8

1488 คำ
แทนคุณพยักหน้าพอใจในข้อมูลของลูกน้องคนสนิท“ “ให้มันจริงอย่างที่แกพูดเถอะ” หลังจากนั้นแทนคุณเริ่มเดินสำรวจไปทั่วบริเวณ ชายหนุ่มสั่งงานลูกน้องให้จัดการกับพวกต้นไม้และเกลี่ยดินให้เสมอกันให้หมด แต่เป็นภายหลังจากที่เขากลับไปที่บ้านเรียบร้อยแล้ว เมื่อสำรวจจนทั่ว ชายหนุ่มจึงหยุดพักที่บ้านพักที่บิดาสร้างเอาไว้ เมื่อพักจนหายเหนื่อยเขาจึงเดินลงมานั่งที่ลำธารตรงเขตแนวกั้นระหว่างที่ดินของเขากับพนิดา “หวังว่าพี่คงได้เจอเธออีกนะยัยพริกหวานจอมหยิ่งและแสนดื้อรั้น” แทนคุณนึกถึงใบหน้าสวยหวานที่ทั้งหยิ่งทั้งรั้นนั้นอย่างใจลอย ความดื้อรั้นนั้นมันทำให้เขาอยากเอาชนะเธอเหลือเกิน เขาก้มมองลำธารที่ใสสะอาดเห็นปลาดุกหินที่อาศัยอยู่บนภูเขาว่ายน้ำไปมามากมาย บ่งบอกว่าที่นี่อุดมสมบูรณ์ ทำให้อาหารการกินมีมากพอ รวมถึงพืชผักสมุนไพรจากในป่าที่พอจะเก็บรับประทานกับน้ำพริกได้ก็มีไม่น้อย คิดมาถึงตอนนี้เขา อยากกินน้ำพริกขึ้นมาทันที พนิดาออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ของวันใหม่ เธอขัดคำสั่งบิดาโดยการเอาลูกน้องไปแค่สองคนเพราะคิดว่าไม่อยากรำคาญ หญิงสาวพาปิ่นปักไปด้วยเพื่อจะได้เป็นเพื่อนร่วมสนทนาระหว่างการเดินทางให้คลายเหงา ดีกว่านั่งคนเดียวเป็นไหนๆ  เธอเดินทางมาถึงที่หมายเป็นเวลาเกือบแปดโมงเช้า เธอทานอาหารง่ายๆ รองท้องมาจากที่บ้านเรียบร้อยแล้ว พนิดาบิดขี้เกียจอย่างเมื่อยขบเมื่อลงจากรถ “ที่นี่อากาศดีจังเลยนะคะคุณหนู” ปิ่นปักมองรอบๆ บริเวณ อย่างตื่นตาตื่นใจ “จ้ะ ฉันก็ชอบที่นี่ คิดว่าจะปลูกทุเรียนและผลไม้อย่างอื่นและจะลงสะเดาด้วย” ต้นสะเดานั้นปลูกขายต้นเพราะคนนิยมเอาไปสร้างบ้านเรือน ได้ราคางามเชียว พนิดามองทิวทัศน์รอบกายอย่างชื่นชอบ “ดินที่นี่สมบูรณ์ดีนะคะ” ปิ่นปักนั่งยองๆ ลงกับพื้นดินเพื่อเก็บดินขึ้นมาขยี้ดู พบว่าดินร่วนแล้วอุ้มน้ำ “จ้ะ ดินที่นี่เป็นดินแถบเทือกเขาอุดมสมบูรณ์มาก ถ้าได้ปลูกทุเรียนรับรองว่ารสชาติดีไม่ต้องขนปุ๋ยเคมีมาว่านให้เสียเงินเสียทองเลย เพราะต้นไม้ใบหญ้าที่ย่อยสลายเป็นปุ๋ยชั้นดีอยู่แล้ว” พนิดาตอบปิ่นปักเสียงสดใส “แล้วเราบุกเบิกได้เหรอคะ” ปิ่นปักถามอย่างสงสัย “ได้จ้ะ คนที่ขายให้เราเป็นคนที่ได้รับมรดกตกทอดมาจากคนรุ่นก่อน คงจะเป็นรุ่นปู่ย่าตาทวดที่มาบุกเบิกที่ดินแถบนี้เอาไว้ ขณะนี้รัฐบาลกำลังให้ทำโฉนดที่ดินเพื่อถือครองกรรมสิทธิ์กันอยู่ เราจึงมีหลักฐานพร้อมในการถือครองที่ดินแห่งนี้” พนิดาอธิบายให้ปิ่นปักเข้าใจ “ดีจังเลยนะคะ” ปิ่นปักพูดกับเจ้านายสาวยิ้มๆ “เราเดินไปดูกล้ายางกันเถอะ ว่าที่ลงไปแล้วก่อนหน้านี้เป็นยังไงบ้าง” พนิดาหันไปพูดกับปิ่นปัก “หย้งกับจอมตามสบายเถอะ ถ้ามีอะไรเดี๋ยวฉันค่อยเรียก” พนิดาหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทสองคนที่ตามมาด้วย “ครับคุณหนู” หย้งกับจอมรับคำเจ้านายสาวอย่างนอบน้อม ทั้งสองถอยไปอีกด้านหนึ่งเพื่อเดินให้คลายความเมื่อยขบจากการขับรถ พนิดาเดินดูทุเรียนที่ปลูกไปแล้วพบว่าไม่มีอะไรเสียหาย ยังเจริญเติบโตดีอยู่ “ร้อนจังปิ่น” พนิดาบอกปิ่นปักพร้อมทั้งยกน้ำขึ้นดื่มอย่างกระหาย “คุณหนูมีอะไรให้พวกผมรับใช้หรือเปล่าครับ” หย้งและจอมลูกน้องคู่ใจเดินมาถามนายสาวอย่างนอบน้อมเช่นเคย “ไม่มีจ้ะ ถ้ามีแล้วจะเรียก นายสองคนตามสบายเถอะ ฉันจะไปเล่นน้ำกับปิ่นสักหน่อย” พนิดาบอกลูกน้องทั้งสอง  “มีลำธารด้วยเหรอคะ” ปิ่นปักถามอย่างตื่นเต้น “จ้ะ น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาเลยล่ะ ไปเล่นน้ำกันเถอะ” พนิดาชวนปิ่นปักยิ้มๆ อากาศเช่นนี้ถ้าได้เล่นน้ำคงจะสดชื่นไม่น้อย “มีปลาด้วยเหรอคะ” ปิ่นปักถามตาโตอย่างตื่นเต้น “จ้ะ ปลาดุกหิน เนื้อหวานอร่อยมากเลย ถ้าได้ย่างทานกับน้ำพริก พูดแล้วหิวเลย” พนิดาพูดถึงปลาดุกหินเนื้อหวานที่เธอชอบ ทานกับน้ำพริกถึงกับน้ำลายสอขึ้นมาในทันที “แต่ปิ่นไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยนนะคะ” ปิ่นปักบอกพนิดาอย่างเป็นกังวล ถ้าเธอเล่นน้ำจนเปียกจะนั่งรถกลับทั้งชุดเปียกคงไม่ไหวแน่ เนื่องจากระยะทางอีกไกล รวมถึงแอร์ในรถอาจทำให้หนาวไม่สบายได้ “ฉันเตรียมมาแล้ว อยู่ในรถจ้ะ” พนิดาเปิดประตูรถปิ๊คอัพเพื่อหยิบถุงบรรจุเสื้อผ้าออกมา “โห... คุณหนูเตรียมมาพร้อมเลยเหรอคะนี่” ปิ่นปักมองอย่างทึ่งในตัวเจ้านายสาว เธอเห็นถุงกระดาษขณะขึ้นรถแต่ไม่กล้าถามเจ้านายสาวว่าคืออะไร “จ้ะ เดี๋ยวตอนกลางวันเราจะทานข้าวกันที่นี่เลยนะ” พนิดาหันไปบอกปิ่นปักอีกครั้ง หญิงสาวเดินนำปิ่นปักเดินลัดเลาะลงไปยังลำธาร “ว้าว... คุณหนูขา..น้ำใสมากเลยค่ะ” ปิ่นปักมองน้ำในลำธาร พร้อมทั้งเดินลงไปใกล้เพื่อเอาน้ำลูบใบหน้าจนรู้สึกสดชื่น น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาไปทั่วลำธาร “ลำธารที่นี่น้ำใสจังเลยนะคะ” ปิ่นปักเสนอความคิดเห็น “ใช่ น้ำพวกนี้มาจากต้นไม้ต้นใหญ่เป็นน้ำที่ใสมากดื่มแล้วสดชื่นมากเลยจ้ะ” “ปิ่นขอเล่นก่อนน้ำนะคะคุณหนู อดใจไม่ไหวแล้ว” ปิ่นปักบอกนายสาวพร้อมทั้งลงกระโดดลงไปในน้ำ น้ำใสกระเด็นขึ้นมาโดนตัวของพนิดาจนเปียกปอนไปหมด “ได้ยังไงปิ่น ฉันก็เล่นด้วยสิ” พนิดาวางถุงเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนไปบนโขดหิน หญิงสาวกระโดดลงไปในลำธารอย่างรวดเร็วเช่นกัน เสียงหัวเราะของหญิงสาวที่เล่นน้ำกันอยู่อย่างสนุกสนานทำให้แทนคุณที่กำลังจะเดินลงมาที่ลำธารชะงักฝีเท้า ชายหนุ่มหลบไปที่ต้นไม้ต้นใหญ่สายตาคมเหลือบไปเห็นพนิดากับผู้หญิงอีกคน ถ้าเขาเดาไม่ผิดน่าจะเป็นคนติดตามของเธอ เขามองดูหญิงสาวกำลังสนุกสนานกับการเล่นน้ำ ว่ายไปมาหยอกล้อกันดูน่ารักเป็นบ้า “น้องพริกหวานโลกกลมจริงๆ นะ” แทนคุณพูดกับตัวเอง คิดว่าไม่เสียแรงที่เขายังไม่ไปดูไร่ส้มตอนนี้ ไอ้โก้เดินตามเจ้านายมา แทนคุณหันไปปรามลูกน้องคนสนิทที่กำลังจะเรียกเขาเสียงดัง ไอ้โก้ย่องมาหาเจ้านายหนุ่มที่กำลังซุ่มอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ “คุณหนูพริกหวานเหรอครับเจ้านาย” ไอ้โก้มองพนิดากับปิ่นปักที่กำลังเล่นน้ำกันอยู่ที่ลำธาร เขาคาดไม่ผิดจริงๆ คิดแล้วว่าพนิดาจะต้องมาที่นี่อย่างแน่นอน “ไอ้โก้แกไปบอกลูกน้องให้ถอยไปให้ไกลจากบริเวณนี้ก่อน” แทนคุณหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทแต่สายตายังจับอยู่ที่ร่างของหญิงสาวไม่วาง “เจ้านายจะทำอะไรเหรอครับ” ไอ้โก้ถามอย่างอยากรู้ปนทะลึ่ง “ไปทำตามที่บอก ถามมากเดี๋ยวโดนถีบ” แทนคุณหันไปทำตาดุกับลูกน้อง ไอ้โก้รีบหดหัวกุลีกุจอไปทำตามที่เจ้านายสั่ง พนิดาว่ายน้ำจนเหนื่อยหอบแต่สนุกไม่น้อยเพราะได้ออกกำลังกาย ทำให้ผ่อนคลายสดชื่นอย่างที่สุด หญิงสาวยกตัวเองขึ้นนั่งบนโขดหิน แทนคุณมองเรือนร่างเล็กของหญิงสาวตาค้าง ดูเธอเป็นคนผอมบางแต่เสื้อผ้าที่เปียกแนบไปกับเรือนร่างรัดรึงทำให้ร่างอรชรดูอวบอิ่มน่าสัมผัสเป็นที่สุด “ซ่อนรูปเหรอน้องพริกหวาน” แทนคุณพึมพับกับตัวเองเบาๆ มองหญิงสาวไม่วางตา “ปิ่นอย่าว่ายไปไกลนักนะจ๊ะ” พนิดาเรียกปิ่นปักเอาไว้เมื่อเห็นเธอว่ายออกไปไกลแล้ว “ค่ะคุณหนู ปิ่นขอว่ายไปดูตรงโน่นหน่อยนะคะ” ปิ่นปักตะโกนมาบอกเจ้านายสาว “จ้ะ แต่อย่าไกลนักนะ งั้นฉันขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วกัน” พนิดาบอกปิ่นปัก หญิงสาวมองไปยังโขดหินใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่อีกฟากของลำธาร เธอหยิบเสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวในถุงเดินไปที่โขดหินทันทีเพื่อใช้เป็นที่กำบังในการเปลี่ยนเสื้อผ้า การกระทำทุกอย่างอยู่ในสายตาของแทนคุณอยู่ตลอด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม