Area 1 : ความฝันแน่ ๆ

1280 Words
แซก... แซก... อุกะ! อุกะ! "ชาลรี! ชาลรี! มึงมาดูดิ ไอ้นี่เอาไปส่งให้หัวหน้าดีมั้ย" ยูซบหนึ่งในทีมออกสำรวจทางทิศตะวันออกในสัปดาห์นี้ ได้ตะโกนเรียกชายผู้ซึ่งเป็นรองหัวหน้าทีมในครั้งนี้ให้ได้มาดูและช่วยตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกันต่อไปดี "ไอ้นี่มัน..ชนเผ่าไหนวะเนี่ย" ดวงตาขาวโพลนเพ่งมองไปยังร่างที่นอนแน่นิ่งหลับอยู่ใกล้กับบริเวณหนองน้ำ เส้นทางที่พวกเขาต้องออกมาสำรวจและรับหน้าที่ล่าหาอาหารในเดือนนี้ การออกลาดตระเวนในเวลาเดียวกันดั่งเช่นทุกวันที่ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ทว่าวันนี้มันดันมีสิ่งที่ผิดปกติเกิดขึ้นมาแล้วจนได้ "เห้ย!! มึงอย่าเข้าไปใกล้มันดิ เดี๋ยวมันเอาเชื้อโรคมาติดได้นะ" ทว่าอีกคนที่ถูกเตือนกลับไม่สนใจ เจ้าตัวได้เขยิบกายเข้าไปนั่งยองใกล้กับคนตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว คนที่ยังคงนอนหลับตาพริ้มสบายไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวด้วยเลย ชาลรีมองดูชายผู้ที่มีทั้งรูปร่างหน้าตาสีผิวที่แปลกแตกต่างออกไปจากพวกชนเผ่าของตนเองอย่างสิ้นเชิง "มันยังไม่ตายวะ" ปลายนิ้วสีเข้มจดจ่อและได้จิ้มลงไปยังท่อนแขนของคนตรงหน้า ก่อนจะขยับขึ้นมาอังที่ปลายจมูก จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจแผ่วเบาเข้าออกปกติ "มันไม่ตายสิดีเลยพี่ชาลรี" ชายหนุ่มร่างผอมเก้กังไม่ยอมเข้ามาใกล้ แต่กลับแลบลิ้นเลียริมฝีปากทันที ยามเมื่อได้ยินหัวหน้าทีมบอกว่าคนนอนหลับอยู่นั้นยังมีลมหายใจอยู่ อ๊ะ..อื้ออ... ดวงตาสวยค่อยๆ ขยับเปิดเปลือกตาขึ้นทีละนิดจนสามารถเบิกขึ้นได้เต็มดวง สิ่งแรกที่เจ้าตัวได้พบเห็นนั้นคือท้องฟ้าสีครามไร้ก้อนเมฆ แต่ทว่ามันช่างดูอยู่ใกล้กับใบหน้าของตัวเองเสียจนต้องลองไขว่ขว้าเอาไว้ น้ำค้างได้ชูมือเหยียดแขนขึ้นไปบนฟากฟ้า พยายามยืดนิ้วมือทั้งห้าให้กางออกกว้างปานแตะขอบฟ้าตรงหน้าได้ยังไงยังงั้น "สวยจังเลยวุ้ย" นิ้วเรียวทั้งห้ายังขยับเล่นทั้งกำขยำขยุ้มลมฟ้าอากาศอย่างเพลินมือ เพราะอากาศช่างสดชื่นและแสนสบาย จนรู้สึกว่าหายใจได้อย่างช่ำปอดที่สุดตั้งแต่เกิดมา "อากาศหลังฝนตกมันดีขนาดนี้เลยสินะ" ใบหน้าขาวที่บัดนี้ดูมอมแมมมาก ทว่าเจ้าตัวกลับไม่ได้รับรู้เลยสักนิด เอาแต่ยกยิ้มกว้างอย่างเพลิดเพลินสุขใจกับสีสดใสของท้องฟ้าตรงเบื้องหน้า แต่ยังไม่ทันจะสูดออกซิเจนเข้าปากให้ช่ำทั่วปอดดี จังหวะการดื่มด่ำกับอากาศบริสุทธิ์กลับมีอันต้องสะดุดและต้องชะงักค้าง น้ำค้างสะดุ้งเฮือกตกใจจนตัวโยนแววตาเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัวทันที "เหี้x!!!" หลังจากที่สองหนุ่มหน้าตาประหลาดได้โผล่ใบหน้าเข้ามาในบริเวณกรอบเฟรมทำมือของน้ำค้าง จนริมฝีปากที่ลั่นสบทคำหยาบออกเมื่อครู่กลับมีอันต้องเกิดอาการหายใจติดขัดขึ้นมาโดยฉับพลัน อุกะ!! อุกะ!! อุกะ… อุกะ… "กะอุ กุอะ เชี่ยไรของพวกมึงเนี่ยยย!!" คนผวาตกใจต้องรีบผุดตัวลุกขึ้นนั่ง เพื่อเช็กดูให้เห็นเต็มตากับในสิ่งที่ได้ยื่นเข้ามาบดบังวิสัยทัศน์การมองเห็นขอบท้องฟ้าสีครามแสนงามไปจนหมดสิ้น สองชายหนุ่มแต่งตัวประหลาดจนแทบจะเรียกว่า โป๊เปลือย เพราะเนื่องจากไอ้ผ้าเตี่ยวผืนเล็กๆ ที่ใช้บดบังปกปิดช้างใหญ่ช้างน้อยตรงนั้นก็ช่างดูล่อแหลมซะเหลือเกิน ใบหน้าเบิกตาโพลงค้างเอาไว้อย่างไม่เชื่อสายตา สองมือคนผวาได้ตบกระทบลงที่ซีกแก้มทั้งสองข้างของตัวเองเข้าอย่างจัง เพี๊ยะ!! "อู๊ยยยย เจ็บ! เจ็บ! เจ็บจังว่ะ!" แววตาเลิ่กลั่กหวั่นวิตกของคนที่ตื่นตระหนกไปหมดตั้งแต่แรกเห็น ยิ่งดูหวาดระแวงหนักขึ้นไปอีกเท่าภูเขากองโต ทั้งที่คิดว่าตนเองนั้นกำลังนอนหลับฝันเฟื่องในช่วงหลังฝนตกอยู่แท้ ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าหลังจากที่ได้ตีมือลงบนซีกแก้มของตัวเองแล้ว จนมันดังป๊าบลั่นไปทั่วทั้งป่าผืนเขียวขจีแห่งนี้เลย แถมมันยังช่างเจ็บแสบไปถึงทรวงด้วยอีก "ฝันแน่ๆ ตื่นเว้ย ตื่นดิวะไอ้ค้าง ตื่น!!!" น้ำเสียงประหม่ายิ่งตะเบ็งเสียงให้ดังลั่นไปทั่วลานผืนป่าแห่งนี้เท่าไหร่ ยิ่งทำให้พวกชาวชนเผ่าที่กำลังออกลาดตระเวนและหาอาหารอยู่ ได้เริ่มทยอยพากันเดินเข้ามาตามเสียงกึกก้องตรงบริเวณนี้เข้าไปใหญ่ ทีนี้บรรดาพวกคนแปลกในสายตาของน้ำค้างที่ได้เริ่มเข้ามารุมล้อมกันมากขึ้น พร้อมกับส่งสายตาอันสงสัยจ้องมองดูกับสิ่งแปลกประหลาดตรงหน้าด้วยความคับข้องใจเช่นกัน น้ำค้างมีอาการใจสั่นเต้นรัว มือสั่นเทา ตัวสั่นเทิ้ม หายใจเข้าออกยากลำบากอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ราวกับเป็นลูกนกแรกเกิดทันที เจ้าตัวจึงค่อยๆ ดันพยุงให้ตัวเองนั้นลุกขึ้นยืนให้ได้เดี๋ยวนี้ ใบหน้าสับสน แววตาตื่นกลัว คิดว่าต้องรีบวิ่งหนีโกยแน่บให้สุดชีวิตที่ความคิดแล่นอยู่ในสมอง เพื่อที่จะได้ออกไปจากพื้นที่อันตรายตรงนี้ให้โดยเร็วที่สุด แต่ทว่าร่างกายกลับไม่ยอมทำตามคำสั่งเลยสักนิด เอาแต่สั่นเทิ้มอยู่นั่นไม่ได้ดั่งใจสักอย่างเลย จนตนเองยังรู้สึกว่ามันช่างน่าหงุดหงิดรำคาญใจยิ่งนัก ในเมื่อลุกขึ้นยืนยังไม่ได้เลยแบบนี้ ความกลัวที่มันได้ส่งผลต่อเรี่ยวแรงไปหมด ฉะนั้นเรื่องการวิ่งจึงต้องปัดตกไปซะ เช่นนั้นแล้วก็คงจะเหลือแค่เพียงวิธีเดียว ชายหนุ่มใบหน้าประหลาดในหมู่ของชาวชนเผ่านั้น กำลังแสดงสีหน้าเครียดขึงแสดงความวิตกกังวลให้ได้เห็น ซึ่งแค่ดูก็รู้แล้วว่ากำลังหวาดกลัวจนถึงขั้นไหน ถึงได้ทำหน้าตาน่ากลัวออกมาใส่กัน ทั้งสองฝ่ายต่างพากันแตกตื่นแล้วเอาแต่มองล่อกแล่กกันไปมาอยู่เช่นนี้ เมื่อการกระทำของน้ำค้างที่ดูประหลาดมากแล้ว เจ้าตัวกลับยิ่งทำท่าประหลาดต่อสายตาฝูงชนชาวเผ่าเข้าไปใหญ่ ส่งผลให้กลุ่มชาวชนเผ่าที่มีดวงตาขาวโพลนเอาแต่จ้องเขม็งมองดูสิ่งประหลาดแปลกปลอมตรงหน้าว่ามันกำลังจะทำอะไรกันแน่ น้ำค้างเลือกที่จะกระเสือกกระสนพยายามคลานหนีตาย ราวกับปลาที่อยู่บนเขียงแล้วดิ้นพล่านลงสู่บนพื้นดินที่แห้งเหือดไร้หยดน้ำ แต่กลับต้องดิ้นทุรนทุรายเพื่อเอาชีวิตรอดให้ถึงที่สุดให้ได้ "ฝันเชี่ยอะไรวะเนี่ย ตื่นสิโว้ย ไอ้น้ำค้าง ตื่นนนน!!!!" ร่างกายที่นอนคลุกตัวอยู่บนพื้นที่เฉอะแฉะจนเละเทะไปหมด เจ้าตัวพยายามกระเสือกกระสนไถลตัวห่างออกไป เพื่อเอาตัวรอดให้จงได้ ยิ่งน้ำค้างดีดดิ้นขยับออกแรงทั้งแขนทั้งขา ดันตัวให้ออกห่างจากกลุ่มคนประหลาดที่ดูน่ากลัวตรงหน้ามากขึ้นเท่าไหร่ มันกลับยิ่งไร้เรี่ยวแรงจนอ่อนเปลี้ยลงไปเรื่อยๆ แทน น้ำค้างหวาดกลัวจนสุดขีด ทำเอาน้ำตาไหลพรากออกมาจากกระบอกตาจนนองเต็มใบหน้าอย่างกับทำนบเขื่อนแตก "ฮื่อออ เมื่อไหร่จะตื่นสักทีเล่า..ฮื้อออ.." อุกะ!! อุกะ!! “ไม่เอาแบบนี้ ไม่เอา” "บาจี อย่า!!" โป๊กก!!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD