อีกด้านหนึ่ง @ห้องพัก 2020 โรงแรมหรูติดแม่น้ำของครอบครัวชนกันต์ กรุงเทพฯ
ครืด ครืด (เสียงสั่นมือถือปรียาดา)
From: Unknow
สวัสดีค่ะ
Sent File
“คุณน้องดาค่ะโทรศัพท์มือถือสั่นค่ะ” หนึ่งในทีมงานช่างแต่งหน้าบอกกับคุณหมอสาวที่กำลังถูกช่างทำผมจัดทรงผมอยู่ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่อีกมุมของห้องมาให้คุณหมอสาวทันที
“ขอบคุณนะคะ” ปรียาดาเอ่ยขอบคุณหนึ่งในทีมงานช่างแต่งหน้าก่อนจะทำการกดปลดล็อกหน้าจอเครื่องแล้วดูข้อความบนหน้าจอมือถือที่แสดงบอกว่ามีข้อความเข้ามา
“ไฟล์เสียง?” ปรียาดาเอ่ยออกมาเบาๆเมื่อเห็นข้อความที่แสดงบนหน้าจอโทรศัพท์
“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณน้องดา” หัวหน้าทีมงานช่างแต่งหน้ามืออาชีพชื่อดังเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าไม่สบายใจของคุณหมอสาวผ่านทางกระจก
“น้องดาขอคุยโทรศัพท์สักครู่นะคะ” ปรียาดาตัดสินใจขอเวลาส่วนตัวเมื่อเห็นว่าทีมช่างทำผมได้ทำผมให้เธอเสร็จเรียบร้อยดีแล้วก่อนจะลุกออกไปอีกห้องหนึ่งโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูห้อง ทำให้สร้างความแปลกใจให้กับเหล่าทีมงานช่างแต่งหน้าเป็นอย่างมากเมื่อเห็นอาการของคุณหมอสาวแบบนั้น
เมื่อปรียาดาเดินเข้ามาอีกห้องที่เชื่อมผ่านกันได้โดยประตูเชื่อม ซึ่งห้องชุดห้องนี้ถูกจัดเตรียมเป็นพิเศษไว้เพื่อคุณหมอสาวโดยเฉพาะ ซึ่งห้องนี้เป็นเหมือนของขวัญต้อนรับว่าที่ลูกสะใภ้กลายๆจากผู้เป็นแม่ของผู้พันกานต์ แต่ด้วยถือจารีตประเพณีแต่งก่อนอยู่ของทั้งสองครอบครัวทำให้ชนกันต์และปรียาดาไม่สามารถพักอยู่ห้องเดียวกันได้
ปรียาดาทำการกดที่ไฟล์เสียงที่ส่งเข้ามาอย่างหวั่นกลัวเหมือนกับว่าสิ่งที่ส่งมาหาเธอนั้นมันคือเรื่องร้ายที่เธอต้องรับรู้ แล้วเมื่อกดเปิดฟังก็ปรากฏเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาด้วยประโยคที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยิน จนถึงประโยคที่เป็นเสียงผู้ชายที่เธอจำได้ดีว่านั่นจะเป็นเสียงของใครไม่ได้ นอกจากเสียงคนรักของเธอที่กำลังจะเข้าพิธีหมั้นอีกไม่กี่ชั่วโมง
"คืนนั้นที่เราสองคนมีอะไรกัน คุณไม่ได้ป้องกันและฉันก็ไม่ได้กินยาคุมหลังจากที่คุณปล่อยในใส่ฉันทั้งคืน ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าลูกในท้องของฉันเป็นลูกของคุณหรือเปล่า คุณจะตรวจจะดีเอ็นเอก็ได้นะคะ ฉันหาข้อมูลมาแล้วว่าสามารถตรวจดีเอ็นเอเด็กได้ตั้งแต่ในท้อง การตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ความเป็นบิดาของทารกในครรภ์จะเก็บตัวอย่างจากเลือดของแม่ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 6 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งเป็นวิธีที่ทารกจะเจ็บตัวน้อยที่สุดและปลอดภัยต่อแม่และเด็กในท้องมากที่สุด การตรวจดีเอ็นเอทารกในครรภ์จากเลือดแม่ใช้วิธี Non-invasive Prenatal Paternity (NIPP) หรือการวิเคราะห์ดีเอ็นเอของรกที่ปนอยู่ในเลือดของแม่ วิธีการดังกล่าวเป็นวิธีการที่ได้มาตรฐานสากลเช่นเดียวกับการตรวจจากรกหรือจากน้ำคร่ำ ความเชื่อมั่น 99.99% รู้ผลภายใน 21 วันเองค่ะ"
“คุณจะเอาเท่าไหร่ว่ามาดีกว่า”
เสียงที่ปรียาดาได้ยินจากคลิปเสียงที่ส่งมาทางโทรศัพท์มือถือ ทำเอาคุณหมอสาวทนฟังต่อไปไม่ไหวจนต้องปิดคลิปเสียงนั้นทันทีก่อนจะเอามือขึ้นมาปิดปากของตัวเองแล้วร้องไห้ออกมาอย่างสุดที่จะกลั้นไหว คำพูดที่เธอเคยพูดหยอกล้อกันขำๆกับคนรักกลับกลายเป็นความจริงในวันนี้ ในวันที่เธอกับเขากำลังจะเข้าพิธีสำคัญร่วมกัน
“พี่กานต์...” ปรียาดาชื่อคนรักของตนเองทั้งน้ำตา อย่างไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอย่างไรต่อไปหลังจากนี้ดี
เวลา 08.30 น. @ห้องจัดเลี้ยงงานหมั้น
“คุณหญิงคะ” ผู้ช่วยคนสนิทของคุณหญิงผกาสินีเดินเข้ามากระซิบบอกผู้เป็นนายด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจนอีกฝ่ายต้องเดินไปยังมุมที่ไม่มีคนเดินผ่าน
“มีอะไร” คุณหญิงผกาสินีเอ่ยถามผู้ช่วยคนสนิทกลับทันที
“คุณหนูดาหายไปค่ะ ตอนนี้ทีมช่างแต่งหน้ากำลังช่วยกันตามหาคุณหนูกันอยู่แต่ยังหาไม่เจอเลยค่ะ”
“ว่ายังไงนะ!!”
“เอ่อ คือว่าทีมช่างแต่งหน้าบอกว่าอยู่ๆก็มีโทรศัพท์เข้ามาหาคุณหนู แล้วคุณหนูก็ขอตัวไปคุยโทรศัพท์อีกห้องที่เชื่อมติดกับห้องที่แต่งตัว จนเวลาผ่านไปได้สักพักก็ไม่เห็นคุณหนูเดินออกมาจากห้องนั้นสักที พวกเขาก็เลยพากันเคาะประตูเรียกแต่ประตูห้องก็ไม่เปิดออกมา แล้วจึงพากันเปิดประตูห้องเข้าไปแต่ไม่มีคุณหนูอยู่ในห้องนั้นแล้วค่ะ ทำยังไงกันดีคะคุณหญิง บอกท่านนายพลดีมั้ยคะ”
“หาดีจนทั่วแล้วเหรอ หรือว่าทางโรงพยาบาลโทรมาตามหรือเปล่า แล้วนี่หล่อนโทรไปถามที่โรงพยาบาลหรือยัง” คุณหญิงผกาสินีพยายามคาดเดาเหตุการณ์ว่าอะไรที่ทำให้ลูกสาวของตนหายไปอย่างไร้ร่องรอยในงานสำคัญของตนเองแบบนี้ได้ ถ้าหากไม่ใช่งานที่โรงพยาบาลเพราะครั้งหนึ่งลูกสาวของตนก็เคยหนีงานเลี้ยงวันเกิดของตัวเองเพื่อไปช่วยคนไข้อาการโคม่ามาแล้ว
“จริงด้วย ดิฉันยังไม่ได้โทรไปสอบถามทางโรงพยาบาลเลยค่ะ”
“งั้นก็รีบไปโทรสิ ยืนซื่อบื้อทำอะไร”
“ค่ะๆ ดิฉันจะรีบไปโทรเดี๋ยวนี้” ผู้ช่วยคนสนิทก้มหน้าทำความเคารพอย่างเกรงกลัวก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วเดินออกไปโทรหาทางโรงพยาบาลของคุณหนูสาวทำงานอยู่
“คุณหญิงคะ” คุณหญิงนารีวรรณเดินเข้ามาหาคุณหญิงผกาสินีทันทีหลังจากที่เห็นผู้ช่วยคนสนิทของอีกฝ่ายเดินออกไปด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนจนน่าสงสัย
“คุณหญิงวรรณมีอะไรหรือเปล่าคะ” คุณหญิงผกาสินีเอ่ยถามคนที่เดินเข้ามาทักทายด้วยสีหน้าเป็นปกติอย่างคนกำลังเก็บอาการวิตกกังวลเอาไว้
“วรรณไม่มีอะไรหรอกค่ะ เมื่อกี้วรรณเห็นท่าทางของผู้ช่วยคุณหญิงแปลกๆเลยเข้ามาถามว่ามีปัญหาอะไรให้ทางวรรณช่วยมั้ยคะ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แล้วนี่ผู้พันกานต์ลงมาหรือยังคะ”
“โทรมาเมื่อสักครู่นี้ว่าจะแวะไปรับว่าที่คู่หมั้นแล้วจะลงมาพร้อมกันค่ะ งั้นพวกเราเข้าไปรอในงานกันเลยดีมั้ยคะ”
“เอ่อ ก็ดีเหมือนกันนะคะ” คุณหญิงผกาสินีพยายามมองไปรอบๆก่อนจะตอบคุณหญิงนารีวรรณกลับไปด้วยอาการที่พยายามเก็บอาการเป็นกังวลเอาไว้ด้วยสีหน้าที่เป็นปกติ แล้วจึงเดินเข้าไปในงานพร้อมกับคุณหญิงนารีวรรณทันทีด้วยความรู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่ได้รับรู้จากผู้ช่วยคนสนิท
เวลาต่อมา @ห้องพัก 2020
ชนกานต์ยืนเคาะประตูหน้าห้องอยู่สักพักแต่ก็ไม่มีใครเปิดประตูออกมาให้เขาได้เข้าไปเลย สร้างความสงสัยให้กับผู้พันหนุ่มเป็นอย่างมากเหมือนกับว่าในห้องนั้นไม่มีใครอยู่เลย ซึ่งเขาคิดว่าไม่น่าจะไม่มีใครอยู่ที่ห้องเลย ในเมื่อก่อนหน้านี้เขาได้บอกกับคนรักไว้แล้วว่าจะลงมารับแล้วไปที่ห้องจัดงานพร้อมกัน
“น้องดาครับ” ชนกันต์เคาะประตูเรียกอีกครั้งแม้จะรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นแต่ยังหวังว่าตัวเองอาจจะคิดผิด ทั้งที่เคยฝึกมาอย่างหนักจากการอยู่หน่วยพิเศษที่ดูจากสถานการณ์แล้วก็ประเมินได้ว่าในห้องดังกล่าวไม่มีใครอยู่เลย
“ผะ...ผู้...พัน” เสียงจากทางด้านหลังทำให้ผู้พันหนุ่มหันหลังไปมองทันที
“เกิดอะไรขึ้นครับ น้องดาไปที่งานแล้วเหรอ”
“คะ..คือว่า...คุณน้องดาหายไปค่ะ ตอนนี้พวกเรากำลังข่วยกันตามหาอยู่”
“ว่าไงนะ!!!” ผู้พันกานต์เอ่ยออกมาอย่างตกใจ แต่ไม่ได้ถามคนตรงหน้าต่อ เขากลับเดินอย่างเร็วออกไปจากหน้าห้องเพื่อตรงไปยังลิฟต์ทันทีอย่างร้อนรน
“นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไร” ผู้พันกานต์สบถออกมาอย่างไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองในวันนี้
ในขณะที่กำลังเดินไปยังห้องกล้องวงจรปิดเพื่อเปิดดูกล้องวงจรปิดทุกตัวที่ติดตามมุมทางเดินของแต่ละชั้นในโรงแรม เขาก็ภาวนาว่าอย่าเกิดอะไรขึ้นกับคนรักและขอให้วันนี้ผ่านไปด้วยดีหลังจากที่เขาเพิ่งจะจัดการปัญหาแรกจบไปก็มีปัญหาใหม่เข้ามาทันที ซึ่งเขายังมองในแง่บวกว่าปัญหาแรกที่เข้ามาในชีวิตเขาในวันนี้คงจะไม่ได้เป็นผู้ที่ทำให้ปัญหาที่สองเกิดตามมา