CHAPTER : 5

2280 Words
“อืม...อ่า” เสียงแห่งความสุขสมของชายหญิงคู่หนึ่งทำให้ขาของเธอที่กำลังก้าวเดินอยู่นั้นสั่นไหว ดวงตาของเธอคลอเคล้าไปด้วยหยดน้ำตาที่กำลังจะรินไหลลงมาเป็นสายเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยของใครคนหนึ่งที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักกัน บานประตูไม้สีขาวตรงหน้าเป็นห้อง ๆ หนึ่งที่เสียงแห่งความสุขสมนั้นมันเล็ดลอดออกมา เธอเอื้อมมือไปที่บานประตูไม้นั้นด้วยมือที่สั่นไหว ก่อนสุดท้ายจะตัดสินใจเปิดมันให้อ้ากว้างเพื่อที่จะได้เห็นกับตาว่าคนที่อยู่ภายในห้องนั้น...คือคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักของเธอหรือเปล่า “เห้ย!” “ว๊าย!” เสียงตกใจของชายหญิงคู่นั้นดังกึกก้องขึ้นมาเมื่อได้พบเห็นใบหน้าของเธอที่อดรอนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป ดอกไม้ในช่อที่เธอตั้งใจกะมาเซอร์ไพรส์คนรักในวันครบรอบ 8 ปีนั้นล่วงหล่นลงพื้นแตกสลายไม่มีชิ้นดี...เหมือนกันกับหัวใจของเธอที่แตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ หลดน้ำตาค่อย ๆ รินไหลลงมาเป็นสายจนบดบังซึ่งการมองเห็น ภาพใบหน้าของคนรักที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีกับใครอีกคนที่เธอไม่รู้จักนั้นปรากฏหราอยู่ที่ตรงหน้าของกัน พร้อมด้วยสภาพเปลือยเปล่าของพวกเขาทั้งสองที่ช่วยย้ำชัดแก่เธอได้เป็นอย่างดีแล้วว่าเธอกำลังโดนสวมเขา จากความรักที่เธอเคยคิดว่ามันดีเสมอมาตลอด 8 ปีของเราสอง... ดวงตาที่ปิดสนิทอยู่นั้นค่อย ๆ ปรือเปิดขึ้นมาจนเต็มดวงพาให้ภคมนนั้นตื่นขึ้นจากการหลับใหล เธอหันไปทางซ้ายเพื่อสบมองนาฬิกาบนหัวเตียงและก็ได้พบว่าวันนี้เธอตื่นนอนเร็วกว่าปกติ ครั้นเมื่อยามจะพยายามหลับต่อแต่มันก็ไม่เป็นผลอีกต่อไปแล้ว เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงนอนของตัวเองในเวลาตี 5 ของเข้าวันใหม่ เป็นเพราะว่าเมื่อวานหลังจากที่กลับมาจากคาเฟ่เธอก็สลบเหมือดไปในทันทีที่ทิ้งตัวลงบนเตียงนอนหลังจากที่ชำระร่างกายจนเสร็จ วันนี้มันจึงไม่แปลกที่เธอจะตื่นนอนเร็วกว่าปกติ ซึ่งเธอว่ามันก็ดีเหมือนกันเพราะเธอจะได้ไปวิ่งออกกำลังกายยามเช้าเสียบ้างหลังจากที่ก่อนหน้านี้เอาแต่ทำงานและก็ดื่มจนไม่มีเวลาได้ดูแลตัวเองแต่อย่างใดเลย ร่างสูงวิ่งออกไปวิ่งรอบหมู่บ้านที่เธอพึ่งจะย้ายมาอยู่ที่นี่ได้เมื่อไม่กี่ปีก่อน ซึ่งเธอก็ได้พบเห็นผู้คนหลากหลายต่างช่วงอายุวัยทั้งเด็กที่กำลังจะออกไปโรงเรียน ทั้งคนรุ่นราวคราวเดียวกับเธอที่ออกมาวิ่งเฉกเช่นเดียวกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้มีอายุที่มาเดินรับลมในยามเช้าตรู่ ซึ่งมันก็เป็นบรรยากาศที่ดีมาก ๆ สำหรับเธอในเช้าวันใหม่วันนี้ ภคมนใช้เวลาวิ่งอยู่ราว ๆ หนึ่งชั่วโมงเธอก็กลับมาจัดการอาบน้ำอาบท่า เธอตั้งใจแล้วว่าวันนี้จะทำงานบ้านสักเล็กน้อยก่อนที่จะออกไปยังคาเฟ่ ซึ่งสิ่งแรกที่เธอเลือกทำเพราะมันจำเป็นที่จะต้องใช้เวลานั้นก็คือการซักผ้าและตอนนี้เธอกำลังแยกผ้าขาวอยู่ เธอหยิบเสื้อตัวสีดำที่สวมใส่ไปที่คาเฟ่เมื่อวานนี้ออกมาจากตะกร้าโดยเธอตัดสินใจแล้วว่าจะเอาทิ้งเพราะมันมีแต่ขนแมวจนไม่เหลือพื้นที่ว่างเลยด้วยซ้ำไป แต่สายตาของเธอก็ดันไปสบเข้ากับเสื้อยืดที่มีโลโก้ของร้าน และเธอจดจำได้เป็นอย่างดีเลยว่าเจ้าหล่อนบอกให้เธอเก็บมันเอาไว้เป็นที่ระลึก มือบางเอื้อมไปหยิบเสื้อตัวนั้นขึ้นมาสบมองดูซึ่งเธอก็ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่เหมือนกันกับกลิ่นของนิวารินนั้นลอยออกมาจากเสื้อ และมันจะเป็นอย่างนั้นก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย เพราะก่อนหน้าที่มันจะมาอยู่กับเธอนั้นมันก็อยู่กับเจ้าหล่อนมาก่อน ซึ่งแน่นอนเลยว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ผ่านเสื้อตัวนี้มานั้นมันก็คือน้ำยากลิ่นเดียวกันกับที่นิวารินใช้ ภคมนลุกขึ้นจากพื้นที่เธอกำลังนั่งแยกผ้าโดยที่มือของเธอนั้นถือเสื้อตัวนั้นติดไม้ติดมือของตนเองมาด้วย เธอเปิดตู้เสื้อผ้าให้อ้ากว้างพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบไม้แขวนเสื้อออกมา ก่อนที่เธอจะทำการนำเสื้อตัวนั้นใส่ไม้เอาไว้ ถึงแม้มันจะมีกลิ่นเหงื่อของเธอปะปนอยู่บ้าง...แต่กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มของเจ้าหล่อนนั้นก็ทำให้เธอตัดสินใจว่าจะไม่ซักมันและจะเก็บมันเอาไว้เป็นความทรงจำดั่งที่เจ้าหล่อนนั้นปรารถนาแต่โดยดี เมื่อทำธุระอะไรจนเสร็จแล้วเธอก็ขับรถออกมาที่นอกเมืองโดยมีเป้าหมายซึ่งนั่นก็คือคาเฟ่แมวที่เธอเหลือเวลาอีก 6 วันในการต้องมาที่นี่เพื่อที่จะรับน้องแมวไปเลี้ยงดั่งที่ปรารถนา หากเป็นคนอื่นคงจะภาวนาให้ 6 วันนี้จบลงโดยเร็วไวเพื่อที่จะได้รับน้องแมวมาอุปการะดั่งที่คาดหวังเสียที...และคงมีเพียงแค่เธอที่ภาวนาให้เวลามันผ่านไปอย่างเชื่องช้าเพราะเธอยังคงต้องการที่จะพบหน้าของเจ้าหล่อนอีกต่อไปเรื่อย ๆ ไม่นานรถของเธอก็เลี้ยวเข้ามาภายในส่วนของคาเฟ่ซึ่งมันก็ยังคงเงียบสงบราวกับว่าเมื่อวานที่คนเยอะนั้นมันไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด ภคมนก้าวลงจากรถในเวลา 10 โมงกว่า ๆ ซึ่งร้านนั้นเปิดในเวลา 9 โมงเช้า ก่อนที่เธอจะหอบหิ้วสัมภาระของตนเองไปด้วยเพราะเธอตั้งใจแล้วว่าวันนี้เธอจะทำงานของตัวเองให้จนเสร็จ...เวลาที่เหลือของเธออีก 5 วันต่อจากนี้เธอจะได้เอาเวลาทั้งหมดไปนั่งมองนิวารินตอนกำลังทำงานอย่างเดียวเลย “ไหงไม่มีคนอยู่ล่ะเนี่ย” เธอพึมพำออกมาแผ่วเบาเมื่อส่องเข้าไปภายในร้านแล้วพบว่ามันไม่มีมนุษย์คนใดอยู่เลยมีเพียงแค่แมวเท่านั้น เธอสัมผัสได้ถึงความเย็นฉ่ำจากแอร์ที่ลอดผ่านใต้ประตูร้านออกมาแต่ร้านนั้นมันกลับถูกล็อคเอาไว้อย่างแน่นหนา เหล่าแมว ๆ เมื่อพบเห็นว่าเธอยืนอยู่ที่หน้าร้าน น้อง ๆ ก็เดินกรู่กันเข้ามาร้องเสียงระงมอยู่หน้าประตูแต่เป็นจากทางด้านใน ซึ่งเสียงแหลม ๆ ที่ดังกว่าใครไม่ต้องเดาอะไรให้มากความเลยเพราะมันเป็นเสียงจากแมวเด็กที่ชื่อว่าภักดีอย่างไรล่ะ “วันนี้มาเช้าจังเลยนะคะ” “คุณวาริน” เธอหันไปสบมองเจ้าของเสียงและก็ได้พบว่าคนที่มาเอ่ยทักกันนั้นคือเจ้าของร้านนั่นเอง “พอดีฉันลืมซื้อของบางอย่างน่ะค่ะตอนเช้าเลยต้องเข้าเมืองไปซื้อ ทีแรกกะจะไปแป๊ปเดียวคิดว่าน่าจะกลับมาทันเวลาเปิดร้าน...แต่ในเมืองก็รถติดแหง็กจนมาสายไปเสียได้” นิวารินเล่าเรื่องในยามเช้าให้เธอได้รับรู้ด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ ซึ่งเธอก็ตั้งใจฟังที่เจ้าหล่อนนั้นเอ่ยเล่าทุกประโยค “ตายจริง ฉันไม่ควรมาบ่นอะไรแบบนี้ให้คุณฟังสินะคะ” “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ไม่ใช่เลย” เธอรีบปฏิเสธเสียงแข็งอย่างนึกหวาดหวั่น เธออยากให้เจ้าหล่อนเล่าทุกเรื่องที่อยากจะเล่าเลยล่ะ เพราะเธออยากฟังน้ำเสียงหวาน ๆ กับใบหน้าเปื้อนยิ้มของเจ้าหล่อนเวลาที่เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้เธอได้ฟัง นิวารินนั้นเป็นบุคคลที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่เสมอตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอได้พบเจอกับเจ้าหล่อน ราวกับว่าหล่อนนั้นไม่มีเรื่องราวทุกข์ใดอยู่ภายในใจเลยเพราะเจ้าหล่อนยิ้มอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเธอก็อยากจะให้มันเป็นเช่นนั้นเสมอไปเพราะรอยยิ้มของเจ้าหล่อนมันช่างสดใสและน่ามองยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดเป็นไหน ๆ “เดี๋ยวฉันเปิดประตูให้นะคะ” “อ๋า...เชิญค่ะ” เธอที่รู้ตัวแล้วว่ากำลังยืนขวางทางเจ้าหล่อนอยู่ก็รีบพาตัวเองหลบมาอยู่ที่ด้านข้างโดยทันใด นิวารินพยายามจะล้วงกุญแจร้านออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่เจ้าหล่อนนั้นสวมใส่ แต่ดูเหมือนมันจะยากลำบากพอดูเพราะข้าวของที่เจ้าหล่อนถือมาด้วยนั้นมันก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลย “ให้ฉันถือไว้ให้ก่อนดีไหมคะ?” เธอเสนอให้เจ้าหล่อนหันหน้ามาสบมองกันอีกครั้งหนึ่ง “รบกวนสักครู่นะคะ” เจ้าหล่อนยกยิ้มเป็นเชิงขอบคุณและส่งกล่องลังใบใหญ่ที่ถือมาในตอนแรกนั้นมาให้กับฉันที่เอื้อมมือออกไปรอรับ ตึกตัก ตึกตัก “ว๊าย!” “อ๊ะ!” แต่ทุกอย่างก็พลันกระจัดกระจายลงพื้นอย่างไม่เป็นท่า...จากฝีมือของเธอที่เป็นผู้กระทำ “คือ คือฉันขอโทษนะคะ” “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไร” เธอเริ่มก้มตัวลงไปเก็บของเข้ามาใส่ในกล่องลังดังเดิมพร้อมกับเจ้าหล่อนที่ก้มตัวลงมาเก็บด้วยเพราะของมันกระจัดกระจายไปหมด เมื่อครู่ในจังหวะที่เจ้าหล่อนส่งกล่องลังมาให้กันนั้นแขนของเจ้าหล่อนโดนเข้าที่แขนของเธออย่างเลี่ยงไม่ได้ เธอรู้สึกเหมือนกับถูกไฟฟ้าสถิตแล่นแปร๊บมาอย่างรวดเร็วเข้าสู่หัวใจ มือของเธอจึงผละออกอย่างไม่อาจควบคุมซึ่งผลสุดท้ายผลมันก็เป็นอย่างที่เห็น ทำตัวอย่างกับเป็นเด็กมัธยมพึ่งเคยมีรักครั้งแรกไปได้...ภคมน “ฉันขอโทษจริง ๆ นะคะคุณวาริน คือฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณภักดี ฉันเข้าใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุ” นิวารินยกยิ้มให้แก่กันจนเต็มดวงเมื่อยามที่เราสองคนนั้นลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงอีกครั้ง ครั้งนี้ฉันรวบถือกล่องเอาไว้พร้อมกับจับอย่างแน่นหนาด้วยกลัวว่ากล่องมันจะร่วงหล่นไปที่พื้นอีกครา ภคมนยืนสบมองเจ้าหล่อนค่อย ๆ ไขประตูร้านอย่างตั้งใจ แผ่นหลังของนิวารินดูเล็กบอบบางจังเลยน้า... “ว่าแต่เมื่อกี้เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ฉันเห็นเหมือนว่าคุณผละมือออกตอนที่ฉันส่งกล่องไปให้กับคุณ” บ้าจริง! จะบอกว่าอย่างไรดีนะ! “เอ่อ...” เธอกำลังพยายามคิดหาข้อแก้ตัวเพราะเธอไม่อาจจะบอกเจ้าหล่อนได้ว่ามันเป็นเพราะความเขินอายของเธอเองที่จำให้ต้องผละมือออก สายตาของเธอเริ่มหว่านมองไปรอบ ๆ อย่างหาตัวช่วย ก่อนจะมีรถคันหนึ่งที่กำลังขับเคลื่อนเข้ามาภายในส่วนของคาเฟ่พอดิบพอดีให้เธอต้องรีบถลึงตาไปที่รถคันนั้นโดยทันใด เพราะตอนนี้สมองของเธอตีบตันไม่อาจจะคิดหาข้อแก้ตัวอะไรได้อีกในตอนนี้ “เหมือนลูกค้าจะมาแล้วนะคะ คุณรีบเข้าไปเตรียมของดีกว่า” เธอพยายามบ่ายเบี่ยงเพื่อหวังให้เจ้าหล่อนหลงลืมคำถามเมื่อก่อนหน้านี้ไปเสีย “จริงด้วยค่ะ” โชคดีไปนะที่เจ้าหล่อนยังไหลตามน้ำไปกับเธอ นิวารินไขกุญแจและเปิดประตูให้อ้ากว้าง ซึ่งเจ้าหล่อนก็ผายมือให้เธอได้เข้าไปก่อนเพราะเธอยังคงถือกล่องลังของเจ้าหล่อนเอาไว้อยู่ “เมี๊ยววววววววว!” ขาของเธอก้าวเข้าไปในร้านก่อนเป็นคนแรก พร้อมกับเสียงต้อนรับจากเหล่ากองทัพน้องแมวเหมียว รอยยิ้มของเธอก็พลันฉายขึ้นจนเต็มดวงในทันใดอย่างรู้สึกสุขใจที่ได้พบเจอกับเด็ก ๆ ทั้งหลายอีกครั้งหนึ่งในวันนี้ “ไงคะเด็ก ๆ เมื่อคืนหลับสบายกันไหม?” “เมี๊ยวววววววว!” “อย่างนั้นเองหรอกเหรอคะ...” นิวารินจดจ้องมองคนที่เดินเข้าไปภายในร้านก่อน และกำลังคุยกับเหล่าน้องแมวของเธออย่างออกรส รอยยิ้มของเธอก็ค่อย ๆ ประดับขึ้นมาที่ข้างมุมปากของตนเองอีกครั้งหนึ่ง...ซึ่งรอยยิ้มของเธอในครั้งนี้มันเป็นของจริง เธอหาวิธีมามากมายหลากหลายกับทุกสิ่งที่ทำให้เธอนั้นดีขึ้นจากฝันร้ายที่เธอยังคงต้องพบเจอมันอยู่ทุกคืนวัน...แต่วันนี้ฝันร้ายของเธอมันจบลงแล้วที่ตรงนี้ แค่เพียงได้เห็นรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของหญิงสาวที่เคยปิดกั้นรอยยิ้มของตนเองเอาไว้ แต่หญิงสาวตรงหน้าของเธอนั้นได้รับการบำบัดจนตอนนี้สามารถยกยิ้มออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ...และเป็นตัวของตัวเองที่สุด แมวบำบัดความเศร้ามันเป็นเรื่องจริง...แต่คงใช้ไม่ได้สำหรับเธอ

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD