ตอนที่ 3

1636 Words
3 “จะสะบัดสะบิ้งทำไม” แขนแกร่งโอบรัดรอบร่างเล็กที่ขยุกขยิกอยู่ไม่นิ่ง จากตอนแรกที่บอกว่าไม่สนใจ แต่เมื่อถูกท้าทายด้วยการไม่สนใจก็ยิ่งทำให้เขาอยากสั่งสอนให้รู้สำนึก! มาล้อเล่นกับความรู้สึกของเขาแล้วควรจะต้องเจออะไร ‘แค่...นิดๆ หน่อยๆ ยังไงก็เคยผ่านสมรภูมิมาแล้ว ยังไงก็ไม่สึกไม่หรอ ก่อนจากกันเขาค่อยให้เงินสักก้อนเป็นค่าทำขวัญ ขี้คร้านจะพอใจละไม่ว่า’ ไม่ใช่จะดูถูกเพศที่ให้กำเนิด แต่ผู้หญิงที่พาตัวเข้ามาใกล้ชิดเขาส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่หวังในทรัพย์สินเงินทอง มากกว่าความรู้สึกของกันและกัน แม้กระทั่งคนที่มีสามีแล้วก็ยังยอมเอาเรือนร่างเข้าแลกเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ โดยไม่สนใจผลที่ตามมา แล้วกับผู้หญิงที่มากับคนที่อายุมากกว่ารอบแบบนี้ ไม่ให้เขาคิดว่าเธอเป็นพวกไล่จับผู้ชายรวยๆ จะให้เชื่อว่าเธอรักกับตาอ้วนพุงพลุ้ยนั่นจริงหรือไง  “นี่คุณ! ขอบคุณที่ช่วยไม่ให้ล้มและเก็บของให้ ตอนนี้ช่วยปล่อยฉันด้วยค่ะ” จากตอนแรกเอ่ยเป็นภาษาไทย แต่เพราะนึกได้ว่าอยู่ที่ไหน มธุรสจึงรีบเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษที่พ่วงด้วยความไม่พอใจ แต่... ‘จะมองหาพระแสงอะไรนี่...จ้องอยู่ได้’ สายตาคมกริบราวกับจะซอกซอนไปให้ลึกไปสุดซอกหัวใจทำเอามธุรสถึงกับร้อนผ่าวไปทั้งแก้มที่คิดว่าคงแดงระเรื่อราวกับดอกไม้แรกแย้มบาน หัวใจเต้นเป็นจังหวะจนน่ากลัวเมื่อได้อยู่ในอ้อมแขนแกร่งของชายที่มีเสน่ห์เหลือล้น จนต้องรีบเร่งรุดจับแขนล่ำสันดันออกช้าๆ “ขอโทษค่ะคุณ ช่วยปล่อยฉันด้วยค่ะ” ทาบมือบนแขนกำยำ ทั้งผลักทั้งดันและเบี่ยงกายออกแต่ดูเหมือนจะยิ่งจมหายกายอรชรแนบชิดอกกว้าง จนเธอรับรู้ถึงความแข็งกระด้างของกล้ามเนื้อ ตอนแรกเป็นห่วงกลัวคุณป๋าเดินตามมาเห็นเข้า คนใจดีที่ช่วยจะเดือดร้อน เพราะความหวงเกินเหตุไปนิดหนึ่งของภาวัติ แต่มาตอนนี้คิดว่าเธอกำลังเจอดี ดวงตากลมโตเริ่มเปล่งแสงระเรื่อทีละน้อย “ปล่อยฉันดีกว่าคุณ” ข่มกัดฟันพูดเสียงลอดไรฟันด้วยขุ่นเคืองใจกับมารยาทอันเลวทรามที่ได้รับ ทว่านอกจากจะไม่ถูกปล่อยตัว ฝ่ามือหนายังลูบไล้แผ่นหลังกว้างก่อเกิดความร้อน พร้อมหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ ‘บ้าจริง!’ เขาว่าฝรั่งไม่ถือเนื้อถือตัว การแตะเนื้อต้องตัว กอดจูบกันในที่สาธารณะไม่ใช่เรื่องผิดแปลก สังคมที่แตกต่างเป็นเรื่องธรรมดาซึ่งเธอเข้าใจดี เขาคงไม่ตั้งใจ แต่เป็นอย่างนี้...เธอคงเข้าใจผิดเสียแล้วล่ะ ไอ้ฝรั่งร่างยักษ์ใช้ความได้เปรียบทางด้านร่างกาย ฉวยโอกาสลวนลามเธอหน้าด้านๆ “ถ้าฉันไม่ปล่อยล่ะ” ถามพลางยิ้มใส่ดวงตากลมโตสุกใสที่ฉายแววสีเพลิง ความโกรธพุ่งขึ้นดั่งเธอก้าวขึ้นไปยืนอยู่บนปล่องภูเขาไฟแต่ต้องกัดฟันข่มใจเอาไว้ก่อน เมื่อรู้ว่าตัวเองเสียเปรียบ “แล้วคุณจะเอายังไงกับฉัน!” แม้โกรธจนหน้าแดง แต่เสียงของเธอก็ยังกังวานหวานใส จนอยากได้ยินซ้ำหลายครั้ง เขาเลยโปรยเสน่ห์ด้วยรอยยิ้มทั้งปากและดวงตา ฝ่ามือหนานวดคลึงไต่ไล่บนแผ่นหลังบางอย่างแผ่วเบา เมื่อหญิงสาวขัดขืนเขาก็โอบกระชับรัดร่างเพรียวบางแนบชิด จนรับรู้ถึงกล้ามเนื้อที่ไหวกระเพื่อม ใบหน้าแกร่งโน้มลงไปบนแก้มนุ่ม “อืม...หอม” มธุรสข่มกลั้นความโกรธกรุ่นไว้ภายใน ด้วยเทียบกันด้านรูปร่าง ลางแพ้ของเธอลอยมาแต่ไกล แต่ก็ยังไม่ละความพยายามทำให้ตัวเองหลุดออกจากคีมเหล็กที่รัดแน่นจนหายใจติดขัด  ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อจอมฉวยโอกาสดึงรั้งชายเสื้อที่หลุดลุ่ยอยู่ออกจากขอบกางเกง สอดแทรกปลายนิ้วยาวร้อนผ่าวล่วงล้ำเข้าไปลูบไล้ผิวเนื้อนวลเนียนนุ่ม กายสาวสั่นสะท้านไหววูบจากสัมผัสที่ร้อนผ่าวซึ่งไม่เคยจะพานพบเจอ “ปล่อยฉันดีกว่านะคุณ!” ข่มกัดฟันบอกเสียงขุ่น ดวงตาเขียวปั้ด แก้มนุ่มใสแดงปลั่งด้วยเพลิงอารมณ์โทสะที่พุ่งลิ่วเหมือนกับลูกโป่งลอยขึ้นฟ้า ควันแทบออกจากใบหู เมื่อชายหนุ่มไม่ยอมทำตามคำสั่ง มิหนำซ้ำยังยิ้มตาวาว วาดมือลากไล้เคลื่อนไหวหนักขึ้น ไหนจะหมวกใบโปรดที่คนเก็บได้ไม่คิดมอบคืน ปล่อยให้ลอยปลิวไปตามกระแสลมแรงและค้างอยู่บนต้นไม้ที่เธอเก็บไม่ถึง “คุณ...!!” “โอ๊ะโอ...มือไวไปหน่อยมั้งสาวน้อย” ดวงตาเข้มเป็นประกาย ขณะจับมือนุ่มนิ่มเอาไว้และบีบกระชับเบาๆ ก่อนนำมาแนบที่ริมฝีปากซึ่งคลี่ยิ้ม “รู้ไหมคนที่คิดทำร้ายฉันจะต้องเจอกับอะไร” แนบจมูกโด่งคลอเคลียแก้มใสซับสีเลือดฝาดอย่างไม่สนใจอาการขัดขืนเบือนหน้าหนีของสาวเจ้า แล้วยังขบเม้มจูบซับเรื่อยไปจนถึงปากอิ่ม “ตัวเธอหอมจัง” กลิ่นกายก็หอมจรุงใจจนอยากสูดดมให้ชุ่มฉ่ำใจ หลังนิ้วไกล่เกลี่ยร่องแก้ม “จนฉันอดใจไม่ไหว ขอจูบหน่อยนะ” ทั้งที่รอบกายเขามีผู้หญิงเสนอตัวมาให้ลิ้มลองมากมาย แต่ทำไมถึงได้มาติดใจผู้หญิงที่วิ่งเข้ามาในอ้อมกอดคนนี้นักก็ไม่รู้ ชักแปลกใจตัวเองเสียแล้วสิ... แต่ก็ไม่แปลกด้วยแม่เนื้อนุ่ม ช่างน่ารักน่าใคร่ แก้มใสเป็นสีชมพูระเรื่อด้วยเลือดฝาดสาวไล่ลงไปถึงลำคอระหง ดวงตายามโกรธจัดเหมือนดวงตาแมวสะท้อนกับแสงไฟชวนมอง รูปกายอรชรอ้อนแอ้นที่น่ากลัวจะปลิวจนหาไม่เจอหากเจอลมพัดแรง แต่พอแตะต้องจริงๆ กลับรับรู้ถึงส่วนเว้าส่วนโค้งเต็มไม้เต็มมือ กลิ่นกายเธอหอมจรุงใจที่เพียงสัมผัสแนบชิด กายแกร่งก็สำแดงเดชแห่งความปรารถนาขึ้นมาอย่างฉับพลัน เลือดในกายเดือดพล่านราวกับลาวาใต้พื้นดินจนแทบกักเก็บเอาไว้ไม่ได้ แต่ถึงทำได้เขาก็ไม่อยากทำอยู่ดีนั่นแหละ ด้วยใคร่อยากลิ้มรสปากอิ่มจะนุ่มหวานสักเพียงใด แวบหนึ่งรอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนมุมปากหนา ในดวงตาคมเข้มกลับเฉยเมย เมื่อเขาอยากได้ แล้วจะรออะไรเล่า... ไม่ทันได้ตั้งตัวห้าม ไอ้คนฉวยโอกาสจับรั้งปลายคางให้หน้านวลแหงนขึ้น และฉกปากร้อนลงมาบนเรียวปากอวบอิ่มนุ่มอย่างรวดเร็ว ราวกับจะช็อตเธอด้วยไฟหมื่นโวลต์ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หัวใจสั่นไหววูบราวกับเรือลำน้อยที่ลอยล่องอยู่ในนที เจอกับคลื่นพายุลมแรงโหมกระหน่ำพัดจนสั่นสะท้านไหวไปทั่วทั้งร่าง ความอ่อนเยาว์ไร้เดียงสาทำให้รับมือกับความช่ำชองไม่ได้ กลายเป็นโอกาสให้ถูกเอาเปรียบโดยโต้ตอบไม่ได้ “อือ...” อยากห้ามปรามแต่มธุรสก็ทำได้เพียงแค่เปล่งเสียงกระอึกกระอักออกมา มือเล็กระดมทุบไปบนกายแกร่งแรงๆ ก็เหมือนทุบหิน ด้วยชายหนุ่มไม่แม้แต่จะขยับเขยื้อนและเธอก็เจ็บมือด้วย ‘อืม...หวานจริงๆ หวานกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก’ ชายหนุ่มร้องครางในลำคอเมื่อได้ลิ้มรสหวานปานน้ำค้างเกาะอยู่บนปลายยอดหญ้า ปากหนาบดคลึงพลางเม้มกัดปากบนล่าง สลับกับซอกซอนเรียวลิ้นไปเที่ยวท่องในโพรงปากนุ่ม กวาดไล้ไปถ้วนทั่วเกี่ยวกระหวัดพลิกพลิ้วกับปลายลิ้นเล็กนุ่มที่พยายามขับไล่ผลักไสสิ่งแปลกปลอมออกไป “อือ...อื้อ...” เบี่ยงศีรษะหนีแต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อมือใหญ่ลูบไล้จากแผ่นหลังเคลื่อนขึ้นมาจับรั้งท้ายทอยให้รองรับจุมพิตหวานแผดร้อนแผดเผาอารมณ์ ทำเอาสาวน้อยไม่ประสาถึงกับตัวอ่อนระทวยกลายเป็นขี้ผึ้งถูกลนไฟ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นมธุรสก็ไม่คิดยอมแพ้ ให้ถูกลวนลามง่ายๆ ยังต่อต้านและขัดขืนอย่างสุดความสามารถ ทว่าไฟร้อนผ่าวที่ลามเลียเผาไหม้เรือนกายอยู่ทำให้กายสั่นสะท้าน สองขาสั่นเทาและอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ประกายในดวงตาคมกริบไหวระริกอย่างพึงพอใจ สอดแทรกมือลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียนนุ่ม เคลื่อนลงไปขยำนวดบั้นท้ายกลมกลึงแผ่วเบาสลับหนักหน่วง ลากย้อนกลับขึ้นลากไล้ไปตามสีข้าง หน้าท้องแบนราบเรียบไร้ไขมันส่วนเกินเรื่อยไปจนได้พบเจอกับทรวงอกกลมกลึง ที่เมื่อแรกเห็นคิดว่าเล็กกะทัดรัด ทว่าพอได้จับต้องเข้าจริงๆ กลับอวบอัดและเต็มไม้เต็มมือที่ตอบสนองอย่างดีด้วยสิ “อ๊ะ...” ขนตายาวงอนไม่กระดิก ดวงตาเบิกกว้าง สติและอาการขัดขืนต่อต้านเริ่มจางหายจากพิษเพลิงไฟที่นำเอาความเสียวซ่านวาบหวามไหลพล่านปั่นป่วนในช่องท้อง แรงบดเบียดเว้าวอนเรียกร้องให้ตอบสนอง ด้วยความไม่ประสาก็ทำให้มธุรสเผลอตัวจูบตอบอย่างกล้าๆ กลัวๆ นิ้วยาวเรียวทาบบนอกกว้าง เผลอขยำดึงทึ้งเสื้อผ้า พร้อมศีรษะทุยแหงนหงายไปด้านหลัง ใจอยากขัดขืนแต่ร่างกายกลับโอนอ่อนตามเพลิงไฟร้ายที่เหมือนจะเผากายให้มอดไหม้ มธุรสรู้สึกเหมือนตัวเองก้าวลงไปเล่นในคุ้งน้ำวน ที่ดูดเอาร่างกายให้ค่อยๆ จมลงไปทีละน้อย ลึกลงไป...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD