ภายในบ้านรัตนโสภา ทุกคนต่างมีความยินดีที่คนที่จะเข้ามาเป็นสะใภ้คือคนที่รู้จักกันดี บงกชไม่ต้องวิ่งหาให้เมื่อยอีกต่อไป
“แม่ตื่นเต้นอยากเห็นหน้าหลานสะใภ้เต็มที” บงกชบอกกับทุกคนขณะที่นั่งรวมกันอยู่ภายในบ้านใหญ่
“ใครเหรอครับคุณย่า” ปารเมศเกิดความสงสัยว่าทำไมพี่ชายหาได้เร็วจังแต่อิทธิพัทธ์ก็ไม่ยอมบอกว่าใคร ยังไงทุกคนก็ต้องรอเพราะรอบนี้เขายอมแต่งงานให้ก็บุญโขแล้ว
“สวยมั้ยคะคุณย่า สาวหรือแก่” ปรางทิพย์หลานคนเล็กของบ้านถามขึ้นอย่างตื่นเต้น ทุกคนต่างลุ้นว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร หน้าตาท่าทางเป็นแบบไหน อิทธิพัทธ์ถึงยอมที่จะแต่งงานด้วย
“นั่นน่ะสิ ย่าก็ไม่ได้ถามพี่อิทด้วยสิ”
“ชอบให้ลุ้นอีกละ”
“เถอะน่า รออีกไม่กี่วันตาอิทก็จะพามาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักแล้วน่า”
วิมลกับอรรถได้แต่มองหน้ากันแล้วยิ้ม รู้สึกผ่อนคลายลงหลังจากที่ทุกคนได้รู้ข่าวดีจากอิทธิพัทธ์ ถึงอรรถจะยังไม่วางใจว่าการแต่งงานในครั้งนี้จะไม่มีลับลมคมในก็ตาม
ในวันที่ไปลองชุดแต่งงานกลายเป็นว่าลดาวัลย์ต้องเป็นฝ่ายจัดแจงเลือกชุดเองทุกอย่างแม้กระทั่งของอิทธิพัทธ์ด้วย
“อาแล้วแต่อ้อเลยนะ จะเอาแบบไหนก็ได้อาไม่ค่อยสันทัดเรื่องนี้เท่าไหร่” ไม่สันทัดก็ควรออกความเห็นบ้างเพราะเธอเองก็ไม่เคยเหมือนกัน เธอเริ่มมองเห็นอนาคตของตัวเองขึ้นมาลางๆ ว่าเขาอาจจะไม่ได้มาใส่ใจชีวิตเธอหลังแต่งงานมากนัก แต่เธอก็ไม่หวั่นถ้าอย่างนั้นก็จัดตามใจเธอทุกอย่างแล้วกัน
“เอาสี่ชุดนี้ค่ะ” ลองกันอยู่นานในที่สุดเธอก็ได้ชุดที่ถูกใจสักที รู้อยู่ว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นเพราะเหตุผลอะไรเพราะฉะนั้นเธอก็จะไม่เรียกร้องอะไรจากเขาซึ่งอิทธิพัทธ์ก็ตามใจเธอทุกอย่าง ยกเว้นเขาต้องเป็นคนจ่ายเงินทั้งหมด
“วันนี้อ้อว่างทั้งวันใช่มั้ย” อิทธิพัทธ์เอ่ยถามหลังจากขับรถออกมาจากร้านที่ไปลองชุด
“ใช่ค่ะ อาอิทมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“อาจะพาอ้อไปแนะนำให้คนที่บ้านใหญ่รู้จักหน่อยน่ะ” ทุกคนในบ้านใหญ่ต่างอยากเห็นหน้าว่าที่หลานสะใภ้คนโตของบ้าน ทีแรกอิทธิพัทธ์กะจะเซอร์ไพรส์ในวันงานแต่ทุกคนก็ไม่ยอมท่าเดียว เขาจึงต้องพาเธอไปแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักก่อน
“ก็ได้ค่ะ” ลดาวัลย์ยิ้มหวานให้กับอิทธิพัทธ์รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยที่ต้องไปทำความรู้จักกับทุกคนในฐานะว่าที่ภรรยาของเขา
พอไปถึงบ้านรัตนโสภาอิทธิพัทธ์แนะนำให้ลดาวัลย์รู้จักกับทุกคนในบ้าน ดูท่าทางคุณย่าบงกชจะมีความพอใจในตัวหลานสะใภ้คนนี้เป็นอย่างมาก ยิ่งรู้ว่าเป็นหลานสาวของนพรุจเพื่อนรักของหลานชายก็ยิ่งยินดีที่จะรับเป็นหลานสะใภ้ มิหนำซ้ำหญิงสาวยังเป็นเพื่อนกับหลานชายคนเล็กอีก
“ไปแอบซุ่มมีแฟนเด็กก็ไม่บอกย่าสักคำ ที่ไหนได้รอให้แฟนเรียนจบก่อนแล้วค่อยเปิดตัวนี่เอง มิน่าล่ะย่าหาใครมาให้ก็ไม่ถูกใจสักที” บงกชบอกหลานชายพร้อมกับยิ้มปลื้มปริ่มไปด้วย อิทธิพัทธ์ได้แต่ยิ้มแบบฝืดๆให้กับผู้เป็นย่า แต่คนที่ยังงงอยู่กับเรื่องนี้เห็นจะเป็นปารเมศเพื่อนของลดาวัลย์นั่นเอง
“เราพึ่งรู้ว่าเมศเป็นน้องชายของอาอิท โลกกลมจังเลยเนอะ” ลดาวัลย์ออกมาเดินเล่นกับเพื่อนหลังจากร่วมรับประทานอาหารเย็นกับครอบครัวของอิทธิพัทธ์เสร็จ
“เราก็พึ่งรู้เหมือนกันว่าอ้อเป็นแฟนกับพี่อิท” ตอนนี้เขาพอเข้าใจแล้วว่าที่แท้เพื่อนมีคนในใจอยู่แล้ว ถึงฟังดูแล้วมันอาจจะดูทะแม่งๆหน่อยก็เถอะ
“หึ หึ มันก็แค่...” ลดาวัลย์แค่นหัวเราะออกมาแต่พอนึกได้ว่ามันเป็นความลับระหว่างเขากับเธอลดาวัลย์จึงเลือกที่จะไม่พูดต่อ
“อ้อ!” เสียงอิทธิพัทธ์ดังมาแต่ไกลทั้งสองจึงเบี่ยงเบนจุดสนใจไปที่เขา
“คะอาอิท” อิทธิพัทธ์สาวเท้าเดินเข้ามาหาทั้งสองที่กำลังยืนคุยกันอยู่
“เรากลับกันเถอะเดี๋ยวจะดึกมากกว่านี้” อิทธิพัทธ์เอ่ยน้ำเสียงที่เป็นปกติ
“เรากลับก่อนนะเมศ เอาไว้ค่อยคุยกันใหม่” ลดาวัลย์ยิ้มให้เพื่อนก่อนจะเดินเคียงข้างอิทธิพัทธ์ไปยังรถของเขา ปารเมศมองดูด้วยความแคลงใจในความสัมพันธ์ของทั้งคู่
“อ้อเป็นเพื่อนกับเมศเหรอ อาไม่เห็นรู้เรื่องเลย” อิทธิพัทธ์เอ่ยถามลาดาวัลย์หลังจากที่อยู่ในรถกันตามลำพัง
“ใช่ค่ะ อาอิทมีอะไรหรือเปล่าคะ”
‘ก็แหมวันๆทำแต่งานเคยสนใจใครที่ไหนล่ะ’
“เปล่าหรอกแล้วเรื่องของเรา…”
“อ๋อ อาอิทไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ อ้อไม่ได้บอกเมศหรอกค่ะอาอิทสบายใจได้” อิทธิพัทธ์แค่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่และไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตเขามากจนเกินไป
“อาขอบใจอ้อมากนะ ที่ยอมช่วยเหลืออา”
“ไม่เป็นไรค่ะอ้อเต็มใจ อีกอย่างอ้อก็ไม่ได้ช่วยฟรีนี่คะ อาอิทไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ” คำว่าเต็มใจของลดาวัลย์ก็คือเธอเต็มใจที่จะทำหน้าที่เป็นภรรยาของเขาต่างหากล่ะ ลดาวัลย์เคยคิดไว้เสมอว่าถ้ามีโอกาสได้แต่งงานชีวิตนี้ก็อยากจะทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด
งานแต่งงานถูกจัดขึ้นที่บ้านของฝ่ายหญิงอย่างเรียบง่ายนั่นเป็นสิ่งที่ปู่กับย่าของลดาวัลย์ได้ขอไว้ ในงานมีแค่คนในครอบครัวและญาติสนิทเพียงไม่กี่คน เจ้าบ่าวเจ้าสาวสวมชุดไทยประยุกต์หล่อสวยสมกัน จนทำให้อิทธิพัทธ์อดตะลึงในความงามของเจ้าสาวไม่ได้ชุดไทยสี pink gold ขับผิวขาวผ่องของเธอให้ชวนมองและดูน่าหลงใหล แต่ความสวยก็คงทำอะไรเขาไม่ได้นานเพราะคนไม่ได้รู้สึกรักกันมาก่อนมันจะมีความหมายอะไร
ทั้งสองครอบครัวยิ้มปลื้มปริ่มอย่างภูมิใจโดยเฉพาะบงกชดีใจจนออกนอกหน้า เมื่อเห็นหลานสะใภ้คนโตสวยเพียบพร้อม ถึงจะไม่ใช่คนที่สวยหยดย้อยแต่มองแล้วไม่อยากละสายตา มองแล้วอยากมองอีก มันดูละมุนไปหมด อดชื่นชมหลานชายคนโตในความตาถึงของเขาไม่ได้
ค่าสินสอดสร้อยแหวนเงินทองนั้นบงกชจัดการให้สมกับที่เป็นหลานสะใภ้ใหญ่คนโตของบ้าน และเพื่อเป็นการตอบแทนภรรยากำมะลออิทธิพัทธ์ก็ไม่ยอมรับค่าสินสอดคืนจากเธอแม้แต่บาทเดียว แถมยังแอบเตรียมแหวนหมั้นมาโดยที่ไม่ได้บอกเธออีกด้วย เขาสวมแหวนเข้ากับนิ้วเรียวสวยอย่างพอดิบพอดี
‘ใช่สิงานแต่งก็ต้องมีแหวนฉันลืมข้อนี้ไปเลย’
เมื่อถึงคราวที่เจ้าสาวจะต้องก้มกราบว่าที่สามีเขาก็รู้สึกผะอืดผะอมอยู่ไม่น้อย มันดูเหมือนจริงจนเกินไป ทั้งค่าสินสอดไหนจะเงินที่เขาให้เธอใช้ในแต่ละเดือนเดือนละสามหมื่นอีก แค่นี้ก็คุ้มจนไม่รู้จะคุ้มยังไงแล้วกับเด็กจบใหม่อย่างเธอ งานไม่ต้องทำก็มีเงินให้ใช้สบายๆใครจะไม่ชอบล่ะ
งานแต่งผ่านพ้นไปได้ด้วยดีเจ้าบ่าวเจ้าสาวถูกส่งตัวเข้าห้องหอก็เป็นอันเสร็จพิธี วันพรุ่งนี้ตอนเย็นงานเลี้ยงจะถูกจัดขึ้นที่บ้านของเขาอีกครั้ง ลดาวัลย์บอกกับเขาว่าขอให้จัดเป็นงานเล็กๆมีแค่คนในครอบครัวก็พอเพราะเธอไม่อยากให้คนรู้ข่าวนี้มากเกินไป อิทธิพัทธ์ก็ไม่ขัดข้องเพราะเขาก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้แต่ทำไปเพราะขัดความต้องการของคุณย่าไม่ได้
“เรากลับก่อนนะอ้อ พรุ่งนี้เจอกัน” ปารเมศกลับไปด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยเดาไม่ออกว่ารู้สึกเช่นไร งานแต่งงานเพื่อนก็ควรยินดีสิ ปารเมศเฝ้าตามจีบเธอมาเกือบสองปีแต่สุดท้ายลดาวัลย์ก็ให้ได้แค่สถานะเพื่อน พอรู้อีกทีก็กลายเป็นภรรยาพี่ชายไปแล้วเลยไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรดี ความจริงก็ยินดีด้วยแต่ถ้าจะพูดแบบไม่โกหกเลยก็รู้สึกเจ็บแปลบอยู่เหมือนกัน