“ได้สิ ลองไปสมัครดู เดี๋ยวอาไปส่งนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อาพันต้องทำงานไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวหนูนีไปเองค่ะ”
“อาอยากไปส่ง งานของอาไม่เร่งหรอกดิวเอาไว้แล้วว่าต้องส่งให้ลูกค้าวันไหน”
“ค่ะ” พันราชโยกศีรษะเล็กๆ ของเธอไปมา
“กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำกันเถอะ” เขาพูดจบก็อุ้มเธอพาเข้าบ้าน เธอกอดคอหนาเอาไว้ยอมให้เขาอุ้มไปอาบน้ำเหมือนเช่นทุกครั้ง
พันราชนอนกอดร่างหอมกรุ่นหลังจากที่อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว เขานวดนมอวบๆ ของเธอไปมาไม่ยอมให้เธอสวมใส่เสื้อผ้าเพราะอยากนอนกอดร่างเปลือยของเธอแบบนี้ อีกทั้งยามที่เขาอยาก เขาจะได้จับเธอกดได้ทันที ความอยากของเขามันมากมายนักเมื่อได้กอดร่างหอมกรุ่นเอาไว้ในอ้อมแขนแบบนี้
“อื้อ... อาพัน” เธอครางเสียงสั่นๆ เมื่อเขานวดเฟ้นเต้านมอวบอิ่มของเธอไปมาเบาๆ สะกิดยอดถันจนมันแข็งเป็นไต ก่อนจะรั้งร่างเธอมาหาและดูดหัวนมสีชมพูจัดแรงๆ จนเธอเสียวจี๊ดไปถึงก้านสมอง
“อ๊า... อาพันขา เสียวหัวนมค่ะ” เธอบอกเขาออกไปตรงๆ โดนดูดแบบนี้เสียวจริงๆ แถมยังกระตุ้นให้ร่องเยิ้มของเธอมีน้ำไหลซึมออกมาอีก เป็นปฏิกิริยาอย่างหนึ่งที่เธอรับรู้ว่าร่างกายของเธอกำลังตอบรับต่อสัมผัสของเขา
“คืนนี้ให้อาแตกในอีกนะ” เขากระซิบอยู่ตรงริมหู เธอพยักหน้าให้อย่างอายๆ เขาลูบผมนุ่มสลวยของเธอไปมา ก่อนจะจับเธอแยกขาออกแล้วก้มใบหน้าลงไปซุกเหมือนที่ชอบทำทุกคืน
เขาเลียร่องของเธอจนฉ่ำเยิ้มมากว่าเดิม กระตุ้นน้ำหวานให้ไหลซึมหยาดเยิ้มออกมาจากภายใน
“หนูนีพร้อมสำหรับอาแล้วละครับ ให้อากระแทกเลยนะจะได้เสียวมากกว่านี้ไง” เขาบอกเธอเสียงแหบพร่าก่อนจะคุกเข่านั่งทับส้นเท้า เขี่ยส่วนปลายของความแข็งแกร่งไปมาเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ กดลงไปหา
“อ๊า...” เธอครางเสียงสั่นระริกเมื่อแก่นกายชายอวบใหญ่และยาวเหยียดแข็งเป็นลำ สอดแทรกเข้ามาในเนินเนื้อสาว
ร่างกายสาวสะท้านถี่ๆ ไปตามแรงโยกคลอนจากร่างสูงใหญ่ หัวใจของเธอสั่นสะท้านตามไปพร้อมๆ กับแรงรักที่เขาบุกทะลวงเข้ามาในเรือนกายสาว เสียงเนื้อกายเสียดสีเข้าหากันอย่างล้ำลึกผสมผสานกับเสียงฉ่ำแฉะของน้ำรักและเสียงครวญครางแทบจะขาดใจ
ใบหน้าของเขาขยับเข้ามาใกล้ ก่อนที่จะบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มของเธออย่างดูดดื่ม พร้อมด้วยร่างกายที่เสียดสีเข้าหากัน เขาครางยาวตามเธอไปหลังจากที่ฝากฝังเข้ามาจนหมดสิ้น
นีรชากอดรัดเขาแนบแน่น เธอรับรู้ได้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเขา มันถาโถมเข้ามาพร้อมด้วยความสุขเสียวซ่านเหมือนกับทุกๆ ค่ำคืน
เธอหลับไปด้วยรอยยิ้มในอ้อมแขนของเขา และตื่นขึ้นมาเพราะกลิ่นอาหารหอมกรุ่นที่เขาลงมือทำให้เธอรับประทานในตอนเช้า
“ขอโทษด้วยนะคะที่หนูนีตื่นสาย” เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วลงมาจากบนห้องพร้อมที่จะออกไปสมัครงาน เขามองเธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“อาทำอาหารบำรุงให้แล้ว นอนตื่นสายเพราะโดนรังแก อาไม่ว่าหรอกครับ” เขาขยับเข้ามาใกล้ไล้แก้มสาวไปมาเบาๆ ก่อนที่จะเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งลง
“กินเยอะๆ นะจะได้มีแรงสัมภาษณ์งาน” เขาตักข้าวต้มปลาสูตรพิเศษให้เธอ นีรชาสูดกลิ่นหอมของข้าวต้มเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะอมยิ้มและตักชิม
“อร่อยจังเลยค่ะ ฝีมือของอาพันไม่เคยตกเลย” เขาชอบทำอาหารรับประทานเองแล้วสมัยก่อนเธอก็ชอบมาฝากท้องที่บ้านเขาบ่อยๆ บางทีพันราชก็ทำอาหารไปให้ที่บ้านของเธอสมัยที่บิดามารดายังชีวิตอยู่
“รออาประเดี๋ยวเดียวนะ เดี๋ยวไปส่ง” เขารีบบอกเธอก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนห้องเพื่ออาบน้ำอาบท่า ไม่นานก็ลงมานั่งรับประทานอาหารพร้อมกับเธอ
“ไปเถอะเดี๋ยวสาย” เขาบอกหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะขับรถพาเธอไปสัมภาษณ์งานที่โรงงานแปรรูปอาหารทะเล เพื่อนชายที่ออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มรวมถึงสายตาของหมอนั่นทำให้ พันราชรู้สึกไม่ชอบใจยิ่งนัก ยิ่งเห็นรอยยิ้มหวานๆ ของนีรชาที่ส่งไปให้หมอนั่นยิ่งทำให้เขาโมโหหึงมากยิ่งขึ้น
นีรชาเองก็รู้ว่าเพื่อนหนุ่มแอบรักตนเลยมาสมัครงานที่นี่ นิรุติดูแลเทคแคร์เธอเป็นอย่างดี และเขาก็ค่อนข้างถึงเนื้อถึงตัวด้วยจนเธอต้องถอยหนี แต่พอคิดว่าต้องทำให้พันราชหึงบ้าง บางครั้งจึงยอมให้นิรุตจับมือถือแขน
หลังจากที่เธอสัมภาษณ์งานเสร็จเขาก็ขับรถมารับ พอเธอขึ้นไปบนรถ เขาก็จัดการรัดเข็มขัดนิรภัยให้อย่างรวดเร็ว
“อาพันคะ จะไปแล้วเหรอคะ” เธอเอ่ยถาม
“ทำไม”
“นิรุติชวนไปรับประทานอาหารน่ะค่ะ”
“ไอ้หมอนั่นน่ะเหรอ บอกมันไปว่าหนูนีไม่ทำงานกับมันแล้ว” น้ำเสียงของเขากระชากเพราะกำลังโมโห
“อาพัน!” เธออุทานอย่างตกใจกับสีหน้าบึ้งตึงของเขา
“ตกใจอะไร ที่ระริกระรี้อยากจะมาสัมภาษณ์งานกับมันเพราะว่าแอบกิ๊กกับมันอยู่เหรอ”
“อาพัน”
“สายตาที่มันมองเธอ ดูก็รู้ว่าคิดอะไรมากกว่าเพื่อน”
“ใจเย็นๆ ก่อนนะคะอาพัน” เขากระชากรถออกจากหน้าโรงงานด้วยท่าทีขึงโกรธ นีรชาเริ่มใจคอไม่ดีหวาดกลัวกับอารมณ์ของเขา ไหนปัทมลบอกว่าพันราชจะแสดงอาการหึงหวงออกมาทำให้รู้ใจตัวเองมากขึ้นและสารภาพรัก ขอเธอแต่งงานเพราะไม่อยากเสียเธอไปให้ผู้ชายคนอื่นยังไงล่ะ แต่ตอนนี้พันราชกลับน่ากลัวอย่างที่เธอไม่เคยเห็นอารมณ์แบบนี้ของเขามาก่อน เธอยอมรับว่าเธอกลัวเขาจริงๆ
“โอ๊ย! อาพัน หนูนีเจ็บนะคะ” เธอร้องด้วยความเจ็บเมื่อเขาลากเธอลงจากรถด้วยท่าทีโมโห
“อาไม่ชอบผู้หญิงสำส่อนหลายใจ”
“อาพัน” นีรชาตาโตกับประโยคของเขา
“อยู่กับอา นอนกับอาทุกคืนแต่ไปหัวร่อต่อกระซิกกับผู้ชายคนอื่น ผู้หญิงแบบนี้เรียกว่อะไรนีรชา”
“อาพันใจเย็นๆ ก่อนนะคะ หนูนีไม่เคยคิดอะไรแบบนั้น” มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว เธอไม่น่าบ้าจี้ทำตามที่ปัทมลแนะนำเลย
“เหอะ! ผู้หญิงก็เหมือนกันหมด ใกล้ผู้ชายคนไหนก็สำส่อนกับคนนั้น คงอยากนอนแบให้มันมากนักสิ”
“หนูนีไม่เคยทำตัวแบบนั้น”
“ไม่เคยเหรอ ที่ไปกินเหล้าเมายาจนโดนอุ้มขึ้นห้องโดนมอมยาไม่ใช่เพราะไปให้ท่าไอ้หมอนั่นเหรอ”
“อาพัน!” นีรชาปวดแปลบในหัวใจ เธอเจ็บหนึบรู้สึกว่าน้ำตากำลังจะไหลกับประโยครุนแรงของเขา
“ที่เธอยอมอ้าขาให้ฉันเอาก็เพราะเธออยากอ่อยฉันไม่ใช่เหรอ อ่อยมาตั้งนานแล้วตั้งแต่พ่อแม่เธออยู่ ฉันก็ช่วยสงเคราะห์ให้แล้วไง” เขาพูดด้วยความโกรธล้วนๆ แต่มันทำให้คนฟังหัวใจเจ็บปวดอย่างรุนแรง
“อาพัน” นีรชาครางเสียงสั่นพร่า น้ำตาของเธอรินไหลอาบแก้ม หญิงสาวรีบปาดมันทิ้งกลืนก้อนสะอื้นลงไปในลำคอด้วยความรู้สึกอื้ออึงไปหมด
ทำไมเรื่องราวมันถึงได้เป็นแบบนี้ไปได้นะ?
“อาพันกำลังโกรธ คืนนี้หนูขอกลับไปนอนที่บ้านนะคะ” เธอไม่ได้หนีปัญหา แต่การไม่เจอหน้ากันสักพักอาจจะทำให้อารมณ์ของแต่ละฝ่ายเย็นขึ้น
“อ้อ พูดแทงใจดำล่ะสิ คงจะกลับไปนอนคุยโทรศัพท์ออดอ้อนไอ้หมอนั่นใช่ไหม ตอบอามาสิ” เธอชะงักฝีเท้าเมื่อเขาพูดไล่หลังมาแบบนั้น
“หนูนีว่าเราค่อยคุยกันนะคะ รอให้อารมณ์เย็นกว่านี้อีกหน่อย” เธอไม่กล้าหันไปหาเขา กลัวเขาจะเห็นความอ่อนแอในแววตาคู่นี้ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก จะโทษว่าเป็นความผิดของปัทมลก็ไม่ได้ เธออยากใจง่ายให้เขาเอง
“คิดว่าเข้ามาในบ้านฉันแล้วจะออกไปได้ง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ” เธอไม่เข้าใจที่เขาพูดเลยหันกลับไปมอง
เขาตรงเข้ามาอุ้มเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว นีรชาดิ้นรนอย่างตกใจร้องออกมาเสียงหลง
“เธอต้องนอนที่นี่คืนนี้และนอนเตียงเดียวกับอาด้วย”
“หนูนีจะกลับไปนอนที่บ้านค่ะ”
“ดิ้นเข้าไปเถอะ ตกลงไปแข้งขาหักไม่รู้ด้วยนะ” เขาขู่ ซึ่งมันได้ผล นีรชาจำต้องกอดคอหนาเอาไว้เพื่อไม่ให้ตกลงไปแข้งขาหัก