ตอนที่ 1 ฉันและเพื่อนๆ
Cheere Part
วันศุกร์ เวลา 16.00 น
หลังเลิกเรียนพวกเราก็มาสิงสถิตอยู่ที่ประจำของพวกเรา คือ โต๊ะหินอ่อนข้างตึกคณะเราเอง ที่นี่กลายเป็นที่ประจำของพวกเราไปแล้ว ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังเข้าเรียน พวกเราก็จะอยู่ที่นี่กันประจำ วันนี้ก็เหมือนเคย พวกเราอยู่กันครบเกือบทุกคน จะมีก็แค่บางคนที่หายไปจนเพื่อนต้องถามขึ้น
“เฮ้ยย! ไอ้ครามมันหายหัวไปไหนวะ กูแม่ง ไม่เห็นมันตั้งแต่เดินออกมาจากห้องแล้ว” ชานนท์ถามขึ้นหลังจากที่มองหาเพื่อนตัวเองไม่เจอ
“ออกจากห้องเหี้ยอะไร มันหายหัวไปตั้งแต่ก่อนอาจารย์จะเดินออกไปด้วยซ้ำ” มาโครตอบเพื่อนไป
“มันรีบไหนของมันวะ” ชานนท์ยังไม่หยุดคิดเรื่องของเพื่อนที่หายไป
“กูเห็นมันรับโทรศัพท์แล้วมันก็ออกไปเลยนะ” ออสตินที่นั่งฟังมานานตอบเพื่อนขึ้นมา
“แม่ง!!! ใครโทรมาหามันวะมันถึงรีบขนาดนั้น” ชานนท์ยังคงสงสัยไม่หยุด
“ไอ้เหี้ยนนท์ มึงอย่าแกล้งโง่ จะมีใครโทรมาสั่งเพื่อนมึงได้ ถ้าไม่ใช่ ยัยคุณหนูเพ-ลิน” น้ำหวานตะโกนด่าเพื่อนออกไป
“อ้าว! อีเหี้ยหวาน บอกกูดีๆ ก็ได้ ก็กูแค่ลืม ด่าซะกูโง่จริงๆเลย”
ชานนท์ที่พอได้รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เพื่อนเขารีบไปก็เข้าใจทันที จึงนั่งลงที่เดิม
“จะว่าไป เพ-ลิน นี้ก็เก่งเหมือนกันนะ เอาซะไอ้ครามอยู่หมัดเลย จากเป็นเสืออยู่ดี ๆ ตอนนี้เพื่อนกูใส่ปลอกคอซะแล้ว555” ชานนท์พูดถึงเพื่อนรักอย่างอารมณ์ดี
“มึงก็ไปว่ามัน มันก็รักของมันไหมวะ ตามจีบเขามาเป็นปีๆ กว่าจะได้คบ มันก็ต้องตามใจเป็นธรรมดา” ขุนพลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นแบบฉบับของเขา
“เออ….จริงของมึง นี่ไง! เลยเป็นเหตุผลที่กูไม่จีบใครเป็นตัวเป็นตน เพราะวุ่นวายอย่างงี้ไง สู้กูเอาไปวัน ๆ สบายใจกว่าเยอะ น้ำแตกแล้วแยกทาง มีความสุขกันแค่บนเตียง พอลงจากเตียงก็ต่างคนต่างไป ไม่ผูกมัดอะไรสบายใจสบายกายด้วยกันทั้งสองฝ่าย”
ชานนท์พูดอย่างภาคภูมิใจในการกระทำของมันตามประสาคนเจ้าชู้อย่างมัน ความจริงเรื่องความเจ้าชู้นี่ก็ไม่ได้เป็นแค่ไอ้ชานนท์หรอก มันก็ทั้งแก๊งเลยแหละ มันต้องศีลเสมอกันแหละมันถึงคบกันได้
“เออ มึงคิดแบบนี้ ระวังจะได้ไปใช้ชีวิตที่วัดละ” น้ำหวานพูดแทรกขึ้นแล้วหันมองชานนท์
“ทำไมกูต้องไปใช้ชีวิตที่วัดวะ กูไม่ได้จะบวชสักหน่อย กูละทางโลกไม่ได้หรอกสาว ๆ ยังเหลืออีกเยอะที่รอให้กูไปปล่อยน้ำใส่ กูแค่ทำบุญกับสาว ๆ แบบนี้ก็พอ ไม่ต้องเข้าวัดก็ได้” ชานนท์ตอบน้ำหวานไป ยังงง ๆ ในคำพูดเพื่อนสาวของตน จนน้ำหวานตอบมา
“วัดที่ว่ากูหมายถึงวัดพระบาทน้ำพุโว้ย” น้ำหวานตะโกนใส่หน้า ชานนท์
“สัส! ไอ้เหี๊ยหวาน แม่งปากแบบนี้ ถึงหาผัวไม่ได้สักทีไง”
เจ้าของใบหน้าหล่อพูดใส่หน้าเพื่อนตัวเองด้วยความโมโหที่โดนหลอกด่า
“ไอ้เหี้ยนนท์ แล้วกูจะมีผัวหรือไม่มี มันหนักกะโหลกมึงรึไง”
น้ำหวานตะโกนด่ากลับชานนท์ ลุกขึ้นใช้มือฟาดหลังเพื่อนไปอย่างแรง ชานนท์รีบลุกวิ่งหนีเพื่อนสาวทันที น้ำหวานตะโกนด่าตามหลังและไล่ตีชานนท์ไม่หยุด สองคนนี้ทะเลาะกันประจำแหละ
ฉันมองตามสองคนที่วิ่งไล่ตีกัน หลังจากนั้นฉันจึงนั่งเหม่อคิดถึงคำพูดของเพื่อน ๆ ที่พูดถึงใครอีกคนที่ตอนนี้คงไปอยู่กับหวานใจมันแหละ ฉันนั่งฟังเพื่อน ๆ พูดถึงอีกคนกับสาวคนรักแบบหน่วง ๆ ในใจ
ไม่ใช่ว่าเหตุการณ์แบบนี้มันจะไม่เคยเกิดขึ้น หลังจากที่ทั้งคู่ตกลง คบกัน เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นประจำแหละ แต่ฉันก็รู้สึกเจ็บหน่วง ๆ มันทุกครั้ง เคยคิดว่าสักวันฉันคงจะชิน แต่ไม่แฮ่ะ... ก็ยังรู้สึกทุกครั้ง