PROLOGUE

1124 คำ
เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนที่มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ฉันสะลืมสะลือแล้วเหลือบมองนาฬิกาหัวเตียง ก่อนจะก้าวเท้าตรงไปยังประตู แอบส่องตาแมวห้องมองออกไปถึงได้รู้ว่าไม่ใช่คนไกลเลยที่มารบกวนกันเวลานี้ “พี่ทัพ” ฉันเอ่ยชื่อคนตรงหน้า ขณะเดียวกันก็เปิดประตูอ้ารับเขาแล้ว “ขอนอนด้วยดิ” “ห้องพี่ทัพก็..” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ เขาก็แทรกตัวเข้าไปในห้องด้วยความคุ้นชิน เพราะว่ามันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาห้องฉัน เจ้าตัวมาจนแทบจะเป็นบ้านหลังที่สอง แต่ว่ามาในยามวิกาลอาจจะยังไม่เคย นอกจากดื่มเหล้าสังสรรค์กันจนเมาก็มีบ้างที่นอนเรี่ยราดบนพื้นห้อง แล้ววันนี้เขามาทำไม.. “ทะเลาะกับแฟนหรอ มานอนห้องหนูเดี๋ยวแฟนพี่ก็ตามมาหาเรื่องอีก” “เลิกแล้ว” “เมื่อไหร่..” “อาทิตย์ก่อน” “อย่าโกหก” ฉันโพล่งถามออกไปอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง จากตอนแรกที่งัวเงียก็ตื่นเต็มตา มองผู้ชายที่มีรอยสักบริเวณแขนข้างขวาอย่างลืมตัว “คิดว่าฉันเป็นคนแบบนั้นหรือไง” เขาตอบกลับสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะถอดกางเกงยีนส์ตัวเองพาดไว้บนเก้าอี้ เสื้อยืดตัวนอกจนเปลือยเปล่า เหลือไว้เพียงกางเกงบ็อกเซอร์ตัวบาง “แล้วทำไมถึงเลิก..” ฉันมุ่นคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย มือก็ขยำกางเกงขาสั้นอย่างลืมตัว ดวงตาคู่คมเปรยมองมาแล้วกระตุกยิ้มมุมปาก มันไม่ใช่สายตาที่เขาเคยมองกัน ทว่ามันกลับแปรเปลี่ยนเหมือนแม่เหล็กที่พลิกขั้ว คล้ายกับหมาป่าที่จ้องจะขย้ำกระต่าย ฉันรีบยกมือขึ้นกอดอก เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองใส่เพียงเสื้อยืดสายเดี่ยวแล้วก็โนบรา รวมถึงกางเกงขาสั้นจนเสมอแก้มก้นอีกต่างหาก “ไม่ใช่เรื่องของเด็ก ไปนอนต่อเถอะ” “แต่ว่า..” “ฉันนอนห้องนี้ละกัน จะได้ไม่รบกวนเธอ” เขาไม่มีทางเลิกกับใครเพราะเบื่อหรอก ใครเขาก็รู้ว่าพี่ทัพเป็นคนคลั่งรักไม่ลืมหูลืมตา ขนาดที่แฟนของเขาทำให้เจ้าตัวเสียใจมีน้ำตามาหาเขาก็ยังยืนยันที่จะไม่เลิกเลย แล้วทำไมถึงเลิกกันได้ล่ะ.. ฉันเผลอกำมือแน่น สับสนในตัวเองไปหมดที่ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดี กับคนที่ฉันแอบชอบอกหักแล้วซมซานมาแบบนี้ เอาเข้าจริงแล้วฉันเสียใจ.. ไม่ได้อยากเห็นเขาเป็นแบบนี้เลยสักนิด พอเห็นว่าเขาเดินหลบเข้าไปในห้องรับแขก ฉันก็ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ลดมือที่กอดปิดหน้าอกเอาไว้ลง ห้องนอนสำหรับแขกมันถูกเตรียมเอาไว้สำหรับเพื่อนที่มาห้องฉัน หรือบางวันที่มีกลุ่มเพื่อนมาทำงานจนดึกดื่นกลัวจะขับรถไม่ไหว ห้องนั้นมันก็จะถูกเปิดใช้แล้วก็มีเตียงนอนเตรียมพร้อมให้แขกอยู่เสมอ อยากถามเขาจังเลยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันคิดว่าเขาคงไม่พร้อมจะเล่าตอนนี้ สุดท้ายแล้วฉันก็ทิ้งคำถามทั้งหมดให้มันเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ กลับมาล้มตัวนอนอยู่ที่เตียงด้วยทีท่าเหนื่อยอ่อนกับการหอบร่างไปเรียนในทุกวัน ทว่าไม่ทันที่จะได้หลับตาลง ก็มีเรียวแขนของใครสักคนโอบกอดเข้ามาทางด้านหลัง เตียงนุ่มยวบยามไปตามแรงของอีกฝ่ายที่ทิ้งตัวลงมา กว่าจะขัดขืนก็เล่นเอาเขาโผเข้ากอดฉันจนจมอกไปซะแล้ว “ขอฉันนอนด้วย.. หลบไปหน่อย” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยข้างใบหู มันเสียวแล้วก็รู้สึกจั๊กจี้อย่างบอกไม่ถูก แต่เหมือนพี่ทัพจะเป็นฝ่ายบุกรุกห้องฉันก่อนนะ “ขยับสิ” “.....” “ขี้หวงแม้กระทั่งเตียงนอนหรอ” เขาจับฉันให้พลิกตัวนอนหงาย แล้วเท้าแขนมองมาด้วยสายตาไม่ได้รู้สึกสำนึกเลยสักนิดที่ทำตัวเหมือนโจรบุกห้องแบบนี้ “เปล่า แค่งงว่าทำไมพี่เข้ามาในห้องฉันได้” “เธอไม่ได้ล็อคห้อง” “แล้วเข้ามาทำไมคะ” “อยากนอนด้วย” “นะ..นอนอะไร” “มีนอนแบบอื่นด้วยหรอ” ประโยคสนทนาระหว่างเราหยุดไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยความเงียบภายในห้องอันมืดสลัว ทว่ายังคงมองเห็นใบหน้าคมคายของเขานั้นชัดเจน พี่ทัพเป็นคนหล่อ.. เขาหล่อแบบไม่ต้องพยายามอะไรฉันก็ชอบ ชอบมาก่อนที่เขาจะมีแฟนคนปัจจุบันซะอีก ชอบจนอยากจะเลิกชอบแต่ก็ทำไม่ได้ “นอนเอากัน” “.....” “อยากโดนหรือไง” เขากระตุกยิ้มมุมปากให้ฉันที่เอาแต่นอนจ้องเขาไม่หยุด อกข้างซ้ายเต้นสั่นไหวกับรอยยิ้มขี้เล่น เขายกมือขึ้นทัดหูให้ ก่อนจะจับมือฉันไปแนบไว้ข้างแก้ม “เธอชอบฉันหรอ” “คะ” “สมุดไดอารี่เธอในห้องนั้น.. เธอเป็นคนเขียนใช่มั้ย” ฉันเบิกตาโพลงแก้มร้อนผ่าวลามไปถึงใบหู เผลอไปลืมสมุดนั่นไว้ตั้งแต่ตอนไหน แล้วเขาเป็นใครถึงมีสิทธิ์มานั่งอ่านไดอารี่ของฉันล่ะเนี่ย “ถ้าชอบทำไมไม่บอก..” “ก็..ก็พี่ทัพมีแฟนแล้ว” “ถ้าบอกชอบก่อน อาจจะขอเป็นแฟนก่อนก็ได้” เรียวคิ้วฉันมุ่นเข้าหากันแน่น พลางกำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่เพราะใบหน้าของเขาห่างจากฉันไม่ถึงคืบ การที่พี่ทัพเอามือของฉันไปอังข้างแก้ม มันคือการมัดมือชกไม่ให้ฉันขัดขืดได้ แถมยังมานอนยิ้มใกล้ๆ แบบนี้จะให้ชักสีหน้าไปต่อถูกได้ยังไงกัน อ่านไดอารี่ไปถึงตรงไหนแล้ว ฮือ ใช่ ฉันแอบชอบเขามาสามปีกว่าแล้ว รอรวบรวมความกล้าจนเขาไปมีแฟนเป็นถึงสาวสวยของนิเทศ คบกันได้เกือบครึ่งปีหรือเปล่าฉันไม่แน่ใจ แต่ไหงพอฉันจะตัดใจเขาถึงได้วกกลับมาได้อีกนะ “ไอ้เจย์ต่อยฉันแน่ถ้ารู้ว่ามาหาน้องมันถึงห้อง” “พี่เจย์บอกว่าอย่าเข้าใกล้พี่ทัพค่ะ” “ทำไมล่ะ ฉันดูอันตรายเหรอ” อันตรายสิ.. อันตรายต่ออัตราการเต้นของหัวใจไง “แล้วถ้าฉันจูบเธอล่ะ ไอ้เจย์มันจะต่อยปากฉันมั้ย” “.....” “หรือเธอจะต่อยฉัน.. หลังจากที่ฉันจูบเธอ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม