ส่งตัวให้เสี่ย

848 คำ
ร่างของเทียนหอมถูกพาเข้ามาในห้อง ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าคนที่พ่อเธอเรียกว่าเสี่ยคือใคร แต่สิ่งที่เธอเห็นคือชายฉกรรจ์ราวห้าคนยืนอยู่ในห้อง ทุกคนดูน่ากลัว ส่วนตัวเธอนั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟากว้าง ด้วยอาการสั่นเทา ไม่นานนักเสียงฝีเท้าของคนที่สวมรองเท้าขัดมันก็เดินเข้ามาดัง ตึก ตึก พร้อมเสียงหัวใจของเธอที่เต้นแรงอยู่อย่างนั้น ไม่นานก็ได้ยินเสียงทุ้มพูดขึ้น "สวัสดีครับเสี่ย ผมพาลูกสาวมาให้ดู" เป็นทรงพลที่ยกมือไหว้ชายหนุ่มที่อ่อนกว่าเขาหลายปี มาร์คัส เป็นนักธุรกิจที่ชอบลงทุน และชอบลงทุนกับบ่อยการพนันหลายที ไม่เพียงเท่านั้นเขายังเป็นเจ้าของโครงการหลายแห่ง "นายครับ ไอ้ทรงพลที่เสนอลูกสาวมาใช้หนี้ เราจ่ายหนี้บ่อนให้มันหนึ่งล้าน มันบอกว่าลูกสาวมันยังสาว มันเลยขอเพิ่ม...." สิงห์คนสนิทยังพูดไม่จบ มาร์คัส ก็หย่อนก้นลงนั่งแล้วจ้องมองมาทาง เทียนหอม ที่ก้มหน้าตัวสั่นระริก "นี่นะเหรอที่ขอเพิ่มล้านหนึ่ง หน้าตาดีแต่ดูซอมซ่อไปหน่อย" ประโยคของชายหนุ่มทำให้คนที่นั่งก้มหน้าต้องเงยขึ้นมามองเพียงแวบเดียว เป็นจังหวะที่สบตากับ มาร์คัสพอดี จึงทำให้ เทียนหอมงุดหน้าลงอีกรอบ "ถึงนางเทียนมันจะดูซอมซ่อแต่เชื่อเถอะครับว่ามันไม่เคยมีผัว ผมรับประกัน" "พ่อ!!" "มึงเงียบไปเลย!" มาร์คัส จ้องมองเรือนร่างของเทียนหอมตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาของเขาบ่งบอกได้ถึงความพอใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แม้นว่าการเจอกันจะเป็นครั้งแรกแต่สิงห์ลูกน้องคนสนิทก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ความเงียบภายในห้องหรูเกิดขึ้นแค่ชั่วครู่ มีเพียงแค่ทรงพลที่เงยหน้าขึ้นมาฉีกยิ้มให้เสี่ยที่เขาเรียกอย่างเป็นมิตร ทว่ามาร์คัสก็ไม่ได้สนใจตัวเขาแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่าเงินที่จะยอมจ่ายไปในวันนี้มันคุ้มค่า เขาเองก็ไม่รอช้าที่จะสั่งลูกน้อง "เซ็นเช็คให้มันเพิ่ม แล้วก็ไสหัวไปได้แล้ว" เขาหันมาสั่งสิงห์ลูกน้องคนสนิท ไม่นานเกิดรอเช็คใบโปรดพร้อมจำนวนเงินหนึ่งล้านบาทก็อยู่ในมือของทรงพล "ขอบคุณครับเสี่ย ลูกผมมันว่านอนสอนง่าย อยากให้มันทำอะไรมันทำหมด" "ไม่ต้องพูดมาก ไสหัวมึงไปได้แล้ว" ชายวัยกลางคนยกมือขึ้นมาไหว้สุดหัวจากนั้นก็ยิ้มให้สิ่งที่เห็นตรงหน้า จำนวนเงินไม่น้อยที่เขาจะใช้ต่อลมหายใจในบ่อน ต้องเรียกว่าทุนเสียมากกว่า "งั้นผมไปนะครับ" มาร์คัสพยักหน้าอย่างไร้เหยื่อใย สำหรับเขาทรงพลก็แค่เศษสวะเท่านั้น แต่เพราะบ่อนเป็นของเขาครึ่งหนึ่งแม้จะยอมจ่ายแพงเพราะผู้หญิงคนเดียว แต่ก็ยังดีกว่าฆ่ามันทิ้งแต่ไม่ได้อะไรกลับมา เพียงแค่ผู้ที่เทียนหอมเรียกว่าพ่อลุกขึ้นจากโซฟาตัวกว้าง เธอก็ไม่รอช้าที่จะรั้งแขนพ่อไว้พร้อมกับทำท่าจะลุกตาม ทว่า "ปล่อยสิวะ" "พ่อหนูกลัว หนูอยากกลับบ้าน" "อีลูกคนนี้นิ" ทรงพลทำท่าเหมือนจะง้างมือขึ้นมาตบ จนเทียนหอมต้องเสหลบใบหน้าเรียวไปอีกทาง แต่ก็ต้องชะงักไว้เพราะเกรงใจชายหนุ่มที่เขาเรียกว่าเสี่ย "ต้องขอโทษด้วยนะครับเสี่ย" พูดจบเขาก็เดินออกไปทันที โดยไม่สนใจเทียนหอมสักนิด ทำราวกับว่าหญิงสาวที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่สองขวบไม่ใช่คน แค่กระดาษแผ่นเดียวทำให้เขาทำเรื่องผิดมนุษย์ไร้จิตใต้สำนึก เทียนหอมนั่งตัวสั่นระริกอยู่อย่างนั้น เธอก้มหน้าตลอดพลางมือก็บีบกันแน่น ส่วนมาร์คัสเขาไม่ได้พูดแต่สิ่งที่เขาทำคือนั่งจ้องเธออยู่อย่างนั้น "พวกมึงออกไปก่อน" เสียงเข้มโพล่งเสียงออกมาสั่ง จากนั้นลูกน้องที่อยู่ภายในห้องต่างก็ออกมารออยู่ด้านนอก ตอนนี้ก็เหลือแค่ เทียนหอมกับมาร์คัสเท่านั้น "เงยหน้าขึ้นมาสิ!" ชายหนุ่มเอ่ยพูดเสียงเรียบแต่คนที่นั่งก้มหน้าเหมือนจะตื่นกลัวอยู่มาก แม้ว่าสายตาจะแอบเหลือบขึ้นมามองใบหน้าเขา แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะมองมาร์คัสเต็มตาเสียทีเดียว "เงยหน้าขึ้นสิ!" คราวนี้น้ำเสียงที่พูดมันเปลี่ยนไป เสียงเข้มดุดันโพล่งขึ้นจนเทียนหอมต้องยอมเงยหน้าขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังยกมือขึ้นมาทาบที่อกพร้อมอาการที่เรียกว่าสั่นเทาเพราะความกลัว จากนั้นก็พูดขึ้น "หนูกลัวแล้ว หนูไม่อยากขายตัว เงินที่พอหนูเอาไป หนูขอหามาคืนให้ได้ไหมคะ!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม