ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายโหลวซีห่าวก็รีบขัดขึ้น
“มือปราบเหลย ท่านเองก็ขยันขันแข็งดีจริง มาตรวจท้องที่แต่เช้าตรู่”
เหลยเจียหลุนผู้เคร่งครัดหันไปหานายอำเภอหนุ่มรูปงาม “ข้าพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดขอรับ ไม่เหมือนมือปราบบางจำพวกเอะอะก็ลงมือรุนแรง หลายครั้งแล้วที่คนกระทำความผิดไม่มีอาวุธแต่กลับต้องบาดเจ็บจนเลือดตกยางออก”
สวีเสี่ยวถง ทำหน้าไม่ใส่ใจ ปล่อยให้โหลวซีห่าวยกมือขึ้นทั้งสองข้าง
“เอาล่ะๆ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ข้าจะสืบเสาะให้ถึงที่สุดก็แล้วกัน”
หญิงสาวในชุดมือปราบส่ายหน้าน้อยๆ นางเดินเข้าไปในตลาดโดยไม่สนว่านายอำเภอกับหัวหน้ามือปราบหน่วยที่สองจะอยู่หรือจะไป
เหยาอิงหมิงยิ้มขำแล้วยกมือขึ้นแสดงความเคารพเหลยเจียหลุนและนายอำเภอก่อนจะตามลูกพี่ของตนไป เมื่อตรวจตราจนรอบตลาดแล้ว นางก็เดินอ้อมไปด้านขวาซึ่งเป็นถนนที่มือปราบเหลยเพิ่งเดินตรวจตราผ่านมา
“เจ้ายังจะไปตรวจที่ใดอีก?” โหลวซีห่าวที่ไม่ได้นำผู้ติดตามมาด้วยรีบเดินหานาง เมื่อเห็นสวีเสี่ยวถงกำลังหันเหไปถนนอีกสายก็ทำหน้างุนงง
“ข้ากับเหลยเจียหลุนต้องเดินวนตรวจคนละรอบ เพราะช่วงเช้าเช่นนี้มักมีเรื่องเกิดขึ้นทุกวัน ท่านก็เห็นว่าอำเภอนี้มีถนนหลักอยู่สองสาย และถนนสายรองอีกสองสาย ตรวจในอำเภอแล้วก็ออกไปตรวจรอบนอก”
โหลวซีห่าวเดินแทบจะไม่ทันนางเพราะสวีเสี่ยวถงถือว่าเป็นคนเดินเร็ว
“ปล่อยข้า! ปล่อยข้าเถอะ! เจ้าอยากได้อะไรก็หยิบเอาไปเลย!” เสียงละล่ำละลักของเถ้าแก่ร้านขายเครื่องประดับร้องเอะอะ
มือปราบหญิงวิ่งนำหน้าไปอย่างเร็วรี่โดยมีเหยาอิงหมิงตามไปติดๆ คนร้ายใช้มีดสั้นจี้คอเถ้าแก่ชายวัยกลางคนเอาไว้ มีเลือดซึมออกมาตรงคอเล็กน้อย สายตาของคนร้ายดูเหมือนจะไม่มีท่าทีหวาดกลัวมือปราบที่ยืนจังก้าถึงสองคนเบื้องหน้า
“เจ้าสินะ! มือปราบสวี มือปราบหญิงคนดังของเชียนเยา”
“อืม....นับว่าฉลาดเหมือนกันที่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามข้า”
คนถือมีดสั้นในมือแสยะยิ้ม อีกมือบีบต้นแขนเถ้าแก่ที่หน้าซีดปากสั่นเอาไว้แน่น “ข้าคิดจะเอาของมีค่าและเถ้าแก่ผู้นี้เป็นตัวประกันหนีไปนอกเมือง ดูสิว่าเจ้าจะทำอย่างไรได้?”
“เก็บของมีค่าให้เขาเร็วเข้าสิ!” เถ้าแก่ที่หวาดกลัวจนลมแทบจับรีบหันไปสั่งหลงจู๊ที่อยู่หมอบอยู่หลังโต๊ะ
“ดะ ได้ ขอรับ!” หลงจู๊ผู้นั้นรีบลุกขึ้นกวาดเอาของมีค่าที่วางเรียงรายอยู่ในถาดใส่ห่อผ้าแล้วยื่นให้คนร้ายทันที
สวีเสี่ยวถงยกยิ้มมุมปาก “เจ้าคิดว่าตนเองจะสามารถหนีจากเงื้อมมือข้าได้อย่างนั้นหรือ?”
คนร้ายไม่ได้ตอบ เขามัวแต่หันไปมองห่อของมีค่าในมือหลงจู๊แล้วปล่อยมือที่บีบต้นแขนของเถ้าแก่เพื่อไปคว้าเอาห่อผ้านั้นมาสะพาย สวีเสี่ยวถงถอยหลังออกจากร้านมายืนรอด้านหน้า ผู้คนมุงดูกันด้วยความสยดสยอง
“เอาสิ! ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่าเจ้าจะหนีไปได้อย่างไร?”
โหลวซีห่าวที่ตามมายืนอยู่ข้างหลัง มองแล้วลุ้นด้วยใจระทึก เมื่อคนร้ายผลักให้เถ้าแก่ที่ขาเริ่มอ่อนเดินออกมาทั้งๆ ที่มีดสั้นขนาดยาวครึ่งแขนยังทาบอยู่ที่ลำคอ บาดแผลที่เกิดจากการขยับไปมาจนคมมีดโดนผิวที่คอจนเลือดเริ่มไหล ทำให้ผู้คนต่างพากันพูดขอร้องให้คนร้ายปล่อยเถ้าแก่ไปเสีย
“มือปราบสวี ข้าต้องการรถม้า!”
สวีเสี่ยวถงหัวเราะหึๆ “เจ้าคิดว่า ข้าจะทำตามที่เจ้าขอหรือ?”
“หรือว่าเจ้าอยากเห็นเถ้าแก่ผู้นี้ถูกเชือดคอล่ะ? เลือกเอาก็แล้วกัน”
“ข้าว่า...ข้าจะให้เถ้าแก่ยังมีชีวิตแต่เจ้าต้องถูกหักแขนหักขา โทษฐานที่ท้าทายข้า” นางพุ่งเข้าไปทั้งๆ ที่ยังพูดไม่จบประโยค
สวีเสี่ยวถงกำข้อมือคนร้ายอย่างแม่นยำแล้วกระชากออกอย่างแรง เท้าหนึ่งถีบบั้นเอวของเถ้าแก่จนกระเด็นล้มไปข้างหน้า ทว่ายังไม่ทันจะหน้าคะมำเหยาอิงหมิงก็เข้ามารับไว้เสียก่อน คนร้ายที่ถูกกระชากข้อมือร้องอ๊ากจนเสียงดังไปทั่วทั้งถนน มีดสั้นถูกปล่อยให้หล่นลงพื้น มือปราบหญิงตวัดเท้าที่ถีบเถ้าแก่กลับมางอเข่าแล้วดึงเอาร่างคนร้ายลงกระแทก หน้าอกของคนผู้นั้นชนเข้ากับหัวเข่าของนางอย่างจัง
“อั่ก! อ๊าก.....!!!” ร่างนั้นล้มลงโดยใช้แขนรองพื้นเอาไว้ ลิ่มเลือดทะลักออกจากปากของเขาทันที
มือปราบหญิงที่ปล่อยมือแล้วเหยียบเท้าลงบนข้อพับขาด้านหลังแล้วดึงขาคนผู้นั้นขึ้นก่อนจะบิดพับลงด้านข้าง
“อ๊าก.....!!!!” เสียงร้องอย่างทุกข์ทรมานนั้นทำเอาชาวบ้านผงะตาค้าง
“หนีสิ! ไหนลองหนีให้ข้าดูหน่อย! เจ้าข้อมือหักและขาข้างหนึ่งหัก ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะหนีไปได้สักกี่น้ำ เอ๊? หรือว่าหักขาเจ้าอีกข้างหนึ่งดี?”
“มะ มะ ไม่! ข้าไม่กล้าหนีแล้ว”
“หลงจู๊มาเก็บของมีค่าของร้านเจ้าคืนไป” นางหันไปร้องเรียกหลงจู๊ที่ยืนอยู่ตรงประตูร้าน ไม่กล้าเดินออกมาข้างหน้า คนผู้นั้นก็รีบวิ่งมาเก็บห่อผ้าคืนไป
โหลวซีห่าวตาค้าง เขาไม่เคยคิดว่านางจะจัดการกับคนร้ายได้อย่างไร้ปราณีเช่นนี้ แม้นางจะจับคนตรงหน้าโดยหักแค่ข้อมือก็ได้แต่นางกลับหักขาซ้ำ
“พอๆ มือปราบสวี เจ้าพอเถิด!”
เถ้าแก่ร้านเครื่องประดับหันมาได้ก็รีบยกมือคารวะกล่าวสรรเสริญและขอบคุณมือปราบหญิงอยู่ไม่ขาดปาก
“เถ้าแก่ ท่านรีบไปโรงหมอเถอะ บาดแผลท่านไม่น้อยเลยนะ” ครั้นถูกทักชายวัยกลางคนก็ยกมือลูบตรงคอตนเอง เมื่อเห็นเลือดติดมือมาจำนวนมากก็ตกใจจนสิ้นสติไป
ความโกลาหลจึงเริ่มต้นขึ้น โหลวซีห่าวรีบบอกให้คนให้ร้านช่วยกันอุ้มเถ้าแก่ไปโรงหมอ ส่วนสวีเสี่ยวถงก็บอกให้คนเรียกรถม้ามาแล้วให้เหยาอิงหมิงควบคุมตัวคนร้ายขึ้นรถม้ากลับที่ว่าการอำเภอ
“ใต้เท้าโหลว เพิ่งจะมาถึงอำเภอเชียนเยาก็ออกมาดูแลราษฏรแล้ว ช่างเป็นนายอำเภอที่ดีเสียจริงเจ้าค่ะ” เสียงหวานใสดังขึ้นข้างหลัง
โหลวซีห่าวหันไปก็พบหญิงสาวในชุดสีกลีบบัวงดงาม ใบหน้าขาวผุดผ่องกระจ่างใส ข้างหลังของนางมีหญิงรับใช้อีกสองคน นายอำเภอรูปงามขมวดคิ้ว เขาไม่เคยพบนางมาก่อน เหตุใดนางจึงเรียกขานเขาได้ถูกต้อง?
“ข้าน้อย ต้วนจินเซี่ย บุตรีของปลัดอำเภอต้วนฮ่วนปิ่งเจ้าค่ะ ท่านพ่อเล่าเรื่องของใต้เท้าให้ข้าน้อยฟังเมื่อเช้านี่เอง ไม่คิดว่าจะได้พบกันเร็วเช่นนี้” สายตาของหญิงสาวตรงหน้าฉายแววชื่นชมอย่างเปิดเผย
นายอำเภอหนุ่มยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยแนะนำตนเองตามมารยาท “ข้าโหลวซีห่าว ยินดีที่ได้พบท่าน คุณหนูต้วน”
สวีเสี่ยวถงเบะปาก “เชิญใต้เท้าโหลวสนทนากับคุณหนูต้วนตามสบาย ข้าน้อยต้องไปตรวจท้องที่ต่อ”
โหลวซีห่าวชักสีหน้า เขาถูกมือปราบหญิงจอมหยาบคายค่อนแคะเข้าให้แล้ว ชายหนุ่มจึงหันไปอำลาต้วนจินเซี่ยอย่างมีมารยาท “คุณหนูข้าคงต้องขอตัว ตอนนี้อยู่ในระหว่างการตรวจท้องที่ โอกาสหน้าพบกันใหม่”
****************************