“ไม่อิ่ม ไม่เลิกรานะครับ”
“วันนี้พี่รักแกมากขึ้นสิบเท่าเลย...จิสุดหล่อน้องรักของพี่”
เสียงหวาน ๆ ของพี่สาวทำให้จิรายุขนลุก เขายื่นถุงกับข้าวให้สาว ๆ เอาไปจัดใส่จาน จารวี ชิดชนก และดอกสร้อยอาสาเข้าไปช่วยกันในครัว พวกเธอบอกให้ทอฝันนั่งรอที่โซฟา ส่วนจิรายุก็นั่งรอเป็นเพื่อนคุย
“ทำไมไม่บอกว่าสั่งอาหารไว้แล้ว” ทอฝันถามเสียงเบา
จิรายุยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาเอนตัวไปกระซิบบอกเธอว่า
“ถ้าบอก ฝันจะให้ความร่วมมือมากกว่านี้ใช่ไหม”
“จิ !” ทอฝันเงื้อมือขึ้นจะตีเขา แต่จิรายุก็เบี่ยงตัวหลบได้ทัน ทอฝันขยับจะตามไปตีเขาอีกที แต่เสียงเพื่อน ๆ ที่ดังออกมาจากห้องครัวก็ทำให้เธอเก็บมือแทบไม่ทัน หญิงสาวรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหาเพื่อน ๆ จิรายุยิ้มกรุ้มกริ่ม มองตามหญิงสาวตาเป็นประกาย ก่อนเธอจะกลับไปพร้อมเพื่อน ๆ ยังไงเขาก็ต้องหาข้ออ้างบอกให้เธอกลับขึ้นมาอยู่กับเขาในห้องนี้ทั้งคืนให้ได้
หลังจากรับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จแล้ว สาว ๆ อยู่คุยกันต่ออีกพักใหญ่ ก่อนจะร่ำลาและพากันแยกย้ายกลับบ้าน
จารวี...มีสามีกับลูก ๆ อีกสี่คนมารับ
ชิดชนก...กลับรถไฟฟ้า
ดอกสร้อย...กลับแท็กซี่
ทอฝันขับรถมาเอง แต่พอเธอเดินไปถึงรถ แต่ยังไม่ทันได้เปิดประตู เจ้าของห้องที่จับเธอกินในครัวก็โทรหา
“ฝัน...ขึ้นมาหาผม” คนโทรมาสั่งทันทีที่ทอฝันรับสาย
“ฝันต้องรีบกลับบ้านไปพักผ่อน พรุ่งนี้ต้องมาเปิดร้านแต่เช้าค่ะ”
“จะขึ้นมาหาดี ๆ หรือจะให้ผมขับรถตามไปถึงบ้าน” เพราะไม่รู้จะทำยังไงให้เธอยอมกลับขึ้นมาหา เขาจึงต้องขู่ ก่อนเธอจะออกจากห้องไป เขาก็หาจังหวะอ้อนแล้ว ขอร้องก็แล้ว แต่เธอก็ยังไม่ยอมใจอ่อน พอคนอื่นออกจากห้องและลงจากคอนโด เธอก็ตามพวกเขาลงไป ไม่แม้จะบอกลาเขาสักคำ เขายังไม่อิ่ม เขายังคิดถึง เขาอยากนอนกอดเธอทั้งคืน
“จิ ! อย่างอแงสิ”
“ไม่รู้ล่ะ ถ้าฝันไม่ขึ้นมาหาผม ผมจะตามลงไป และจะตามถึงบ้านแน่นอน ไม่เชื่อก็ลองดู”
“จิ...” ทอฝันเรียกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนอกอ่อนใจ แต่อีกฝ่ายไม่ฟังเธอเลย เขาวางสายไปแล้ว เธอโทรกลับ เขาก็ไม่ยอมรับสาย
ทอฝันรู้ว่าหากเธอกลับขึ้นไปหาเขา เขาต้องรั้งเธอไว้ทั้งคืนแน่ แล้วเธอก็ต้องโกหกป๊ากับม้าว่า เธอค้างที่บ้านเพื่อน เธอไม่อยากโกหกพวกท่านเลย แต่อีกใจก็กลัวว่าเขาจะโกรธ เพราะครั้งล่าสุดที่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองก็เกือบสองเดือนที่แล้ว เนื่องจากเธอเองต้องดูแลกิจการคาเฟ่ และเขาเองก็ทำงานหนักขึ้นทุกวัน เพราะเขาอยากพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นเห็นว่า ที่เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยประธานฝ่ายการตลาดนั้น มาจากความสามารถของเขาจริง ๆ ไม่ใช่เพราะเขามีพี่เขยเป็นประธานบริษัท เธอกับเขาจึงไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกันเท่าไร
ทอฝันกำโทรศัพท์ในมือแน่น เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ข้อความส่งถึงเขา
ทอฝัน : ฝันกำลังจะกลับขึ้นไปหานะคะ
เพียงแค่เธอกดส่งข้อความไปบอกเขา คนรอก็ส่งสติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูนยิ้มแป้นตอบกลับมาทันที ราวกับว่าเขาจ้องหน้าจอโทรศัพท์รออยู่แล้ว
ทอฝันอมยิ้ม คนรอแต่เล่นตัว เธอหย่อนโทรศัพท์ลงกระเป๋าถือ แล้วเดินกลับเข้าไปในคอนโดหรูอีกครั้ง
เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร ไม่รู้ว่าช่วงเวลาความสุขของเธอกับเขาจะยาวนานไปอีกแค่ไหน สำหรับเธอแล้ว แม้การคบกันครั้งนี้จะไม่มีใครรับรู้ก็ไม่เป็นไร แค่เธอกับเขา แค่สองคนยอมรับกันและกัน มีความสุขร่วมกันในปัจจุบันก็พอแล้ว หากวันหนึ่งวันใดอาจจะต้องแยกทางกันไป เธอจะได้ไม่ต้องเสียใจว่าไม่ได้เก็บเกี่ยวช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกันไว้ให้มากพอทั้งที่มีโอกาส…
2 รักของเราไม่เท่ากัน
สองปีแล้วที่เธอกับเขาแอบคบกัน เรื่องมันเริ่มตรงที่เขามาทำงานกับศิรภพ...พี่เขยของเขาซึ่งเป็นประธานบริษัทและเป็นเจ้าของตึกที่เธอเช่าพื้นที่ชั้นล่างทำคาเฟ่
เธอเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทของพี่สาวของเขา พอเขามาทำงานที่ตึกนี้เมื่อสี่ปีที่แล้ว เขาแวะมาซื้อกาแฟที่ร้านของเธอประจำ เธอจึงได้พูดคุยกับเขามากขึ้น จากเพื่อนพี่สาวจึงค่อย ๆ เปลี่ยนสถานะโดยไม่รู้ตัว จากที่เขาเคยเรียกเธอว่า พี่ฝัน ก็เปลี่ยนมาเรียกแค่ชื่อโดยไม่มีสรรพนามนำหน้า
เขาบอกว่าคุยกับเธอแล้วสบายใจ เธอเป็นเซฟโซนสำหรับเขา ทอฝันไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคบใคร พอเขาแวะเวียนมาหา มาพูดคุยด้วย เธอก็รู้สึกดี ความสนิทสนม ความไว้วางใจซึ่งกันและกันจึงทำให้สถานะระหว่างเธอกับเขาเปลี่ยนไปเมื่อสองปีที่แล้ว
“เราคบกันไปแบบนี้ก่อนนะครับ ให้ทุกอย่างมันลงตัวก่อนแล้วเราค่อยบอกคนอื่นว่าเราเป็นแฟนกัน”
ด้วยความที่เขาเป็นน้องชายเพื่อน และยังเป็นนักบริหารหนุ่มไฟแรงที่มีพี่เขยคอยหนุนหลัง อนาคตเขากำลังไปได้ดี เขามีอะไรที่ต้องรับผิดชอบมากมาย เขาต้องทำงานหนัก เพื่อพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าเขามีความสามารถมากพอ และเหมาะสมกับตำแหน่งที่พี่เขยมอบให้ เธอจึงไม่อยากให้เขามีเรื่องต้องกังวลใจ ไม่อยากให้เขาห่วงหน้าพะวงหลัง ไม่ว่าเขาจะให้เธออยู่ในสถานะใด เธอก็ยอม...