Secret 08 ไม่ชอบ

1554 คำ
ร้านเบเกอรี่ ซึมสุข ฉันเดินเข้าทางหลังร้านพร้อมกับอาแซน ฉันไม่ได้มาร้านแม่อาซานนานพอสมควร ส่วนใหญ่เจอกันวันรวมญาติที่เกิดขึ้นทุกเดือนซึ่งฉันไม่เคยพลาดเพราะอยากมาเจอหน้าอาซาน “แสนซนของยายมาแล้วยายเตรียมขนมหวานไว้ให้หนูเพียบเลย” ยายมอร์ฟีนหรือเรียกอีกอย่างก็แม่อาซาน ยายเอ่ยทักขณะที่ฉันเดินเข้ามาในห้องทำงานของยายพร้อมกับอาแซน “ยายน่ารักที่สุดเลยค่ะ” “น่ารักก็มาให้ยายกอดสิจ๊ะ” “กอดอยู่แล้วค่า” ฉันเดินไปหายายฟีนที่ยืนยิ้มหวาน ยายฟีนยังสวยอยู่เลยเรียกยายทั้งที่อายุเพิ่ง 40 อัพเอง ถ้าให้ร่ายเรียงเรื่องญาติพี่น้องในตระกูลก็ค่อนข้างสับสนและเรียกยาก ฉันเรียกแม่อาซานอาแซนว่ายายน่ะถูก ผิดก็ตรงที่ฉันงอแงจะเรียกอาแซนอาซานว่าอาทั้งที่ควรจะเป็นน้า เมื่อเรียกมาตั้งแต่เด็กและไม่อยากแปลกแยกฉันจึงเรียกแบบนั้นมาตลอด “แสนซนสบายดีไหมลูก เรียนหนักหรือเปล่า” ยายยื่นมือมาจับที่แก้ม “เรียนหนักค่ะ ดีที่มอปิดมีช่วงได้หายใจหน่อย” “ยายจองตัวแล้วนะหมอซน ยังไงก็ต้องมาช่วยโรงพยาบาลยายนะ” “แน่นอนค่ะยาย” “แซนรู้ว่าคิดถึงหลาน เรานั่งคุยกันดีกว่าไหมคะแม่” อาแซนวางถุงยาและวิตามินลงที่โต๊ะหน้าโซฟา เป็นวิตามินที่อาแซนจัดให้ยายน่ะ “อ่อ แม่ดีใจไปหน่อยน่ะ มาลูกมานั่งกัน” ยายฟีนจับมือฉันเดินมานั่งที่โซฟา ขนมหวานมากมายเรียงอยู่ที่โต๊ะทุกชิ้นล้วนน่าลิ้มลอง ฝีมือทำขนมของยายฟีนอร่อยมากเลยล่ะ เพล้ง! เป็นเสียงจานกับช้อนตกลงพื้นระหว่างที่ฉันกำลังพูดคุยกับยายฟีน หลังเสียงของตกเสียงหวาน ๆ ของอาแซนก็ดังขึ้น “ขอจานกับช้อนใหม่ แล้วก็มาเก็บตรงนี้ด้วย” “ค่ะ” พนักงานหญิงคนหนึ่งส่งยิ้ม เธอเอาน้ำชาเข้ามาเสิร์ฟพอดี แต่ฉันคิดว่าอาแซนไม่ชอบผู้หญิงคนนี้นะ สาเหตุที่คิดแบบนี้ก็เพราะน้ำเสียงที่อาแซนใช้มันดูดุดันไม่เป็นมิตร ซึ่งปกติอาแซนไม่ใช่คนที่จะใช้น้ำเสียงแบบนี้กับพนักงาน “หน้าตาน่ารักจัง พนักงานพาร์ทไทม์เหรอคะยาย” “จะเรียกแบบนั้นก็ได้จ้ะ” “ปกติยายไม่รับพาร์ทไทม์ไม่ใช่เหรอคะ” “เริ่มแรกเป้งเขาเอามาฝากไว้น่ะ จากนั้นเรื่องก็ยาวมาหนึ่งปีได้แล้วนะ” “หืม ลุงเป้งเหรอคะ ยังไงคะยายเรื่องนี้พี่ไข่รู้ไหม” ต่อมเผือกฉันเริ่มกระตุก “ไม่ใช่อย่างที่เราคิดหรอกนะ ไข่มุกไม่ใช่เด็กเลี้ยงของเป้ง” ยายพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นมันยังไงคะแม่” อาแซนทำหน้าสงสัย “นั่นสิคะ ยายเล่าหน่อยค่ะซนอยากรู้” ฉันเองก็สงสัยเหมือนกัน ทำไมลุงเป้งต้องเอาพนักงานคนนี้มาฝากไว้ที่นี่ เขาไม่ทิ้งลายหรือมีเหตุผลอะไรกันแน่ ถ้าเรื่องไม่ดีฉันจะฟ้องพี่ไข่ นั่นพี่สาวของฉันฉันต้องปกป้อง “เรื่องของเรื่องไข่มุกเป็น...” ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ขออนุญาตค่ะ คุณฟีนคะภรรยาหมอเบย์มาแล้วค่ะ” กำลังจะรู้เชียวแต่ผู้จัดการมาเรียกยายซะก่อน “อ่อ มาแล้วเหรอ เด็ก ๆ คุยกันเลยนะแม่ไปต้อนรับภรรยาหมอเบย์ก่อน” “ค่ะแม่” มุมปากอาแซนกระตุกอาการนี้ของแซนจะเกิดขึ้นเมื่อเธอรู้สึกหงุดหงิด ฉันรู้เรื่องนี้เพราะว่าอาแซนเป็นคนสวยทำให้ฉันเจอทีไรก็มักจะสังเกตเธอ ไปไหนด้วยกันก็มักจะมองอาแซนอยู่เสมอทำให้เจอกับบุคลิกที่อาแซนมักใช้ ฉันจึงรู้ว่าเธอกำลังพอใจหรือไม่พอใจ อาแซนเป็นคนที่โกหกไม่เก่งชอบทำตัวเรียบเฉยก็จริง ทว่าเธอไม่ได้ทำตัวเป็นคุณหนูเรียบ ๆ อย่างบุคลิกที่แสดงออกมา เธอมีมุมที่ไม่ควรจะเข้าไปเป็นศัตรูด้วย “อะไร” อาแซนถามพนักงานหญิงที่วางเค้กอัลมอนด์ลงบนโต๊ะ “แทนคำขอโทษที่หนูซุ่มซ่ามทำจานกับช้อนคุณแซนตกค่ะ” พนักงานเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล หน้าตาเธอสะสวยดีคนที่ฉันบอกว่าน่ารักอะแหละ ทั้งสวยทั้งน่ารักเลย “เธอชื่ออะไร” อาแซนเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบวางหน้าเรียบนิ่ง น่ากลัวชะมัด “หนูชื่อไข่มุกค่ะ” “ทำงานที่นี่มานานเท่าไหร่แล้ว” “ปีกว่าแล้วค่ะ” “นับเป็นหนึ่งปีก็ถือว่านานอยู่นะ” “ค่ะ ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มสู้ ทว่าเจออาแซนสู้กลับ “ไม่ใช่เรื่องที่จะขอบคุณ เพราะฉันจะบอกว่าจำไว้ด้วยว่าหลานสาวของฉันไม่กินตระกูลถั่ว หัดใส่ใจลูกค้าเหมือนพนักงานที่ทำมานานหน่อย อย่าลืมว่าเธอคือพนักงานที่ร้านแม่ของฉัน” ฉันนั่งฟังเงียบ ๆ ไม่ยื่นปากเข้าไปแทรก การที่อาแซนจะไม่ถูกชะตากับใครสักคนต้องมีเหตุผลรองรับอยู่แล้ว อาแซนไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล “ค่ะ หนูจะจำไว้ค่ะ” “ออกไปได้แล้ว” น้ำเสียงช่างเย็นชาจนรู้สึกหนาว “อาแซนดุจัง” ฉันพูดหลังจากที่พนักงานคนนั้นออกไปแล้ว “ดุที่ไหนล่ะ” เปลี่ยนน้ำเสียงต่างกันโดยสิ้นเชิง “อาแค่ย้ำให้รู้ว่าเป็นพนักงานควรใส่ใจลูกค้าหรือซนคิดว่าอาพูดผิด” “ไม่ค่ะ อาแซนพูดถูกแล้ว” ซนแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมอาแซนต้องดุขนาดนั้นด้วย ช่างเถอะคงเป็นเรื่องงานจริง ๆ “ซนคิดว่าพนักงานคนเมื่อกี้เป็นยังไง” แต่ดูเหมือนอาแซนจะไม่ช่างน่ะสิ “ก็น่ารักดีนะคะ ดูเรียบร้อย สวยดี” “สนิมในน่ะสิ” “หืม นี่ซนพยายามไม่คิดว่าอาแซนไม่ชอบหน้าเธออยู่นะคะ” “อาไม่ชอบ ไม่ชอบมาก ๆ” “ทำไมคะ เธอทำอะไรไม่ดีกับอาแซนเหรอคะ เท่าที่ซนเห็นเธอดูเกรงใจอาแซนมากเลยนะคะ” “...อาไม่ชอบน่ะ” “ดูท่าพนักงานคนนั้นจะโชคร้ายน่าดูนะคะ” น้อยคนจะตายที่จะโดนอาแซนหมายหัว “หึ โชคร้ายก็ดีน่ะสิ” ทว่าอาแซนกลับพูดจากำกวมชวนให้ฉันอยากรู้ด้วยแล้วสิ อยากถามต่อ แต่อาแซนก็เปลี่ยนเรื่องพูด การเปลี่ยนเรื่องพูดแปลว่าไม่อยากเล่า “กินเค้กจ้ะ เดี๋ยวห่อกลับด้วยเนอะ อร่อยปะ” “อร่อยเหมือนเดิมค่ะ” “อร่อยก็จัดเต็มเลยจ้า” ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์มือถือฉันแผดร้องขณะที่นั่งชิมเค้กหลายรส เมื่อหยิบขึ้นมาดูฉันก็ยิ้มก่อนกดรับสาย “จ้า” (เมื่อไหร่จะกลับ) “ตามกำหนดไง เป็นอะไร” (คิดถึงครับ ผมคิดถึงคุณที่สุดไม่เห็นหน้าคุณหลายวันผมใจจะขาด) “พายัพคะ” “ครับ” “ขนลุกมาก โทรมามีอะไร เอาเรื่องจริงจัง” (ก็บอกคิดถึง คิดถึงบ้างเปล่า) “ไม่อะ” (ซนซน) “เออ คิดถึง เดี๋ยวเอาขนมบ้านยายฟีนไปฝากนะ” (กลับวันไหนบอกด้วยอดข้าวรอ) “ต้องขนาดนั้นเลย” (ที่สุด เรื่องเวอร์ผมเก่งที่สุดแล้วครับ) “รู้ตัวก็ดี” (ซนซนอยู่ไหน) “อยู่ร้านเค้กยายฟีน อยู่กับสาวสวยด้วยน้า” (พี่แซนเหรอ) “แหมะ รู้ดีจริง ๆ เลยนะ” (ก็ซนซนอวยพี่แซนมาตลอดเลยนี่ คนที่ซนซนชอบเรียกว่าสาวสวยก็เป็นพี่แซน) “รู้มาก แค่นี้นะ” (ครับ ดูแลตัวเองแล้วก็อย่าลืมคิดถึงเราด้วยนะซนซน) “ได้จ้าจะคิดถึงทุกวันเลย” (ดีมากครับ) “อืม ดูแลตัวเองด้วย” ฉันกดวางสายด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มแน่ ๆ เพื่อนฉันมันคนกวนประสาท “พายัพเหรอ” “ค่ะ” “พายัพแสดงออกชัดเจนนะ” “เรื่องอะไรคะ” “เขาชอบซนไง” “ไหนเจเจ้ชอบพูดว่าอาแซนไม่สนใจเรื่องรักแล้วทำไมถึงดูออกคะ” “ก็พายัพแสดงออกชัดเจนขนาดนั้น ต่อให้ซนแกล้งทำเป็นไม่รู้ก็ต้องเห็นใช่ไหมล่ะ” “อื้ม เค้กส้มอร่อยมากค่ะ” “เปลี่ยนเรื่องเก่งที่หนึ่งเลยนะ” “เปล่าน้า...เอ้อ พูดถึงเจเจ้เจเจ้จะได้กลับบ้านเมื่อไหร่คะ” เจ้ฬิของฉันไม่ยอมไปนัดดูตัว เจ้แกแกล้งป่วยก็เลยโดนจับไปขังที่โรงพยาบาล ครั้งนี้คงเข็ดแล้วมั้ง “เท่าที่รู้มาก็อีกสองสามวันนะ” อาแซนพูดแล้วก็ขำ “ป่านนี้จะลงแดงหรือยังก็ไม่รู้” เจ้แกชอบโดนกักขังที่ไหนล่ะ โดนสั่งห้ามเยี่ยม ห้ามเล่นเครื่องมือสื่อสารด้วย “อาว่าจะจัดฉลองต้อนรับการกลับบ้านสักหน่อย ป่านนี้เฉาใกล้แห้งเหี่ยวแล้วแหละ ต้องปลุกไฟสักหน่อย” “ดีนะคะ เราไม่ได้รวมตัวกันนานแล้ว คงวุ่นน่าดู” การรวมตัวกันของต้าวจิ๋วคือการแย่งกันพูด “แค่คิดก็เริ่มปวดหัวแล้วนะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม