ตอนนี้รถสปอร์ตหรูราคาแพงของเวกัสได้จอดที่หน้าบ้านเช่าของมัสใจแล้ว แต่ก่อนมาถึงทั้งสองคนที่นั่งมาในรถต่างพากันนั่งเงียบๆไม่มีแม้แต่คำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากของคนทั้งคู่เลย มีแค่เสียงเครื่องปรับอากาศในรถเท่านั้นที่ดัง มัสใจหันหน้าออกไปมองข้างทางตลอดเวลา
ขมับ! มือเรียวคว้าข้อมือเล็กไว้ทันทีที่มัสใจจะหันหน้าไปเปิดประตูรถ มัสใจหันกลับมามองข้อมือเล็กของตัวเองแล้วกัดริมฝีปากล่างแน่นพยายามบิดข้อมือเล็กให้หลุดออกจากมือเรียว
" ........" เวกัสจ้องมองการกระทำของคนตัวเล็กยิ่งหมั่นไส้ เขาไม่ยอมปล่อยให้ข้อมือเล็กหลุดง่ายๆเลย ยิ่งมกำแน่นกว่าเดิม มัสใจถึงกลับมทำหน้าเหยเกเพราะรู้สึกเจ็บ และมข้อมือเล็กที่เริ่มแดง
" นี้คุณเวกัส!" มัสใจเค้นเสียงออกมารอดไรฟัน เวกัสยกยิ้มร้ายที่มุมปากส่งให้พร้อมยักคิ้วให้ด้วยอย่างท้าทายไม่กลัวเสียงคนตัวเล็กแม้แต่น้อย มัสใจยิ่งโมโหมากกว่าเดิม
" ขอบคุณสักคำก็ไม่มี?" เวกัสแกล้งพูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก มัสใจถอนหายใจออกมาเบาๆ กรอกตามองบน หัวใจมดวงน้อยเต้นแรงโครมครามทุกครั้งที่เจอใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา
" ขอบใจ" มัสใจพูดออกมาน้ำเสียงประชดประชัน เวกัสส่ายหน้าเบามาเบาๆ
" หึหึ ยังปากดีอยู่คราวหลังจะโดนหนักกว่าเดิม จะกัดทุกๆส่วนเลยค่อยดู หึหึ" เวกัสดึงมัสใจเข้ามาใกล้พร้อมพูดออกมาเสียงเหี้ยมๆข้างใบหูเล็ก มัสใจถึงกับกลืนน้ำลายเหยียวใลงคอฝืดๆปากเล็กสั่นเทา เวกัสพลางปล่อยมือเรียวออกจากข้อมือเล็กให้เป็นอิสระ มัสใจชักมือเล็กกลับพลางทำหน้างอง้ำกัดริมฝีปากล่างแน่น
" ไอ้โรคจิต" มัสใจเค้นเสียงออกมาเบาๆสบตาเขาแป๊บนึงแล้วหันไปเปิดประตูรถลงไป เวกัสมองการกระทำของคนตัวเล็กแล้วยกยิ้มร้ายที่มุมปาก มัสใจเปิดประตูรั้วบ้านเข้าไปโดยไม่หันกลับมามองเวกัสเลย ประตูรั้วบ้านปิดลงเวกัสก็ขับรถออกไปทันที
มัสใจเดินเข้าไปในบ้านซึ่งเป็นบ้านเช่าเเละเป็นบ้านไม้สองชั้น ชั้นบนเป็นไม้แบ่งออกเป็นสองห้องชั้นล่างเป็นปูน ห้องน้ำด้านหลังติดครัว มัสใจกับแม่กำลังเก็บเงินไปผ่อนบ้านในหมู่บ้านอีกสองซอยถัดไป และตอนนี้เงินที่เก็บสะสมกับแม่ก็ครบแล้ว ทั้งสองคนช่วยกันประหยัดมานาน มัสใจเปิดประตูบ้านเข้าไปจมูกเล็กได้กลิ่นอาหารที่แม่ของเธอกำลังทำอยู่ในครัวลอยออกมาถึงห้องรับแขก มัสใจวางกระเป๋าไว้บนเก้าอี้ไม้เก่าๆแล้วเธอเดินเข้าไปหาแม่ที่ในครัวทันที เธอยกยิ้มที่ปากเล็กพร้อมสวมกอดแม่ทางด้านหลัง
" กลิ่นกับข้าวลอยออกไปถึงห้องรับแขกเลย แม่จ๋าทำอะไรกินเหรอจ๊ะ?" มัสใจถามแม่ออกมาน้ำเสียงออดอ้อน พร้อมหอมแก้มแม่เบาๆ แม่ของเธอยกมือขึ้นลูบหัวของเธอแล้วหันมายิ้มให้ด้วยความเอ็นดู
" แกงจืดเต้าหู้ น้ำพริกหนุ่ม ไข่เจียว หนูหิวหรือยังล่ะ?" เทียนไขถามลูกสาวออกมา มือข้างขวากลับพลิกไข่เจียวทันที มัสใจยิ้มหวานพร้อมพยักหน้ารับ
" หิ๊วหิวจ๊ะแม่จ๋า" มัสใจตอบออกมาด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าเรียว เทียนไขส่ายหน้าเบาๆ โตเป็นสาวแล้วแต่ยังอ้อนเหมือนเดิม ไม่มีฟงมีแฟนเลย
" งั้นตั้งโต๊ะรอเลยลูก กับข้าวเสร็จทุกอย่างแล้ว" เทียนไขบอกลูกสาว มัสใจคลายอ้อมกอดออกจากแม่แล้วเดินไปล้างมือ และจัดโต๊ะอาหารตามที่แม่ของเธอบอก ขณะที่กำลังลงมือทานข้าวกันอยู่นั้นมัสใจเงยหน้ามองหน้าแม่แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะเธอเป็นห่วงแม่ของเธอไม่อยากปล่อยให้อยู่คนเดียวตอนเธอไม่อยู่บ้านช่วงเธอจะไปสัมนาที่ต่างจังหวัด
" แม่จ๋า อีกสองอาทิตย์หนูจะไปสัมนาที่ต่างจังหวัดสามคืนสี่วัน แม่จ๋าอยู่คนเดียวได้ไหม?" มัสใจบอกกับแม่ด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย เทียนไขมองหน้าลูกสาวแล้วยกยิ้มออกมา เธอเข้าใจลูกสาวดีเพราะตลอดทั้งชีวิตของลูกสาวก็มีแค่เธอและในชีวิตของเธอก็มีแค่ลูกสาวเช่นกัน สองคนแม่ลูกห่างกันบ้างแค่ตอนเธอไปอบรมต่างจังหวัด และนี้ก็เช่นกันห่างกันบ้างก็เรื่องปกติ แต่นี้คงไปนานลูกสาวเลยห่วงมาก
" อยู่ได้สิลูก ตอนหนูเข้ากะกลางคืนแม่ยังอยู่ได้เลย แม่ก็คิดว่าหนูเข้ากะกลางคืนก็ได้ ไปเถอะลูกไม่ต้องห่วงแม่" เทียนไขบอกกับลูกสาวให้สบายใจ อีกอย่างเพื่อนบ้านก็มีไม่น่ากลัวหรอก
" แม่จ๋าอีกสักสี่ห้าวันเราไปดูบ้านใหม่กันไหมจ๊ะ เงินเราพอแล้วน่ะแม่จ๋า" มัสใจทำเสียงออดอ้อนเพราะที่นี้เธอไม่มั่นใจความปลอดภัยสักเท่าไหร่ถึงมีเพื่อนบ้านก็เถอะ แต่บ้านที่เธอกับแม่จะจะซื้อมียามรักษาความปลอดภัยด้านหน้าหมู่บ้าน มัสใจรับสึกปล่อยภัยกว่าเยอะ เธออยากย้ายไปก่อนไปสัมนาด้วยซ้ำ เทียนไขถอนหายใจเบาๆ
" ถ้าหนูเป็นห่วงก็ได้ลูกเราไปดูกันเลย ไหนๆเงินที่เราเก็บมาก็พอแล้วนี้ แล้วใครจะมาช่วยย้ายช่วยขนล่ะ?" เทียนไขถามลูกสาว มัสใจยกยิ้มดีใจ เธอคิดไว้แล้วถ้าย้ายคนที่จะมาช่วยคือแกรนิคเพราะกองฟางบอกเธอไว้แล้ว กองฟางและดอกแก้วยินดีช่วยทุกอย่าง ถึงแม้สองสาวมีลูกแล้วแต่ก็มีแกรนิคและมอลตันยินดีมาช่วย พอตกลงกันได้แล้วทั้งสองแม่ลูกก็กินข้าวไปพูดจาหยอกเย้ากันไปอย่างมีความสุขจนมัสใจลืมความทุกข์ที่เจอมาในวันนี้เลย
เวกัสขับรถสปอร์ตเข้ามาจอดที่บ้านของมาตินอัส เขาเปิดประตูรถลงไปอย่างรีบร้อน และวิ่งตรงเข้าไปหามาตินอัสและเควินด้านใน พอเดินเข้าไปเวกัสก็เห็นเควินนั่งที่ห้องรับแขกอยู่ บนตักแกร่งมีลูกชายของมาตินอัสนั่งอยู่ด้วย
" อะไร?" เวกัสถามด้วยความสงสัย เพราะไม่เห็นมีใครเป็นอะไรเลยเเล้วนี้โทรเรียกเขามาทำไมว่ะ เควินยกยิ้มที่มุมปากหนูนั่งบนตักได้ยินเสียงเวกัสก็หันมามองเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะอายุแค่ 5 เดือนแล้วแต่ก็เหมือนเข้าใจที่เวกัสถาม
" มัมทำของโปรดมึงมัมเลยให้กูโทรชวนมึงมาแดกข้าวที่บ้าน " เควินบอกกับเวกัสกวนๆพลางมองหน้าเวกัสนิ่ง ' เป็นเหี้ยอะไรของมันว่ะ เหมือนอารมณ์เสียเลย' เควินพลางจ้องมองหน้าเวกัสด้วยความสงสัย เวกัสขบกรามแน่น ถอนหายใจออกมาแรงๆ 'จะกลับไปต่อก็คงไม่ได้แล้วเพราะเหยื่อเข้าบ้านไปแล้วจะปีนขึ้นไปหาบ้านไม้ก็ไม่สะดวก จะลากมากินในรถก็แคบ แต่ก็น่าลอง' เวกัสพลาสงคิดในใจอย่างเสียดาย
" แค่นี้?" เวกัสพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ขุ่นเคืองแต่ ต้องเก็บอารมณ์เพราะหนูน้อยนั่งฟังอยู่ด้วยเช่นกัน เควินพยักหน้ารับ
" อีกเรื่อง ก่อนไปสัมนาน่ะ มีลูกค้าบินจากฮ่องกงมาผ่าตัดเปลี่ยนดวงตา แดกข้าวก่อนค่อยคุยให้หลานกูไปนอนก่อน" เควินบอกกับเวกัสที่เขาทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ ' นี้หน้ามันเหมือนมันกำลังจะจับผู้หญิงกิน แล้วเขาโทรไปขัดจังหวะอย่างงั้นแหละ หรือว่าใช่ว่ะ?" เวกัสเดินเข้าไปนั่งข้างๆพร้อมยื่นมือเรียวไปหยิกแก้มยุ้ยของหลานชาย และส่งยิ้มที่มุมปากให้ หนูน้อย หนูน้อยก็ยกยิ้มให้เช่นกัน
" ไอ้เหี้ยเว หยิกแก้มลูกกูทำไม?" มาตินอัสเดินเข้ามาเห็น เวกัสกรอกตามองขึ้น ' ไอ้คนหวงลูก' มาตินอัสเดินเข้ามาอุ้มลูกชายไปในอ้อมกอดของเขาทันที เควินและเวกัสมองหน้ากันด้วยความเบื่อหน่าย แล้วทั้งสามคนก็พากันเดินเข้าไปในห้องอาหารเพื่อทานประทานอาหารเย็นกัน
หลังอาหารเย็นเสร็จ ทั้งสี่หนุ่มทั้งนั่งพูดคุยกันที่สระว่ายน้ำริมฝั่งไกลจากห้องนอนมาตินอัส เวกัสหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูดพร้อมหันหน้าไปมองเควิน เพื่อถามเรื่องงานต่อ
" คือลูกวีไอพี เขาเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ตาบอดทั้งสองข้างเลย เขาบอกถ้าเราช่วยเขาได้เขาจะเป็นลูกค้านำยาไปเสนอขายให้กับกองทัพหารที่ฮ่องกงแบบลับๆ" เควินบอกเพราะยาที่บริษัทของเควินผลิดจะเป็นยาที่ค่อยแรง ใช่ได้ผลเวลารักษากับแผลเน่าเปื่อย และแผลติดเชื้อแต่มีทส่วนผสมต้องห้ามเลยผิดกฎหมาย นักวิจัยที่บริษัทของเควินและรวมทั้งเขาด้วยช่วยกันคิดค้นขึ้นมาใหม่ ลองทดลองกับทหารที่ซีเรียมาแล้ว ทางนั้นตอบรับมาและสั่งซื้อเพิ่มมาเยอะ เควินเลยอยากลองเสนอกับมาเฟียที่ฮ่องกงคนนี้เผื่อเขาอยากเอาไปลองใช้กับลูกน้องบ้างเวลาฉุกเฉินและค่ายทหารด้วยก็ได้
" แล้วดวงตาล่ะ หามาได้หรือยังว่ะ?" เวกัสถามพร้อมหันไปมองหน้ามาตินอัสที่พ่นควันบุหรี่ออกจากปากบางอยู่ มาตินอัสยกยิ้มหวานให้
" ได้มาแล้ว ไอ้แกรเป็นคนจัดหา เพราะมันเอายามาปล่อยที่สนามเเข่ง รอแค่ลูกค้ามามึงก็ไปรอที่เดิมเลย เสร็จแล้วมึงก็นั่งเฮลิคอปเตอร์มาเลย " มาตินอัสบอกเวกัส เขาพยักหน้ารับพลางยกยิ้มเบาๆ
" มีของเล่นมาอีกแล้ว หึหึ" เวกัสยิ้มและพูดออกมาเหี้ยมๆพร้อมปล่อยควันบุหรี่ออกมาจากปาก และดูดควันเข้าไปใหม่
" กูโทรไปมึง มึงทำอะไรอยู่ว่ะ?" เควินถามออกมาด้วยความสงสัย เวกัสปลายตามองเควินแล้วขบกราแน่น มาตินอัสและแกรนิคจ้องมองหน้าเวกัสนิ่งเช่นกันเพื่อรอคำตอบ
" เสือก " เวกัสพูดออกมาคำเดียว
" หึหึ/ หึหึ/ หึหึ" ทั้งสามคนหัวเราะออกมาเบา
" ใครว่ะ ?" เควินกระแชะถามต่อด้วยความอยากรู้เพราะคืนที่เวกัสได้ลากผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นด้านบนไปกิน ก็รู้สึกได้ว่าเวกัสเปลี่ยนไป เวกัสกรอกตามองบน
" กูจะกลับแล้ว" เวกัสบอกพร้อมอัดควันบุหรี่เข้าปอดลึกๆแล้วกลั้นไว้มือที่จับก้นบุหรี่ขยี้ลงที่เขี่ยบุหรี่แรงจนละเอียด พร้อมปล่อยควันบุหรี่ออกมาใส่หน้าเควิน
" ความลับไม่มีในโลก.หึหึ" มาตินอัสบอกกับเวกัส เควินจ้องมองเวกัสนิ่งเช่นกัน แกรนิคส่ายหน้าเบาๆ
" หึ......" เวกัสพ่นลมหายใจออกจากจมูกโด่งแล้วเดินออกมาจากเพื่อนๆทั้งสามคนโดยไม่สนใจจะหันมามองด้านหลัง มาตินอัส เควิน และแกรนิคมองตามหลังแล้วส่ายหน้าเบาๆ
" พยาบาลมัสใจใช่ไหมที่มันจับไม่ปล่อยตอนนี้?" เควินถามแกรนิคเสียงนิ่งพลางยกยิ้มร้ายที่มุมปาก แกรนิคพยักหน้ารับ
" ครับเฮีย " แกรนิคตอบเบาๆ
" หึหึ/ หึหึ" เควินกับมาตินอัสหัวเราะในลำคอหนาเบา เพราะพวกเขารู้ว่าเวกัสโหดแค่ไหนเรื่องบนเตียง
เฮียแกนี้สุดจะบรรยายเลย คริคริ ??เฮียเคิาจจะโหดกว่าคนเพื่อนก็ได้ใครจะรู้ ??