แม่งเสือกพูดออกมาจริงๆ!!
“...” น้องแตงโมเงียบก่อนจะปรายตามองหน้าผมแล้วแค่นหัวเราะออกมาเย็นเยียบจนไรขนอ่อนผมตั้งชัน พะวงถึงเรื่องเลวร้ายบัดซบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อาทิเช่น โดนขับรถไล่เหยียบ โดนรุมกระทืบ โดนสั่งเก็บอะไรเทือกนี้
บ้าชิบ กูอยากหายตัวเข้ากลีบเมฆ (T_T) ถึงแฟนผมเธอจะทำหน้าไม่ยินดียินร้ายและหัวเราะแบบนั้นก็ตามทีแต่ผมกลับรู้สึกว่ามันดูเลือดเย็นพิลึก
“พูดแบบนี้... ตบกันเลยดีกว่ามั้ยคะ?” น้องโมเชิดใบหน้าร้อยยี่สิบองศามองตาไอ้เวย์ที่สูงกว่าเธอนิดหน่อยอย่างท้าทาย ผมอ้าปากพะงาบๆพลางหัวเราะแห้งๆและจับบ่าแต่กลับโดนปัดออกอย่างไร้เยื่อไย สงสัยว่าจบศึกจากไอ้เวย์ ต่อไปคงเป็นกูแน่ๆที่โดนตบ -_-;;
“อย่าเลย พี่กลัวเจ็บ” ไอ้เวย์หัวเราะเหมือนเป็นเรื่องตลก ไม่เคยสนใจเหี้ยอะไรในสมอง ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนมันก็มองโลกในแง่ดีทุกเวลา จนกระทั่งตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่ามันพูดจริงหรือเล่นเลย ให้ตาย!
“ถ้าน้องจะตบพี่... ตบไอ้เตย์ดีกว่ามั้ย?” รอยยิ้มหวานซ่อนความร้ายกาจปรากฎบนใบหน้าของไอ้เวย์แวบนึงทำเอาผมเบิกตาโต ก่อนหน้านี้ผมสงสัยว่ามันโง่จริงหรือแกล้งโง่และมันเป็นคนยังไงกันแน่ แต่ตอนนี้ผมได้ข้อสรุปแล้ว...
‘ขวานผ่าซาก’ น่าจะเหมาะสมกับคนอย่างมันมากที่สุด มันพูดทุกอย่างที่คิด และเชื่อแบบนั้นจริงๆ แม้กระทั่งตอนที่มันเตือนน้องโม มันก็พูดด้วยความหวังดีจริงๆไม่มีอะไรเคลือบแฝง...
มันไม่ได้แขวะ มันไม่ได้จงใจกวนตีน แต่มันแค่พูดเรื่องจริงที่ไม่มีใครอยากฟังก็เท่านั้น และนั่นก็ทำให้มันดูแปลกกว่าชาวบ้านชาวช่อง มันคงจะดีมากกว่านี้ ถ้ามันถามผมสักหน่อยว่ากูอยากให้มึงพูดมั้ย?
“แต่ก็นะ อย่าไปตบให้เสียมือเลยดีกว่า หน้าตาแบบน้องน่าจะหาคนที่ดีกว่าไอ้เตย์ได้อีกหลายร้อยคน” ไอ้เวย์ว่าแล้วถอนหายใจยาว ในขณะที่น้องโมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ แต่ในสายตาผมมันกำลังทำตัวเป็นแม่ว่ะครับ แถมยังด่าผมอีกต่างหาก!
“ผู้ชายเหี้ยๆแบบนี้อย่าไปจริงจังมากนักเลย เดี๋ยวจะเสียใจเปล่าๆ เอาไว้เป็นชู้แบบพี่ก็พอ สนุกดีออก”
เดี๋ยว ศรีสมร มึง... มึงพูดเหี้ยอะไรออกมาเนี่ย!!
ผมอยากจะอ้าปากด่าและถลาเข้าไปตบมันแทนน้องโม ถ้าไม่เกรงว่าจะเสียภาพพจน์ต่อหน้าแฟนอันเป็นที่รักละก็ แม่งไม่เหลือ!
ผมกัดฟันกรอดพลางส่งสายตาอาฆาตให้มันเป็นระยะแม้ว่าจะไม่ได้ผลเลยก็ตามที น้องโมสบตาคนตรงหน้าหยั่งเชิงจนเห็นรังสีเปรี๊ยะๆ ผมว่าบางทีคงจะมีตบกันไปแล้ว ถ้าไม่ติดว่านัยน์ตาเรียวรีสีน้ำตาลเข้มของไอ้เวย์มัน... จริงใจมาก
กูจะซึ้งกว่านี้ถ้าไอ้ผู้ชายที่มันแนะนำให้เลิกด้วยไม่ใช่กูอะนะ!
“ไปละ เดี๋ยวพี่ต้องรีบขึ้นวอร์ด บาย” ไอ้เวย์หัวเราะแล้วถอนตัวอย่างเรียบง่ายโดยไม่สนใจเลยว่าตัวเองทำเรื่องหอกห่าสารเลวไว้กับผมขนาดไหน แล้วแม่งหนีง่ายๆแบบนี้เนี่ยนะ!
อันนี้ไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้ที่แนะนำให้น้องโมมาตบกูคือไรวะเนี่ย!!
ไม่ทันให้ผมได้ด่า ไอ้เวย์ก็รีบวิ่งเข้าตึกสีขาวเห็นหลังลิบๆพลางคุยโทรศัพท์ไปด้วย ในขณะที่ผมยืนกล้ำกลืนและเตรียมตัวเผ่นจากสถานการณ์มาคุอันแสนอึดอัดนี่ ผมขยับเท้าหนีทีละก้าวกระดึ๊บๆแบบไร้เสียงแต่ทว่า
“เป็นคนที่แปลกดีนะคะ” น้องโมเบ้ยิ้มแล้วปรายนัยน์ตาร้ายกาจชนิดฆ่าคนตายได้ภายในไม่กี่วินาทีมาทางผม ทำเอาหัวใจดวงน้อยสั่นคลอนเป็นจังหวะแรพโย่
โอเค จะบอกให้ผมไม่ใช่ผู้ชายกลัวเมียหรอกนะ แต่ว่าเมียที่โหดทั้งอุปนิสัยและแบ็คแน่นอย่างน้องแตงโมมันก็น่ากลัวปะวะ
พูดง่ายๆถ้าคุณเธอเสือกไปเผลอฆ่าใครตาย 99.99% ไม่ข่าวเงียบก็รอลงอาญา เพราะว่าพ่อแม่เธอใหญ่โตและมีชื่อเสียงและชื่อเสียในด้านมืดพอๆกัน คุกมันขังคนพวกนี้ไม่ได้หรอก... ไม่มีทางเลย ผมไม่โลกสวยนะ โอเคมั้ย?
ฮึก ;_; สะอึกแป๊ป
“ฮะฮะฮะ” ผมแค่นหัวเราะพลางกลอกนัยน์ตาไปทางอื่นคิดหาเหตุผลที่ดูดีที่สุดมาอ้างทันที ก่อนที่จะโดนมีดกระซวกตายคาตีนอยู่ตรงนี้
“น้องโมเชื่อเรื่องที่มันพูดด้วยเหรอคะ? คนบ้าที่ไหนจะป่าวประกาศว่าตัวเองเป็นชู้ง่ายๆเล่า” ผมยกเหตุผลขึ้นมาอ้าง ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงบนโลกมนุษย์ ใช้ได้กับทุกคนยกเว้นไอ้เหี้ยเวย์ อีนี่มันติสต์แตก!
“...”
“มันก็แค่แกล้งพี่เฉยๆ” ผมยิ้มร่าเมื่อนัยน์ตาของคนตรงหน้าเริ่มฉายแววลังเลราวกับว่าคล้อยตามผมบ้างแล้ว แต่ดูเหมือนเธอจะใจแข็งกว่าที่ผมคิด เธอเลยโพล่งขึ้นมาว่า
“แล้วตกลงอีขนตาโซล่าเซลล์นี่เป็นใครคะ? L”
“...”
ใครวะ อีขนตาโซล่าเซลล์? ไอ้เวย์เหรอ? แหม แฟนผมนี่ความคิดช่างสร้างสรรค์... สรรหามาเรียก ฮะฮะฮะ ^O^;;
“เป็นเพื่อนสนิทพี่เอง โอ๋ๆ โมอย่าไปคิดมากน้า” ผมขยี้หัวร่างบางเบาๆเป็นเชิงกลั่นแกล้งให้เธอใจเย็นลงแม้ว่าตอนนี้จะรู้สึกได้ถึงความเดือดพล่านที่แทบจะปะทุออกมาเป็นไอร้อนตามรูขุมขนของเธอแล้วก็ตาม
“อย่าให้เห็นว่าไปสนิทกันบนเตียงแล้วกันนะคะ”
นั่นไง โดนอีกแล้วกู (- - ;; )
“จ้า ไม่เห็นแน่นอนจ้า” ผมว่าแล้วยกยิ้มร้ายกับประโยคกำกวมของตัวเอง
แหม น้องโมไม่เห็นก็ไม่ได้แปลว่าพี่เตย์ไม่ได้ทำนี่หว่า J
“น้องโมหึงพี่เตย์แบบนี้ พี่ชอบจัง J” ผมพูดขึ้นพร้อมนัยน์ตาเปี่ยมสเน่ห์ทิ่มแทงคนตรงหน้าก่อนจะคว้าไหล่บางเข้ามาโอบด้วยท่าทีขี้เล่น น้องโมหัวเราะก่อนจะดันใบหน้าผมที่ขยับเข้าใกล้เรือนผมของเธอออก
“ดูเหมือนว่าสาวๆของพี่เตย์จะเยอะกว่าที่โมคิดนะคะ” เสียงเรียบจากใบหน้าขรึมทำเอาผมกลืนน้ำลายอึก เมื่อนึกถึงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กิ๊กมากหน้าหลายตาผมเริ่มรับรู้ความจริงและพากันรุมทำร้ายผมทีละคนสองคน ทั้งๆที่ผมเป็นคนสับรางเก่งมากนะ... แต่ไม่รู้ว่าแม่งรู้ตัวกันได้ยังไง!
คนอื่นรู้ไม่เท่าไหร่ แต่น้องโมรู้นี่กูมีสิทธิ์ตายครับ -_-;;
“พี่ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอกค่ะ โมไม่ทำอะไรหรอก... โมไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นหรอกนะคะ J”
คือเชื่อดีมั้ย...
“ถ้าพี่เลิกแล้วก็แล้วไป โมจะไม่ถือโทษโกรธเคืองเรื่องเก่าๆหรอกค่ะ” น้องโมไหวไหล่เหมือนไม่ใส่ใจจริงๆแล้วเหยียดยิ้มปริศนาติดจะเย้ยหยันมาทางผม
“พวกผู้หญิงง่ายๆก็เจอจุดจบโง่ๆแบบนั้นก็สมควรแล้วนี่ค่ะ ที่จะถูกพี่เตย์ฟันแล้วทิ้ง”
ครับ แฟนผมไม่ใช่คนใจร้ายแต่...ฮาร์ดคอสัสๆ!
ผมกลืนน้ำลายอึกรู้สึกได้ถึงบรรยากาศเย็นยะเยือกจากร่างบาง เธอหลุบตาต่ำมองเล็บเพ้นท์ลายแตงโมของตัวเองราวกับกำลังคิดอะไรอยู่
“พี่ว่าโมแปลกมั้ยคะ?”
“...”
“กับผู้หญิงคนเมื่อกี้ โมรู้สึก...เหมือนจะเกลียด แต่ก็ไม่เกลียด” น้องโมขมวดคิ้วพลางเบะปาก
“เหมือนจะชอบแต่ก็ไม่ชอบอ่ะค่ะ”
ผมเกาหัวแกรกๆสับสนกับแฟนผมว่าคุณเธอต้องการจะพูดอะไรกันแน่ คือผมก็เข้าใจนะ คนประเภทเดียวกับไอ้เวย์มันมีไม่เยอะ แถมเข้าใจยาก เอาเป็นว่าส่วนที่ดีที่สุดของไอ้เวย์คือ ‘นม’ จบนะ!
“พี่ว่าโมเป็นอะไรมากปะ?” น้องโมจิ๊ปากไม่พอใจกับความรู้สึกตัวเอง ผมถอนหายใจก่อนจะสอดมือเข้าไปในเรือนผมคนตรงหน้าอีกครั้ง จากลักษณะท่าทางสับสนของน้องโมตอนนี้ ถ้าถามพี่เตย์ว่าเป็นอะไร พี่คงบอกได้แค่ว่า...
“พี่ว่า...” ผมมองหน้าเธออย่างลังเลก่อนจะก้มลงกระซิบชิดใบหู “น้องโมเป็นเมนส์”
เพี๊ยะ!
กราบสวัสดี สุดท้ายนี้ กูก็โดนตบ อาเมน ;_;
“กวนตีนค่ะ” น้องโมปรายตาดุใส่ผม
ครับ ยอมรับก็ได้ ;_;
“พี่ล้อเล่นเองนะ แค่นี้ต้องตบเลยเหรอ L” ผมเบะปากพร้อมเสียงกระเง้ากระงอดอย่างงอนๆเรียกร้องความสนใจทำให้น้องแตงโมยิ้มบางเหมือนนางมารร้ายก่อนจะปล่อยช็อตเด็ดทิ้งท้ายที่ทำเอาผมเบิกตาโต!
“ถามจริงนะคะ พี่เตย์ไม่สงสัยบ้างเหรอว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องพี่เตย์มีกิ๊ก?”
...ตึก ตัก
เสียงหัวใจผมเริ่มเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมาข้างนอกเมื่อจู่ๆเธอก็เปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง เออ คือผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยสักนิด คิดว่าอาจจะเป็นเพราะตัวผมเอง...
แต่น้องโมกำลังบอกผมว่ามีคนปล่อยข่าวงั้นเหรอวะ?
“โมไม่ได้ชอบเพื่อนพี่เพราะเค้าดูจริงใจหรอกนะคะ แต่ว่าเพื่อนพี่เค้า...”
“...”
“ตอแหลเนียนดี J”
หมายความว่าไงวะ???
“บางทีคนที่ปล่อยข่าวอาจจะเป็นคนที่รักพี่มากๆและอยากได้พี่ก็ได้นะ อย่างเช่น...” น้องแตงโมพูดพลางหมุนปลายผมเป็นเกลียว น้ำเสียงเธอเรียบง่ายไม่ปรากฏความพิรุธหรือท่าทีโกหกแต่อย่างใด ทำให้ผมเริ่มจะคล้อยตามเธอนิดหน่อยจนกระทั่งเธอเปล่งชื่อๆหนึ่งออกมา...
“แพรวา แก้วรังสรรค์ เป็นต้น”