ชัญญ่ากลับไปนานแล้วเหลือแค่มนินพัทธ์ที่ยังนั่งหาข้อมูลอยู่แบบนั้น มือคอยจดรายละเอียดห้องพักแต่ละแห่งลงบนกระดาษ ทั้งเหนื่อยล้าทั้งปวดตามากขึ้นเลยหยุดพักไว้แค่นั้น เก็บของใช้ส่วนตัวลงกระเป๋าสะพายเสร็จก็เตรียมตัวออกจากบริษัทไปหาอะไรทานตามปกติก่อนจะกลับบ้าน พอมนินพัทธ์กลับไปถึงบ้านทุกคนก็เข้านอนกันหมดแล้ว มีแค่หลอดไฟดวงเล็กตรงหน้าบ้านที่เปิดสว่างอยู่แต่ในบ้านนั้นมืดสนิท ที่เธอเลือกกลับบ้านในเวลานี้ก็เพราะไม่อยากเจอใครนั่นเอง
พอเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนคนที่ยืนรออย่างใจเย็นตรงหลังบานประตูก็ขยับเข้ามาประชิดตัวอย่างรวดเร็ว ในห้องมืดสนิทจนมนิทพันธ์ไม่รู้ว่าใครกำลังกอดเธอจากด้านหลัง โจร? มนินพัทธ์เบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนกึกที่โชยเข้าจมูกยิ่งทำให้หญิงสาวหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม กำลังจะอ้าปากร้องตะโกนให้คนช่วยก็ถูกฝ่ามือหยาบกร้านปิดริมฝีปากไว้แน่น
“ชู่วว อย่าร้อง…วินเอง กลับดึกอย่างนี้ทุกวันเลยเหรอมิว” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยข้างกกหูเล็ก มือที่ว่างกอดรัดหญิงสาวไว้แน่น ลมหายใจที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์เป่ารดตรงต้นคอทำให้มนินพัทธ์ยิ่งรู้สึกรังเกียจและขยะแขยงจนแทบทนไม่ไหว
“อื้ออ!!” พอรู้ว่าเป็นชวินทร์ เธอยิ่งดิ้นร้นให้ตัวเองหลุดพ้นจากเงื้อมมือของอีกฝ่าย เขาเป็นตัวอันตรายที่ไม่ควรอยู่ใกล้และน่ากลัวยิ่งกว่าผีกว่าโจรเสียอีก
“ปล่อย!!”
เธอสะบัดตัวออกจากชวินทร์ได้สำเร็จ แต่ยังไม่ทันจะก้าวไปถึงประตูมันก็ตามมาดึงตัวเธอเอาไว้ก่อนจะจับเหวี่ยงลงบนเตียงนอน ชวินทร์ก้าวตามขึ้นนั่งคร่อมทับกลางลำตัวมนินพัทธ์ไว้ ตอนนี้แว่นตากรอบใสกระเด็นตกหายไปไหนไม่รู้ คนสายตาสั้นร้อยห้าสิบอย่างเธอยิ่งมองเห็นภาพข้างหน้าเบลอหนักกว่าเดิม
“อย่าดิ้นดิวะ แม่ง..กูไม่อยากทำรุนแรงกับมึงเลยนะมิว ยอมกูง่ายๆ เถอะจะได้ไม่เจ็บตัว”
“แม่!! ลุงนพ!! ใครก็ได้ช่วยมิวด้วย! นนท์!! ช่วย.. โอ๊ย!” เธอตะโกนสุดเสียงพยายามรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีทั้งผลักทั้งดันชวินทร์ให้ออกห่าง กำปั้นหนักกระแทกเข้าที่ช่วงท้องของเธอทันที มันเจ็บจุกจนแทบน้ำตาไหล
“กูบอกว่าอย่าร้องไง! ถึงมึงร้องไปก็ไม่มีใครช่วยมึงได้หรอกมิว”
“ขอร้องล่ะวินอย่าทำอะไรฉันเลยนะ”
“เมาเหล้าหลับเป็นตายแบบนั้นจะมาได้ยินอะไร อ้อ..แล้วไอ้นนท์ก็ไปนอนบ้านเพื่อนมัน ไม่มีใครมาขัดขวางความสุขของเราหรอก กูชอบมึงนะมิว อยากทำแบบนี้กับมึงมานานแล้วด้วย”
ดูเหมือนชวินทร์จะรู้ทันว่าความคิดอีกฝ่าย มนินพัทธ์รีบเบือนหน้าหนีเมื่อเขาโน้มใบหน้าลงมาหมายจะจูบเธอ พอไม่ได้ดังใจก็หันมาจัดการกับเสื้อผ้าบนร่างกายของหญิงสาวแทน มือทั้งสองปัดป้องทั้งจิกข่วนอีกฝ่ายอย่างแรงแต่ก็ดูจะไม่เป็นผล พอหลุดออกมาได้ก็พยายามคลานหนีแต่ก็ถูกกระชากดึงกลับมาที่เดิม แรงเธอสู้แรงผู้ชายตัวโตแบบชวินทร์ไม่ไหวจริงๆ
“ไอ้ชั่ว! ไอ้สารเลว! ฉันจะบอกแม่กับลุงนพว่าแกจะข่มขืนฉัน! แล้วจะไปแจ้งความให้ตำรวจจับแกเข้าคุกด้วย.. โอ๊ย!”
เพี๊ยะ!
ยังพูดไม่ทันจบประโยคฝ่ามือก็ตบลงบนแก้มซีกซ้ายของมนินพัทธ์อย่างแรง เธอรู้สึกเจ็บแปล๊บไปทั้งใบหน้าแต่ความกลัวก็ยังมีมากกว่าความเจ็บ ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อเธอต้องแย่แน่ๆ กวาดสายตาที่เริ่มคุ้นชินกับความมืดมองไปรอบๆ ห้อง พอเห็นของแสงวาววับของวัตถุบางอย่างที่ตั้งอยู่ตรงหัวเตียงก็พลันนึกอะไรขึ้นมาได้
“ขืนด่ากูอีกคำเดียว มึงได้เจ็บกว่านี้แน่มิว” ชวินทร์ขบฟันกรามแน่น โกรธที่ถูกด่าบวกกับโมโหที่ถูกหญิงสาวจิกข่วนท่อนแขนและต้นคอจนเลือดไหลซิบๆ
เธอไม่ได้พูดตอบโต้อะไรได้แต่นอนนิ่งเงียบอยู่แบบนั้น สมองกำลังคิดหาหนทางให้ตัวเองรอดพ้นจากสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานตรงหน้า
ชวินทร์แสยะยิ้มหยันออกมาขณะกวาดสายตามองหญิงสาวตรงหน้า มือทั้งสองข้างจัดการถอดเสื้อสูทตัวนอกของเธอโยนทิ้งไป แววตากักขฬะหื่นกามมองทรวงอกใต้บราเซียร์ลูกไม้ที่โผล่พ้นออกมานอกเสื้อเชิ้ตที่ถูกฉีกขาดลงมาเป็นทางยาว
“แม่ง มึงนี่ซ่อนรูปชะมัด นมใหญ่ใช่เล่น”
“ไอ้ทุเรศ! เอามือสกปรกของแกออกไปนะ! ถ้าแม่กับลุงนพรู้เข้าแกตายแน่”
“เหอะ! ด่าไปเถอะ เดี๋ยวกูก็เป็นผัวมึงแล้วมิว พ่อกับอาน้ำคงไม่ว่าอะไรหรอกเพราะกูจะรับผิดชอบมึงเอง ยอมกูดีๆ เถอะ กูไม่อยากทำรุนแรงกับมึงเลยว่ะมิว” เห็นตัวเล็กบอบบางแบบนี้แต่หน้าอกใหญ่น่าดู มือหยาบกร้านบีบขยำมันผ่านบราเซียร์อย่างแรง ยิ่งเห็นอีกฝ่ายขัดขืนก็ยิ่งทำให้ชวิทร์แรงกำหนัดมากขึ้นกว่าเดิม
ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเธอต้องไม่รอดแน่ๆ
“วิน”
มนินพัทธ์แสร้งยิ้มหวานส่งให้ชายหนุ่ม ยกมือทั้งสองขึ้นโอบรอบต้นคอของอีกฝ่ายไว้ การกระทำที่เปลี่ยนไปกระทันหันทำให้ชวินทร์ชะงักไปเล็กน้อย รู้สึกงุนงงไปท่าทีและน้ำเสียงหวานหูที่เรียกชื่อตนออกมา พอถูกร่างนุ่มนิ่มโอบกอดบดเบียดหน้าอกอวบอิ่มเข้าหาสติก็แตกกระเจิดกระเจิง สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงก็แปรเปลี่ยนเป็นความหื่นกระหายแทน
“วิน มิวยอมแล้ว ไม่เห็นต้องทำรุนแรงกับมิวแบบนี้เลย คุยกันดีๆ ก็ได้นะ”
“เคยคุยกันดีๆ ด้วยเหรอวะ เจอหน้ากันทีไรก็หนีเข้าห้องทุกที”
“ที่มิวทำไปก็แค่อยากเรียกร้องความสนใจจากวินก็เท่านั้นเอง ที่จริง..มิวก็รู้สึกดีๆ กับวินนะ” เธอทำใจกล้าขยับตัวลุกขึ้นนั่งคร่อมบนตักก่อนโน้มตัวเข้าไปหา มือก็ลูบไล้ไปบนตัวลำตัวของอีกฝ่าย
“กูไม่เชื่อ มึงอย่ามาตอแหลเลยมิว”
“ทำยังไงวินถึงจะเชื่อล่ะ”
“ให้กูเอามึงไงมิว”
“อือ ได้สิ ที่จริง..มิวก็ชอบวินนะ” มนินพัทธ์ฝืนยิ้มส่งให้ มือเล็กลูบไล้บนหน้าอกที่ชื้นเหงื่อของอีกฝ่าย ในใจรู้สึกขยะแขยงแต่ก็อดทนไว้
“จริงเหรอ? กูหลงคิดมาตลอดว่ามึงเกลียดกูซะอีกมิว” ชวินทร์ยิ้มกริ่มก้มใบหน้าลงไปซุกไซ้ทรวงอกอวบอิ่มของอีกฝ่าย ครู่เดียวก็ถูกมือบางผลักใบหน้าของเขาให้ออกห่าง
“มิวไม่ได้เกลียดวินเลยนะ อย่าใจร้อนสิ มิวทำงานมาทั้งวัน เหงื่อออกเต็มตัวไปหมดเหม็นจะแย่ ขออาบน้ำให้ตัวหอมๆ ก่อนได้ไหมอะ” ปากพูดออกไปแบบนั้นแต่ในใจ เห็นสายตาของมันที่มองมาก็ยิ่งรู้สึกขยะแขยงจนแทบทนไม่ไหว
“เหม็นอะไร หอมจะตาย กูชอบแบบนี้..มันเร้าอารมณ์ดี ไม่ต้องอาบหรอกเสียเวลา” พูดจบก็หอมหน้าอกของเธอไปฟอดใหญ่ พอจะสอดฝ่ามือเข้าไปใต้กระโปรงหญิงสาวบนตักก็ขยับตัวลุกออกไปเสียก่อน
“แป๊บเดียวเอง ไม่นานหรอก ..นะวิน…มิวอยากอาบน้ำก่อน” เธอพยายามทำน้ำเสียงออดอ้อนสุดชีวิต จริตมารยาหญิงทำให้ชวินทร์ดูจะใจอ่อนลงแต่ก็ยังระแวงอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย
“มึงคงไม่เล่นตุกติกนะ ไม่งั้นมึงเจ็บตัวแน่มิว” ชวินทร์จ้องอีกฝ่ายเขม็ง ออกแรงบีบข้อมือเล็กแรงขึ้นกว่าเดิม
“ไม่หรอกน่า ใครจะไปกล้าทำอย่างนั้นกับวินกัน”
เธอแสร้งยิ้มหวานส่งให้ พอได้จังหวะตอนอีกฝ่ายเผลอก็รีบคว้าโคมไฟลูกแก้วคริสตัสตรงหัวเตียง จับมันฟาดไปบนศีรษะของชวินทร์สุดแรง มนินพัทธ์สัมผัสได้ถึงของเหลวเปียกชุ่มบนฝ่ามือตัวเอง เสียงร้องโอดโอยของชวินทร์ดังขึ้นด้วยความเจ็บปวด เธอไม่สนใจอะไรอีกแล้วรีบคว้ากระเป๋าสะพายที่ตกตรงประตูขึ้นมากอดไว้แน่น วิ่งออกมาจากห้องนอนตรงไปที่ประตูบ้านทันที ตลอดทางที่วิ่งออกมาหูก็ได้เสียงก่นด่าเต็มไปด้วยความโกรธแค้นของชวินทร์ไล่ตามหลัง เขาวิ่งตามเธอออกมาก่อนจะล้มลงตรงหน้าประตูบ้าน หญิงสาวไม่เสียเวลาหันหลังกลับไปมอง ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งตรงไปที่ถนนใหญ่ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ…กลัวจะหนีจากชวินทร์ไม่พ้น