ยี่สิบนาทีต่อมา...
หลังจากที่ทานข้าวกับพี่ชาย ท่ามกลางบรรยากาศที่สุดแสนจะตึงเครียด ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา นอกจากต่างคนต่างทานเงียบๆ จะมีเพียงสายตาที่เหลือบมองกันไปมาเป็นบางครั้ง กระทั่งทานเสร็จ ฟ้ารดาก็เก็บถ้วยชามไปล้าง คามินก็ลุกไปหยิบมือถือที่ชาร์จทิ้งไว้มาเปิดเครื่อง และกดโทรไลน์ไปยังสายที่โทรเข้ามาก่อนหน้า พร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟนให้คนที่ยืนล้างจานอยู่ได้ยินไปด้วย
ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...
เสียงสัญญาณรอสายดังนับสิบๆ ครั้ง โดยมีสายตาเอาเรื่องของคามินจ้องมองอย่างไม่วางตา เพราะเตรียมจะด่าคืนถ้าหากปลายสายกดรับ แต่ก็ไร้วี่แวว
“ไม่มีคนรับสาย ก็เก็บ!”
คนที่เพิ่งจะล้างจานเสร็จ หันไปมองมือถือเครื่องใหม่ที่เพิ่งจะได้มาสดๆ ร้อนๆ ไม่ถึงชั่วโมง กลับถูกพี่ชายเอาไปเก็บใส่ในลิ้นชัก แล้ว ล็อกกุญแจตามซะแน่นหนา ครั้นจะเอ่ยปากอธิบายก็ดูจะเปล่าประโยชน์ เลยคิดว่าควรรอให้อีกฝ่ายใจเย็นลงกว่านี้ เพราะไม่เช่นนั้นเธออาจจะโดนพี่ชายส่งกลับไทยโดยที่ยังไม่ได้เจอกับเพื่อนสาว
วันต่อมา...ฟ้ารดาเดินทางไปร่วมงานไว้อาลัยของครูซกับพี่ชายตั้งแต่เช้า จนกระทั่งบ่ายสามโมงก็พากันกลับมาที่คอนโด
“พี่คิม”
“อะไร?” คามินหันไปมองตามเสียงเรียก
“น้องขอมือถือคืนได้ไหม” ฟ้ารดาทำใจกล้าเอ่ยขอ
“จะเอาไปติดต่อไอ้พระเอกนั่นเหรอ”
“บ้า! จะติดต่อมิกิต่างหาก เมื่อคืนฟ้านอนไม่หลับเลยกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับมิกิน่ะ”
คามินหันมองหน้าน้องสาวครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินไปไขกุญแจที่ลิ้นชักแล้วรีบหยิบส่งให้ เพราะเริ่มจะกลัวขึ้นมานิดๆ ถ้าหากเป็นไลน์ของแพรณาราจริง ก็อาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับอีกฝ่ายอย่างที่น้องสาวบอกก็เป็นได้
ฟ้ารดาดีใจรีบเอาไปชาร์จแบตได้เพียงครู่ก็พิมพ์แชตไลน์ส่งไปหาเพื่อนสาว เพื่อนัดเจออีกครั้ง
คามินยืนจ้องอ่านข้อความจนกระทั่งสองสาวนัดกันเสร็จจึงให้น้องสาวพิมพ์ขอไอดีไลน์ไป และทันทีที่อีกฝ่ายส่งไอดีไลน์มาในแชต ตนก็รีบกดแอดเพื่อนไปพร้อมกับส่งไอดีนั้นไปให้มารดาที่อยู่ประเทศไทยแอดตาม เพื่อป้องกันน้องสาวจอมซุ่มซามทำมือถือพังอีก
“ตกลงจะไปเจอมิกิจริงๆ ใช่ไหม?”
“ค่ะ” ฟ้ารดายิ้มให้กับคนมีท่าทีที่เย็นลง ก่อนจะเดินเอามือถือไปชาร์จแบตทิ้งไว้ให้เต็ม
“งั้นพรุ่งนี้พี่จะไปด้วย” คามินรีบบอก เพราะอยากจะเจอแพรณาราอยู่ไม่น้อย จากตอนแรกที่ลังเลว่าจะทำงานต่อที่อังกฤษอยู่ไหม? พอรู้ว่าอีกฝ่ายย้ายมาอยู่ในความดูแลของแขไขกับคาทอร์ เขาก็ตอบรับตำแหน่งที่อังกฤษทันที เพราะจะได้ตามสอดส่องเด็กสาวที่บิดาและมารดาเสียชีวิตไปแบบกระทันหันจากอุบัติเหตุ โดยทิ้งเงื่อนงำต่างๆ เอาไว้อย่างมากมาย แต่พอเข้ารับตำแหน่งจริง! ก็กลับไม่มีเวลาตามไปดูแลแพรณาราอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะงานที่นี่เยอะและยุ่งมากๆ
“ก็ดีสิคะ จะได้มีเจ้ามือเลี้ยง” ฟ้ารดาหัวเราะเบาๆ อย่างเข้าทาง
“งั้นไปอาบนอนพักก่อน ค่ำๆ ค่อยออกไปหาอะไรทานกัน” คามินบอกก่อนจะตรงไปห้องนอนของตัวเอง
ฟ้ารดามองตามพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเพลียๆ แล้วรีบเดินเข้าไปยังห้องนอนของตัวเองด้วยสีหน้ายิ้มแย้มระคนดีใจ ที่จะได้เจอเพื่อนรักหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แต่ก็ยังคุยไลน์และวิดีโอคอลกันอยู่ตลอดๆ เว้นแต่ช่วงสองปีหลังที่เธอมีงานเข้าเยอะจนแทบไม่มีเวลา เพราะงานเดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณาและงานอีเว้นท์ต่างๆ พากันโหมกระหน่ำเข้ามา ทำให้เธอตั้งรับกับความโด่งดังแทบไม่ทัน และถึงแม้ว่ามันจะรู้สึกเหนื่อย จนแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง แต่ทว่า...ค่าตอบแทนที่แสนจะแพงนั้นก็คุ้ม! ทำให้เธอต้องรีบโกยเงินให้ได้มากที่สุด เพื่อที่วันหนึ่งเธอจะได้ไปใช้ชีวิตในแบบที่อยากจะใช้ ด้วยเงินที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง
ช่วงเย็นของวันต่อมา...
ขณะที่ฟ้ารดานั่งรอพี่ชายกลับจากที่ทำงานอย่างกระวนกระวายใจ เพราะใกล้จะถึงเวลาที่นัดกับเพื่อนสาวเอาไว้ แต่คามินก็ยังไม่โผล่มารับเธอสักที
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ ทันทีที่ได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น ฟ้ารดาก็รีบเปิดดู พอเห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าของพี่ชายก็รีบกดรับ
“พี่คิม ถึงไหนแล้ว”
“ฟ้า! เอ่อ...พอดีพี่มีงานด่วนน่ะ เรานั่งแท็กซี่ไปก่อนได้ไหม เดี๋ยวเคลียร์งานเสร็จแล้วพี่จะรีบตามไป”
“เฮ้อ...ก็ได้ค่ะ” ฟ้ารดาถอนหายใจอย่างเพลียๆ ‘แล้วก็หลอกให้เรานั่งรออยู่ตั้งนาน’
“โอเค! อย่าแรดให้มากล่ะ” ปลายสายเตือนด้วยน้ำเสียงดุๆ
“หูยยย เห็นน้องเป็นคนยังไงกัน” สาวเจ้ากลอกตาอย่างเซ็งๆ ที่พี่ชายชอบมองตนในแง่ลบเกินไป
“หึ! ไอ้ที่เห็นก็ไม่เท่าไหร่นะ แต่กลัวไอ้ที่ยังไม่ได้เห็นซะมากกว่า”
“ชิ! แค่นี้นะคะ เดี๋ยวไปช้า” ฟ้ารดาส่ายหน้าอย่างเซ็งๆ ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงให้เสียเวลา
“อืม! เจอมิกิแล้วแชตบอกพี่ด้วยนะ”
“รับทราบค่ะ” ฟ้ารดาวางสายเสร็จก็รีบตรงดิ่งไปยังลิฟต์แล้วกดลงไปยังล็อบบี จากนั้นก็ให้พนักงานเรียกแท็กซี่ให้พร้อมกับบอกจุดหมายปลายทาง
ร้านสิงโตดุ...
เพชรดนัยขับมัสแตงเข้าไปจอดใกล้ๆ บูกัตติ เวย์รอน สีขาวมุก ก่อนจะอุ้ม ‘ซีซ่าร์’ ลูกหมาตัวน้อยแสนรู้เดินเข้าไปด้านในร้าน
“เพชร! ทางนี้” เชคาริกรีบลุกขึ้นยืนโบกมือให้ตัวช่วยทันใด
เพชรดนัยรีบเดินเข้าไปหารุ่นพี่ที่คบหากันมานาน ก่อนจะเอ่ยถามถึงเพื่อนรักที่นัดกันไว้เมื่อชั่วโมงก่อน
“อลันล่ะครับ!”
“คุยสายอยู่ในห้อง” เชคาริกบอกพลางชี้ไปที่ห้องทำงานที่เป็นห้องเก็บเสียง
“พี่เชคมีอะไรหรือเปล่าครับ?” เพชรดนัยถามหลังจากสังเกตอาการแปลกๆ ลนๆ ของอีกฝ่าย
“มี! ก็อลันน่ะสิ ดราม่าเรื่องของมิกิใหญ่เลย” เชคาริกบอกด้วยน้ำเสียงที่ตึงเครียดนิดๆ
“ทำไมเหรอครับ” เพชรดนัยถามอย่างสนใจก่อนจะส่งซีซ่าร์ให้กับพนักงานเสิร์ฟที่รู้จักเอาไปดูแลต่อ
“ก็น้อยใจที่มิกิหนีไปเที่ยวกับเพื่อนที่มาจากไทย แล้วไม่ยอมชวนไปด้วยน่ะสิ”
“ฮ่าๆๆ อาการหนักขึ้นทุกวันนะครับ” เพชรดนัยหันมองเพื่อนรักที่มีสีหน้าเคร่งเครียดผ่านกระจกใสของห้องทำงานอย่างขำๆ
“อืม! เมื่อครู่ก็ร่ำๆ ว่าจะไปตามมิกิ พี่น่ะห้ามแล้วห้ามอีก บอกว่าจะไปตามทำไมให้ยุ่งยาก แค่ให้คนขับรถไปถ่ายรูปมาให้ดูก็พอ!”
“ฮ่าๆๆ” เพชรดนัยหัวเราะลั่นกับอาการบ๊องๆ ของเพื่อนรักที่กำลังเดินกลับมาที่โต๊ะ ด้วยสีหน้าตื่นๆ
“เพชร! พี่เชค มะ...มิกิ มิกิ...”
“อลันใจเย็นๆ ก่อนเพื่อน” เพชรดนัยบอกพร้อมกับดึงเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ มาให้อีกฝ่ายนั่ง
“เมียฉัน! เมียฉันเป็นเลสเบี้ยน” คนที่หัวใจสลายบอกด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด
“อะไรนะ!” เชคาริกกับเพชรดนัยอุทานพร้อมกันอย่างตกใจ
“ดะ...ดูนี่สิครับ” ออร์แลนโด้ส่งมือถือให้ทั้งสองดูมือไม้สั่นราวกับคนที่ทำอะไรไม่ถูก
เพชรดนัยจ้องมองภาพด้านข้างของสองสาวที่กำลังกอดกัน ก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัย “ก็แค่เพื่อนกอดกันธรรมดา นายรู้ได้ยังไงว่าพวกเธอเป็นเลสเบี้ยน?”
“ก็แล้วทำไมต้องกอดกันแน่นขนาดนี้ด้วยล่ะ” คนขี้หึงหน้าตึงขึ้นมาทันใดที่โดนแย้ง
“โธ่! อลัน พี่ว่าเราคิดมากไปนะ” เชคาริกบอกอย่างเพลียๆ กับอาการล้นๆ ของรุ่นน้องคนสนิท
“ใช่! นายต้องสงบสติอารมณ์บ้างรู้ไหม” เพชรดนัยจัดต่อ
“ก็ถ้าพวกเธอทานข้าวเสร็จ แล้วพากันไปเปิดห้องที่โรงแรมแล้ว...แล้วก็ทำ...เอ่อ...”
“โอ้พระเจ้า!” เชคาริกอุทานออกมาเสียงดังกับความคิดของอีกฝ่ายที่ดูจะมโนไปไกลจนกู่ไม่กลับ
“นายก็ต้องปล่อยมิกิไปตามทางที่เขาชอบน่ะสิเพื่อน” เพชรดนัยแกล้งหยอก ‘แม่ง! มันเอาสมองส่วนไหนคิดวะ’
“เพชร! นี่ฉันซีเรียสนะโว้ย ฉันรักมิกิมากและฉันจะไม่ยอมเสียเมียให้กับผู้หญิงอย่างเด็ดขาด”
“เฮ้! พวกนายช่วยเอากระดาษกับปากกามาให้อลันหน่อย” เพชรดนัยหันไปบอกบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่
“เอามาทำอะไร?” เชคาริกที่กำลังกุมขมับอยู่เงยหน้าขึ้นถาม
“ก็จะเอามาให้อลันเขียนนิยายน่ะสิครับ! จินตนาการล้ำเลิศจริงๆ” เพชรดนัยเอ่ยแซวอย่างขำๆ
“ไอ้เพชร! ทำไมแกพูดแบบนี้วะ” ออร์แลนโด้ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าไม่พอใจกับคำล้อเลียน ในขณะที่ตนกำลังเครียดจนแทบจะเป็นบ้า
“นั่งลง! แล้วดื่มเบียร์นี่ให้หมดแก้ว” เพชรดนัยบอกเสียงเย็น เมื่อเห็นอาการขึงขังของเพื่อนที่ดูคล้ายกับคนพร้อมจะมีเรื่อง
“ไม่! ฉันจะไปหาเมีย” ออร์แลนโด้บอกพร้อมกับคว้ากุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะ
“นายจะไปหามิกิ แล้วยังไงต่อ สั่งสอนผู้หญิงคนนั้นอย่างงั้นเหรอ?” เพชรดนัยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงประชด
“ใช่! ฉันจะทำแบบนั้นแหละ” ออร์แลนโด้ตอบกลับอย่างโมโห
“ถ้านายอยากเสียมิกิไปล่ะก็ เอาเลย! เชิญเลย แต่ฉันอยากจะบอกว่าถ้ามองในมุมกลับกัน ถ้ามิกิเข้าใจผิด คิดว่าฉันกับนายเป็นคู่ขา แล้วเธอก็อาละวาดด่าทอต่างๆ นานา พร้อมกับบอกให้นายเลิกคบฉัน นายจะทำยังไงฮะอลัน?” เพชรดนัยพยายามอธิบายให้เห็นภาพ
ออร์แลนโด้กลอกตาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะแอบตอบในใจ ‘ก็ทำตามที่เมียบอกน่ะสิโว้ย!’
“นายควรนั่งลงแล้วใจเย็นให้มากกว่านี้ อย่าเพิ่งตีโพยตีพายอะไรออกไปจนกว่าจะรู้แน่ว่าสิ่งที่คิด มันใช่อย่างที่คิดแล้วจริงๆ” เพชรดนัยบอกพร้อมกับส่งเบียร์เย็นๆ ไปให้
“อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ กันแล้วนะ พี่ว่าใจเย็นๆ แล้วค่อยๆ คุยกันดีกว่า” เชคาริกเอ่ยเตือน
“ผมขอโทษครับพี่เชค” ออร์แลนโด้เอ่ยก่อนจะรับแก้วเบียร์มาดื่ม แล้วถามเพื่อนรักกลับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ไหนนายลองบอกมาซิ!ว่าฉันต้องทำยังไงบ้าง”
เพชรดนัยยิ้มก่อนจะยกแก้วเบียร์ขึ้นชนกับอีกฝ่าย จากนั้นก็เริ่มทำการเสี้ยม เอ๊ย! สอนคนใจร้อนให้กลายร่างเป็นผู้ชายอบอุ่นที่แสนสุภาพดั่งที่หญิงสาวทุกคนปรารถนาจะได้สัมผัส แม้ว่ามันอาจจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่พวกเธอจะได้เจอก็ตาม
ห้างสรรพสินค้า The Diamond R…
หลังจากที่สองสาวทานอาหารเสร็จก็เช็กบิลออกจากร้าน แล้วไปชอปปิงต่อจนถึงสามทุ่ม แพรณาราก็พาฟ้ารดาออกจากห้างสรรพสินค้าดัง เดินตรงมายังที่จอดรถด้านหน้า ที่กิติจอดรอตอนที่มาส่ง
ฟ้ารดามองรถหรูอย่างมึนงง ก่อนจะหันหน้าไปมองเพื่อนสาวเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะมีรถหรูใช้ที่อังกฤษ เพราะแขไขคงไม่ใจดีกับหลานสาวขนาดนี้แน่ๆ
แกร๊ก!
“อุ๊ย!” ฟ้ารดายกมือขึ้นทาบอกอย่างตกใจที่อยู่ๆ ประตูรถฝั่งคนขับก็เปิดออก
“เชิญครับคุณผู้หญิง! ผมชื่อกิติครับ เป็นคนขับรถของคุณมิกิ!” กิติรีบแนะนำตัวด้วยภาษาไทยพร้อมกับเปิดประตูให้สองสาว
“สวัสดีค่ะคุณกิติ ฟะ...ฟ้ารดาค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก” ฟ้ารดาเอ่ยเสียงสั่นนิดๆ พลางจ้องมองเพื่อนสาวอย่างสงสัยกับคำว่า..คนขับรถของคุณมิกิ ‘อ๊ะ! หรือว่าแขไขจะกลับใจแล้ว?’
“ขะ...ขอบคุณค่ะ” แพรณารายิ้มให้กิติ ก่อนจะหันไปดึงแขนเพื่อนสาวให้เข้าไปนั่งในรถ ซึ่งใจจริงเธออยากจะพาฟ้ารดาขึ้นแท็กซี่หนี กิติไปอยู่เหมือนกัน แต่ติดตรงที่ออร์แลนโด้ไม่เหมือนชาวบ้านสักเท่าไหร่ เวลาโมโหขึ้นมาแล้วอีกฝ่ายไม่เคยฟังเสียงใคร! เธอเลยจำใจต้องพาเพื่อนสาวเดินมาที่รถแทน
กิติปิดประตูรถให้คนรักของเจ้านายและเพื่อนสาว จากนั้นก็เข้ามานั่งประจำที่คนขับแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“คุณมิกิจะไปที่ไหนต่อครับ!”
“พวกเราอยากจะไปเที่ยวไนต์คลับที่ดังๆ ของที่นี่น่ะค่ะ คุณกิติพอจะแนะนำได้ไหมคะ” ฟ้ารดาชิงตอบแทนเพื่อนสาว
“Club Angel R ครับ วันนี้มีนักร้องดังมาร้องที่คลับด้วยครับ” กิติหันไปตอบยิ้มๆ
“ดีค่ะ! งั้นเราไปเที่ยวที่คลับนี้กันนะมิกิ” ฟ้ารดาหันมาขอความเห็นอย่างตื่นเต้น และลืมเรื่องที่สงสัยเมื่อครู่ไปอย่างสิ้นเชิง
“ตามใจคุณเพื่อนเลยค่ะ” แพรณาราตอบยิ้มๆ
“ตกลงไปที่ Club Angel R นะครับ”
“ค่ะ/ค่ะ” สองสาวตอบพร้อมๆ กัน กิติพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนจะทำหน้าที่สารถีพาสองสาวตรงไปยังไนต์คลับ
ร้านสิงโตดุ...เพชรดนัยปล่อยให้เพื่อนรักไปตามหาแพรณารา เพื่อแสดงตัวและหยั่งเชิงหญิงสาวอีกคนที่เขาได้เห็นใบหน้าแค่ด้านข้าง ว่าจริงๆ แล้วสองสาวใช่เลสเบี้ยนหรือไม่
“อลันนี่นับวันก็จะบ้าขึ้นเรื่อยๆ นะครับพี่เชค”
“ฮ่าๆๆ คนกำลังมีความรัก ปล่อยๆ ไปน่าเพชร อีกหน่อยถ้านายมี นายก็อาจจะเป็นเหมือนอลันก็ได้” เชคาริกบอกยิ้มๆ
“ไม่มีทาง! ผมไม่อยากเป็นบ้าเหมือนอลันครับ หึๆ” เพชรดนัยตอบด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจ ก่อนจะหันไปหยิบเนื้อย่างส่งให้กับซีซ่าร์ สุนัขตัวน้อยสายพันธุ์ ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย (Yorkshire Terrier) ที่หลงรักในความฉลาดและขี้อ้อนจนพาไปนั่นมานี่ด้วยตลอด
“ว่าแต่เพื่อนของมิกินี่ท่าจะสวยนะ เสียดายที่ไม่ได้เห็นหน้าชัดๆ” เชคาริกออกความเห็น
“นางแบบก็น่าจะสวยอยู่ครับ หรือไม่ก็แค่...หุ่นดี” เพชรดนัยหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยกเบียร์ขึ้นจิบ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...
“เชคคะ! นี่มันไนต์คลับของอลันใช่ไหม?” นามีเรียเดินแกมวิ่งเข้าไปถาม พร้อมกับเปิดคลิปของสาวสวยคนหนึ่ง ตบนางแบบดังอย่างอิซซี่ ทาเมียร์น่า ที่กำลังตามตื้อออร์แลนโด้ ให้กับสามีดู
“เพื่อนของมิกิ” เชคาริกอุทานตาโต เพราะจำชุดได้
“พระเจ้า!” เพชรดนัยจ้องมองใบหน้างามผ่านหน้าจอมือถืออย่างตกตะลึง เมื่อเห็นสาวเจ้าตวัดฝ่ามือลงที่ใบหน้าของคู่กรณี สองครั้งติดๆ กัน ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับล้มลงไปกองอยู่บนพื้น
“สวยนะคะ คนนี้ใช่ไหมที่อลันโวยวายหาว่าเป็นเลสเบี้ยน” นามีเรียถามอย่างสงสัย
“ใช่จ้ะ!” เชคาริกพยักหน้ารับยิ้มๆ เมื่อภรรยายอมเอ่ยปากคุยด้วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ง้อให้ตายก็ไม่ยอมพูดอะไรกับตนแม้แต่คำเดียว
วี้หว่อๆๆ
เสียงไซเรนแบบเดียวกับที่ได้ยินเวลาตำรวจเปิดตอนขับรถไล่จับผู้ร้ายดังขึ้น เพชรดนัยรีบล้วงมือถือในกระเป๋าหนัง สีดำแล้วรีบกดรับสายของเพื่อนรักอย่าง ไม่รอช้า
“ว่าไง?” เพชรดนัยเอ่ยถาม ก่อนจะส่งยิ้มไปให้นามีเรียกับเชคาริกอย่างอายๆ กับเสียงเรียกเข้าที่ตนแอบตั้งเอาไว้เฉพาะสายของออร์แลนโด้
“มีเรื่องให้ช่วย!”
“ฉันเพิ่งเห็นคลิปนางแบบตบกันที่ Angel R ” เพชรดนัยรีบบอก
“ข่าวไปเร็วจัง!” ปลายสายบอกเสียงหงุดหงิด
“จะให้ช่วยอะไร” เพชรดนัยตัดบทอย่างรำคาญ
“ช่วยมาเป็นคนขับรถ เอ๊ย! มาขับรถพาน้องฟ้าไปส่งที่คอนโดให้หน่อย”
“น้องฟ้า!” เพชรดนัยเอ่ยทวนด้วยหัวใจสั่นๆ
“ใช่! เพื่อนของมิกิ” ออร์แลนโด้เอ่ยรับด้วยน้ำเสียงชื่นมื่น ผิดกับเมื่อสองชั่วโมงก่อนลิบลับ
“ฉันไปนานไม่ได้นะ พรุ่งนี้เช้ามีประชุม!” เพชรดนัยออกตัวไว้ แต่เนิ่นๆ เพราะพรุ่งนี้มีประชุมใหญ่ที่ต้องเข้าร่วมแทนพี่ชาย ซึ่งตอนนี้หนีไปทำเรื่องงามไส้ อยู่ที่ไทย
“เอ่อน่า ฉันรอที่ทางออกวีไอพีนะ” ออร์แลนโด้บอกเสร็จก็กดวางสายไป
เพชรดนัยกลอกตาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะหันกลับมาทางเชคาริกและนามีเรีย ก็เห็นทั้งสองกำลังจ้องมาที่ตน
“เอ่อ... พี่เชคครับผมฝากซีซ่าร์เอาไว้แป๊บหนึ่งนะครับ พอดีว่า อลันมีเรื่องให้ช่วยจัดการ”
“ได้สิ! ว่าแต่เราจะกลับมาก่อนตีหนึ่งใช่ไหม?” เชคาริกเอ่ยถามเพราะคืนนี้ตนมีแผนจะกระชับความสัมพันธ์กับภรรยาสาว
“ครับ” เพชรดนัยพยักหน้ารับยิ้มๆ
“เดี๋ยวพี่ดูให้จ้ะ” นามีเรียบอกก่อนจะเข้าไปลูบหัวของซีซ่าร์เบาๆ อย่างเอ็นดู
“ขอบคุณครับพี่มีเรีย งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” เพชรดนัยบอกพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“ขับรถดีๆ ล่ะ” เชคาริกตะโกนบอกคนที่กำลังเดินแกมวิ่งออกไปด้วยสีหน้าขบขัน
สิบห้านาทีต่อมา... Club Angel R
เพชรดนัยขับรถด้วยความเร็ว ตรงเข้าไปยังทางออกวีไอพีที่รถบูกัตติสีขาวมุกของเพื่อนรักจอดอยู่ ก่อนจะรีบลดความเร็วลงเมื่อเห็นสองสาวยืนกอดกันกลมพร้อมกับเบิกตากว้าง หลังจากที่ไฟของรถมัสแตงค์ สาดส่องกระทบใบหน้างาม
เอี๊ยดดดด
เพชรดนัยเหยียบเบรกพร้อมกับจ้องมองหญิงสาวที่ถูกเพื่อนรักเข้าใจว่าเป็นเลสเบี้ยนอย่างตกตะลึง ‘พระเจ้า! คนหรือว่านางฟ้าวะ’
ชายหนุ่มรีบเปิดประตูลงจากรถแล้วเอ่ยทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ระคนดีใจ ราวกับเจอของที่เฝ้าตามหามานาน
“ไง! อลัน สวัสดีครับมิกิ สวัสดีครับคุณ เอ่อ...” เพชรดนัยเอ่ยค้าง ขณะจ้องมองสาวสวยตรงหน้าราวกับคนไม่เคยพบเคยเห็น
“สวัสดีค่ะพี่เพชร นี่ฟ้ารดาเพื่อนของมิกิ เป็นนางแบบที่ไทยค่ะ” แพรณาราเอ่ยแนะนำเพื่อนสาว
ฟ้ารดาจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าคล้ายกับคนต้องมนต์สะกดไปทันใด ‘ผู้ชายอะไรจะเพอร์เฟกต์ได้ขนาดนี้นะ’
“สวัสดีครับคุณฟ้ารดา ผมคารอส เพชรดนัย ร็อฟเวลล์ เรียกว่าเพชรก็ได้ครับ” เพชรดนัยให้สิทธิ์เรียกชื่ออย่างสนิทกับสาวสวยตรงหน้า
“นี่คุณใช่คนจริงๆ เหรอเนี่ย พระเจ้า! อย่างกับเทพบุตรแน่ะ” ฟ้ารดาเอ่ยถามราวกับคนละเมอ ไม่ได้สนใจที่อีกฝ่ายแนะนำตัวเมื่อครู่
“เอ่อ...ผมเป็นคนจริงๆ นี่แหละครับ คุณฟ้าลองจับดูสิ!” เพชรดนัยดึงมือของสาวเจ้าที่หน้าตื่นๆ มาแตะที่หน้าอกของตัวเอง
“ฟะ...ฟ้าขอโทษค่ะ” ฟ้ารดาอายหน้าแดงรีบดึงมือกลับทันทีทันใด เมื่อเห็นดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองใบหน้าของเธอนิ่ง
“ไม่เป็นไรครับ ตกลงผมเป็นคนนะครับ...คุณฟ้า” เพชรดนัยเอ่ยแซว ‘ไม่แปลกหรอกที่เธอจะตกใจในความหล่อเหลาของเขา เพราะส่วนใหญ่เขาก็เจอผู้หญิงทำท่าแบบนี้ตลอด จะแตกต่างกันก็ตรงที่เขาไม่เคยดึงมือใครมาสัมผัสตัว มาก่อน!’
“ค่ะ” ฟ้ารดารับคำเบาๆ ไม่กล้าสบตากับอีกฝ่าย ‘เมื่อกี้แกพูดอะไรออกไปฮะยัยฟ้า น่าอายจริงๆ เลย’ เธอต่อว่าตัวเองขณะที่หัวใจยังคงเต้นแรงไม่หยุด
“ถ้างั้นเราออกเดินทางกันเลยครับ เพชรแกขับบูกัตติไปกับคุณฟ้านะ เดี๋ยวฉันจะขับมัสแตงค์ไปกับมิกิ” ออร์แลนโด้บอกพร้อมกับยกยิ้มมุมปากนิดๆ หลังจากที่เห็นอาการคล้ายกับคนตกหลุมรักซึ่งกันและกันของทั้งสองเมื่อครู่ พลางนึกไปถึงครั้งแรกที่ตนได้เจอกับ แพรณารา ‘ทำไมครั้งแรกของเรากับมิกิถึงไม่น่าประทับใจ แบบนี้วะ?’
“ได้สิ! เชิญครับคุณฟ้า” เพชรดนัยหันไปชวนสาวเจ้าเดินไปขึ้นรถบูกัตติของเพื่อนที่จอดอยู่ใกล้ๆ
“คุณฟ้าบอกทางไปวิลล่าให้เพชรเลยนะครับ เดี๋ยวผมขับตามไป” ออร์แลนโด้บอกก่อนจะจับมือคนรักเดินไปยังมัสแตงค์ของเพื่อน
“ค่ะ” ฟ้ารดาเข้าไปนั่งในรถราคาแพงเว่อร์ ที่มีสารถีหนุ่มหล่อเปิดประตูให้ ด้วยหัวใจสั่นๆ
“คุณฟ้าพักอยู่ที่ไหนเหรอครับ” เพชรดนัยหันมาเอ่ยถาม หลังจากที่เข้ามานั่งประจำตำแหน่งคนขับ
“Hagan Villa ค่ะ” ฟ้ารดาบอกยิ้มๆ
เพชรดนัยนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วล้วงมือถือมากดส่งข้อความไปบอกสถานที่กับเพื่อนรัก จากนั้นก็ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
ฟ้ารดาตื่นเต้นกับคนขับที่หล่อเหลาปานเทพบุตร จนเธอแทบจะทำตัวไม่ถูก ไหนจะเพลง Animals ของวง Maroon 5 ที่เล่นดังขึ้นทำให้เธอใจสั่น และหวั่นไหวกับเนื้อเพลงที่เปรียบเปรยความรักดั่งการไล่ล่าของสัตว์ร้ายที่หิวกระหาย รอจะกลืนกินเหยื่ออย่างบ้าคลั่ง
หญิงสาวหันไปส่งยิ้มหวานให้คนที่หันมามองอยู่ก่อน และอีกฝ่ายก็ส่งยิ้มตอบกลับมาให้ เธอรู้สึกเขินอายจนแทบอยากจะมุดหายเข้าไปกับเบาะที่นั่งของรถซะให้ได้
Baby I'm preying on you tonight
(ที่รัก เธอจะเป็นเหยื่อของฉันในคืนนี้นะ)
Hunt you down eat you alive
(จะไล่ล่าเธอ กลืนกินเธอทั้งเป็น)
Just like animals
(เหมือนกับสัตว์ร้าย)
Animals Like animals
(สัตว์ร้าย เหมือนสัตว์ร้าย)
Maybe you think that you can hide
(เธออาจจะคิดว่าเธอจะซ่อนตัวได้)
I can smell your scent for miles
(แต่ฉันดมกลิ่นเธอได้เป็นไมล์ๆ เลย)
Just like animals
(เหมือนกับสัตว์ร้าย)
Animals Like animals Baby I'm
(สัตว์ร้าย ฉันนี่แหละสัตว์ร้าย)
เพชรดนัยได้ยินเพลงถึงกับกลอกตาเพลียๆ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้เหยื่อ เอ๊ย! ให้คนที่นั่งตัวลีบติดประตูราวกับว่าเขาเป็นบุคคลที่ไม่น่าไว้ใจยังไงยังงั้น! ‘พระเจ้า! มันช่างดิบเถื่อนเหมาะกับเจ้าของรถซะจริง! ทำไมไม่หาเพลงที่นุ่มนวลฟังบ้างนะ’