ตอนที่ 08 พิสูจน์ความจริง

2233 คำ
EP 08 10:30 AM. แสงสว่างจากระเบียงห้องที่สาดส่องเข้ามาเพียงรำไร ส่งผลให้เปลือกตาคู่สวยเปิดขึ้นท่ามกลางความเมื่อยล้าของร่างกายและความเจ็บปวดตรงดอกกุหลาบบวมชํ้า เธอกวาดสายตามองไปรอบๆห้องก็ไม่พบร่างของพระรามแล้ว พิมเสนค่อยๆหยัดกายลุกขึ้นจากเตียงเดินไปยังหน้ากระจกบานใหญ่ ส่องดูสภาพบอบชํ้าร่างกายตัวเอง บนเตียงนอนมีคราบเลือดกระเด็นอย่างน่าเกลียด.. "...ขอโทษนะเดียร์ ฉันขอโทษ" ใบหน้าหวานก้มลงเธอพึมพำออกมาเสียงสั่นเครือ ขอบตาร้อนผ่าวเหมือนจะร้องไห้ Line! เสียงแอปพลิเคชันชื่อดังแจ้งเตือนขึ้น พิมเสนยกหลังมือลูบหน้าตัวเองลวกๆแล้วเดินพยุงร่างกายตัวเองไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าขึ้นมาเปิดอ่านข้อความ 'PRA RAM' ส่งคลิปวิดิโอ 'PRA RAM' เอามาฝาก เผื่อเธอคิดถึงฉัน :) ปลายนิ้วขาวสะอาดกดออกจากหน้าไลน์ เธอกดปิดเครื่องแล้วทิ้งโทรศัพท์ลงบนเตียง ศีรษะหนักอึ้งแทบจะทรงตัวไม่ได้ แต่ยังไงก็ไม่มีเวลาให้พัก พิมเสนตัดสินใจไปทำธุระส่วนตัวในห้องนํ้าและสวมชุดเดิมออกมาจากม่านรูด เธอมุ่งหน้าไปยังร้านขายยาเพื่อซื้อยาคุมมากินป้องกันไว้ก่อนจนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย @มหาลัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ "ยิ้มไรของมึงว่ะ ดูขนลุกชิบหาย" เวหาที่ยืนพ้นควันบุหรี่ไฟฟ้าลอยคละคลุ้งไปทั่วหลังตึกมุมประจำเอ่ยถามพระราม ที่ยืนจ้องโทรศัพท์พร้อมรอยยิ้มชั่วร้าย มืออีกข้างยังคงถือที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าเอาไว้ "เปล่า ไปเถอะ" "เดี๋ยวดิ ขอสูบให้หายอยากแป๊บ" พระรามปรายตามองเวหาแวบเดียว ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ไว้ที่กางเกงยีนเหมือนเดิม "อืม" "แล้วนี้มึงจัดการคนที่ปล่อยคลิปมึงรึยังว่ะ" "คิดว่ากูจะปล่อยหรอ" "ถามจริง มึงไปทำไร่ให้เขา เขาถึงได้เล่นงานมึงแบบนี้" "ต่อให้เล่นหนักกว่านี้ กูก็ไม่เคยกลัวอยู่แล้ว" ชายหนุ่มตอบไม่ใส่ใจนัก แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียวไม่มีปัญญาทำอะไรเขาได้หรอก "คงไม่กล้าเล่นหนักกว่านี้แล้วมั้ง ถ้ารู้ว่ามึงเป็นใคร" พูดจบเวหาก็เก็บบุหรี่เอาไว้ จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วตบไหล่พระรามเบาๆให้เป็นเชิงตามมาแล้วทั้งสองก็เดินออกมาจากหลังตึก ไปยังห้องเรียนที่กำลังทำการสอนอยู่ "ไปไหนมาว่ะ" ยูริที่กำลังนั้งคํ้าคางด้วยท่าทางเบื่อๆถามขึ้น "รู้ๆกันอยู่" คินตอบแทน "พวกเหี้ย" "มึงคนดีตายแหละ ยัยทอมหัวโปก" เวหาพูดแซวเธอพลางจับปากกาขึ้นมาหมุนเล่น "ไม่แซ่ซักเรื่องก็ดี" "นั้นปากผู้หญิงหรอว่ะ" "ไม่เชื่อมึงก็ลองจูบดูดิ" ยูริตอบด้วยท่าทางกวนประสาท ลิ้นบางดันกระพุ้งแก้มท้าทาย ซึ้งเป็นเรื่องปกติของทั้งสองคนนี้ที่กัดกันเป็นงานประจำ "เฮ้อ" เคถอนหายใจพลางฟุบหน้าลงบนโต๊ะ ลำพังเรียนก็เหนื่อยจะแย่ เจอเพื่อนกัดกันยิ่งปวดหัวเข้าไปใหญ่ กัดกันธรรมดายังพอรับได้ แต่พวกนี้มันกัดกันแต่ละทีนั้นชวนขนลุกไปตามๆกันอย่างเช่นเมื่อกี้..มันมีที่ไหนบอกกันให้ลองจูบปาก? "เป็นเหี้ยไร" เจ้าของเสียงหวานขัดกับท่าทางพูด เรียวคิ้วขมวดยุ้ง "เป็นคนหล่อ" "มึงชมกูหรอ? " คินฉีกยิ้มกว้างเมื่อฝาแฝดตัวเองบอกว่าเป็นคนหล่อ ซึ้งนั้นก็หมายถึงเขาด้วย "เปล่า กูชมตัวเอง" "แต่เราหน้าตาเหมือนกัน" "แล้วไง กูหล่อกว่ามึง" "ได้ไง กูต้องหล่อกว่ามึงสิ" "มึงจะเอาไง? /มึงจะเอาไง? " สองเสียงประสานกันอย่างพร้อมเพียง นั้นทำให้ยูริที่เริ่มรำคานหันมาสนใจบนจอแทน ส่วนพระรามเองก็ไม่ได้สนใจอะไรชายหนุ่มนั้งเล่นโทรศัพท์ส่องอินตราแกรมของใครบางคน "ไอ้คิน! /ไอ้เค! " และนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย "กู หล่อ กว่า มึง! " "กู ต่าง หาก! " ปึก! ตุ้บ!!! "เชี้ย...ไอ้เหี้ยราม! " ร่างของทั้งสองเซล้มตกเก้าอี้ทับกันเมื่อเจอฝ่าท้าวอรหันต์ของพระรามที่ถีบเข้าให้เต็มๆอย่างนึกรำคาน สร้างเสียงหัวเราะของนักศึกษาทั่วห้อง รวมถึงอาจารย์ที่สะดุ้งตกใจอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก.. "โทษครับจารย์ ตีนมันลั่นไปเอง" พระรามเรียกสติอาจารย์กลับมา หญิงวัยกลางคนสวมแว่นตามีสายระโยงระยาง บวกกับแต่งแต้มหน้าจัดจ้านได้สติกลับมา หล่อนจับขาแว่นขึ้นจากจมูกแบนราบ "อะ แฮ่ม เบาๆค่ะนักศึกษา" ร่างกลมป้อมหันกลับไปสนใจเนื้อหาที่กำลังสอนต่อ ยูริและเวหาที่กำลังนํ้งกลั้นขำสุดฤทธิ์ยกนิ้วให้พระรามอย่างชอบใจ ท่ามกลางความไม่พอใจของสองแฝด "มึงเจอกูแน่ให้เพื่อนเหี้ย! " คินพูด แล้วลุกขึ้นมานั้งบนเก้าอี้เหมือนเดิมรวมถึงเค และทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติจนจบคลาสเรียนพักเที่ยง "เอาล่ะค่ะ วันนี้อาจารย์ก็จบการสอนเพียงเท่านี้ อย่าลืมทำงานมาส่งด้วยนะคะ โดยเฉพาะนายกฤติเดชที่ติดเอฟวิชาของอาจารย์ ก่อนที่เธอจะเรียนไม่จบกรุณารีบนำงานมาส่งด้วย" "...." พระรามถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ยํ้าอะไรขนาดนั้น? "ได้ยินที่พูดไหม" "ได้ยินครับ ผมไม่ได้หูตึงแต่ถ้าอาจารย์ยํ้าบ่อยเกินไปหูอาจารย์อาจจะตึงเพราะเจอลูกปืนผมก็ได้นะครับ.." "...." หล่อนสะดุ้งตกใจ ตัวสั่นเทามือเหี่ยวย่นรีบเก็บของเข้ากระเป๋ามองพระรามอย่างหวาดระแวง "ผมแค่ล้อเล่น :) " ชายหนุ่มทิ้งท้ายไว้พร้อมรอยยิ้มยั่วบาทาแต่ใครๆเขาก็รู้ว่าเขาไม่เคยพูดเล่น..ก่อนที่ร่างหนาจะเดินรั้งท้ายกลุ่มเพื่อนๆออกจากห้องไป "วันนี้กินข้าวคณะไหนดีว่ะ" คินถามพร้อมกับกวาดแขนโอบรอบลำคอหนา "แพทย์" ชายหนุ่มตอบ ส่งผลให้ทุกสายตาของเพื่อนในกลุ่มหันมามองเป็นตาเดียว "ไหนบอกไม่ชอบเด็กแพทย์ ทำไมวันนี้มาแปลก" ยูริกอดอกถาม "เปล่า แค่อยากลอง" "มึงแน่ใจ? " เคถาม "เออ" "งั้นก็รอไร หิวไส้จะขาดแล้วโว้ยยย" "หิวข้าวหรือหิวหอยครับ" "ส้นตีน" คินสบถใส่หน้าแฝดพี่ แล้วทั้งหมดก็เดินไปยังคณะแพทย์ที่อยู่ไม่ไกลนัก อีกด้าน... หมับ! "พ..พิม ไหวมั้ย" รุ่นพี่หมอจบใหม่ที่มาช่วยอาจารย์สอนในคลาสนี้อย่าง 'คิรัน' เจ้าของหน้าตาหล่อเหลา ความสูงร้อยแปดสิบอัป ผิวขาวสะอาด เครื่องหน้าหล่อทุกสัดส่วน เอ่ยถามเธอ เมื่อจู่ๆพิมเสนที่กำลังจะเดินไปพักเที่ยงเป็นคนสุดท้ายเกิดร่างกายอ่อนเพลียเกือบเซล้ม คิรันจึงเข้ามารับได้ทันเวลาพอดี มือหนาจับที่เอวขอด ใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นร้อน "ว..ไหวค่ะ ขอบคุณนะคะ" พิมเสนตอบ เธอพยายามพยุงร่างตัวเองยืนทรงตัว "ไปตรวจที่โรงพยาบาลดีกว่าไหม เผื่อเป็นอะไรมันอันตรายแล้วนะแบบนี้" "พิมไหวจริงๆค่ะ" "อย่าดื้อสิครับ" คิรันย่อตัวลงให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกัน มือหนาอังหน้าผากมนก็แทบจะชักมือกลับไม่ทันเมื่อความร้อนดั่งละอองไฟสัมผัสกับหลังมือ "พิมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆค่ะ" "แต่เท่าที่พี่ดูเรามีอาการไข้ขึ้นสูงนะ เดินก็แทบจะทรงตัวไม่ไหว ไปทำอะไรมา หื้ม? " "พ..พิม ตากแดดนานเกินไปมั้งค่ะ แล้วก็เมื่อเช้าลื่นห้องนํ้าด้วย ส..สงสัยขาจะพลิก" พิมเสนก้มหน้าหลบสายตาอบอุ่นของคิรัน เสียงสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัดเจน "ถ้างั้นเดี๋ยวพี่พาเราไปฉีดยาที่โรงบาลดีกว่า เข็มเดียวหายแน่นอน" คิรันฉีกยิ้มออกมา แต่ทว่ากลับรู้สึกขนลุกไปตามๆกัน "...คือว่า" "เอาเป็นว่าตกลงนะครับ" ชายหนุ่มเอ่ยสรุปเอาเอง พิมเสนไม่มีทางเลือกเธอยอมไปตรวจดูอาการตามที่คิรันบอก "เดินไหวมั้ย" "ไหวค่ะ" "พี่พยุงดีกว่า ถ้าเจ็บอยู่เดินออกแรงมากๆมันไม่ดี" คิรันไม่รอช้ารีบเข้าไปโอบไหล่เธออย่างถือวิสาสะ แล้วพยุงเธอออกมาจากตึก เป็นเป้าสายตาของใครต่อหลายคน เพราะชายหนุ่มก็เคยมีชื่อเสียงในมหาลัยมาก่อน แล้วทั้งสองคนจึงเดินมาถึงรถสปอร์ตคันหรูที่จอดอยู่ คิรันจัดการคาดเข็มขัดให้เธอเสร็จสับ ร่างหนาเดินอ้อมไปยังฝั้งคนขับแล้วเคลื่อนรถออกตัวมุ้งไปยังโรงพยาบาล 21 : 30 AM. "พี่คินคะ พิมพ์มีเรื่องอยากขอร้องให้พี่คินช่วย" หลังจากที่จอดอยู่หน้าหอมาได้สักพักพิมเสนจึงตัดสินใจพูดในสิ่งที่เธออัดอั้นใจออกไป "ช่วยอะไรครับ" คิรันที่กำลังสารวลอยู่กับการเช็คยาในถุง หันกลับมามองเสี้ยวหน้าหวาน "คือ..พี่คินช่วยแฮ็คไอจีของใครสักคนให้พิมหน่อยได้ไหมคะ พิมจำเป็นจริงๆ" "แต่ทำแบบนี้มันผิดนะครับ" "นะคะพี่คิน พิมไม่รู้ว่าจะให้ใครช่วยแล้ว" "งั้นพิมก็ช่วยบอกเหตุผลพี่มาหน่อย ว่าไอ้สิ่งที่จำเป็นมันคืออะไร? " "พิมต้องการหลักฐานอะไรบางอย่างเพื่อยืนยันว่าพิมไม่ได้เป็นคนผิด.." คิรันชักสีหน้างุนงงก่อนจะพยักหน้าเบาๆเหมือนนึกออกว่ามันเรื่องอะไร "เรื่องคลิปหลุดที่กำเป็นกระแสตอนนี้ใช่ไหม" "ใช่ค่ะ" "แล้วพิมก็ไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับมัน พี่หมายถึง พระรามหน่ะ ทำไมนายนั้นต้องสงสัยพิมด้วย" คิรันแสยะยิ้มมุมปากพลางนึกอะไรดีๆออก "มีเรื่องที่ตกลงกันไม่ได้นิดหน่อยค่ะ" "ทางที่ดีอย่าไปยุ่งกับมันดีกว่า" "พิมพ์ก็ไม่เคยคิดจะยุ่ง แล้วก็อยากจบเรื่องนี้เร็วๆด้วย" "พี่จะช่วยเราเอง แล้วคนที่พี่ต้องเจาะข้อมูลคือใคร? " คำพูดของคิรันส่งผลให้พิมเสนหันไปมองคนข้างกายด้วยความดีใจ คิรันนอกจากฉลาดเกินกว่ามนุษย์ทั่วไปแล้ว ยังเคยแข่งขันด้านคอมพิวเตอร์ในระดับนานาชาติตอนยังเรียนอยู่อีกด้วย "เดี๋ยวพิมพ์ส่งไปให้ค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะพี่คิน" "พี่ว่างทำให้เราแค่วันนี้นะพิมพ์ พรุ่งนี้เข้าเวรจนไม่มีเวลาว่างเลย" คิรันพูดตัดบทเมื่อเห็นท่าทีของร่างเล็กที่กำลังจะลงจากรถไป "อ้าว พี่คินสะดวกทำที่ไหนละคะ" "ห้องพิมได้ป้าว.." พิมเสนชะงัก เธออํ้าอึ้งพูดอะไรไม่ออก "พอดีพี่ได้ยินอาจารย์บอกว่าเพื่อนพิมเขากลับไปเยี่ยมบ้านหน่ะ แต่ถ้าพิมไม่ไว้ใจพี่ก็ไม่เป็นไรนะ พี่แค่ต้องการสถานที่ที่มันเป็นส่วนตัวเพราะเรื่องที่เราจะทำมันก็ไม่ค่อยจะถูกต้องเอาซักเท่าไหร่" "ถ้าอย่างงั้นก็ ทำห้องพิมก็ได้ค่ะ..." "คิดมากอะไรอ่ะเรา ถ้าพี่คิดจะทำพี่ทำไปนานแล้ว" คิรันกลั้วขำออกมา มือหนายีผมเธอเล่น "ค่ะ.." "งั้นเราก็ไปกันเถอะ จะได้รีบทำรีบเสร็จ" ร่างหนายัดกายออกจากรถ พิมเสนจึงเปิดประตูออกมาจากรถติดๆทั้งสองเดินมุ่งหน้าไปยังห้องของพิมเสนทันที เอี๊อด... "ห้องพิมพ์รกหน่อยนะคะ เล็กด้วย" พิมเสนเดินนำเข้ามาในห้อง มือบางเอื้อมไปเปิดไฟ "ไม่เป็นไรพี่เป็นคนง่ายๆ" "โน๊ตบุ๊คอยู่ตรงนั้นนะคะ เดี๋ยวพิมลงไปซื้ออะไรมาให้กินเป็นการตอบแทน" พิมเสนชี้ไปยังหน้าจอคอม แล้วเดินไปชาร์จแบตโทรศัพท์ที่แบตหมดจนเครื่องดับเอาไว้ เธอกดเปิดเครื่องแล้วหยัดกายลุกขึ้น "ครับ" คิรันขานรับพร้อมรอยยิ้ม ที่จริงเขาก็เคยมาห้องเธอบ้าง แต่มาทำธุระแค่แป๊บเดียว ไม่ได้มาสองต่อสอง "พิมฝากห้องแป๊บนึงนะคะ" คิรันชูนิ้วโอเคแล้วหันไปสนใจจอ ที่พิมเสนยอมปล่อยให้ชายหนุ่มอยู่ในห้องตามลำพังก็เพราะห้องเธอมันไม่ได้มีของสำคัญหรือความลับอะไร อีกอย่างคิรันก็ไม่ใช่คนอันตรายอะไร เมื่อลับร่างพิมเสนไปได้สักพักคิรันก็ทำไปเรื่อยๆแต่เมื่อถึงขั้นตอนการเจาะข้อมูลเขากลับยังไม่ได้ข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นเลย เป็นจังหวะเดียวกันกับโทรศัพท์พิมเสนสั่นเครือเป็นรอบที่สิบ.. ครืด~ ครืด~ คิรันตัดสินใจลุกขึ้นไปดูแต่หน้าจอกลับไม่ปรากฏชื่อ เขาจึงกดรับสายแทนเผื่อใครมีเรื่องฉุกเฉินหรือเร่งด่วนอะไร.. "ฮัลโหลครับ" (....) พระรามนิ่งเงียบ เมื่อได้ยินเสียงปลายสายที่ไม่ใช่เสียงพิมเสน เรียวคิ้วขมวดยุ่งพันกัน มือหนาบีบโทรศัพท์แน่น เขากำลังโกรธและคิดว่า.. พิมเสนพาผู้ชายเข้าห้อง? . . . รางร้ายแล้วพิม หนีไป! 55555555555555 Next.. "ที่ไม่รับโทรศัพท์มานอนกกผู้ชาย!? "
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม