EP03.2 ll Wanna be a doctor [2]

1112 คำ
ตอนเที่ยง ตั้งแต่ไอ้เวย์ไปผมก็ไม่รู้จะทำอะไรเลยนอนต่อเพราะวันนี้ไม่มีเรียน หรือมีก็ไม่แน่ใจ เอาง่ายๆคือผมขี้เกียจ เมื่อวานใช้แรงมากไปหน่อย... แต่ก็ตื่นเต้นไปอีกแบบ เดี๋ยวคราวหน้าบอกไอ้เวย์ใส่ชุดนักเรียนญี่ปุ่นดูมั่งดีกว่า ดูมีอะไรดี ผมลุกขึ้นมานอนกดเฟสบุ๊คเล่นเพราะขี้เกียจนอนต่อก่อนจะสะดุ้งเมื่อจู่ๆโทรศัพท์ไอโฟนเก้าเอสของผมก็สั่นขึ้นมาพร้อมหน้าไอ้เวย์เต็มจอ... ผมกระตุกคิ้วนิดหน่อยร้อยวันพันปีมันไม่เคยโทรหาผมแต่วันนี้มันกลับโทรมา? อย่าบอกนะว่าติดใจท่าโยกความถี่สูงของผมมากจนต้องโทรมาเนี่ย (-.,-) แต่จะรับเลยก็ไม่สนุก ปล่อยไว้สักสามสี่วินาทีให้มันรอสายเล่นๆ ก็คิดแบบนั้นนะแต่ขี้เกียจนับเลขถอยหลังเอาเป็นว่ารับเลยละกัน! ผมกดรับก่อนจะยกขึ้นแนบใบหูและเริ่มต้นประโยคสนทนาด้วยคำว่า... “คิดถึงท่าโยกความถี่สูงของกูเหรอ?” สาบานว่านั่นประโยคแรกที่ผมพูด -.- [ไอ้เตย์ กูลืมเสื้อกราวน์ไว้ที่หอมึงป่ะ?] ปลายสายพูดอย่างเร่งรีบไม่สนใจคำพูดกวนประสาทของผมเลยสักนิด ผมจึงปล่อยผ่านแล้วทอดสายตามองหาเสื้อกราวน์ไปรอบห้องจนกระทั่งพบว่ามันพาดไว้อยู่กับโซฟาที่ไอ้เวย์เคยนั่ง และวินาทีนั้นผมก็รับรู้ได้ในทันทีว่าไอ้พี่กัลป์มันโวยวายทำไม ก็นะ... จะไม่ให้มันด่าผมได้ไงก็หลักฐานมันทนโท่คาตาอยู่ขนาดนี้ว่าไอ้เวย์มาห้องผม ใช่ ความจริงแล้วผมกับมันไม่ใช่คู่ขากันหรอก แต่ไอ้พี่กัลป์มันชอบไอ้เวย์ และนี่ก็เป็นสาเหตุนึงที่ผมกระเหี้ยนกระหือรือจับเพื่อนสาวปล้ำเมื่อวาน หรือบางที่อาจเป็นสาเหตุหลักเพราะผมเกลียดขี้หน้าแม่ง ถ้ามันชอบใครผมจะแย่งมาให้หมดเลย เฮอะ -_-^ “เออ ลืมไว้ ทำไม?” ผมพูดห้วนๆแล้วถอนหายใจยาวเมื่อปลายสายดันหาเรื่องยุ่งยากให้ผมอาทิเช่น... [เอามาให้ที่โรง’บาลหน่อย] “ไม่ไปได้ป่ะ?” ผมว่าแล้วนอนกลิ้งไปมาอย่างเบื่อๆ สถานที่อโคจรอย่างโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยคนแก่ชราหงำเหงือก พวกขี้โรคและหมอหล่อๆที่มักจะกินกันเอง ถ้าแม่งอยากจะแดกผมขึ้นมาก็ซวยอีก ผมไม่อยากไปหรอก -_-^ [เตชิต] ปลายสายพูดเสียงเรียบแต่ทว่า...แค่สองคำทำเอาช้ำไปถึงปลายเท้า! ผมรู้ว่ามันพูดชื่อพ่อผมขึ้นมาทำไม ใช่... แม่งกำลังขู่ว่าจะฟ้องพ่อผมไง! “เออ เดี๋ยวไป!” ผมกระแทกเสียง [ให้เวลาห้านาที รีบมาเลย] มันพูดเร่งเร้าในขณะที่ผมแทบจะแดกโทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิด พูดเหมือนง่าย มันเคยเห็นการจราจรเมืองไทยมั้ย? ถึงได้พูดออกมาว่าห้านาทีต้องถึง! กูขับรถไปนะครับไม่ได้เอากระด้งติดหลังแล้วบินไปหา! “บอกพ่อมึงมาเอาเหอะ!” ผมกวนตีนแต่เสือกโมโหเองเพราะลืมไปว่ากวนใส่ใครอยู่! [พ่อกูอยู่อิตาลี] เหอๆ กูประชดครับ! “เออออ เดี๋ยวไป” ผมว่าแล้วกดวางสายในทันใดด้วยอารมณ์ขุ่นมัว แทนที่จะได้แต่งตัวไปแรดกับน้องแตงโมนมโตเหมือนชื่อ ว่าที่ภรรยาในอนาคตที่ผมจริงจังมากกว่าบรรดากิ๊กทั้งหมด... เสือกต้องไป โรงพยาบาลซะงั้น! น่าเบื่อ... ผมคิดแบบนั้นในตอนแรกจนกระทั่งนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจดจ่ออยู่ที่เสื้อกราวน์ยาวๆของไอ้เวย์ ความคิดบัดสีสุดบรรเจิดก็บังเกิดขึ้นมาในมันสมอง! เหอๆ ไหนๆก็เรียนธรณีวิทยาใส่แต่เสื้อช็อปสีกากีมานานละ... ดูท่าวันนี้ไอ้เตย์จะได้ลองสวมเสื้อกราวน์หล่อๆดูสักที! นี่ถ้าเจอชะนีสวยๆเมื่อไหร่ เดี๋ยวพี่หมอเตย์... จะจับตรวจภายในแม่งให้หมดเลย! วะฮะฮ่า เสร็จกู!!! In the same way ผมเปิดลิ้นชักหาแว่นกรอบดำมาใส่เพื่อให้เหมาะสมกับเบ้าหน้าสไตล์เด็กเนิร์ดและชุดกราวน์สีขาวของไอ้เวย์ และคงเป็นเพราะว่าผมสูงกว่ามันมาก ไอ้เสื้อตัวยาวนี่เลยแอบลอยขึ้นมานิดหน่อย แต่ยังไงก็หล่ออยู่ดี -_-+ ไม่รู้ทำไมพอแต่งตัวแบบนี้แล้วผมรู้สึกฉลาดเหมือนมีไอคิวร้อยสี่สิบยังไงยังงั้น ผมหมุนตัวรอบกระจกก่อนจะพยักหน้าพึงพอใจในความเท่ของตัวเอง ผมคงจะดูหล่อกว่านี้ถ้ามีรถยนต์ขับไปโรงพยาบาลแต่บังเอิญว่าคุณเตชิตอยากให้ผมรู้จักสิ่งเล็กๆที่เรียกว่า ‘ประหยัดอดออม’ ผมเลยจำยอมขับมอเตอร์ไซค์เวสป้าอีแก่สีแดงไปแทน... ถ้าใครถามว่าทำไมถึงใช้เวสป้า ผมก็บอกว่าอนุรักษ์นิยม... ความจริงไม่ใช่เลย ถึงพ่อผมจะรวย แต่ก็รวยแค่พ่อผมปะวะ ถ้าเค้าไม่ให้ตังค์ ไอ้เตย์ก็แดกแกลบไปดิ บางทีก็นึกอิจฉานะไอ้พวกเงินไม่มากแต่พ่อแม่ให้ตังค์เยอะๆเนี่ย -_-^ ไม่นานผมก็ขับอีแก่ซอกแซกหนีรถติดจนมาถึงหน้าโรง’บาล แต่จะให้โทรบอกไอ้เวย์เลยก็น่าเบื่อเกินไป ด้วยความที่ผมหมั่นไส้มันเล็กน้อยก็เลยกะว่าจะปล่อยให้มันรอแบบวิตกเล่นๆ อีกเหตุผลนึงคือ... ขอเนียนเป็นคุณหมอจีบสาวแป๊ป ผมรีบกระโดดลงจากไอ้แก่ก่อนจะมองไปรอบบริเวณ มีนิสิตนักศึกษาแพทย์มากมายเดินจอแจปนกับคนไข้ ตึกสีขาวตั้งตระหง่านอย่างเด่นหราเขียนว่า ‘JDR HOSPITAL’ แน่นอนว่าไอ้ JDR นี่เป็นชื่อมหาวิทยาลัยบ่งบอกได้ว่าเป็นโรงพยาบาลในเครือเดียวกับมอที่ผมเรียนอยู่ ผมถอนหายใจยาวเมื่อลมเย็นๆเข้ามาปะทะกับใบหน้าพร้อมเก๊กหน้าหล่อเหมือนพระเอกมิวสิค ช่วงบนเสื้อยืดคอกลมสวมทับด้วยเสื้อกราวน์สีขาว ช่วงล่างกางเกงยีนส์ขาดๆเซอร์ๆสไตล์ติสต์แตกแถมยังคีบอีแตะตราช้างสามเศียร เรียกได้ว่าพอกูถอดเสื้อกราวน์ออก ก็พวกกากเกรียนดีๆนี่เอง -_-; ไม่สิ แถวบ้านเรียกหล่อแบบสมถะ หล่อแบบวินเทจไง พวกโง่ๆไม่เข้าใจหรอกว่ามันเป็นเทรนด์!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม