“ทำไมผู้ชายสมัยนี้ถึงชอบมีอีหนูกันนักนะ แก่ๆกันแล้วก็ยังไม่หยุดหื่น ป๊าก็อีกคนอยากรู้จริงๆถ้าลูกสาวตัวเองไปเป็นอีหนูของคนอื่นจะรู้สึกยังไง”
พลอยไพลินบ่นกับตัวเองหลังจากบิดาเอาอีหนูคนใหม่เข้ามาในบ้าน ทั้งที่เธอเคยตกลงเรื่องนี้กับบิดาแล้วว่าเธอไม่ชอบเห็นท่านควงสาวรุ่นราวคราวลูกแบบนั้น เพราะพวกเธอไม่มีทางรักท่านจริงสักคน มีแต่จะหลอกเอาเงินแล้วก็ทิ้งไป ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาบิดาจะเป็นฝ่ายสลัดพวกเธอทิ้งซะส่วนใหญ่ก็ตามที
‘ก็พลอยบอกเองว่าไม่ต้องการแม่ใหม่ ป๊าก็พยายามอยู่นี่ไง ตั้งแต่ที่แม่ของลูกเสียป๊าก็ไม่เคยคิดจะมีภรรยาเป็นตัวเป็นตนเพราะป๊าเห็นแก่ความสุขของลูกนะ’
ประกาศิตเจ้าของสนามกอล์ฟที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเชียงใหม่ เอ่ยกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนอกอ่อนใจ
‘ถ้าป๊าเห็นแก่ความสุขของหนูจริง ป๊าต้องไม่ควงอีหนูพวกนั้น ป๊าทำให้หนูได้ไหมละคะ’
พลอยไพลินเอ่ยถามบิดาด้วยน้ำเสียงแข็งแววตาแดงก่ำกลั้นน้ำตาไม่ให้ร่วงหล่น
‘แต่ถ้าป๊าทำให้ไม่ได้พลอยจะไปเอง พลอยไม่อยู่บ้านนี้แล้ว เชิญป๊าควงอีหนูของป๊าเข้าบ้านตามสบายเลย’
พลอยไพลินประกาศชัดเมื่อบิดายืนนิ่งไม่ยอมให้คำตอบเธอเสียที เพราะในความเงียบนั้นเป็นการบอกชัดเจนว่าบิดาไม่สามารถทำตามที่เธอต้องการได้นั่นเอง
‘ไม่อยู่บ้านแล้วพลอยจะไปอยู่ที่ไหน เรียนก็ยังไม่จบ แถมใช้เงินเก่งจนเคยตัว ถ้าพลอยออกจากบ้านป๊าจะไม่ให้เงินใช้สักบาทเดียว’
ประกาศิตขู่ลูกสาวไว้เพราะไม่อยากให้ลูกรักเพียงคนเดียวต้องระหกระเหินลำบากไปอยู่ที่อื่น แต่ดูเหมือนว่าคำขู่นั้นจะไม่ได้ผล เพราะทันทีพี่พูดจบหญิงสาวก็หันมาตอบกลับทันควัน
‘ให้มันรู้ไปสิว่าพลอยจะหาเงินใช้เองไม่ได้’
‘พลอยคิดจะทำอะไร’
ประกาศิตเอ่ยถามขณะที่รู้สึกใจหายวาบขึ้นมาทันที เมื่อเห็นใบหน้างามยกยิ้มที่มุมปากร้ายๆ
‘พลอยก็จะไปเป็นอีหนูขายตัวให้เสี่ยรวยๆเลี้ยงดูเหมือนที่ป๊าเลี้ยงดูเด็กของป๊ายังไงละคะ’
หญิงสาวเลิกคิ้วท้าทายบิดาอย่างไม่เกรงกลัว
‘ลูกของป๊าเป็นคนฉลาด ป๊าเชื่อว่าลูกไม่คิดสั้นทำอะไรแบบนั้นหรอก’
พูดไปแบบนั้นแต่ปลายเสียงไม่คอยแน่ใจเอาเสียเลย เพราะแต่ไหนแต่ไรเขารู้ดีว่าลูกสาวของเขานั้นชอบเอาชนะขนาดไหน
‘งั้นป๊าก็คอยดูแล้วกัน แล้วป๊าก็ไม่ต้องให้ลูกน้องของป๊าไปตามพลอยกลับบ้านนะ เพราะพลอยจะไม่กลับเด็ดขาด!”
นั่นเป็นคำประกาศสุดท้ายก่อนที่พลอยไพลินจะก้าวออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่โดยไม่คิดแม้แต่จะเหลียวหลังมองกลับไปอีกเลย
การตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวและแน่วแน่ในวันนั้นทำให้เธอต้องมากุมขมับในวันนี้ เมื่อได้รับการติดต่อจากเสี่ยผู้ไม่ประสงค์ออกนามมาจริง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าจะทำมันได้อย่างไม่รู้สึกผิด แต่พอมันถึงเวลาจริงๆเธอก็รู้สึกผิดขึ้นมาเฉยๆ
ใจหนึ่งอยากเอาชนะบิดา แต่อีกใจก็กลัวอนาคตตัวเองจะมีประวัติด่างพร้อยไปตลอดกาลหลังจากที่ตัดสินใจรับงานจริงๆ
‘เราต้องทำได้สิพลอย คนที่ต้องเจ็บปวดไม่ใช่เรา แต่ควรจะเป็นป๊าต่างหาก’
หญิงสาวบอกกับตัวเองแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมา โดยไม่รู้เลยว่าเวลาได้ผ่านไปนานเกือบชั่วโมงแล้วที่เธอนั่งกุมขมับอยู่แบบนี้
“ตกลงว่าไงคะหนูนิลิน จะรับงานนี้หรือเปล่า”
เสียงของวาววาเอเจนซี่สาววัยสี่สิบปีซึ่งเป็นตัวแทนติดต่อและจัดส่งเด็กสาวๆป้อนให้กับเสี่ย เรียกสติสาวน้อยที่ใช้นามแฝงว่านิลินให้หลุดจากห้วงภวังค์ความคิด
พลอยไพลินรู้สึกโชคดีที่ไม่เคยออกสื่อกับบิดา เลยทำให้ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอคือลูกสาวของประกาศิตเจ้าของสนามกอล์ฟชื่อดังของเมืองเชียงใหม่ ไม่อย่างนั้นวาววาเอเจนซี่สาวคงไม่เชื่อประวัติจอมปลอมที่เธอแต่งขึ้น
มันจะมีเรื่องอะไรน่าส่งสารไปกว่า ทางบ้านไม่มีเงินส่งเสียให้เรียน แม่ป่วยหนัก น้องพิการ ตามนิยายน้ำเน่าที่เธอเคยอ่านอีกล่ะ และก็คงไม่มีใครมาสืบถามประวัติอะไรให้มากความเพราะงานที่เธอจะไปทำไม่จำเป็นต้องลงรายละเอียดอะไรมากมาย แค่มีรูปร่างหน้าตาดีก็เพียงพอแล้ว
แม้ในตอนแรกวาววาจะไม่เข้าใจสิ่งที่เธอเรียกร้องพิเศษ คือขอความคุ้มครองจากผู้รับเลี้ยงดู แต่เมื่อหญิงสาวบอกว่าเป็นอดีตเสี่ยที่เคยเลี้ยงดูเธอที่ไม่ยอมปล่อยเธอไปจึงทำให้วาววาเข้าใจและยอมแนบข้อเรียกร้องพิเศษพร้อมรูปถ่ายไปให้ด้วย
“เฮ้อ! ขอนิลินทำใจอีกแป๊บนะคะพี่”
พลอยไพลินถอนหายใจอย่างหนักหน่วงเพื่อระบายความกังวลในใจ
“อืม…พี่เข้าใจความรู้สึกของน้องนิลินนะคะว่ามันรู้สึกแย่แค่ไหนที่ต้องมาทำงานอะไรแบบนี้ ถ้าโลกนี้เราเลือกเกิดได้ก็คงจะมีแต่คนอยากเกิดบนกองเงินกองทอง ไม่มีใครอยากเกิดมาจนหรอก จริงไหมคะ”
“ค่ะ”
ตอบรับไปทั้งที่ในใจไม่ได้เห็นด้วยกับอีกฝ่ายสักเท่าไหร่ เพราะเธอเนี่ยแหละที่เกิดบนกองเงินกองทอง แต่เธอกลับไม่มีความสุขกับข้าวของนอกกายเหล่านั้นเลยสักนิด สิ่งที่เธอต้องการคือความรักความเข้าใจจากคนในครอบครัว แต่ดูเหมือนบิดาของเธอจะไม่เคยเข้าใจความต้องการของเธอเลย เพราะนอกจากการเลี้ยงดูด้วยเงินอย่างดีแล้วความรักของท่านก็ไปมอบให้สาวๆนอกบ้านจนหมดไม่หลงเหลืออะไรให้เธอเลย
“ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะน้องลินิน เพราะรูปร่างหน้าตาของน้องน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ แค่ออดอ้อนนิดๆหน่อยๆเสี่ยก็หลงหัวปักหัวปำแล้ว ไม่ว่าหนูอยากได้อะไรหรือต้องการอะไรก็ขอได้เลย พี่เชื่อว่าเสี่ยเขาไม่ใจร้ายกับหนูหรอก”
วาววาบอกวิธีการกับหญิงสาว พร้อมความจริงเรื่องรูปร่างหน้าตาของเธอ นิลินเป็นผู้หญิงคนแรกที่วาววาแอบชื่นชมความสวยสมบูรณ์แบบแลดูเป็นธรรมชาติของเธอ ส่งเด็กให้กับเสี่ยมาก็มากแต่เธอไม่เคยพบเคยเห็นใครสวยและดูดีเป็นธรรมชาติเท่านี้มาก่อน นี่ถ้าเธอเป็นนักปั้นก็คงปั้นให้เธอกลายเป็นดาวเด่นประดับวงการไปแล้ว แต่ติดที่เธอเป็นแค่เอเจนซี่โนเนมรู้จักกันเพียงในวงการเสี่ยเท่านั้น เลยทำอะไรอย่างที่คิดไม่ได้
“นิลินก็หวังให้เป็นแบบนั้นค่ะ หวังว่าเขาจะรักและเอ็นดูนิลิน ไม่ทำร้ายจิตใจกันเหมือนคนที่นิลินจากมา”
พูดขณะที่นึกถึงใบหน้าของบิดา แต่อีกฝ่ายเข้าใจว่าเป็นเสี่ยคนล่าสุดที่ไม่ยอมปล่อยเธอ
“ไม่ได้สิคะน้องนิลิน การเป็นเด็กของเสี่ยเราต้องทำใจเผื่อไว้มากๆ ถ้าไม่อยากเจ็บก็ห้ามเป็นฝ่ายตกหลุมรักเสี่ยเสียเอง ไม่อย่างนั้นจะเป็นเราเองที่เจ็บนะคะ”วาววาแนะด้วยความหวังดี
“ค่ะนิลินเข้าใจแล้วค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น สรุปว่าน้องนิลินรับงานใช่ไหมคะ พี่จะได้คอนเฟิร์มกับลูกค้าไป”
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มคลายกังวลลงได้บ้างแล้ววาววาก็เอ่ยถามด้วยอาการตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด เพราะลูกค้าวีไอพีท่านนี้จ่ายค่านายหน้าหนักเอาการ หรือถ้าจะพูดให้ถูกตั้งแต่เธอเคยทำงานนี้มาไม่เคยมีเสี่ยคนไหนทุ่มหนักขนาดนี้มาก่อน สงสัยรายนี้กระเป๋าหนักน่าดู
“ค่ะ นิลินจะรับงานนี้”
เมื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้วก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องเสียใจ!
วาววากระตุกยิ้มพอใจกับคำตอบเด็ดเดี่ยวของอีฝ่าย ก่อนจะรีบต่อสายคอนเฟิร์มไปยังลูกค้าวีไอพีในทันที หลังจากคุยข้อตกลงกันเรียบร้อยแล้ววาววาก็หันมาบอกกับหญิงสาว
“พรุ่งนี้เสี่ยจะส่งคนมารับหนูที่นี่ตอนสิบโมงเช้านะคะ น้องนิลินเตรียมกระเป๋าไว้ได้เลย”
“ค่ะ ว่าแต่พี่วาววาพอจะมีรูปหรือวีดีโอของเสี่ยให้ดูไหมคะ หนูจะกลับไปนอนทำใจก่อนสักคืน”
เมื่อคิดถึงเสี่ยร่างท้วม ตาตี่ พุงย้อยแล้วหญิงสาวก็รู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกและยิ่งคิดถึงตอนที่ต้องทำตัวแนบชิดออดอ้อนด้วยแล้วก็ยิ่งขยาด ไม่รู้ว่าเธอคิดถูกหรือผิดกันแน่ที่เลือกประชดบิดาด้วยวิธีนี้
“ไม่มีหรอกค่ะน้องนิลิน เสี่ยคนนี้เขาไม่ยอมบอกรายละเอียดอะไรกับพี่เลย รู้แต่ว่าเขารวยมากกกกกก….ค่ะ”
วาววาตอบก่อนที่ตอนท้ายจะลากเสียงยาวคำว่ารวยมาก!
“หวังว่าตัวจริงจะไม่น่าเกลียดจนเกินไปนะคะ ไม่งั้นนิลินคงต้องขอยกเลิกสัญญา”
“ยกเลิกสัญญา! น้องนิลินยกเลิกสัญญาไม่ได้ค่ะ เพราะถ้าน้องนิลินยกเลิกต้องเสียค่าปรับเป็นแสนเลยนะคะ”
“เสียค่าปรับเป็นแสน!”
หญิงสาวทำตาโตด้วยความตกใจ ปกติเงินแสนไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอ แต่ตอนนี้การเงินเธอกำลังไม่ปกติ เพราะบิดาของเธอสั่งระงับเอทีเอ็มและบัตรเครดิตทุกใบเพื่อบีบให้เธอกลับบ้าน เพราะฉะนั้นอย่าว่าแต่เงินแสนเลย แค่หลักพันที่เธอจะหาที่ซุกหัวนอนในโรงแรมสักคืนยังยากเลย
“ใช่ค่ะ หนึ่งแสนกับการยกเลิกสัญญา”
“แต่นิลันยังไม่ได้เซ็นข้อตกลงอะไรเลยนะคะ”
“จะเซ็นหรือไม่เซ็นก็ต้องเสียค่ะ เพราะมันเป็นข้อตกลงเบื้องต้น น้องนิลินก็ทราบนี่คะว่าถ้าเราผิดคำพูดกับเสี่ยอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ใช่แค่น้องนิลินที่เดือดร้อนนะคะ พี่เองก็จะถูกหางเลขไปด้วยค่ะ”
เมื่อคิดถึงกลุ่มชายฉกรรจ์ชุดดำนับสิบ เหน็บปืนไว้ที่เอว วาววาก็รู้สึกเข่าอ่อน ได้แต่ภาวนาให้สาวเจ้าไม่ยกเลิกสัญญา
“ถ้างั้นนิลินไม่เปลี่ยนใจก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้สิบโมงจะมาตามนัดนะคะ”
หญิงสาวให้สัญญาก่อนจะหมุนตัวออกจากห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ เพื่อกลับไปยังที่พัก ส่งผลให้วาววาต้องถอนหายใจโล่งอกในทันที