หลายวันต่อมา---
" ยิ้มหน่อยสิคนสวยของแม่ " พิมพ์ลูบผมลูกสาวเบา ๆ อย่างปลอบโยนขณะที่เธอนั่งรอเวลาเพื่อเข้าพิธีหมั้นอยู่หน้ากระจกด้วยใบหน้าเศร้า
" หวานไม่อยากแต่งงานกับคนที่หวานไม่ได้รัก " เธอหันมองหน้าผู้เป็นแม่พร้อมกับกล่าวความรู้สึกด้วยน้ำเสียงแสนจะแผ่วเบาและเนิบช้าทว่าขุ่นมัวอย่างที่สุด
" มาถึงขนาดนี้แล้วนะลูกแม่เชื่อว่าสักวันหนูกับหมอธันจะรักกัน "
" ไม่มีทางหรอกค่ะเพราะในใจหนูยังมีพี่มาร์คถึงแม้เขาจะมีคนรักแล้วก็ตามอีกอย่างไอ้หน้านิ่งนั้นก็มีแฟนแล้ว "
" ถ้าหมอธันมีแฟนแล้วพ่อกับแม่ต้องรู้บ้างสิจ้ะ เท่าที่รู้มาหมอธันไม่เคยมีแฟนสักคนเลยนะ "
" แต่หวาน.... "
" เอาล่ะหวาน วันนี้เป็นวันดีหนูต้องยิ้มเข้าไว้นะลูกเชื่อแม่สักครั้งนะคะคนดี " หวานเธอไม่ทันได้พูดจบประโยคแม่เธอก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างขอร้องพร้อมกับคลี่ยิ้มให้ลูกสาวบาง ๆ
แกร๊ก ----
" ขออนุญาตนะคะ "
" ว๋านนโสยยย ( หวานสวย ) "
ระหว่างนั้นประตูก็ถูกผลักเข้ามาพร้อมกับมิลินที่กุมมือเนนิลลูกสาวตัวน้อยของเธอเดินเข้ามาหาหวานที่นั่งรออยู่ในห้องแต่งตัวเนนิลเรียกชื่อหวานด้วยน้ำเสียงสดใสและไร้เดียงสาของเธอ
" ว่าไงคะคนสวยของหวาน "
" มะหมี่ว๋านโสยยจางเยยย ( หม่ามี๊หวานสวยจังเลย) " เนนิลเงยหน้าบอกกับผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มหวานพร้อมกับกะพริบตาปริบ ๆ ดวงตากลมโตของเธอช่างมีเสน่ห์เธอใช้มือน้อย ๆ จับมือหวานเอาไว้
" ค่ะลูก "
" เนนิลของหวานนี่ปากหวานจริง ๆ เลย " หวานเอ่ยชมหลานสาวพร้อมกับคลี่ยิ้มให้บาง ๆ
" เนนิลนี่น่ารักจังเลยนะหนูมิลิน แม่สักอยากจะได้หลานซะแล้วสิ "
" แม่ก็ " หวานประท้วงผู้เป็นแม่ทันทีด้วยใบหน้ามุ้ยเมื่อพิมพ์เหล่ตามองลูกสาวเป็นเชิงบอกว่าเธอนั้นอยากได้หลานจากลูกสาวนั้นเต็มประดา
" ลินเชื่อว่าคุณแม่จะได้หลานแน่ ๆ ค่ะ "
" ยัยมิลิน !! " หวานแหวใส่เพื่อนรักอีกครั้งอย่างไม่จริงจังนักพร้อมกับใบหน้ามุ้ยที่เปื้อนรอยยิ้มของเธอ
" ยีนยากมีง้อง ( นิลอยากมีน้อง ) " เนนิลเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบท้องผู้เป็นแม่เบา ๆ มิลินก้มมองลูกสาวอย่างเอ็นดู
" นู้น ลองขอน้องจากหวานสิคะคนสวย "
" ว๋านยีนยากมีง้อง ( หวานนิลอยากมีน้อง ) " เมื่อได้ยินอย่างนั้นเนนิลจึงหันไปบอกกับหวานทันทีด้วยรอยยิ้มสดใสทำให้หวานได้แต่คลี่ยิ้มให้หลานสาวบาง ๆ เท่านั้นก่อนจะหันไปแหวใส่เพื่อนรักอย่างไม่จริงจังนัก
" เพราะแกยัยลิน "
มิลินพียงแค่ยิ้มกว้างให้เพื่อนสาวเท่านั้น
" เอาล่ะถึงเวลาแล้วลูก "
" ค่ะ "
" สู้ ๆ นะหวาน "
เมื่อจบสนทนาพวกเขาจึงเดินออกมาเพื่อเข้าพิธี สถานที่หมั้นจัดขึ้นที่บ้านของหวานโดยมีแขกผู้ใหญ่และเพื่อนที่สนิทเท่านั้นที่มาร่วมงานหมั้นครั้งนี้ เมื่อหวานเดินเข้ามาในพิธีผู้คนในงานต่างหันมองเธอด้วยความสนใจเพราะเธอนั้นสวมชุดลายไทยสีครีมมีสีชมพูอ่อนอยู่ด้านในพร้อมกับปล่อยผมยาวตรงกลัดหูหนึ่งข้างติดด้วยกิ๊ฟดอกมะลิสดเธอแต่งหน้าอ่อน ๆ มองดูแล้วช่างสวยงามเหมือนนางในวรรณคดีไทย ธันมองหวานที่เดินเข้ามาอย่างไม่วางตาเธอทั้งสวยและน่ารักทำให้เขาไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้เลย
" ตาธันหยิบแหวนได้แล้วลูก " นาดาสะกิดลูกชายให้ได้สติเพราะธันเอาแต่จ้องหน้าของเธออย่างไม่วางตาทำให้หวานรีบหลบสายตาทันทีอย่างเขินอาย
" ครับ "
จากนั้นธันจึงละสายตาจากหวานก่อนจะหยิบขึ้นมาสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายให้เธอ เมื่อธันสวมใส่เสร็จแล้วหวานจึงก้มกราบธันที่หน้าขาของเขาตามพิธี จากนั้นจึงหยิบแหวนสวมใส่ให้ธันเช่นกันทั้งคู่มองตากันแวบนึ่งก่อนจะละสายตาไปทางอื่น ท่ามกลางเสียงตบมือของแขกในงาน จากนั้นก็มาถึงพิธีลดน้ำสังข์ทุกคนลดน้ำและอวยพร ต่าง ๆ จนมาถึงคนสุดท้ายที่ทำให้หวานชะงักไปทันทีพร้อมกับจ้องคนตรงหน้าด้วยแววตาแดงก่ำ
" พี่ขอให้หวานมีความสุขมาก ๆ นะ " มาร์คอวยพรด้วยน้ำเสียงเรียบพร้อมกับคลี่ยิ้มให้เธอบาง ๆ โดยมีคนรักของเขายืนอยู่ ข้าง ๆ มันทำให้หวานนั้นใจกระตุกวูบทันทีที่เจอเขาและเธออยู่ด้วยกัน
" พี่แน่ใจเหรอว่าหวานจะมีความสุข ? " ขณะที่มาร์คกำลังเดินไปแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อหวานถามขึ้นทำให้แขกในงานต่างพากันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ธันที่ได้ฟังอย่างนั้นถึงกลับตวัดสายตาไม่พอใจมองหวานทันที มาร์คไม่ได้ตอบอะไรเพียง แค่หันมายิ้มให้บาง ๆ เท่านั้นเขาเข้าใจดีว่าเธอนั้นรู้สึกยังไงแต่เขาเองนั้นก็ได้เลือกแล้ว จากนั้นเขาจึงเดินออกไปจากงานทันที น้ำตาของเธอจึงหยดลงอาบแก้มนวลพร้อมกับจ้องมองแผ่นหลังของคนรักด้วยสายตาเจ็บปวดอยากจะรั้งเขาไว้แต่ก็ทำไม่ได้
" ครับขอเชิญแขกทุกท่านรับประทานอาหารร่วมกันทางนี้ได้เลยครับ " ระหว่างนั้นเสียงของชิตพ่อของหวานก็ดังขึ้นเมื่อเขาเห็นว่าสถานการณ์นั้นเริ่มมีเสียงซุบซิบนินทาจึงเบี่ยงแบนความสนใจเป็นเรื่องอื่นแทนทำให้แขกในงานต่างเดินเข้าไปที่โต๊ะรับประทานอาหารสวนหลังบ้าน
หลายชั่วโมงต่อมา ---
เมื่อเสร็จพิธีต่าง ๆ แล้วเหล่าเพื่อนของธันก็เข้ามาพูดคุยกันตามประสาที่ห้องรับแขกมีแต่เทวินและมิลินที่ กลับไปก่อนเพราะเกิดเรื่องที่บริษัท
" ไอ้ผู้ชายเมื่อเช้าคือใครวะ ? " แพททริคเอ่ยถามอย่างสงสัย
" แฟนเก่า "
" ดูเหมือนน้องหวานจะยังรักอยู่นะ " กรพูดเสริมขึ้น
" แล้วไง ยัยนั่นจะรักใครชอบใครไม่เกี่ยวกับกู "
" หึ " กรหัวเราะในลำคอเบา ๆ อย่างเย้ยหยันทำให้ธันตวัดสายตาดุถามทันที
" อะไรไอ้กร ? "
" บอกไม่สนใจแต่อาการมึงไม่ได้เป็นอย่างที่พูดวะ "
" กูเห็นด้วยกับไอ้แพทมึงเล่นจ้องไอ้หน้าอ่อนนั่นอย่างเอาเรื่องขนาดนั้น " พรีนพูดเสริม
" กูบอกไม่ได้สนใจก็ไม่ได้สนใจสิวะ !!!! "
" พวกกูจะพยายามเชื่อนะ " กรยักไหล่อย่างไม่เชื่อพร้อมกับ พูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีก่อนจะกระดกไวน์เข้าปากอึกใหญ่ ธันที่ได้ฟังอย่างนั้นทำให้เขายิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
" อย่าพึ่งหงุดหงิดสิวะดื่มไวน์ขาวสักแก้วก่อนกูเตรียมมาจากบ้านเลยนะโว้ย " ระหว่างนั้นพรีนก็ยื่นแก้วไวน์ขาวที่เปิดใหม่ให้ ธันจึงยื่นมือรับมาก่อนจะกระดกเข้าปากอึกใหญ่
" กูขอบ้าง " แพททริคกล่าว
" ไม่ได้ !!! ไอ้ธันดื่มได้คนเดียว "
" เอ้าไอ้สัสขี้งก !!! "
" ตาธันพาน้องไปพักที่บ้านได้แล้ว " ระหว่างนั้นอาจเดินเข้ามาบอกลูกชายที่นั่งคุยกับเพื่อน ๆ ของเขาอยู่ทุกคนจึงหันไปตามเสียงเรียก
" ครับ "
" กูไปละ "
" ไอ้ธันเดี๋ยว ! "
" อะไรไอ้พรีน ? "
" ถึงบ้านมึงเมื่อไหร่รับรองว่ามึงต้องมีความสุข " พรีนบอกเพื่อนรักแค่นั้นพร้อมกับแสยะยิ้มร้าย ทำให้ธันเลิกคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ
" เออ เดี๋ยวมึงก็รู้เองรีบไปเมียมึงรออยู่ "
" หมายความว่าไงไอ้พรีนที่มึงพูด ? " กรเอ่ยถามอย่างสงสัยกับประโยคของพรีนเมื่อสักครู่
" หึ " พรีนหัวเราะในลำคอเบา ๆ อย่างอารมณ์ดีพร้อมกับมองไปที่ขวดไวน์ขาวตรงหน้าอย่างมีเลศนัยก่อนจะกระดกไวน์เข้าปากอึกใหญ่รวดเดียวหมด
" มึงใส่อะไรในขวดไวน์ ? " แพททริคถามขึ้นเมื่อเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของเพื่อนรัก
" ก็แค่ยาปลุกเซกส์ตัวใหม่ของกูไอ้ธันได้ใช้เป็นคนแรกเลยนะโว้ยย ภายในสามสิบนาทีเห็นผล "
" มึงใช้ไอ้ธันเป็นหนูทดลองเหรอวะ ? ไอ้สัสแม่งเลวซิบหาย "
" หึ กูยอมรับมึงไม่ต้องชมกูไอ้แพท "
" แล้วน้องหวานจะเป็นยังไงวะ ไอ้ธันเวลามันเอาใครมันชอบใช้ความรุนแรงซะด้วยว่ะ ยิ่งถ้าขัดใจมันนะเจ็บตัวแน่สัส "
" ขนาดนั้นเลย ? '
" เออสิวะไอ้พรีน พูดแล้วสงสารน้องหวานเลยว่ะ " แพททริคกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงหวั่นเกรง
" หวานไปก่อนนะคะ " เมื่อธันมาถึงเธอจึงกล่าวลาพ่อกับแม่ของเธอด้วยน้ำเสียงเศร้า
" จ้ะ ลูกหมอธันดูแลลูกแม่ด้วยนะลูก "
" ครับ "
" หนูขอกอดหน่อยนะคะแม่ ? " เมื่อพิมพ์พยักหน้าตอบรับหวานจึงโผล่เข้ากอดผู้เป็นแม่อย่างห่วงหาทันทีพิมพ์ลูบผมลูกสาว เบา ๆ อย่างปลอบประโลม
" โตแล้วยังทำตัวเป็นเด็กอีกยัยหวานไม่อายหรือไง ? "
" หวานไม่อาย ! " หวานผละกอดผู้เป็นแม่ก่อนจะตอบผู้เป็นพ่อเสียงแข็งด้วยใบหน้ามุ้ย
" เถียงคำไม่ตกฟาก ! "
" พอแล้วคุณ ไปได้แล้วยัยหวาน "
" ค่ะ "
หลังจากจบสนทนาหวานและธันจึงก้าวขาขึ้นรถสปอร์ตหรูทันที จากนั้นธันจึงขับเคลื่อนรถออกจากบ้านหวานภายในรถมีแต่ความเงียบปกคลุม ระหว่างที่ธันขับรถอยู่เขาก็รู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองร้อน ๆ หนาว ๆ พร้อมกับน้องชายของเขาที่ดูเหมือนกำลังตื่นตัวขึ้นมาทำให้ธันรีบก้มมองตรงเป้าของตัวเองมันก็ตุงขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกที่ต้องการอย่างมากเขาจึงลอบมองหวานด้วยสายตาเสน่หาก่อนจะรีบกลับมามองทางข้างหน้าเมื่อรู้ว่าตัวเองคงโดนวางยาแล้วจึงเร่งเครื่องยนต์เร็วขึ้น
" นี่ขับช้า ๆ หน่อยได้ไหม ? " หวานหันมาแหวใส่คนข้าง ๆ ทันทีที่รู้สึกถึงความเร็วของรถ แต่ธันก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรแต่เขากลับเหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้นก่อนที่จะทนไม่ไหวจับเธอปล้ำคารถ
" นี่ขับช้า ๆ หน่อยได้ยินไหม ? !!!! "
" เงียบ !!!! " ธันหันมาตวาดใส่หวานทันทีด้วยความรำคาญ ทำให้เธอถึงกับหน้าเสียก่อนจะจับเข็มขัดนิรภัยแน่นพร้อมกับหลับตาด้วยความกลัว
คฤหาสน์ ธัน
เมื่อธันมาถึงที่คฤหาสน์ของตัวเองเขาจึบรีบเปิดประตูก้าวขาลงจากรถทันทีก่อนจะอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่หวานนั่งอยู่
" อะไร ? " เธอเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
" มานี่ ! " ธันสั่งเธอพร้อมกับลากแขนหวานให้ลงจากรถ
" นี่ !! ปล่อยนะไอ้หน้านิ่งจะทำอะไรฉัน !!!! ? " เธอพยายามแกะมือหนาของธันออกแต่เขาก็ยิ่งจับแน่นขึ้นการ์ดที่ยืนอยู่แถวนั้นต่างก้มหัวทำความเคารพให้เจ้านายทั้งสอง
" นี่นายจะลากฉันไปไหน ? ปล่อยนะไอ้บ้า !!!!! "
พรึบ !!
" ว้ายยย !!!! " ธันไม่ได้ตอบอะไรแต่เขาหันกลับมาอุ้มเธอในท่าเจ้าสาวทันที ทำให้หวานร้องขึ้นอย่างตกใจพร้อมกับใช้กำปั้นหุบไหล่ธันอย่างแรงแต่เขาก็ไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรแม้แต่นิดก่อนจะรีบเดินขึ้นไปบนห้อง
" ปล่อยนะ !!! "
" เงียบ !!!!! " ธันตะคอกใส่เธอเสียงดังตอนนี้เขาทนไม่ไหวอีกแล้วมันต้องได้ปลดปล่อยเดี๋ยวนี้ ทำให้หวานถึงกับเงียบลงทันที ธันรีบเปิดประตูห้องนอนของตัวเองก่อนจะโยนหวานลงเตียงอย่างแรง
ตุบ !!!!!
" โอ๊ย !!! ทำบ้าอะไรเนี่ย ? !!
" หึ " ธันหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันก่อนจะก้าวขาขึ้นเตียงขนาดใหญ่หวานที่เห็นอย่างนั้นเธอจึงขยับถอยหลังหนีและเธอเตรียมที่จะกระโดดลงจากเตียงแต่ธันก็จับข้อเท้าเธอลากมาซะก่อนแล้วจึงขึ้นคร่อมเธอพร้อมกับขึงแขนทั้งสองข้างกดลงกับเตียงใหญ่
" นี่นายอย่าทำอะไรบ้า ๆ นะปล่อยฉัน !!!!! "
" ตอนนี้ฉันปล่อยเธอไม่ได้แล้ว ! "
" ทำไม ? ปล่อยฉันเถอะ "
" ทำไมงั้นเหรอ ? " ธันเลิกคิ้วถามอีกครั้งพร้อมกับเหลือบตามองเป้ากางเกงตัวเองที่มันนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด หวานที่เห็นอย่างนั้นจึงเบือนหน้าหนีพร้อมกับต่อว่าคนข้างบนอย่างโมโหและรู้สึกกลัวในเวลาเดียวกัน
" ไอ้บ้า !! ไอ้ลามก !!! "
ธันไม่ได้ตอบอะไรเขาเพียงแค่แสยะยิ้มร้ายแค่นั้นก่อนจะก้มประกบจูบหวานทันที
" อุบ...อือออ อ่อยอะ ( ปล่อยนะ ) "
หวานปิดปากไม่ยอมให้คนข้างบนสอดเรียวลิ้นเข้ามาได้พร้อมกับพยายามสะบัดหน้าออกแต่ก็ไม่เป็นผล ธันจึงขบเม้มริมฝีปากของเธออย่างแรงจนได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งทำให้หวานเปิดปากด้วยความเจ็บ ธันจึงใช้โอกาสนี้สอดเรียวลิ้นสากของตัวเองเข้าไปตวัดหาน้ำหวาน เขาดูดดุนเรียวลิ้นเล็กอย่างชำนาญโดยที่หวานเธอก็ยังขัดขืนไม่นานน้ำตาของเธอก็ค่อย ๆ ไหลออกมาอาบแก้มนวล แต่ตอนนี้ไม่ว่าอะไรก็หยุดความหื่นกระหายของเขาไม่ได้แล้วนานเกือบนาทีที่ธันหยอกล้อเล่นกับเรียวลิ้นเล็กของเธอ
" นายทะ...ทำบ้าอะไร อึก ? !! “ เมื่อได้รับอิสระเธอจึงเอ่ยถามคนข้างบนด้วยน้ำเสียงสั่นเทาพร้อมกับความกลัวที่หลั่งไหลเข้ามา
" อย่ามาบีบน้ำตาทำอย่างกับไม่เคยผู้ชายเธอเยอะขนาดนั้น ! "
" ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ !!!! "
" ทุเรศงั้นเหรอวะ ? "
เพี๊ยะ !!!
" โอ้ยยย !!! " หวานร้องขึ้นตกใจพร้อมกับยกมืออีกข้างขึ้นมากุมแก้มตัวเองด้วยความเจ็บเธอมองธันด้วยสายตาเกลียดชังพร้อมกับน้ำตาที่ยังคงไหลอยู่ต่อเนื่องเมื่อฝ่ามือหนาของธันตบเข้าที่ใบหน้าของหวานอย่างแรงจนใบหน้าหันไปตามแรงตบ คำด่าของหวานยิ่งทำให้ความดิบเถื่อนที่อยู่ในใจของธันผุดขึ้นมาด้วยความโมโหอีกอย่างยิ่งเขาต้องการแล้วโดนขัดใจยิ่งทำให้อารมณ์โมโหยิ่งเพิ่มขึ้นยากที่จะดับลง
" จำไว้ด่าฉันเมื่อไหร่ เธอจะโดนมากกว่าตบ !!!! "
" ไอ้คนเลว ทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้นายมันไม่สมควรเป็นหมอ อึกกก "
" หึ ปากดีนักเหรอวะ ! "
เพี๊ยะ !!!
ฝ่ามือหนาของธันฟาดลงแก้มนวลของเธออีกครั้งคราวนี้มันทำให้ปากเล็กของเธอแตกพร้อมกับมีเลือดไหลออกมาแต่ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว จากนั้นธันจึงปลดเปลื้องเสื้อผ้าของหวานออกจนหมดตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเองร่างกายของทั้งคู่นั้นเปลือยเปล่าไม่มีอะไรปกปิด หวานเธอได้แต่เบือนหน้าหนีไม่อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับการกระทำป่าเถื่อนของธัน น้ำตาเธอยังคงไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง