บทที่สิบแปด

1903 Words
ทุกคนในโรงอาหารต่างพร้อมกันเงียบกริบกันหมดหลังจากที่แพรววาพูดออกมา แต่คนที่ดูจะตกใจมากกว่าคนอื่นคงไม่พ้นเบลล่าซึ่งไม่ได้คาดคิดว่า แพรววาจะกล้ายอมรับออกมาตรง ๆ ว่าเด็กหนุ่มที่อยู่กับเธอคือโชลเมท "พอใจเธอแล้วใช่ไหม เบลล่า" เสียงของแพรววาดึงสติเบลล่ากลับมาอีกครั้งและเธอยังทำใจดีสู้เสือ "ในเมื่อเป็นเรื่องจริงแล้วเธอจะกังวลอะไร กลัวใครเขารู้เรื่องนี้นักหรือไง" พิมพ์พรรณเริ่มหมดความอดทนจึงรุกเดินตรงไปหาเบลล่าอย่างรวดเร็ว จนแพรววาตกใจไม่น้อยที่พบว่าพี่สาวยืนอยู่ข้างเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมสายตาที่มองเบลล่าน่ากลัวกว่าแพรววาเสียอีก "ไม่ใช่ทุกคนจะมีนิสัยเหมือนเธอ เบลล่า ! การที่น้องสาวของฉันเลือกที่จะไม่บอกใครมันก็เป็นสิทธิของเขา แล้วเธอเป็นใครกันถึงมีสิทธิมายุ่งเรื่องของคนอื่น !" พิมพ์พรรณในตอนนี้เรียกได้ว่าน่ากลัวมาก แพรววายอมรับว่าไม่เคยเห็นอีกฝ่ายโกรธขนาดนี้มาก่อน แต่แพรววาก็หันมาเสริมกับเบลล่าต่ออีก "ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอแค้นอะไรฉันหนักหนา แต่ขอร้องล่ะอย่าเอาเขาคนนั่นมาเกี่ยวข้องด้วย เพราะเขาไม่รู้เรื่อง" ครู่ต่อมาไม่นานเอมอรกับสารวัตรนักเรียนสองถึงสามคนก็เดินเข้ามากลางวงทันที "มีเรื่องอะไรกัน !" เอมอรถามเสียงดังเมื่อเดินมาถึงโต๊ะของเบลล่า ก่อนที่สองนาทีต่อมาสายตาของเธอจะสังเกตเห็นใบปลิวในมือของแพรววา เอมอรจึงขอดูภาพในใบปลิวแล้วหันมาถามต่อว่า "นี้เป็นต้นเรื่องของความวุ่นวายงั้นเหรอ ฝีมือใคร" แน่นอนว่ากลุ่มเบลล่าเงียบไม่ปริปากพูดอะไรจนสารวัตรนักเรียนอีกคน เดินมาพูดว่า "ถ้าไม่มีใครยอมรับคงต้องส่งให้อาจารย์ห้องปกครองสอบสวนแล้วล่ะ" โซอี้ที่ได้ยินก็เงยหน้ามองสารวัตรนักเรียน "ไม่นะ ฉันไม่อยากเข้าห้องปกครอง พ่อเอาฉันตายแน่ !" เบลล่าหันขวับมามองด้วยสายตาดุใส่ทำให้เด็กสาวผมยาวประบ่าสีน้ำตาลแดงนั่งเงียบ ทว่าสายตาของสารวัตรนักเรียนจ้องมองมาที่เบลล่า "อยากที่บอกไปถ้าไม่มีใครยอมรับ ก็ต้องไปห้องฝ่ายปกครองเท่านั้น" สารวัตรนักเรียนพูดเสียงเฉียบขาด เอมอรสั่นศีรษะเล็กน้อยและหันมาพูดกับเพื่อนสารวัตรด้วยกัน "อย่าพึ่งส่งเรื่องให้ห้องปกครองเลยโทมัส เอาแค่จัดการพวกใบปลิวนี้ดีกว่า ถ้าพวกอาจารย์เห็นเข้าละก็ยุ่งแน่ ๆ" จึงเป็นเหตุให้สารวัตรคนอื่น ๆ ช่วยกันจัดการใบปลิวดังกล่าว เบลล่าที่ลอยตัวได้ก็รีบออกจากโรงอาหารเพื่อไปล้างหัวจากการโดนน้ำส้มราดหัว พิมพ์พรรณกับแพรววาเดินมาสมทบกลุ่มอนัญลักษณ์และสังเกตเห็นเสมอแมนพอดี แพรววาคิดไว้แล้วว่าเสมอแมนคงมาที่โรงอาหารและคงได้ยินจากปากของเธอแล้ว ทว่าลึก ๆ แพรววาก็รู้สึกเห็นใจเสมอแมนเหมือนกัน แต่จะให้เธอทำอย่างไรได้ในเมื่อความรู้สึกของเธอที่มีต่ออีกฝ่ายมันไม่อาจให้ได้มากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้องในชมรม ฝั่งเสมอแมนเลือกที่จะเดินออกจากโรงอาหารไปแบบเงียบ ๆ โดยไม่หันมามองแพรววาอีกเลย หยาดรุ้งที่หันมาเห็นพอดีจึงพูดว่า "น่าสงสารพี่เสมอแมนเหมือนกันนะ อกหักดังเป๊าะเลย" คติยาหันมามะเหงกหัวหยาดรุ้งเบา ๆ "เนี่ย ก่อนจะสงสารพี่เสมอแมนน่ะ สงสารยัยแพรวก่อนไหมยัยรุ้ง" ทั้งหมดตัดสินใจพากันมาหลบอยู่ในมุมสวนนั่งเล่นของโรงเรียน ตรงที่นั่งประจำของกลุ่มและเป็นจุดที่ไม่ค่อยมีคนสนใจมากนัก ส่งผลให้แพรววาไม่ตกเป็นเป้าสายตามากกว่านี้ประกอบกับพื้นที่ตรงนี้ไม่มีใบปลิวภาพของเธอกับจิตติพัฒน์ ทำให้มณีอรเชื่อว่ากลุ่มเบลล่าเลือกปล่อยใบปลิวในบริเวณที่มีคนเยอะมากกว่า ลลิตาอดสงสัยไม่ได้ทำไมเบลล่าต้องลงทุนขนาดนี้ด้วย มันแทบไม่ให้ผลดีกับใครเลยโดยเฉพาะกับตัวของเบลล่าเองด้วย ซึ่งยุวดีให้คำตอบไปว่าเพราะสมองและความมีเหตุผลคงถูกเก็บไว้ในลิ้นชักแล้ว ทำให้เธอกล้าทำอะไรแบบนี้เพื่อคนที่ไม่เคยสนใจเธอแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามแพรววามีความกังวลอีกอย่างคือตอนนี้คนทั้งโรงเรียนรับรู้กันแล้ว จะมีแค่อาจารย์ในโรงเรียนเท่านั้นที่ยังไม่รู้เรื่องนี้เด็กสาวได้แต่ภาวนาในใจว่า ขออย่าให้ใบปลิวไปอยู่ในมือของอาจารย์เลยไม่อย่างนั้น พศพัชร์ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศคงต้องหาทางบินกลับมาบ้าน และความวุ่นวายก็คงไม่จบลงง่ายแน่นอน "อย่าคิดมากเลยนะยัยแพรว" อนัญลักษณ์ปลอบขวัญเพื่อน "มันอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอคิดไว้ก็ได้" แพรววาถอนหายใจเล็กน้อย "หวังอย่างนั้นเหมือนกัน" ❤️❤️❤️❤️❤️ ข่าวลือเรื่องแพรววากับโชลเมทแพร่กระจายอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าโรคระบาด ทำให้กลายเป็นหัวข้อสนทนาของนักเรียนหญิงที่เพ้อฝันอยากมีโชลเมทเป็นของตัวเองบ้าง กลับกันด้านเบลล่าก็เหมือนจะโดนนินทาว่าสิ่งที่เธอทำมันเกินกว่าเหตุที่ควร อย่างไรก็ตามภายหลังมาโซอี้ที่กลัวต่อการเข้าห้องปกครองมากก็เกิดสติแตก ยอมสารภาพความผิดทั้งหมดกับ อาจารย์อาคาสะ ซึ่งเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครอง ส่งผลให้ทั้งชอนอูจินและเบลล่าโดนเรียกมาสอบปากคำ แน่นอนว่าทั้งสามคนถูกลงโทษด้วยการทำความสะอาดห้องน้ำ เป็นเวลาอย่างน้อยเจ็ดวันพร้อมทั้งจะมีการส่งหนังสือรายงานความประพฤติไปยังผู้ปกครอง (ยกเว้นโซอี้ที่ยอมรับผิดคนแรก) เสมอแมนที่ได้ยินข่าวจากเพื่อนมาก็ได้แต่หวังว่ารอบนี้เบลล่าจะสำนึกและยอมเลิกรากับแพรววาไป ส่วนตัวเขาก็คงต้องใช้ชีวิตที่เหลือในรั้วโรงเรียนนี้ก่อนจะเรียนจบ แม้เขาจะอยากเข้าข้างตัวเองอยู่เหมือนกันทว่าเสมอแมนก็ไม่ใช่คนโง่ เมื่อฟังน้ำเสียงที่หนักแน่นของแพรววาเขาก็รับรู้ได้ทันทีว่า บัดนี้เธอมีเจ้าของที่ไม่ว่าอย่างไรเสมอแมนก็ไม่อาจเข้าไปแทนที่ได้ หรือมันคงถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องตัดใจจากแพรววาแล้วเดินหน้าต่อไป ระหว่างที่เสมอแมนกำลังเดินขึ้นบันไดเพื่อตรงไปยังห้องเรียน ก็มีเสียงทักจากบันไดเหนือศีรษะ "นายจะหลบหน้าฉันไปถึงไหนเหรอ เปรม" เด็กหนุ่มชะงักและเงยหน้าขึ้นมอง เจ้าของเสียงเป็นเด็กหนุ่มผมสีทองบลอนด์ผิวขาวและมีส่วนสูงมากกว่าเสมอแมน แถมยังส่งยิ้มอันเจ้าเล่ห์ที่ไม่ว่าจะเมื่อไหร่เสมอแมนก็ยังคงเกลียดมันอยู่เสมอ โดยเฉพาะกับ อาลแบร์ ที่เขาจะไม่ยอมเสียเวลาสนทนาด้วย เมื่อคิดแบบนั้นเสมอแมนจึงก้าวเท้าเดินจากไปแต่ดูฝ่ายอาลแบร์จะไม่ยอมเลิกราง่าย ๆ "สุดท้ายนายก็ไม่สามารถชนะใจเธอได้" อาลแบร์พูดจากยั่วยวนกวนประสาทเสมอแมนที่ได้ยินก็ถึงกับชะงัก มันทำให้เด็กหนุ่มผมทองยิ้มอย่างมีชัย "ช่วยไม่ได้ล่ะนะก็ในเมื่อเธอมีโชลเมทแล้ว แถมฉันได้ยินมาว่าเป็นชาวฟรอนเทียร์ด้วย..." เสมอแมนหันหน้ามาจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อ และเต็มไปด้วยความเกลียดชังจนแม้แต่คนขี้เล่นอย่างอาลแบร์ ก็เริ่มมีท่าทีหวั่นเกรงไม่น้อย "บอกมาดีกว่าอาลแบร์ นายต้องการอะไร.... คำเตือนจากแม่ฉันยังไม่หนำใจนายอีกหรือไง" "ฉันถามนายจริง ๆ เลยนะ เปรม" อาลแบร์พูดน้ำเสียงจริงจัง "เมื่อไหร่นายจะเลิกฟังคำสั่งแม่นาย แล้วฟังเสียงหัวใจของตัวเองสักที" "ฉันฟังแล้วและมันก็พังไม่เป็นท่า เพราะดันไปหลงรักคนมีเจ้าของ" เสมอแมนตอบทันควัน "เปรม... นายก็รู้ว่าฉันไม่ได้หมายถึงเธอคนนั่น และนายน่าจะรู้ดีกว่าใคร" อาลแบร์พูดและค่อย ๆ เดินมาหา แต่เสมอแมนกลับเดินถอยออกห่างเช่นกัน แววตาของอาลแบร์ฉายแววความเจ็บปวดอย่างชัดเจน "ขอร้องล่ะเปรม นายควรตัดสินใจเรื่องของนายเองสิทำไมต้องฟังแม่ทุกเรื่องด้วยล่ะ" เขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบา เสมอแมนส่งสายตาเชิงดูถูกใส่อาลแบร์ "นี้นายคิดจริง ๆ เหรอว่าที่ฉันตีตัวออกห่างจากนาย เพราะเป็นคำสั่งของแม่เพียงอย่างเดียว" เด็กหนุ่มมองหน้าคู่สนทนาโดยไม่สนใจแววตาที่แสดงความเจ็บปวดชัดเจน "ไม่เลยอาลแบร์ ฉันตัดสินใจเองที่จะตัดนายออกจากชีวิตของฉัน และบางทีแม่ฉันอาจพูดถูกเรื่องนาย ถึงฟ้าจะส่งนายกับฉันให้มาเป็นโชลเมทกันแต่ในความเป็นจริงแล้ว มันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันต้องตอบสนองต่อสิ่งนั้นก็ได้นี่จริงไหม" อาลแบร์ยังไม่ยอมเลิกราง่าย ๆ "นายจะบอกว่าทุกอย่างที่ฉันกับนายมีให้กันเป็นของปลอมเหรอ" เสมอแมนยังไม่ทันจะเอ่ยปากตอบไม่นานกลุ่มเพื่อนของเสมอแมนนำโดย อิซายามะ ก็พากันออกมาตามเสมอแมนให้ไปเข้าห้องเรียน อาลแบร์รู้ดีว่าพวกอิซายามะไม่ชอบหน้าเขาทำให้เด็กหนุ่มตัดสินใจรีบหลีกตัวออกมา ทันทีที่เห็นเสมอแมนพวกอิซายามะต่างก็ชวนให้ไปเข้าห้องเรียนได้แล้ว เพราะต้องทำรายงานกลุ่มส่งอาจารย์และในตอนที่พวกเขาจะเดินตรงไปยังห้องเรียน โด่ง หนึ่งในกลุ่มแหล่เห็นอาลแบร์แอบมองอยู่ที่บันได จึงแอบถามเสมอแมนเมื่อเข้ามาในห้องเรียนแล้วว่า "อาลแบร์ยังตามมายุ่งกับนายอีกเหรอ เพื่อน" เสมอแมนชะงักเพราะไม่คิดว่าเพื่อนจะมองเห็นอีกฝ่าย อิซายามะที่ได้ยินก็ถึงกับรู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมาทันที "มันหลบอยู่ไหนว่ะ สงสัยต้องจัดหนักมันหน่อยแล้ว" เสมอแมนรีบห้ามปรามในทันที "พอได้แล้วน่าอิซายามะ จะเปลืองแรงกับคนอย่างอาลแบร์ทำไม เสียเวลาเปล่า ๆ รีบทำรายงานต่อดีกว่า" ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วยเพราะอีกไม่กี่อึดใจพวกเขาต้องรายงานกลุ่มหน้าห้องแล้ว ทำให้อิซายามะเลิกสนใจที่จะไปสั่งสอนอาลแบร์ด้วยกำปั้น ทว่าถึงกระนั้นโด่งที่นั่งข้างเสมอแมนก็แอบกระซิบข้างหูอีกฝ่ายว่า "ทำไมนายไม่ลองเปิดใจคบกับเบลล่าดูล่ะ เธอคนนั่นอาจสลัดอาลแบร์ออกจากชีวิตนายก็ได้นะ" แม้เขาไม่ได้ตอบโต้อะไรอีกฝ่ายทว่าความจริงแล้ว เสมอแมนก็คิดอยู่ว่าถ้าเบลล่าชอบเขามากนักละก็ บางทีเขาอาจใช้เธอให้เป็นประโยชน์ดูก็ไม่เลวเหมือนกัน ❤️❤️❤️❤️
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD