ในสมุดบันทึกเมื่อครั้งเป็นครูในหมู่บ้านซึ่งมีความใกล้ชิดกับชาวบ้านนั้น นอกจากเรื่องราวการเรียนการสอนตามหน้าที่แล้วยังมีบันทึกเกี่ยวกับท้องถิ่นและชาวบ้านอีกสาระพัดสาระพันเรื่องราวในแต่ละวัน บางเรื่องต้นฉบับเก่ากรอบตามกาลเวลาที่ผ่านมายาวนานเกือบจะโดนเผาหรือชั่งกิโลขายก็หลายครั้งมาแล้ว แต่มันก็ผ่านพ้นวิกฤตมาได้ทุกครั้ง และผมก็มักจะหยิบมาอ่านทบทวนอยู่เสมอเมื่อมีโอกาส อย่างเช่นวันนีผมได้นำบันทึกดังกล่าวมาอ่านในวันที่เมฆฝนเคลื่อนเป็นเงาสีดำเกลื่อนฟ้า ผมเริ่มบันทึกในหัวข้อ “คนไม่มีคอก” ไว้ดังนี้ หมู่บ้านแปลกประหลาดแห่งนี้มีเพียง 8 หลังคาเรือน ประชากรจำนวน 26 คน ชาย 10 คน หญิง 16 คน บ้านเรือนกระจายกันอยู่สองฟากถนนหน้าโรงเรียน ยังไม่มีชื่อหมู่บ้านเป็นทางการ มีชื่อเรียกในท้องถิ่นว่า “บ้านน้อยขี้หมาจอก” อ้อ นักเรียนส่วนใหญ่มาจากหมู่บ้านใหญ่ซึ่งห่างออกไปประมาณ 2-3 กม.ดังนั้น เมื่อถึงวันหยุดโรงเรียนนี้จึงตกอยู่ในความสงบโดยแท้ สามารถเขียนบรรายายได้ตรงสภาพความเป็นจริงได้เลยว่า ความเงียบแห่งยามค่ำของคืนโรยตัวช้าๆลงมาเหนือหมู่บ้านขี้หมาจอก ถึงกระนั้น เหตุการณ์ในความเป็นจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะหนึ่งในจำนวนครัวเรือน 8 หลังดังกล่าวนั้นมีบ้านหลังหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักครูคนละฟากกอไผ่เท่านั้น พวกเราทราบกันดีว่าหัวหน้าครอบครัวนี้มีสมญานามว่า “คนไม่มีคอก” ถ้าหลับตาแล้วนึกไม่ออก ผมจะเปิดบันทึกเก๋ากึ๊กมาให้อ่านกันครับ บอกได้เลยว่าเกือบสามสิบปีที่ผ่านมามีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่