#ช่วงเช้าวันต่อมา
“ซิลเสร็จยัง”
“ใกล้แล้วพี่เทอร์” ฉันตะโกนออกไปนอกห้องเมื่อกำลังยืนฉีดน้ำหอมอยู่ จากนั้นก็เดินไปคว้ากระเป๋าและเดินออกมานอกห้อง
“ไปกัน เสร็จแล้ว” เทอร์โบมองไปยังน้องสาวตัวแสบก่อนจะส่ายหัวกับกระโปรงของเธอที่มันสั้นเหลือเกิน แต่เขาก็ขี้เกียจจะพูดแล้วเพราะซิลฟี่เป็นเด็กที่ดื้อมาก
@มหาลัย
พี่เทอร์ขับรถมาส่งฉันหน้าตึกนิเทศก่อนจะขับรถไปยังตึกวิศวะ เมื่อฉันลงจากรถสายตาของนักศึกษาแถวนั้นก็มองมาที่ฉันเป็นสายตาเดียว แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจหรอกใครจะคิดยังไงก็ช่างมัน ฉันหยิบโทรศัพท์มากดโทรหาวี
“อยู่ไหน”
“หน้าตึกนิเทศมึงละ” ฉันมองหาวีเมื่อมันบอกว่าอยู่หน้าตึกนิเทศเหมือนกันแต่ทำไมฉันไม่เห็น ขณะนั้น
“อีซิลทางนี่” เสียงเรียกของวีดังลั่นจนคนแถวนั้นต่างมองมาที่เราสองคน จะว่าไม่อายก็ไม่ได้นะ ฉันรีบเดินไปเอามือปิดปากมันไว้
“มึงจะตะโกนอะไรเสียงดังขนาดนั้น”
“กูขอโทษ”
“ว่าแต่เราต้องไปไหนก่อน”
“ไปรายงานตัวก่อนแล้วค่อยไปหาห้องเรียน” ดีที่ฉันยังมีวี ไม่งั้นก็คงงงเป็นไก่ตาแตกแน่ๆ เพราะจะให้ถามพี่เทอร์ก็ไม่ได้ เพราะเราอยู่คนละคณะกันอีก
เมื่อลงทะเบียนและขึ้นไปแนะนำตัวกับเพื่อนบนห้องเรียบร้อย เมื่อใกล้ถึงเวลาพักเที่ยงฉันกับวีเลยมานั่งส่องผู้อยู่หน้าตึกนิเทศ เอาจริงๆ วันแรกๆ ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายหรอกแทบจะไม่ได้เรียนก็ว่าได้
“มึงพี่คนนั้น หล่อมากเลยอีซิล” ฉันหันไปมองตามที่วีชี้ให้ดู ก็หล่อจริงแต่ก็ยังไม่เท่ากับคนในใจของฉันอยู่ดี
“ก็หล่อนะแต่ก็ไม่เท่าพี่ธามของกู”
“เดี๋ยวนะ ของมึงคือ?”
“ในอนาคตไง”
“กูตกใจหมดคิดว่าอะไรยังไงกันแล้ว”
เพี๊ยะ
“โอ๊ย”
“บ้า พูดจาอะไรน่าเกลียด” ถึงพวกเราจะพูดจากันแบบนี้แต่เอาเข้าจริงพวกเราก็ไม่กล้าเรื่องอย่างว่าหรอก เอาง่ายๆ คือปากดีไปวันๆ
“กูชักจะอยากเห็นหน้าพี่ธามของมึงแล้วสิ”
“เห็นแล้วก็อย่าตกหลุมรักนะคะ”
“ค่ะ” ฉันหยิบโทรศัพท์มาตอบข้อความพี่เทอร์
#ข้อความ
Turbo : กินข้าวยัง
Sylphy : ยังเลย
Turbo : พี่กำลังจะไปกินข้าวที่ตึกนิเทศมานั่งกับพี่ก็ได้
ขณะที่ฉันกำลังจะกดตอบข้อความพี่เทอร์ อีวีก็พูดขึ้นก่อน
“มึง กูเจอเนื้อคู่แล้ว หล่อแบบลูกพระเจ้า” ฉันหันไปมองตามสายตาคู่นั้นของมัน ก่อนจะ
“พี่ธาม”
“ชื่ออะไรนะ”
“คนนี้ไงพี่ธามเพื่อนพี่เทอร์ที่กูชอบ” ฉันพูดเน้นคำให้มันได้ยินชัดทุกถ้อยคำ
“มึงตาถึงมากอีซิลคนนี้กูเชียร์ ไปให้สุดค่ะเพื่อน”
“ตามกูมา” ฉันรีบลุกขึ้นและเดินไปหาพี่ธามทันที
ตึก
ตึก
ฉันเดินไปหยุดอยู่ด้านหน้าของร่างสูง เมื่อพี่ธามเห็นว่าเป็นฉันเขาก็ส่งยิ้มมาให้
“ไงเรามากินข้าวเหรอ”
“ใช่ค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้พี่ธาม
“ทำไมพี่ธามถึงมากินที่ตึกนิเทศละ” ฉันถามอย่างสงสัยเพราะโรงอาหารที่ตึกวิศวะก็มีแต่ทำไมพวกเขาถึงเลือกมากินที่นี่
“มาสองคนแต่ถามอยู่คนเดียว”
“ก็คนนี้น่าถามกว่าอีกคนไง” ฉันหันไปตอบพี่เคนที่ยืนมองฉันอยู่ ในแก๊งของพี่เทอร์ฉันสนิทหมดทุกคนเพราะพวกพี่เขาไปบ้านฉันบ่อย ไม่ใช่แค่ฉันนะพ่อแม่ฉันก็สนิทกับแก๊งนี้ทุกคน
“ว่าแต่พี่ธามยังไม่ตอบคำถามหนูเลย”
“ก็ที่นี่อาหารตามันเยอะกว่า” คนที่ตอบคำถามนี้เป็นใครไม่ได้นอกจากพี่เคนคนที่กวนประสาทฉันที่สุด
“พี่ชื่อธามเหรอคะ”
“ยัยตัวแสบ…..” และสุดท้ายก็จบลงที่ทะเลาะกัน
“ก็มึงไปกวนน้องมันก่อนทำไม งั้นเราสองคนไปนั่งกับพวกพี่ไหม คนเริ่มเยอะแล้ว”
“ดีเลย” พูดจบพี่ธามก็เดินนำไปนั่งลงยังโต๊ะ ฉันเลือกนั่งฝั่งตรงข้ามพี่ธามเพื่อจะได้มองหน้าเขาชัดๆ
“ไม่ไปซื้อข้าวเหรอเรา”
“พี่ธามไปก่อนเลย” เมื่อพี่ธามกับพี่เคนเดินไปซื้อข้าวแล้วฉันก็เริ่มได้ยินเสียงซุบซิบนินทาดังขึ้น ฉันเจอแบบนี้บ่อยจนชินแล้ว แต่ฉันเลือกที่จะไม่สนใจหรอกใครจะมองหรือหมั่นไส้ยังไงก็แล้วแต่
“มึงกูยังอยู่ใช่ไหม กูยังไม่ตายใช่ไหม”
“อะไรของมึง”
“มึงดูดิเพื่อนพี่เทอร์แต่ละคนมีแต่คนหล่อๆ กูอยู่ไม่ได้แล้วมึง หัวใจกูจะวาย” วียกมือขึ้นทาบอก ฉันจึงหัวเราะออกมากับท่าทางของมัน
“เพ้อเจ้อ” พูดจบฉันก็เห็นพี่เทอร์เดินมาทิ้งตัวนั่งลงด้านข้างฉันพอดี
“ไม่ไปซื้อข้าวเหรอซิล”
“พอดีซิลรอพี่ธามซื้อเสร็จก่อนค่อยไป”
“เดี๋ยวข้าวหมดก่อนนะ เดี๋ยวพี่นั่งเฝ้าโต๊ะเอง สองคนไปซื้อเถอะ”
“เค” ฉันลุกและไม่ลืมลากวีให้ลุกขึ้นไปซื้อข้าวด้วยไม่อย่างนั้นมันคงนั่งเคลิ้มกับความหล่อของพี่ชายฉันไปอีกนานแน่
“กินอะไรดีมึง” วีถาม
“ไม่รู้เลยอ่ะคิดไม่ออก แต่ไม่อยากกินข้าวเลยไม่หิว” ขณะนั้นสายตาฉันก็ไปสะดุดเห็นร่างสูงยืนอยู่หน้าร้านอาหารตามสั่ง
“วีกูคิดออกแล้วว่าอยากกินอะไร กูไปซื้อข้าวก่อนนะ”
“วอท! เมื่อกี้บอกไม่หิวข้าว แต่พอเห็นพี่ธามกับหิวข้าวขึ้นมาทันที” ฉันยิ้มให้เพื่อนก่อนจะรีบเดินไปหยุดยืนข้างพี่ธาม
“พี่ธามกินอะไรอะ” ร่างสูงหันมามองฉันก่อนจะส่งยิ้มให้
“กะเพรากุ้ง เราเอาไหม เดี๋ยวพี่สั่งใหม่” พี่ธามยื่นจานข้าวมาด้านหน้าฉัน ฉันได้แต่มองกะเพรากุ้งในมือพี่ธาม มันน่ากินมากเลยนะแต่เสียดายที่ฉันกินไม่ได้
“เฮ้ย พี่ขอโทษ เราแพ้กุ้งกินไม่ได้”
“พี่จำได้ด้วยเหรอ” ฉันถามพร้อมกับบิดไปมาอย่างเขินอายไม่คิดว่าเขาจะจำเรื่องของฉันได้ด้วย
“ได้สิ ว่าแต่เราจะกินอะไรเดี๋ยวพี่สั่งให้”
“เอาข้าวผัดหมูก็ได้ค่ะ”
“โอเค” พี่ธามหันไปสั่งข้าวให้ฉันและหันกลับมาส่งยิ้มให้ฉันอีกรอบ รอยยิ้มของเขามันมีผลต่อหัวใจฉันเหลือเกิน
“พี่ธามกลับไปที่โต๊ะก่อนก็ได้เดี๋ยวหนูรอเอง”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ยืนรอเป็นเพื่อน” เป็นแฟนได้ไหม ฉันได้แต่คิดในใจแต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดออกไปหรอก ฉันไม่รู้ว่าพี่ธามรู้หรือเปล่าว่าฉันชอบพี่เขา เพราะทุกครั้งที่ฉันพูดเป็นเชิงหยอด พี่ธามก็จะชอบบอกว่าฉันพูดเล่นตลอดเลย ทั้งที่ฉันพูดความจริง แต่ก็นั่นแหละ ฉันเลยได้แต่เก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจตลอดมาและไม่กล้าที่จะบอกเขาออกไปตรงๆ ว่าฉันชอบเขา เพราะฉันกลัวว่าถ้าวันหนึ่งฉันบอกว่าฉันคิดกับเขาเกินกว่าพี่ชายคนหนึ่งแล้วถ้าอีกคนไม่ได้คิดกับฉันเกินกว่าน้องสาวละ มันจะทำลายความสัมพันธ์ของเราเปลี่ยนไปจากเดิมไหม นี่คือสิ่งที่ฉันกลัว
หลังจากกินข้าวเสร็จเราก็แยกย้ายกันไปเรียนจนถึงช่วงเย็นของวัน
“มึงกลับยังไง”
“พี่เทอร์ไง”
“กูไม่น่าถาม ให้กูรอเป็นเพื่อนไหม?”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่เทอร์ก็เลิกแล้วมึงกลับเลยก็ได้”
“โอเค มีไรโทรมา”
“เค ขับรถดีๆ” เมื่อแยกย้ายกับวีเสร็จฉันก็เดินมานั่งรอพี่เทอร์ที่หน้าตึกวิศวะ ฉันไม่ได้คิดอะไรก็แค่มานั่งรอพี่ชายเท่านั้น แต่ก็ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือว่าคิดผิดกันแน่ เพราะตอนนี้มีสายตาของผู้ชายที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างพากันมองมาที่ฉัน ฉันจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่น ขณะนั้นก็มีกลุ่มผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินมาหยุดยืนด้านหน้าฉัน
“คนสวยมารอใครเหรอครับ”
“......” ฉันเงยมองหน้าพวกผู้ชายด้านหน้าก่อนจะก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ต่อ
“ไม่ได้ยินเหรอครับพวกพี่ถาม” ฉันหันไปมองรอบๆ ตัวอีกครั้ง ว่าเขาพูดกับใครเมื่อเห็นว่าไม่มีใคร ฉันก็ตอบออกไปแบบตัดรำคาญ
“รอผัว”
“ฮ่าๆ กูบอกมึงแล้วสวยขนาดนี้ไม่เหลือหรอก”
“ไหนอ่ะผัวถ้าไม่เห็นก็แสดงว่าไม่มี” เมื่อเห็นว่าไม่ค่อยปลอดภัยแล้ว ฉันจึงมองไปรอบเพื่อมองหาพี่ชายของฉันแต่ขณะนั้นก็เหมือนสวรรค์มาโปรด ฉันรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหน้าตื่นไปคล้องแขนพี่ธาม
“เป็นอะไรเรา” พี่ธามถามฉันด้วยสีหน้างุนงง ฉันยังไม่ตอบอะไรเพราะผู้ชายพวกนั้นเดินมาที่ฉันกับพี่ธามก่อน
“ไอ้ธามนี่เมียมึงเหรอวะ” ตายห่าละ ฉันอยากจะเอาหน้ามุดดินไม่คิดว่าผู้ชายพวกนี้จะรู้จักพี่ธามด้วย