ตอนที่ 1 ก่อนคืน...พระจันทร์เต็มดวง(ช่วงแรก)
SET ทาสรักคนเหนือมนุษย์ ( ทาสรักคนมีของ + ทาสรักสัมผัสร้อน + ทาสรักหมอเนคิน )
ทาสรักคนมีของ
ตอนที่ 1 ก่อนคืน...พระจันทร์เต็มดวง(ช่วงแรก)
“โอม จงรักกูจงหลงกู!”
“ทำอะไรน่ะเอื้อง?!” ญาลินถามเพื่อนสนิทที่เดินด้วยกันมาตามถนนลูกรัง ที่เต็มไปด้วยวัว ควาย ที่ชาวบ้านพากันจูงพวกมันกลับบ้าน
ญาลินเพิ่งกลับจากนา แต่เอื้องฟ้ากำลังจะเดินไปตลาดกลางหมู่บ้าน แต่ก็เดินไปทางเดียวกัน
“อ๋อ เอื้องทำตามเพื่อนบอกน่ะ เห็นว่ามีคนแนะนำมา ว่าถ้าเรารักใครชอบใคร ก็ให้เขียนชื่อของคนนั้นใส่ใบโพธิ์แล้วท่องนะโมสามจบในใจ จากนั้นก็พูดออกไปว่า ‘จงรักกูจงหลงกู’ แล้วเวลานอนก็เอาใบโพธิ์นี้ไว้ใต้หมอนด้วย”
“แล้วเอื้องก็เชื่อเหรอ”
“หูย เรื่องนี้ถ้าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่เชียวนะ เนี่ยเอื้องทำแบบนี้มาสามวันละ เพื่อนเอื้องบอกว่า ท่านหมอเสน่ห์เขาให้ใบโพธิ์เสกคาถาเมตตามหานิยมมาสามใบ เพื่อนเอามาให้เอื้องใบหนึ่ง แต่ต้องทำแบบนี้ติดต่อกันหนึ่งอาทิตย์นะ คาถาเสน่ห์ถึงจะได้ผล อีกสี่วันคนที่เอื้องแอบรัก ก็จะหันมารักเอื้อง”
ท่าทางของเอื้องฟ้าดูจริงจังและเพ้อฝันมาก ญาลินหันมามองเพื่อนสนิทแล้วส่ายหน้า เพราะเธอไม่เชื่อเรื่องพวกนี้หรอก แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่ และไม่คิดจะทำกับผู้ชายคนไหนด้วย เพราะเธอเชื่อว่า รักอื่นใด ก็สู้รักแท้ที่พ่อแม่ให้มาไม่ได้หรอก เธอไม่จำเป็นต้องได้รับความรักจากผู้ชายคนไหน แล้วเธอก็ไม่ฝันใฝ่อยากจะมีแฟนกับเขาหรอก อยู่แบบโสดๆแบบนี้แหละดีอยู่แล้ว
“เอื้อง ลินไปอาบน้ำก่อนนะ เหงื่อเต็มตัวเลย”
“จ้ะ เอื้องก็จะซื้อกับข้าวเหมือนกัน”
สองสาวแยกย้ายกัน
แล้วญาลินก็เดินเข้าบ้าน โดยบิดามารดาของเธอจะตามมาทีหลัง
ซึ่งพออาบน้ำเสร็จ ญาลินก็เดินเข้าครัว เพื่อทำกับข้าวกับปลา เตรียมไว้รอบิดามารดากลับมากินข้าวเย็นพร้อมกัน เธอทำแบบนี้เป็นประจำทุกวัน
หลังกินข้าวเย็นเสร็จ แต่ละคนก็อยู่มุมใครมุมมัน สองสามีภรรยา นั่งคุยกันที่แคร่ไม้ไผ่ โดยคุณสามีกำลังจักตอกมัดข้าว ส่วนคนเป็นเมียก็กำลังเช็ดใบตองเตรียมทำข้าวต้มมัดไปทำบุญที่วัดพรุ่งนี้เช้า
พรุ่งนี้ญาลินลูกสาวเพียงคนเดียวของพวกเขา ก็จะมีอายุครบยี่สิบปีเต็มแล้ว มีหมอดูท่านหนึ่งเคยทำนายทายทักว่าญาลินจะเจอเนื้อคู่เมื่ออายุยี่สิบปีต้นๆ แต่ทว่าญาลินไม่เคยคิดที่จะมีแฟนเลย ความคิดของเธอ คืออยากอยู่เป็นโสดแบบนี้ไปจนแก่เฒ่า และการเข้าใกล้ผู้ชายคนอื่น ที่ไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่ญาติ หรือเพื่อนสนิทของตนเอง เป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับญาลิน
และหญิงสาว ก็เป็นสาวสวยที่สุดในหมู่บ้านที่ยังโสดเลยก็ว่าได้ ที่มีหนุ่มๆหลายคนคิดอยากจะมาจีบเธอ แต่ก็ถูกผู้เป็นพ่อไล่ตะเพิดไปทุกครั้ง และถึงแม้ทางจะสะดวกแค่ไหน ก็ไม่มีผู้ชายคนไหน เดินเข้ามาอยู่ในสายตาของเธอได้เลย เพราะเธอจะเมินมองไปทางอื่นเสียทุกครั้งเมื่อถูกผู้ชายมอง
ญาลินเป็นคนจิตใจดีงาม มีเมตตาต่อสัตว์ และต่อผู้ยากไร้ แถมเธอยังเป็นคนขยัน ช่วยพ่อแม่ทำงานทุกอย่างในบ้าน และเป็นชาวไร่ชาวสวนที่ขยันสุดๆ เธอดำนา เกี่ยวข้าว ปลูกผัก และเป็นแม่ค้าขายของที่ตลาด เธอทำงานทุกอย่างจริงๆ โดยที่ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยสักคำ
ทำให้พ่อแม่ทุกหลังคาเรือนที่มีลูกชาย ต่างก็หมายปองอยากได้ญาลินมาเป็นลูกสะใภ้ แต่ทว่า แม้ผู้ใหญ่จะเข้าทางฝั่งบิดมารดาของเธอ ก็ไม่อาจทำให้ญาลินหันไปมองได้ แถมบิดามารดาก็หวงลูกสาวคนนี้ด้วยเช่นกัน และพวกท่านก็คิดว่า หากญาลินจะต้องแต่งงานไปกับใครสักคน ผู้ชายคนนั้นจะต้องเป็นคนดีจริงๆ ขยันมากๆ และมีศีลเสมอลูกสาวของพวกตนด้วย ด้วยเหตุนี้ญาลินจึงยังไม่มีแฟนเหมือนกับเพื่อนๆรุ่นเดียวกัน
ซึ่งเพื่อนสนิทของเธอบางคนก็แต่งงานมีลูกมีเต้ากันไปหมดแล้ว สังคมชนบทมักเป็นแบบนี้ คือหญิงสาวที่จะแต่งงานกัน มีครอบมีครัว จะแต่งงงานตั้งแต่อายุยังน้อย บางบ้านสิบห้าสิบหกปีก็แต่งงานมีผัวออกเรือนกันไปแล้ว
ชื่อเสียง ความสวย ความขยัน และความเป็นคนดีของญาลิน ล่ำรือไปจนถึงในตัวเมืองจังหวัด จึงทำให้มีหนุ่มต่างอำเภอมาจีบเธอด้วย มีทั้งอาชีพทหาร ตำรวจ ปลัดอำเภอ นายอำเภอ ต่างก็มาขายขนมจีบเธอไม่ขาดสาย เรียกว่าหัวกระไดไม่เคยแห้งแม้แต่วันเดียว
บางครอบครัวถึงขนาดเอาเงินเอาทองมากองตรงหน้า ทว่าบิดามารดาของญาลินก็ไม่คิดจะขายลูกสาวกิน แต่ก็ให้ญาลินออกมาดูตัวผู้ชายทุกคน แต่หญิงสาวก็ไม่คิดจะเลือกใคร เธอบอกว่าเธอมีความสุขดีอยู่แล้วที่ตนเองโสด และเธออยากจะอยู่แบบโสดๆตลอดไป
หนุ่มๆหลายคนที่พยายามเทียวไล้เทียวขื่อ ต่างก็พากันถอดใจไปตามๆกัน
จนมาถึงวันนี้ วันที่สาวน้อยแสนสวย กำลังจะย่างเข้ายี่สิบปีเต็มในวันพรุ่งนี้ บิดามารดาของเธอก็หวั่นใจอยู่ว่า ดวงชะตาของลูกสาวสุดที่รักของตนเอง จะเป็นอย่างที่คำทำนายของหมอดูท่านนั้นได้กล่าวเอาไว้ไหม
“พี่ทิน ไลเป็นห่วงลินมันจัง พรุ่งนี้มันจะอายุเต็มยี่สิบปีเต็มแล้วนะพี่ พี่ยังจำคำทำนายของหมอดูคนนั้นได้อยู่ใช่ไหม”
“หมอดูคู่กับหมอเดาน่า ไลไม่เคยได้ยินเหรอ พี่ไม่ค่อยเชื่อคำหมอดูสักเท่าไหร่หรอก”
พิไลฟังสามีพูดแล้ว ก็ยังมีสีหน้าเป็นกังวลเช่นเดิม แล้วหันไปมองลูกสาว ที่กำลังยืนแหงนมองพระจันทร์ที่ใกล้จะเต็มดวงเต็มทีด้วยใจที่ครุ่นคิด
ญาลินในชุดนอนผ้าฝ้ายขาสั้นสีขาวอมน้ำตาลอ่อนๆ ที่ตอนนี้ปล่อยผมยาวสลวยแผ่เต็มหลังพลิ้วไปตามสายลมที่กำลังพัดอ่อนๆ ช่างดูเป็นหญิงสาวที่สวยงามราวกับนางไม้
‘ญาลิน ลูกของแม่ช่างสวยจริงๆ ใครกันนะที่เป็นเนื้อคู่ของลูก ไม่ว่าจะอย่างไร แม่ก็ขออวยพรให้เขาคนนั้นรักลูกของแม่ให้มากๆ ให้เขารักลูกเหมือนอย่างที่พ่อกับแม่รักลูกนะ’
ไม่นานนัก เมื่อพระจันทร์ถูกเมฆบดบัง และสายลมเริ่มเย็นขึ้น ญาลินก็เดินขึ้นบ้าน
“ลินเข้านอนก่อนนะ พ่อจ๋าแม่จ๋า”
“จ้า/จ้า” พ่อแม่ของเธอตอบรับขึ้นพร้อมกัน แล้วพากันมองร่างเพรียวระหงของลูกเดินเข้าไปในห้องนอน แล้วสองสามีภรรยาก็หันมาสบตากัน
“ไม่ต้องห่วงลินมันหรอกน่า ลินมันเป็นคนดี คิดดี ทำแต่ความดี มันต้องได้เจอเนื้อคู่ที่เป็นคนดีเหมือนมันนั่นแหละ”
“จ้ะพี่ ไลก็หวังว่าแบบนั้น”
ในห้องนอนสะอาดสะอ้าน ที่ถูกเจ้าของห้องจัดระเบียบและตกแต่งเครื่องเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นได้อย่างลงตัวและสวยงาม แต่มีของชิ้นหนึ่งไม่สวยแต่ ‘เน่า’ มาก ชิ้นหนึ่งอยู่ใต้หมอนให้เธอได้สูดดมก่อนนอนทุกคืน
ของ ‘เน่าๆ’ นี้ก็คือ ‘ผ้าพันแผล’ ที่ใครคนหนึ่งลงทุนฉีกชายเสื้อของตนเอง มาห้ามเลือดให้กับเธอ
นานมาแล้วเมื่อเธออายุเพียงสิบสองปี ที่แอบพ่อกับแม่ไปว่ายน้ำเล่นในบึงใหญ่กลางทุ่งนา แล้วในบึงแห่งนั้นก็มีจระเข้หลบอาศัยอยู่
สัตว์ร้ายน่ากลัวอาศัยตอนเหยื่อเผลอ ว่ายมางับขาของเด็กสาวและกัดขาของเธอจนเลือดสาด ญาลินร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ขณะที่ทุกคนกำลังพากันดำนา และพ่อกับแม่ก็คิดว่าเธอกำลังนอนหลับอยู่ที่เถียงนาน้อย จึงไม่มีใครได้ยินเสียงของเธอที่อยู่ไกลออกไป
เพียงแค่หันมาเห็นจระเข้ตัวใหญ่กำลังงับขาเธออยู่ สาวน้อยก็หน้ามืดเป็นลม แล้วพอตื่นขึ้นมาอีกที ก็พบว่าตนเองมานอนอยู่บนเถียงนาแล้ว แต่หลักฐานที่ต้นขา เป็นเศษผ้าสีขาวที่เปื้อนเลือด บอกให้เธอรู้ว่า เธอเพิ่งผ่านการถูกจระเข้กัดมาจริงๆ
ทว่าเมื่อคลายปมผ้าออก กลับพบรอยเขี้ยวของจระเข้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และมีหญ้าสีเขียวเหมือนถูกเคี้ยวโปะอยู่ที่บาดแผล หญ้านี้คงเป็นยาห้ามเลือด และบาดแผลก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด อาจเพราะจระเข้คงยังฝังคมเขี้ยวเข้าไม่ลึกมาก แต่ก็ถูกช่วยเอาไว้เสียก่อน แถมตอนนี้เลือดยังหยุดไหลอีกด้วย แต่คนทีทำให้เธอหายไปไหน
ญาลินรู้สึกขอบคุณเขาคนนั้นที่ช่วยเธอเอาไว้มาก แม้ว่าไม่เห็นหน้า เธอก็ยังสำนึกในบุญคุณของเขาอยู่เสมอมาจนถึงวันนี้ ไม่เคยลืมเลย และเรื่องนี้เธอก็ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง เพราะถ้าพ่อกับแม่รู้ ก็คงสั่งห้ามเธอไม่ให้ไปว่ายน้ำเล่นตามห้วย หนอง คลองบึงอีก
หญิงสาวเลิกชายกางเกงขึ้น มองแผลเป็นบนต้นขาแล้วก็นึกอยากเห็นหน้าผู้มีพระคุณคนนั้นเหลือเกิน และกำลังคิดว่า ในวันนั้นเมื่อแปดปีก่อน หากไม่ได้ใครคนนั้นช่วย เธอยังจะมีชีวิตรอดมาจนถึงวันนี้ไหม บางทีเธออาจถูกจระเข้กัดกินเป็นอาหารไปแล้วก็ได้
‘ผู้มีพระคุณคนนั้นเป็นใครกันนะ ชาตินี้ลินจะมีโอกาสได้ตอบแทนพระคุณของคุณที่ช่วยชีวิตลินเอาไว้ไหม’