บทที่ 5

613 Words
โรงเรียนไม่อาจปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของครอบครัวนายโวได้ แม้ว่าความต้องการเรื่องลูกแพะสีน้ำตาลแสนรู้นั้นจะมาจากผู้มีอำนาจสูงสุดในองค์กรแห่งนี้ก็ตาม เพราะโรงเรียนต้องทำหนังสือเสนอให้มีการยกเลิกระเบียบการสอบใหม่ ไม่ให้มีตกซ้ำชั้นอีกต่อไป และต้องเสนอผ่านไปตามลำดับขึ้นตอนจากระดับกลุ่มตำบลจนกระทั่งถึงจังหวัดและระดับกระทรวงต่อไป ประการสำคัญเหตุผลของเราคงฟังไม่ขึ้นแน่นอนเพื่อแลกกับการไม่มาเข้าเรียนของเด็กคนหนึ่งโดยให้ลูกแพะไปเรียนหนังสือแทน ดูเหมือนเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยขี้หมูราขี้หมาแห้ง แต่เรากำลังจะก่อการทุจริตอย่างใหญ่หลวงอันเป็นการผิดจรรยาบรรณวิชาชีพมีโทษสูงสุดไล่ออกจากราชการ แถมยังต้องถูกประจานจากเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันว่า “มันสมควรหรือที่จะเอาแพะมาเข้าโรงเรียนแทนคน” แค่คิดก็วุ่นวายขนาดนี้แล้ว เป็นอันว่าเรายุติโครงการเลี้ยงแพะไว้เพียงแค่ต้นไม้หน้าโรงเรียน ปล่อยให้ทุกอย่างสลายไปกับใบไม้แห้งซึ่งปลิวว่อนไปกับสายลม ตั้งแต่นั้นมาครูใหญ่ก็ไม่ต้องคิดอะไรให้ปวดสมอง เพียงถือสมุดหมายเหตุประจำวันเดินไป เดินมาแล้วเขียนลงไปในชั่วโมงสุดท้ายในการเรียนว่า “เหตุการณ์ปกติ” เท่านี้ทุกอย่างมันก็ปกติไปถึงกระทรวงแล้ว อย่างไรก็ตาม ในที่สุดแล้ว เด็กๆก็ไม่เห็นแม้เงาลูกแพะอีกต่อไป เพราะได้ทราบจากลูกชายคนไม่มีคอกว่า พ่อเอาไปเลี้ยงในวงไฮโลว์และเสียไปให้คนอื่นเรียบร้อยแล้ว นั่นคือวงจรแห่งความสามารถของเขาโดยแท้ แต่นายโวก็คงแค่หัวเราะหึๆในลำคอเท่านั้น เพราะความเก่งกาจของเขามีอยู่รอบตัว ความสามารถพิเศษของเขาอีกอย่างคือ เรื่องมวย เขาจำชื่อ/ค่ายนักมวยได้เกือบทุกคนที่เคยชกทางรายการโทรทัศน์ทุกบ่ายในวันหยุด เขาวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งของนักมวยแต่ละคนได้อย่างทะลุ เล่นมุมไหนต้องเล่นด้วยความมั่นใจและการต่อรองอย่างถึงพริกถึงขิง พอถึงตอนบ่ายวันเสาร์-อาทิตย์ เขาปั่นจักรยานหรือไม่ก็เดินผ่านหน้าโรงเรียนเข้าไปในหมู่บ้านใหญ่ร้านค้าที่มีจอโทรทัศน์ซึ่งเป็นสนามมวยขนาดย่อม มีนักดูนักเล่นมวยมากมายนั่งแออัดส่งเสียงเชียร์ราวกับเป็นงานเทศกาลประจำปี แน่นอนล่ะ คนที่ส่งเสียงดังระดับเซียนไม่มีใครเกินเขาไปได้ นายโวจึงถูกตั้งสมญานามลับหลังว่า “อ้ายเ**กตื่นไฟ” ในสนามมวยหน้าจอโทรทัศน์ประจำหมู่บ้านคือแหล่งสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำสำหรับเขา แม้จะเดินไปมือเปล่าเขาก็จะเดินกลับออกมาพร้อมกับรายได้ในมือเสมอเช่นไก่ เหล้าขาว รวมทั้งสบู่ แป้งหอม ผงชูรส น้ำปลามาฝากคนที่นั่งสานกระติบข้าวรออยู่ที่บ้าน จึงไม่แปลกที่เขาจะร้องเพลงเสียงดังผ่านบ้านพักครูไปอย่างภูมิใจในความสามารถของตนซึ่งอาจกำลังซึมซับลงในการเรียนรู้ของลูกชายที่มักตามก้นไปต้อยๆเป็นเงาตามตัว ผมไม่อาจรู้ได้เลยว่า อีกสามสิบปีข้างหน้าคือวันที่ผมกำลังเปิดบันทึกเก่าอ่านอยู่ในขณะนี้มีเหตุระทึก ขวัญผวาอะไรขึ้นบ้างสำหรับครอบครัวนายโวและหมู่บ้านน้อยขี้หมาจอกซึ่งผมได้จากมานานแล้ว ทุกชีวิตไม่เคยสิ้นร่องรอย แม้เป็นเพียงธุลีเม็ดเดียวก็ตาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD