กึก!
“ไม่เจอกันนานเลยนะ เดี๋ยวนี้วิ่งตามผู้ชายเลยเหรอ หึ!” หากหญิงสาวได้ยินคำทักทายเชิงเสียดสีจากคนอื่นที่ไม่ใช่หญิงสาวสวยตรงหน้า เธอคงไม่หยุดนิ่งแบบนี้ แต่ทว่า
“กี่ปีแล้วนะ 6 ปีแล้วหรือเปล่า…เพื่อนรัก” ดวงตาคู่สวยไหววูบเมื่อได้ยินคำว่าเพื่อนรักจากปากผู้หญิงตรงหน้า ชิลล์นิ่งมองใบหน้าของเพื่อนเก่า เธอกำลังข่มใจไว้ ข่มใจไม่ให้ทำอะไรบางอย่างออกไป แต่แล้ว
พรึ่บ!
“ถ้าคิดจะทำอะไรต่ำ ๆ แล้วล่ะก็…” เพื่อนของหญิงสาวก็ได้เดินเข้ามาแทรกกลางระหว่างคนทั้งสอง
“แอน…”
“ชิลล์ทำไมถอยออกไปอย่างนั้น ฉันบอกว่ายังไงจำได้ไหม!” แอนหันหลังก่อนจะเอ่ยปากพูดเพื่อเตือนสติของหญิงสาว ขณะที่ผู้มาใหม่ยิ้มเยาะชอบใจที่เห็นปฏิกิริยาอีกฝ่าย
“ฉัน…” หญิงสาวพูดไม่ออกในทันที เธอเหมือนกับถูกดึงตัวตนออกไปเหมือนกับถูกดูดวิญญาณเมื่อเจอคู่อริเก่า
“ออกไปรอข้างนอก…”
“ฉันออกไปไม่ได้ แกก็รู้”
“ชิลล์!!”
“กลัวเหรอจ๊ะ…ข่าวลือของแกก็เป็นจริงสิ รู้อย่างงี้แล้ว สะใจเป็นบ้า!” หญิงสาวผู้มาใหม่กระตุกยิ้มก่อนจะเชิดใบหน้าขึ้นยิ้มเยาะอย่างคนชนะ
“ออกไปหาผู้ชายคนนั้นของแกไง เดี๋ยวโทรหา” แอนพูดพร้อมกับจับหัวไหล่ของเพื่อนเธอหมุนกลับไปทางเดิม แต่แล้ว
“ไม่ ฉันไม่ทิ้งแกไว้หรอก เรากลับออกไปพร้อมกันนะ” ชิลล์หมุนตัวกลับมาทันที พร้อมกับคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กของเพื่อนเธอ เธอไม่ปล่อยให้เพื่อนเธออยู่กับผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นหรอก ซึ่งมันทำให้อีกฝ่ายยิ้มกว้างออกมาเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“อะไรกัน จะวิ่งหนีหางจุกตูดกันเลยเหรอ ฉันยังไม่ทำอะไรเลยนะ” หญิงสาวผู้มาใหม่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันเมื่อเห็นว่าทั้งคู่กำลังจะเดินจูงมือกันออกไป
“อย่าสนใจเลย เรื่องมันผ่านมานานแล้ว ฉันไม่อะไรแล้วนะแอน อย่ายุ่งกับคนแบบนั้นเลย” ชิลล์เอ่ยปากปรามเพื่อนของเธอเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะหมุนตัวหันกลับไปเอาเรื่องของเธอคนนั้น
“คนแบบนั้นมันเป็นคนแบบไหนกันนะ คนที่ถูกเพื่อนรักหักหลังหรือเปล่า!” หญิงสาวผู้มาใหม่ตวาดเสียงดังลั่นเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาของเธอ ในขณะที่หญิงสาวทั้งคู่ได้ก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เสียงเพลงดังกระหึ่มภายในตัวคลับ และเสียงของผู้คนมากมายที่ตะโกนคุยกัน มันเหมือนกับถูกปิดเสียงไว้ หญิงสาวเดินจูงมือเพื่อนเธอออกไปข้างนอกผับ เธอแทบไม่ได้ยินเสียงสิ่งแวดล้อมภายนอกเลยสักนิด
“โอเคไหมชิลล์ ฉันไม่คิดเลยว่าจะเจอยัยนั่นที่นี่” ในขณะที่ทั้งสองเดินมาหยุดที่หน้าคลับ แอนได้เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเพื่อนของเธอ
“_” หญิงสาวนิ่งเงียบในสมองของเธอเหมือนกำลังจัดเซตเรื่องราวในอดีตที่เธอเคยเจอ และมันทำให้เธอไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้
“ชิลล์!!” แอนจับยึดหัวไหล่ทั้งสองข้างของเพื่อนเธอพร้อมกับเขย่าแรง ๆ เพื่อเรียกสติของอีกฝ่าย
“อืม ได้ยิน” ชิลล์ตอบออกไปอย่างคนเหม่อลอย สายตาของเธอหลุบต่ำไปที่พื้นเมื่อไม่สามารถมองออกไปรอบตัวได้ บรรยากาศภายนอกที่มืดสนิททำให้เธอกลัวจับใจ
“กลับกันนะ” แอนที่เห็นสายตาเพื่อนเธอก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง เธอเอื้อมมือไปจับมือเล็ก ๆ นั้น ก่อนจะเดินจูงไปเหมือนกับเป็นคนบอกทาง ขณะที่หญิงสาวยิ้มออกมาบาง ๆ เมื่อนึกขึ้นได้อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ยังมีเพื่อนที่น่ารักแบบนี้
หญิงสาวสวยทั้งสองเดินขึ้นรถอย่างช้า ๆ ท่ามกลางความมืดสนิท โดยไม่รู้เลยว่ามีหญิงสาวที่พวกเธอได้พบเมื่อสักครู่ยืนมองอยู่ เธอยกยิ้มที่มุมปากออกมาเมื่อเห็นพฤติกรรมของหญิงสาวคนนั้น และเธอก็ได้เอ่ยพูดความรู้สึกของเธอที่ได้เห็นอย่างนั้นออกมา
“หึ เห็นแล้วโคตรสะใจ!”
@The best Condo [01.00 น.]
ติ๊ดด~
เสียงกดออดเรียกคนภายในห้องดังขึ้น หลังจากที่ยืนชั่งใจอยู่นานว่าจะเล่าเรื่องที่ไปเจอมาให้พี่ชายฟังดีไหม บางทีเขาอาจจะปลอบใจเธอให้นอนหลับได้เหมือนในอดีต
แกร็ก~
แอ๊ดด~
“ชิลล์! มีอะไร หรือว่าผึ้งเป็นอะไร!” แต่มันกลับไม่ได้เป็นเหมือนที่เธอคิด ทันทีที่พี่ชายเธอเปิดประตูห้องออก คำทักทายแรกที่เขาเอ่ยถามถึงคือเมียเขา มันทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าเธอไม่ใช่คนสำคัญของเขาแล้ว
“ไม่มีอะไร มาดูเฉย ๆ ว่าย้ายมาอยู่จริงหรือเปล่า” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องที่จะพูดทันที เมื่อนึกได้ว่าเรื่องที่เธอจะพูดมันดูไร้สาระมากในตอนนี้
“ก็เออน่ะสิ ทำไมจะด่าอะไรก็รีบด่ามา ง่วง” ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหล่าพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิดใจเมื่อน้องสาวของเขามากดออดเรียกตอนตีหนึ่ง แต่พอนึกถึงเวลามันทำให้เขาหันกลับมามองเธออีกครั้ง
“มีอะไรหรือเปล่า ออกมาตอนนี้ไม่กลัวหรือไง” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับก้าวเดินมาข้างหน้าเพื่อฟังคำตอบจากน้องสาวเขา
“ไม่กลัวแล้ว ฉันโตแล้วนะ!” หญิงสาวโกหกออกไปก่อนจะทำหน้าทำตาเหมือนกับว่าเธอได้โตแล้ว
“แล้วไป นึกว่าแอบออกไปข้างนอกตอนกลางคืนแล้วไปเจออะไรไม่ดีมา ซะอีก” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเดินถอยหลังกลับไปภายในห้องตัวเองเหมือนเคย ขณะที่หญิงสาวยักไหล่ขึ้นเหมือนจะบอกว่าใครจะบ้าออกไปในตอนนี้
“ไปละ” ชิลล์หมุนตัวกลับเข้าไปที่ห้องของพี่สะใภ้เธอทันที หัวใจดวงน้อยรู้สึกหว้าเหว่อย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวเดินเข้าไปในอีกห้องหนึ่ง ก่อนจะขึ้นเตียงนอนไปโดยที่ยังไม่ได้ปิดไฟ เธอนอนไม่ปิดไฟมานานแล้ว หญิงสาวนอนมองเพดานห้องอยู่อย่างนั้น
“เฮ้อ…” ลมหายใจได้ผ่อนออกมาเมื่อเธอรู้สึกเบื่อหน่าย วันนี้ก็คงเป็นอีกวันที่เธอนอนไม่หลับ มันปกติสำหรับเธอ ต้องเหนื่อยมาก ๆ ถึงจะหลับเนื่องจากร่างกายทนไม่ไหว ก่อนที่เธอจะควานหาโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อค้นหาขอมูลอะไรบางอย่าง
‘จีบยังไงให้ได้เป็นแฟน’ หญิงสาวค้นข้อมูลในเว็บไซต์ค้นข้อมูลชื่อดัง หวังจะหาวิธีมัดใจชายหนุ่มที่เธอรู้สึกชอบเขามาก
“อืม จะสำเร็จไหมนะ” เธอบ่นพึมพำเมื่อไล่สายตาอ่านข้อความจำนวนมากที่ปรากฏขึ้น และที่ทำให้เธอส่ายหน้าเมื่อหลาย ๆข้อความมักบอกว่ามันต้องใช้เวลา
“ไม่มีทางลัดเลยเหรอ ใครมันจะรอได้ขนาดนั้น แก่ตายพอดี” หญิงสาววางโทรศัพท์ลงเมื่ออ่านข้อความเหล่านั้นจนตาลาย เธอหาข้อมูลนานพอสมควรจนเวลาล่วงเลยมาถึงเช้าวันใหม่เธอก็ยังคงนอนไม่หลับ
พรึ่บ!
ร่างบอบบางลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปส่องกระจกเพื่อดูใบหน้าตัวเอง
“เฮ้อ…ขอบตาดำเลย คงไม่ได้ไปหาแล้วสินะ” เธอพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำในเช้าวันใหม่
“ทำในสิ่งที่เขาชอบ หางานทำ เขาชอบคนทำงาน” หญิงสาวพูดพร้อมกับครุ่นคิดว่าเธอจะหางานอะไรทำดี จะไปทำงานกับพ่อแม่ ก็คงไม่ต่างอะไรกับว่างงาน เธอคิดหนักพอสมควรเพราะเธอไม่เคยสมัครงานเลย แต่แล้ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก~
“ชิลล์ แม่ซื้อกับข้าวมาให้ออกมากินนะ” เสียงเล็กแหลมของพี่สะใภ้เธอเอ่ยปากเรียก เมื่อเห็นว่าวันนี้เธอยังไม่ออกมาจากห้อง
“โอเค แป๊บนะ” หญิงสาวตะโกนส่งเสียงกลับก่อนจะเดินไปใส่เสื้อผ้าอย่างลวก ๆ วันนี้คงไม่ได้ออกไปไหน เธอจะใช้เวลาในการสมัครงานผ่านอีเมล
ไม่นานนักร่างบอบบางก็ออกจากห้องในชุดที่เธอคิดว่าธรรมดาแล้ว แต่สำหรับคนเห็นมันไม่ใช่แบบนั้น
“จะไปไหนเหรอ” พี่สะใภ้คนสวยของเธอเอ่ยปากถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวออกมาในชุดที่บ่งบอกได้ว่าเธอกำลังจะออกไปข้างนอก
“หืมม ไม่ได้ไปไหน วันนี้จะหางานทำ”
“จริงดิ!”
“หูยย ทำไมต้องทำเสียงตกใจขนาดนั้น” หญิงสาวทำหน้ามุ่ยทันทีที่พี่สะใภ้เธอทำหน้าตาตกใจราวกับได้ยินเรื่องน่าเหลือเชื่อ
“เปล่า แปลกใจเฉย ๆ ฮ่า ๆ ทำไมต้องทำหน้าอย่างนั้น ฉันช่วยเธอได้นะ”
“จริงเหรอผึ้ง โอ้ย! ดีใจ” หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาเมื่อได้ยินว่าพี่สะใภ้เธอจะช่วย
“ว่าแต่ เธอจบอะไรเหรอ”
“ศิลปะศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ แต่ฉันไม่มีประสบการณ์การทำงาน และก็อายุเยอะด้วย” เธอเอ่ยปากบอกความกังวลใจก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาข้าง ๆ แม่ลูกอ่อนที่กำลังป้อนนมให้ลูกชายของเธออยู่
“อืม ลองดูก็ไม่เสียหายนะ อยากรู้จังเลยว่าใครกันทำให้คนอย่างคุณหนูคนนี้ อยากหางานทำ ใช่คนที่เล่าให้ฟังหรือเปล่านะ” น้ำผึ้งเอ่ยปากแซวอีกฝ่ายเมื่อนึกขึ้นได้ว่าหญิงสาวคนนี้เคยเล่าเรื่องที่ไปตกหลุมรักชายคนหนึ่งมา
“อย่าบอกใครเชียว ฉันน่ะรู้มาว่าเขาชอบคนทำงาน” หญิงสาวพูดพร้อมกับบิดลำตัวไปมาเมื่อนึกถึงใบหน้าหล่อเหลานั้น
“ถ้าเขารู้ว่าเธอตั้งใจขนาดนี้ เขาคงยอมใจอ่อนให้เธอแน่”
“ฉันก็ว่างั้น คิก ๆ แค่คิดว่าเขาจะชอบฉัน ฉันก็…คิก”
“แค่คิดยังเขินขนาดนี้ ถ้าเขาชอบเธอมาจริง ๆ ไม่ใช่ตัวเธอจะลอยเลยเหรอ” น้ำผึ้งมองใบหน้าสวยถึงแม้ไร้เครื่องสำอางของเพื่อนใหม่เธอ พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างคนนึกเอ็นดู
“ตื่นเต้นเลย สำนวนที่ว่าอยากมีผัวจนตัวสั่นมันเป็นแบบนี้นี่เอง ฉันน่ะชอบเขามาก ๆ เลย แต่ว่าเขาดูนิ่งมากจนฉันกลัวเขารำคาญ ถ้าครบ 3 เดือนแล้วเขายังไม่ชอบฉันกลับนะ ฉันจะเลิกตาม…ตื้อเขาเลย” ประโยคหลังหญิงสาวพูดออกมาอย่างแผ่วเบา เพราะกำลังคิดว่าตัวเองจะเลิกได้จริงไหม
“อืมม ก็ลองดูไม่เสียหายหรอกนะ” น้ำผึ้งเอ่ยปากพูดปลุกใจอีกฝ่าย
“ผึ้ง พี่ฉันจีบเธอยังไงเหรอ ฉันจะลองเอาไปใช้เผื่อได้ผล” น้ำผึ้งเบิกตากว้างทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น
“เอ่อ…”
“ไม่ต้องเขินหรอกนะ งงเหมือนกันที่พี่ชายฉันอยู่ ๆ ก็มีเมีย” ชิลล์ว่าพลางมองใบหน้าเล็ก ๆ ของหลานตัวน้อยของเธอ พร้อมกับยกนิ้วขึ้นจิ้มแก้มบาง ๆ นั่น
“เอ่อ เขาไม่ได้จีบฉันหรอก”
“หือ? จริงดิ”
“อืม”
“เธอจีบเขาเหรอ”
“ก็ไม่เชิง…”
“ยังไง ว่ามา...บอกหน่อยสิ ถ้าฉันเอาไปใช้ก็คงจะได้ผล พี่ชายฉันถึงเป็นได้ขนาดนี้”
“อย่าเลย…มัน…ไม่ดีหรอก ฮ่า ๆ” ไม่เข้าใจว่าพี่สะใภ้ตัวเองจะพูดไปขำไปทำไม เหมือนกับว่าได้ทำอะไรบางอย่างลงไป
“หืมม เธอหวงวิชาเหรอ” ชิลล์อดไม่ได้ที่จะพูดกระแนะกระแหนอีกฝ่าย
“ไม่ใช่อย่างนั้น”
“ก็บอกมาสิ” ชิลล์พูดเสียงเข้ม จนอีกฝ่ายกำลังรู้สึกสับสน
“โอเค แต่…”
“ไม่มีแต่ พูดมา”
“ฉันน่ะ…”
“_”
“ขอมีอะไรกับพี่เธอเองแหละ”