EP 03
"เดียร์มึงพูดอะไร..."
"กูอยากตายว่ะพิม ฮึก มันจบแล้ว ชีวิตกูมันไม่เหลืออะไรแล้ว ฮือ"
ตุบๆๆๆๆ ! นาเดียร์ทุบกำปั้นใส่หน้าอกตัวเองรัวๆระบายความอัดอั้นเสียใจออกมา เนื้อตัวเธอสั่นเทาไปด้วยความโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้..
"เดียร์หยุด! อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้" พิมพ์เสนจับมือเพื่อนตัวเองเอาไว้และดึงร่างนาเดียร์เข้ามาซบอก เรียวแขนโอบกอดเพื่อนรักเอาไว้แน่น..
"อย่างน้อยๆเขาให้เศษใจกูมาบ้างก็คงดี..ฮึก"
"ไม่เป็นไรนะเดียร์ ถ้านายนั้นไม่รับผิดชอบมึงยังมีกู เราจะเลี้ยงหนูน้อยช่วยกัน.."
"ขอบคุณนะพิมพ์ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมาความเป็นเพื่อนที่มึงมีให้กูมันมากมายเหลือเกินทั้งชีวิตของกู มึงคงเป็นคนเดียวที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด เกิดชาติไหนขอให้เราได้เป็นเพื่อนกันอีกนะ..."
"มึงหมายความว่ายังไง.."
"เปล่า ฮึก กะ กูแค่อยากขอบคุณมึงเฉยๆ" นาเดียร์ผละอ้อมกอดจากเพื่อนสาวและยกหลังมือปาดนํ้าตาออก มือบางยกหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูเวลาและหน้าจอของเธอมันก็ขึ้นแจ้งเตือนสายไม่ได้รับจากแม่ห้าสิบสาย..
'23:30AM'
"มึงอย่าทำอะไรบ้าๆนะเดียร์.."
"พิมพ์ กูต้องรีบกลับห้องแล้วกูไปก่อนนะ ฝันดีมึง.." นาเดียร์เมินคำพูดของหญิงสาว ยิ่งทำให้พิมเสนอดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ใบหน้าขาวใสวิตกกังวล ส่วนนาเดียร์เองดวงตาก็เต็มไปด้วยความเศร้าสลด เหม่อลอย หมดหนทางสู้ เหมือนคนที่อยากจะลาโลกนี้เต็มทน..
"ไปคนเดียวไหวหรอ ให้กูไปเป็นเพื่อนมั้ย"
"...กูโอเค" นาเดียร์ก้มหน้าฝืนยิ้มเสียงสั่นเครือไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแต่เธอก็เลือกที่จะโกหกเพื่อนเพื่อให้อีกคนสบายใจ
"เดียร์..."
"บายมึง" นาเดียร์พูดตัดบทขึ้นมา เธอหยัดกายลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวยาว สองเท้ารีบเดินแยกไปอีกทางพลางยกมือขึ้นปาดนํ้าตาออก พิมเสนมองตามแผ่นหลังบอบบางของเพื่อนสาวไปด้วยความเห็นใจ หลังๆมานี้นาเดียร์แปลกๆไม่ชอบกลับห้องและเหมือนคนที่มีความเศร้าตลอด ลักษณะท่าทางของเธอที่ผ่านมาทำให้พิมเสนมองออกว่าเธอโดนทำร้ายจิตใจมามากขนาดไหน..
.
.
.
@หลายวันต่อมา
"เธอจะลาออกจริงๆหรอ อภิรญา" อาจารย์ในห้องฝ่ายกิจการเอ่ยถามนาเดียร์ที่นั่งสีหน้าหมองเศร้าอยู่ตรงหน้า บนโต๊ะมีใบขอลาออก
"ค่ะอาจารย์ หนูจำเป็นจริงๆ"
"เธอคิดดีรึยังมีอะไรก็ปรึกษาอาจารย์ได้นะ"
"ขอบคุณนะคะ หนูมีเหตุผลส่วนตัวและยังไม่พร้อมที่จะบอกเรื่องนี้กับใคร" มือบางยกขึ้นผู้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
"ถ้ามันถึงขั้นลาออก เหตุผลของเธอคงถึงที่สุดแล้ว โตๆแล้วนะก่อนจะทำอะไรต้องคิดก่อนเสมอ ถ้าพลาดขึ้นมาเรื่องบางเรื่องมันก็ไม่อาจย้อนเวลาไปแก้ไขได้ ในเมื่อตัดสินใจดีแล้วอาจารย์ก็ขอให้เธอโชคดี.."
"ค่ะ อาจารย์" นาเดียร์พยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่อาจารย์บอก ร่างเล็กลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินออกไปจากห้องตอนแรกเธอจะแค่ดรอปเรียนแต่มันคงไม่ดีซักเท่าไหร่ถ้าเจอหน้าพระรามอีก..
ในเวลาเกือบสองทุ่มคณะแพทย์ศาสตร์ที่เรียนกันมาเต็มวันพึ้งจบการสอนในวันนี้ พิมเสนถอดอุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคและชุดคลุมออกเพราะการเรียนวันนี้เกี่ยวกับเชื้อโรค ปรสิตต่างๆ ซึ่งทุกคนต้องเข้าห้องแล็ปและทดลองพร้อมกับฟังอาจารย์อธิบายรายละเอียดต่างๆ..
"เฮ้อ..."
"พิมประภา"
"คะ? อาจารย์" พิมเสนที่กำลังจะเดินออกจากห้องเป็นคนสุดท้ายของนักศึกษาแพทย์ทั้งหมด เธอหยุดชะงักหันไปมองร่างท้วมสวมแว่นตาหนาเตอะผิวขาวสะอาดสะอ้านในวัยเกือบเลขหก
"เธอรีบรึป้าว ช่วยยกเอกสารไปส่งโต๊ะอาจายร์นทีรินที่ตึกวิศวะทีผมเดินไม่ไหวจริงๆ" ชายวัยกลางคนพูดปนตลกพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ
"ได้ค่ะ"
"ขอบใจเธอมาก ผมกลับล่ะ" มือเหี่ยวย่นยื่นกองเอกสารให้เธอพิมเสนจึงรับมันมาหอบไว้ในอ้อมแขนก่อนที่ร่างท้วมจะเดินออกจากห้องแล็ปไป
ลับร่างอาจารย์พิมเสนก็เดินหอบเอกสารก่อนออกจากห้องไม่ลืมปิดแอร์และไฟ ทุกอย่างเสร็จสับเรียวขาคู่สวยในชุดนักศึกษาจึงเดินออกมานอกห้องไปยังตึกวิศวะทันที ซึ่งเวลานี้ก็เหลือเพียงอาจารย์ไม่กี่คนที่ยังอยู่บนตึกเพราะต้องเคลียร์เอกสารต่างๆและตรวจชิ้นงานของนักศึกษา
"ขออนุญาตค่ะ"
"เชิญจ้ะ"
"อาจารย์ประพจให้หนูยกเอกสารมาส่งค่ะ" .
"วางไว้ตรงนั้นเลยจ้ะ ขอบใจมากเลยนะ" พิมเสนวางกองเอกสารไว้บนโต๊ะ แล้วยกมือไหว้อาจารย์ไม่นานเธอก็เดินออกมานอกห้อง ที่จริงแล้วตึกวิศวะเธอก็ไม่ค่อยได้มานีก แต่เนื่องจากอาจารย์ทั้งสองคนนี้อยู่ฝ่ายธุระการด้วยจึงต้องทำหน้าที่นอกเหนือจากการสอนภายในห้อง..
"อ่า...มาปวดฉี่อะไรตอนนี้นะ.." เธออุทานออกมา เมื่อบางลูบท้องตัวเองป้อยๆสองขารีบวิ่งไปยังห้องนํ้าที่ไกล้ที่สุด ซึ่งมันก็ติดกับสนามบอล..
ปั๊บ! ปั๊บ! ปั๊บ! แต่เสียงบางอย่างที่ดังกึกก้องเป็นจังหวะจากห้องนํ้าห้องข้างๆก็ทำให้เธอเริ่มรู้สึกกลัว ร่างเล็กลุกจากชักโครกทำธุระส่วนตัวให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินออกมาจากห้องนํ้า..
"ซี๊ดด..อ๊ะ..อ๊าๆๆๆ"
ตั้บๆๆๆๆๆ!!! เสียงกระแทกแรงๆเป็นจังหวะเน้นๆทำให้เธอยืนเบิกตากว้างอยู่หน้าประตูห้องนั้น มือบางยกขึ้นปิดปากตัวเองด้วยความตกใจ
"จะ..จุก..อ๊าาา!!..ระ..แรงอีกค่ะ.." หญิงสาวครางกระเซ้าออกมาดังสุดเสียง เหมือนกับว่าโลกนี้มีเพียงเราสองคน
"กรี๊ดดดด..!/อื้มมส์" ไม่นานทั้งสองก็สำเร็จความใคร่.. พระรามถอดแก่นกายออกและดึงถุงยางทิ้งลงถังขยะ ตามด้วยทิชชู่ซับตามระหว่างขา
นํ้าแตก ก็แยกทาง...
พิมพ์เสนที่ยืนตัวแข็งทื่ออึ้งอยู่รีบดึงสติกลับมา เธอรีบวิ่งไปหลบที่ห้องนํ้าอีกห้อง เพราะถ้าวิ่งออกจากห้องนํ้าตอนนี้พระรามคงเห็นและตามทัน เธอไม่อยากมีปัญหากับผู้ชายน่ากลัวแบบเขา..
"กลับไปได้แล้ว"
"เราจะได้เจอกันอีกไหมคะ" หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสะสวยถาม พลางเข้าไปคล้องแขนชายหนุ่ม
"...ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราต้องเจอกันอีก"
"พระราม.."
"อะไร?" เรียวคิ้วขมวดยุ่ง พระรามสะบัดร่างเธอออก ก่อนจะหันไปล้างมือที่อ้างแทน ทำเหมือนหญิงสาวเป็นดั่งอากาศธาตุ
"...แต่ฉันยังอยากเจอนายอีก"
"ฉันไม่ชอบพูดอะไรซํ้าๆ เข้าใจใช่มั้ย" สายตาดุร้ายมองเธอผ่านกระจก ทำให้พีพีที่ยังอยากต่อบทรักต่อต้องจำใจหมุนตัวกลับ เพราะใครๆต่างรู้พิษสงค์ของพระรามดี..
เมื่อลับร่างพีพีพระรามก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นมา ชายหนุ่มหันหลังให้กระจกพร้อมกับพิงอ่างล่างมือกอดอกเพ่งสายตามองไปที่ประตูบานหนึ่ง
"ถ้าอยากร่วมด้วยทำไมไม่บอกดีๆ แอบฟังแบบนี้มันจะเร้าใจได้ยังไง?"
.
.
.
มันน่าตบด้วยปากซะจริงๆ5555555555
Next..
"แค่มองมันไม่ลึกซึ่งหรอก เธอต้องลิ้มลองมันจริงๆ.."