิทธิพัทธ์มีผู้ช่วยอยู่ครบทุกแผนกไว้คอยซัพพอร์ตงานของเขาและงานสาขาต่างๆและตอนนี้กำลังขยายสาขาออกไปที่ราชบุรีอีกสองสาขาคือ F กับ G แต่ละสาขาจะมีผู้จัดการสาขาคอยดูแลอยู่แล้วไม่ต้องเข้าไปดูแลทุกวัน
อิทธิพัทธ์และผู้ช่วยของเขามีหน้าที่ให้คำปรึกษาและคอยช่วยแก้ปัญหาเรื่องใหญ่ๆให้กับสาขาอีกที ถึงเขาจะสามารถจัดการงานเกือบทุกอย่างผ่านทางออนไลน์ได้ก็ตามที ในหนึ่งสัปดาห์เขาอาจจะเลือกเข้าไปตรวจสอบเป็นบางสาขาหรือทั้งหมดร่วมกับผู้ช่วยคนเก่งของเขาอย่างทินกรก็เป็นได้ มีทินกรเขาก็รู้สึกอุ่นใจเพราะเขาสามารถตัดสินใจและแก้ปัญหาแทนอิทธิพัทธ์ได้เกือบทุกเรื่อง
“ผมว่าจะเข้าไปดูความเรียบร้อยที่ราชบุรีหน่อยครับ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะเปิดขายแล้วผมค่อนข้างเป็นห่วง อีกอย่างผมว่าจะแวะเข้าไปเยี่ยมไอ้รุจมันหน่อย ตั้งแต่ไปดูที่คราวก่อนก็ยังไม่ได้เข้าไปหามันเลย”
นพรุจเพื่อนสนิทสมัยเรียนปริญญาตรีอยู่ที่นครปฐมด้วยกันตอนนี้ลาออกจากงานประจำไปทำสวนที่บ้านกับภรรยาและลูกสบายใจไปแล้ว ตอนเรียนเขาเคยไปเที่ยวบ้านเพื่อนอยู่บ่อยครั้ง ครั้งล่าสุดที่ไปก็สี่เดือนที่แล้วที่ไปดูสถานที่เพื่อเปิดสาขาใหม่
“ขับรถไปเองเหรอคะ” ป้าน้อยเอ่ยถามเพราะบางวันเขาจะมีผู้ช่วยอย่างทินกรขับรถไปให้
“ครับ เผื่อผมกินเหล้ากับไอ้รุจมัน กลัวว่าจะกลับดึกเกรงใจคุณกรด้วย” นานๆเจอเพื่อนทีพวกเขาชอบดื่มเหล้าปรับทุกข์กันตามประสาหนุ่มใหญ่ที่มีเรื่องให้เล่ากันมากมาย แต่ทุกครั้งถ้าเมานพรุจก็ไม่เคยให้เขาขับรถกลับอยู่ดี
“ยังไงก็โทรมาบอกป้าอีกทีแล้วกันนะคะ” ทุกครั้งที่เขาไปทำธุระต่างจังหวัดถ้าไม่กลับมาค้างที่บ้านอิทธิพัทธ์จะโทรมาบอกก่อนเสมอ เพราะป้าน้อยจะได้ไม่ต้องรอเตรียมข้าวปลาไว้ให้
ระยะทางจากบ้านเขาไปบ้านเพื่อนขับรถชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้ว อิทธิพัทธ์เข้าไปเดินตรวจความเรียบร้อยภายในสองสาขาที่ราชบุรีอย่างละเอียด จุดวางสินค้าที่เหมาะสมให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันหมดเกือบทุกสาขา ปรับปริมาณและขนาดให้เข้ากับพื้นที่แค่นั้น ทั้งสองสาขาที่จะเปิดที่ราชบุรีนี้ยังไม่มีผู้จัดการ คนหนึ่งรอโปรโมทจากทางนครปฐมเพื่อย้ายกลับมาทำงานที่บ้านส่วนอีกสาขากำลังรับสมัคร ในช่วงที่ยังหาผู้จัดการไม่ได้อิทธิพัทธ์หรือผู้ช่วยของเขาก็ต้องมาราชบุรีบ่อยมากขึ้น
พ่อเขาเองตอนนี้อยู่ในวัยเกษียณแล้วไม่ค่อยเข้ามายุ่งเรื่องงานเท่าไหร่ มีคอยให้กำลังใจและให้คำปรึกษาบ้าง ส่วนน้องต่างมารดาอีกสองคนถ้าเรียนจบแล้วก็ค่อยมาดูแลช่วยกันถ้าไม่อยากทำงานอย่างอื่น ปารเมศน้องชายต่างมารดาของเขาเหลือเวลาอีกไม่ถึงสองเดือนก็จะเรียนจบส่วนปรางทิพย์ลูกสาวคนเล็กนั้นพึ่งเรียนอยู่ปีหนึ่งคงต้องรออีกหลายปี