ตอบแทนบุญคุณ

960 Words
ลลิล... หลังจากที่โดนคุณคิมหันต์ด่าฉันก็ต้องรีบเข้ามาหาคุณท่านเพราะท่านให้คนไปเรียก "เมื่อกี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นเสียงตาคิมดังมาถึงในห้องนอนของฉัน" "คือลิลกำลังยกอาหารไปวางที่โต๊ะทานข้าวค่ะแต่ลิลเดินไม่ระวังทำให้ไปชนคุณคิมเข้าน้ำแกงก็เลยหกรดเสื้อคุณคิมค่ะ" "หึ แกก็เลยโดยตาคิมด่า" "......" ฉันก้มหน้าไม่ได้ตอบคุณท่าน "ฉันไม่รู้หรอกนะว่าตาคิมจะเกลียดจะชังอะไรแกนักหนาแต่มันก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะที่ฉันเลือกแกให้แกแต่งงานจดทะเบียนกับตาคิมก็เพราะแบบนี้แล่ะ" "........" "เพราะฉะนั้นแกอย่าคิดอะไรเกินฐานะของแกเป็นอันขาดเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม" "เข้าใจค่ะ" "แกอย่าลืมว่าที่แกเติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้ได้ร่ำได้เรียนมันเป็นเพราะใคร ถ้าไม่ใช่เพราะฉันกับคุณพี่รับแกมาเลี้ยงดูป่านนี้แกอาจไปเป็นโสเภณีในซ่องเหมือนแม่ของแกก็ได้" "........." "เพราะฉะนั้นแกต้องจำใส่สมองของแกให้ขึ้นใจว่าแกต้องตอบแทนบุญคุณของฉันห้ามทำอะไรที่มันนอกเหนือคำสั่ง ฉันให้ทำแค่ไหนแกก็ต้องทำแค่นั้น" "ค่ะ" "อืม ไม่มีอะไรแล้วออกไปได้ละฉันจะอ่านหนังสือ" "ค่ะ" ฉันมานั่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำหลังบ้านหลังจากเข้าพบคุณท่าน ฉันยอมรับว่ารู้สึกหนักใจเป็นอย่างมากเรื่องที่ท่านจะให้ฉันแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับคุณคิมหันต์หลานชายเพียงคนเดียวของท่าน ถามว่าฉันอยากแต่งไหมไม่เลยสักนิดฉันไม่เคยคิดใฝ่สูงจนเกินตัวขนาดนั้นเพราะฉันรู้อยู่เต็มอกว่าคุณคิมหันต์เขาเกลียดรังเกียจฉันมากแค่ไหน เขาไม่ใช่เพิ่งมาเกลียดตอนที่รู้ว่าจะต้องแต่งงานกับฉันแต่เขาเกลียดฉันมาตั้งแต่เด็กตั้งแต่ก้าวแรกที่ฉันย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้แล้ว เจอหน้าครั้งแรกเขาก็ตั้งแง่รังเกียจทันที ฉันยังจำแววตาของเขาได้เป็นอย่างดี ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อนตอนนั้นฉันอายุสิบขวบส่วนคุณคิมหันต์อายุประมาณสิบสองสิบสามซึ่งแก่กว่าฉันประมาณสองสามปี "อี๋ ปู่กับย่าพาขอทานที่ไหนมา เนื้อตัวก็สกปรกเหม็นก็เหม็น" นั่นคือประโยคแรกที่ฉันได้ยินจากปากของเขาพร้อมท่าทางรังเกียจราวกับฉันเป็นตัวเชื้อโรค "เราก็พูดเกินไปตาคิม เด็กคนนี้ชื่อลิลอายุน่าน้อยกว่าเราไปสองปีปู่กับย่าจะรับมาเลี้ยง" "รับมาเลี้ยง??" "ใช่" "ปูกับย่าก็รับเด็กมาเลี้ยงตั้งเยอะตั้งแยะแล้วจะรับมาเลี้ยงอีกทำไมเปลืองข้าวเปลืองน้ำ" "จะเปลืองแค่ไหนกันเชียว อีกอย่างลิลมันน่าสงสาร" "จะน่าสงสารยังไงก็เถอะ เกิดมาขโมยของในบ้านเราทำไงครับ" "ลิลมันไม่ทำหรอกปู่เชื่อว่าปู่มองคนไม่ผิด" "ผมจะจับตาดู" ตลอดเวลาสิบปีที่ผ่านมาตั้งแต่ฉันมาอยู่ที่นี่ทำให้ฉันรู้ว่านิสัยส่วนตัวของเขาจะเป็นคนถือตัวดูถูกคนที่ด้อยกว่าเขาบ่อยครั้งที่ฉันถูกเขาแกล้งจนเลือดตกยางออกเพราะฉันไปเกะกะสายตาเขา ฉันทำอะไรก็ขัดหูขัดตาเขาไปหมดทุกอย่าง ซึ่งเหมือนจะมีแค่ฉันคนเดียวที่ถูกเขาแกล้งส่วนเด็กคนอื่นๆที่ถูกรับมาเลี้ยงดูไม่มีใครโดนเหมือนฉันสักคน มีบ่อยครั้งที่ฉันต้องแอบมานั่งร้องไห้เพียงลำพังเพราะคิดถึงพ่อ พ่อที่จากโลกนี้ไปด้วยโรคร้ายส่วนแม่ของฉันพอเลิกกับพ่อแม่ก็ไม่เคยดูดำดูดีฉันอีกเลยแทบนับครั้งได้ที่ฉันจะเจอหน้าแม่ จนกระทั่งวันที่พ่อเสียแม่ก็กลับมารับฉันไปอยู่ด้วย แต่ก็มารับด้วยความจำใจเพราะไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน และที่ๆแม่พามาอยู่มันคือ..ซ่องโสเภณี ฉันในวัยสิบขวบที่พอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรฉันพยายามพูดกับแม่ขอให้แม่เลิกอาชีพนี้แต่แม่ไม่ยอมซ้ำยังทุบตีฉันอีกแล้วก็ไล่ฉันออกมา ฉันจำได้ตอนนั้นฉันเดินโซซัดโซเซไปนั่งอยู่ที่สวนสาธารณะใกล้ๆเพราะไม่มีที่ไปฉันนั่งร้องไห้คนเดียวจนกระทั่งเจอคุณท่านซึ่งเป็นคุณปู่ของคุณคิมหันต์ที่มาวิ่งออกกำลังกาย คุณท่านถามว่าฉันเป็นอะไรทำไมถึงมานั่งร้องไห้ตรงนี้แล้วท่านก็ถามว่าหิวไหมพอฉันบอกว่าหิวท่านก็รีบให้คนติดตามของท่านไปหาซื้อขนมปังกับนมมาให้ฉันกินฉันรีบกินด้วยความหิวเพราะทั้งวันฉันไม่ได้กินอะไรเลย หลังจากนั้นคุณท่านก็ถามฉันฉันก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้ท่านฟังด้วยความไว้ใจแล้วท่านก็บอกว่าจะรับฉันมาเลี้ยงจะส่งให้เรียนหนังสือ ฉันดีใจมากเพราะตั้งแต่พ่อเสียแล้วย้ายมาอยู่กับแม่ที่ซ่องฉันก็ไม่ได้ไปเรียนหนังสืออีกเลยแม่บอกไม่มีเงินไม่ต้องเรียนเปลืองเงิน หลังจากนั้นท่านไปคุยกับแม่ซึ่งแม่ก็รีบยกฉันให้คุณท่านทันทีอย่างไม่ลังเล ชีวิตลลิลทำไมน่าสงสารอะไรขนาดนี้> ช่วงนี้ไรท์ยังยุ่งๆเรื่องบ้านอยู่แต่จะพยายามมาอัพบ่อยๆน๊าาาาา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD