ตอนที่ 10 ปะทะคารม

2312 คำ
EP10 "แต่เราตกลงกันแล้ว อีกอย่างนายก็รับปากแล้วด้วย.." "ที่ฉันรักปากเธอ มันหมายถึงเรื่องที่ฉันจะยอมลบคลิปต่างหากล่ะ..." "...." "ส่วนเรื่องของเธอ ฉันยังไม่ได้พูดเลยว่าเราจะจบกัน.." พระรามกระตุกยิ้มร้ายกาจ มันเป็นอีกครั้งที่เขาชนะเธอ "ทำไม ทำไมนายถึงต้องมายุ้งวุ่นวายกับฉันด้วย.." พิมเสนยกมือขึ้นกุมขมับ ร่างเธอทรุดลงบนพื้น ต่อไปนี้ชีวิตเธอคงไม่สงบสุขอีกต่อไป.. "ให้ฉันบอกเธอตรงๆเลยไหมละพิมเสน..ฉันติดใจเซ็กส์ของเธอ.." "...." มือบางยกขึ้นปิดหูตัวเองไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้น "ชนิดที่โงหัวไม่ขึ้นเลย :)" "พอหยุดได้แล้ว!" "ยิ่งได้รู้ว่าเธอสนิทสนมกับไอ้คิน ฉันยิ่งต้องการเธอมากกว่าเดิม" "พอ พอได้แล้ว" "แต่เสียดาย เธอไม่น่าได้ผู้ชายคนเดียวกันกับเพื่อนเลย" พระรามพูดตอกยํ้าเธอด้วยความสะใจ เธอผิดเองที่เลือกจะเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรก "ฉันบอกให้นายหยุด!" พิมเสนตะคอกออกมาอย่างเหลืออด ความรู้สึกหลากหลายตีวนเข้ามาในหัว "...." พระรามเม้มปากเป็นเส้นตรง มือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นเหมือนผู้ร้ายยอมมอบตัว แต่แววตากลับนึกขันกับท่าทางของคนตัวเล็ก โมโหยังไงให้หน้าเอ็นดูขนาดนี้? "ขอร้อง ออกไปจากห้องฉัน" พิมเสนพยายามระงับอารมณ์ เธอมองใบหน้าหล่อเหลานํ้าตาคลอเบ้า "นี้เธอกล้าไล่ฉันหรอ.." ร่างหนาเดินเข้าไปชิดเธอเรื่อยๆ พิมเสนถอยหลังหนีทีละก้าวๆ จนแผ่นหลังไปสะดุดกับผนักโซฟา พระรามใช้โอกาสนั้นดักทางเธอไว้ด้วยท่อนแขน จมูกคมสันยื่นไปคลอเคลียกับจมูกเชิดรั้น "ฉันขอร้องนายต่างหาก.." ใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบส่งผลให้เธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นบุหรี่อ่อนๆบวกกลิ่นหอมชวนหลงใหล เล่นเอาหัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก เกิดมาเธอยังไม่เคยไกล้ชิดกับใครขนาดนี้.. "แล้วใครใช้ให้ขอร้องแบบนั้นกันล่ะ" พูดจบ ริมฝีปากก็ไม่อยู่นิ่งคลอเคลียอ้อยอิ่งอยู่พวงแก้มแดงระเรื่อวนอยู่แบบนั้น เพราะมันหาทางออกไม่เจอ.. "ปล่อยฉัน.." "เอะอะก็ไล่ ไปอยู่ด้วยกันซะเลยดีไหม" พระรามผละใบหน้าออก ในเมื่อไล่กันดีนัก เขาก็จัดการพาไปอยู่ด้วยให้สิ้นเรื่อง "นี้นายคงไม่ได้พูดจริงๆใช่มั้ย" เธอเอียงคอถาม "ฉันไม่เคยพูดเล่น ไปเก็บของ" เขายืนกอดอกสั้งเธออย่างเอาแต่ใจ ใบหน้าขาวใสอมชมพูตอนนี้กลับกลายเป็นซีดเผือก ส่งผลให้พระรามกระตุกยิ้มอย่างชอบใจ ที่จริงพาเธอไปอยู่ด้วยก็ดีจะได้ไม่ต้องคอยกังวลพวกเห็บเหามาเกาะแกะ "ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น.." "ชอบให้บังคับหรอ?" "นายก็รู้ว่าฉันอยู่ห้องนี้กับเพื่อน" "เพื่อนเธอเป็นเด็กสามขวบรึไง ถึงไม่มีปัญญาอยู่คนเดียว" "แล้วนายจะให้ฉันไปอยู่ในถานะอะไร?" พิมเสนสวนกลับในทันที "ฐานะ เซ็กส์แก้เหงาไง" พระรามกระตุกยิ้มมุมปาก สายตาเพ่งมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า เพี๊ยะ ! มือบางฟาดลงที่แก้มสากอย่างเหลืออดเธอโมโหที่พระรามชอบดูถูกผู้หญิงเป็นแค่แม่พันธ์ ไว้ระบายความใคร่เท่านั้น "นายมันน่ารังเกียจ.." "พูดเหมือนตัวเองสะอาด" พระรามเค้นเสียงรอดไรฟัน มือหนาบีบเชิงกรานเธอแน่น "ฉันสะอาดมากกว่านายก็แล้วแล้ว เอาผู้หญิงไปทั่วจนจำไม่ได้ว่าทำใครท้อง" พิมเสนไม่ยอมแพ้แม้ถูกรังแกอยู่ เธอมองพระรามด้วยแววตาท้าทาย ยอมไปก็ถูกกดขี่ งั้นก็สู้ให้ถึงที่สุดก็แล้วกัน "แน่ใจแล้วหรอที่กล้าพูดแบบนี้" ก๊อก ก๊อก ก๊อก ! "หนูพิมจ้ะ อยู่ไหมป้าเอากุญแจสำรองที่หนูฝากปั้มมาให้" เสียงอ่อนหวานของป้าเจ้าของหอดังขึ้น พระรามจึงยอมสะบัดหน้าเธอออก "เข้ามาเลยจ้ะป้า" หัวใจดวงน้อยพองโตอีกครั้งเมื่อมีคนเข้ามาได้ทันเวลาพอดี ไม่งั้นเธออาจจะโดนพระรามทำร้ายไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง ร่างท้วมในชุดเตรียมเข้านอนเดินเข้ามาพร้อมกุญแจในมือ หล่อนมองหน้าพระรามเพียงแวบเดียวแล้วรีบหันกลับ ส่วนพระรามเองที่เห็นพิมเสนเมินไม่สนใจ ชายหนุ่มจึงยอมเดินออกมาจากห้องด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน ร่างหนาเดินมายังรถBMW คันหรูที่จอดอยู่แล้วออกสตาร์ทรถเคลื่อนตัวกลับไปยังคฤหาสน์เพื่อจัดการเรื่องอะไรบางอย่าง ไม่นานเขาก็ขับมาถึงจุดมุ้งหมายมายังคฤหาสน์หลังใหญ่อลังการณ์ที่ไม่ค่อยได้กลับมาบ่อยนัก "ไอ้ราม แกหายหัวไปไหนมากว่าจะกลับมาบ้านแต่ละวัน" ธีระ เจ้าของร่างสูงใหญ่เดินลงจากชั้นสองของบ้านในชุดนอน เจอเข้ากับลูกชายพอดี "บ้านหลังนี้มันมีอะไรดีหรอครับ ผมถึงจำเป็นต้องกลับ?" "เมื่อไหร่แกจะเลิกปากแบบนี้" ธีระเดินย่างกรายเข้ามาหาลูกชายแท้ๆ ด้วยแววตาไม่ชอบใจ "ก็ผมเป็นของผมแบบนี้" พระรามตอบกลับไม่ใส่ใจนัก ร่างหนาเดินผ่านร่างธีระหวังจะขึ้นชั้นบนไปแต่กลับโดนมือหนาของผู้เป็นพ่อคว้าเข้าที่ท่อนแขนเอาไว้ "แกจะเป็นแบบไหนก็ได้ แต่อย่าทำให้ฉันเสียหน้ามากกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องมั่วผู้หญิงของแก" ลิ้นหนาดันกระพุ่งแก้ม ชายหนุ่มนึกขันกับคำพูดธีระ บอกแต่ลูกว่าไม่ให้มั่ว แต่ตัวเองกลับพากระหรี่จากซ่องเข้าบ้าน "ช่วยไม่ได้ ก็เลือดพ่อมันแรง" "ไอ้ราม!" ผลั๊วะ ! หมัดหนักๆถูกชกเข้าที่แก้มสากข้างเดิม ยิ่งตอกยํ้าความเจ็บ มือหนาจับที่แก้มสาก ความน้อยเนื้อตํ่าใจวิ่งแล่นเข้ามาทำร้ายความรู้สึก มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งเมื่อเขากลับมาที่บ้าน.. "เพราะแบบนี้ไง บ้านเหี้ยๆหลังนี้ผมเลยไม่อยากกลับ!" พระรามตะคอกออกมาอย่างเหลืออด ร่างหนาหมุนตัวเดินกลับไปยังฝั้งประตู เขาน้อยใจทุกครั้งเวลาโดนพ่อทำร้าย และทุกครั้งในใจมันก็โหยหาผู้เป็นแม่ที่ตรอมใจตายไปแล้วตลอด.. "ไง สภาพดูไม่ได้เลยนะ โดนพ่อต่อยอีกแล้วละสิ?" คิรันที่พึ้งขับรถมาถึงหลังจากที่แวะไปทำธุระมา เดินสวนกับพระรามเข้าให้ เขาเอ่ยทักด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง "เสือก" เขาตอบกลับคำเดียวสั้นๆ แล้วมุ้งหน้าไปยังรถ "ถือว่าหายกันนะ ที่นายต่อยฉัน" คิรันปรายตามองพระราม นึกซะใจที่โดนน้องคนละแม่ได้หมัดจากผู้เป็นพ่อโดยที่เขาไม่ต้องออกแรงอะไร "...ปากดีให้ได้ตลอดก็แล้วกัน" ชายหนุ่มทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ร่างหนาเดินดุ่มๆขึ้นรถไป พอได้อยู่คนเดียวตามลำพังในเวลาแบบนี้ เขากลับต้องการคนที่อยู่ข้างๆคอยปลอบใจคนที่ขึ้นชื่อว่าแม่.. "โธ่เว้ย!" ด้านคิรันที่เดินเข้ามาภายในตัวบ้านก็เจอเข้ากับธีระที่กำลังยืนกำหมัดแน่นระงับอารมณ์อยู่ เขาเดินเข้าไปหาพ่อ(เลี้ยง) ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม "คุณพ่อลงมาทำอะไรดึกๆดื่นๆหรอครับ" "พ่อแค่ลงมาดูว่ารถใครมา" "นี้คุณพ่อมีเรื่องกับน้องอีกแล้วหรอครับ" คิรันเดินเข้าไปหาธีระ พร้อมกับประคองร่างของเขาขึ้นไปยังชั้นบน "อืม" "ผมว่าบางทีควรปล่อยน้องเรียนรู้เองดีกว่านะครับ ถ้าผิดผลาดขึ้นมาจะได้ถือเป็นบทเรียน ถ้าขืนคุณพ่อสร้างกรอบให้เขา ไอ้รามมันก็คิดแต่ว่าคุณพ่อไม่เข้าใจอยู่วันยังคํ่า" "ถ้ามันคิดได้ซักครึ่งของแกก็ยังดี" ทั้งสองเดินคุยกันไปยังห้องนอนของธีระ "สักวันน้องต้องคิดได้ คุณพ่อไปนอนเถอะนะครับ อย่าคิดมาก" "อืม แกก็รีบนอน พรุ่งนี้เข้าเวรเช้านิ" "ครับคุณพ่อ" ลํ่าลากันเสร็จธีระก็แยกเข้าห้อง ส่วนคิรันก็เดินหายเข้าไปในห้องนอน @ผับหรูกลางใจเมือง "เฮ้ยน้อง ที่นี้เขารับสมัครพนักงานผู้หญิงไม่ได้รับสมัครทอมมาทำงาน" ยูริที่จอดบิ๊กไบซ์ไว้โรงจอดรถ แล้วเดินสวมหมวกนิรภัยมาขอสมัครงานโดนการ์ดหน้าผับตอกหน้าเข้าให้ "โทษนะพี่ เป็นแค่การ์ดอย่ามาตัดสินหน่อยเลย หลีก" "มารยาทก็ไม่ผ่านแล้ว ไสหัวกลัวไปเถอะน้อง" "อะไรนักหนาว่ะ" ยูริหมดความอดทนมือบางที่สวมถุงมืออยู่จับหมวกนิรภัยออก แล้วดึงมวยผมให้สยายทั่วแผ่นหลัง "...." ใบหน้าจิ้มลิ้มภายใต้เรียนผมเงางามทำเอาการ์ดยืนอึ้ง "หลีกให้ฉันได้รึยัง?" "เชิญ" สิ้นเสียงการ์ดเธอก็เดินหายเข้ามาในร้าน มุ้งหน้าไปยังโซนทำงานเพื่อพบเข้ากับผู้จัดการร้านของที่นี้ ที่จริงเธอคุยไว้ก่อนหน้านี้แล้ว วันนี้จึงเริ่มเข้ามาทำงานวันแรก "แน่ใจนะว่าน้องจะทำได้?!" ผู้จัดการร้านสาวประเภทสองเอ่ยขึ้น "ค่ะ ไหนชุดที่ฉันต้องใส่" "อีนุ๊กพาเด็กไหม่มันไปแปลงโฉม สลัดคาบกระโปกๆแบบนี้ออก ถ้าเฮียมาเห็นให้บอกว่าเป็นเด็กฉัน" "ค่ะเจ๊" หญิงสาวในชุดวับแวมสามคนเดินมาลากเธอไปยังห้องแต่งตัว ที่มีเครื่องสำอางชุดเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยมากมาย ร่างเล็กถูกกดนั้งลงบนเก้าอี้ต่อมาก็ถูกจับแปลงโฉมไปทีละขั้นๆจนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงก็สลัดคราบเดิมออก จากสาวเท่ กลายมาเป็น แม่เสือสาวยั่วสวาท "เสร็จแล้ว ที่นี้ถ้าบริการดีติบก็เยอะคืนหนึ่งตกวันละหมื่นแต่ละคนกระเป๋าหนักๆทั้งนั้น พี่แนะนำโซนVIP ชั้นสาม.." นุ๊กก้มหน้าลงมากระซิบที่ใบหูเธอ "ขุมทรัพท์ทั้งนั้น.. " พูดจบเธอก็หยัดกายยืนตรง "ถ้าพร้อมทำงานแล้ว ก็เริ่มเลยก็เเล้วกันแค่ชงเหล้างคงชงเป็นอยู่ใช่ไหม?" "ค่ะ.." ยูริขานรับ เรื่องชงเหล้ามันงานถนัดของเธออยู่แล้ว เพราะคบแค่เพื่อนผู้ชายเรื่องพวกนี้มันจึงวนเวียนอยู่ตลอด สั่งเสียพนักงานไหม่เสร็จสามสาวก็เดินนวยนาดออกไป.. เหลือเพียงยูริดวงตากลมโตกวาดมองตัวเองผ่านกระจก สิ่งเดียวที่เธอต้องการตอนนี้คือเงิน และห้ามในกลุ่มรู้โดยเด็ดขาดโดยเฉพาะเวหา.. "เอาว่ะ" รวบรวมความกล้าเสร็จร่างเล็กก็หยัดกายลุกขึ้น ผิวกายขาวนวลอยู่ในชุดรัดรูปสีดำอวดเรียวขาคู่สวยและเอวขอด.. เธอเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มมุ้งหน้าไปยังโซนVIP ชั้นสามของผับตามคำแนะนำของรุ่นพี่ "น้องครับ" ไม่ถึงเพียงเสี้ยววินาทีก็มีผู้ชายกลุ่มหนึ่งควักมือเรียกเธอ ยูริแอบคุ้นๆหน้าแต่เธอก็ยอมเดินเข้าไปเพราะดูท่าทางคงกระเป๋าหนัก แล้วอีกอย่างคงไม่มีใครจำเธอได้ถ้าไม่สนิทจริงๆ "รับอะไรดีคะ.." หมับ ! "อ๊ะ!?" ท่อนแขนกำยำโอบกอดเอวขอดมานั้งเกยตัก เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาสไตล์ยุโรปไล่สายตามองร่างเธอย่างชอบใจ ยูริที่ตกใจทำอะไรไม่ถูกพยายามระงับอารมณ์ แค่นั้งตักแล้วพูดจาหวานๆหน่อย เธอก็จะได้เงินแล้วทนอีกนิดก็แล้วกัน.. "ถ้าบอกว่าอยากรับคนถามกลับห้อง ต้องจ่ายกี่บาทครับ.." มาร์คกระซิบเข้าที่ข้างหูเธอก่อนที่เสียงโทรศัพท์ของยูริจะมีคนโทรแทรกเข้ามา.. ครืด~ ครืด~ พรีบ ! "ขอโทรศัพท์ฉัน เอ่อ หนูคืนด้วยค่ะ" ยูริที่กำลังจะกดรับโทรศัพท์ถูกมาร์คแย่งไป "หื้มม ใครโทรมากัน.." มือหนาพลิกหน้าจอกลับมาดู 'ไอ้เวย์' ปรากฏชื่อเวหา แล้วใบหน้ากวนๆของชายหนุ่มเต็มจอ.. "Fuc*.." พอเห็นชื่อของสายที่โทรเข้ามาร์คก็สยถออกมาอย่างหัวเสีย แล้วร่างหนาพร้อมใบหน้าหงุดหงิดยามจ้องมองจอโทรศัพท์ก็เดินเข้ามาในโต๊ะ.. ยูริเบิกตากว้างเมื่อสบตาเข้ากับเวหาพอดี.. "ไอ้ยู? มึงมาที่นี้ได้ยังไง" หมับ ! "อ๊ะ!?" เพล้ง ! แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ร่างเธอถูกกระชาก ขวดเหล้ายี้ห้อดีหล่นตกแตกกระจัดกระจายบนพื้น เวหาบีบข้อมือเธอแน่น "กูกับมึงเรามีเรื่องต้องเคลียกัน.." เขาเค้นเสียงรอดไรฟันด้วยความโมโห ที่เธอผิดนัดไปดูหนังด้วยกันเพราะมัวแต่มาทำงานขายร่างกายแบบนี้? "เวปล่อย กูต้องทำงาน!" "นี้หรองานของมึง!?" "มึงแม่งไม่เข้าใจอะไรหรอก" ยูริพยายามหมุนข้อมือออก แต่กลับโดนคนตัวโตกว่าลากออกมาจากผับ มุ้งหน้าไปยังรถภายในเวลาไม่ถึงนาที.. "เออ..กูแม่งไม่เข้าใจ แล้วก็ไม่เข้าใจด้วยว่ามึงมาทำงานเปลืองร่างกายแบบนี้ได้ยังไง!" เวหาผลักร่างเธอเข้าไปในรถ แล้วตามด้วยร่างตัวเองขึ้นมาติดๆ "แล้วมึงมายุ้งอะไรด้วย มันร่างกายกูไหม เป็นแค่เพื่อนไม่ต้องมายุ้งทุกอย่างก็ได้..!" "ถ้ามึงอยากได้เงินมากขนาดนั้น.." "...." ยูริเบือนหน้าหนี เธอไม่อยากรบกวนเพื่อนไปมากกว่านี้ แล้วก็ไม่อยากอยู่ไกล้เวหาไปมากกว่านี้ด้วย.. "ถอดดิ กูยินดีจ่ายเอามั้ย!?" . . . ก็บอกแล้วว่าพวกนี้มันเป็นเพื่อน เพื่อนกันจริงๆ! Next.. "เอาแค่ตัว ไม่ได้มีใจ ไม่จำเป็นต้องจำ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม