05

1438 คำ
เจ็ดโมงกว่าของอีกวัน เรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นในชุดนอนซาตินสีขาวขยับกายอยู่บนเตียงกว้าง ก่อนดวงตากลมโตจะค่อยเปิดปรือเมื่อแดดอ่อนยามเช้าส่องลอดม่านลูกไม้บางเบาที่หน้าต่าง เธอนอนนิ่งอยู่เช่นนั้นเมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่ที่แปลกไปไม่เหมือนเคย ก่อนที่สติจะกลับคืนมา เธออยู่ในบ้านของพ่อเลี้ยงปฐพี... “ ไอ้พ่อเลี้ยงบ้า ไอ้โรคจิต ไอ้หื่นกาม ! ” น้ำฟ้าสบถบ่นก่นด่าเมื่อสติกลับมาให้ได้ทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับกายสาวเมื่อบ่ายวาน ทั้งโกรธทั้งเกลียดที่พ่อเลี้ยงปฐพีบังอาจจาบจ้วงเอาแต่ใจอย่างกักขฬะ หากมันมีอีกความรู้สึกหนึ่งที่ซุกซ่อนอย่างปิดไม่มิด คือความสยิวซ่านหวามไหวที่เขาฝากเอาไว้ ทุกการดูดดมหอมไซ้ ทุกการเลียไล้พลิ้วพลิก ไรเคราสากที่ครูดสีบนผิวเนื้ออ่อน มือใหญ่ที่ตะโบมลูบไล้อย่างเอาแต่ใจ ริมฝีปากอันเจนจัด ไหนจะลิ้นช่างหยอกล้อนั้นอีกเล่า... หญิงสาวส่ายศีรษะไปมาแรง ๆ คล้ายกับจะสลัดอะไรต่อมิอะไรที่เกิดขึ้นให้หลุดออกไป สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบ ๆ กาย หลังจากเรื่องในห้องน้ำเมื่อวานที่พ่อเลี้ยงปฐพีทำกับเธอ เขาก็หายหัวไปเลย มีเพียงคนงานสาวใหญ่ที่ชื่อพี่เรียมเข้ามาช่วยดูแล พาเธอมาพักที่ห้องรับรองที่อยู่ฝั่งซ้ายสุดบนเรือนใหญ่ ซึ่งห้องนอนใหญ่ของพ่อเลี้ยงนั้นอยู่ด้านขวาสุด แรกนั้นน้ำฟ้าคิดจะหนีไปเสีย แต่มาคิดอีกทีที่นี่มีแต่ป่าแต่เขา คืบก็ป่า ศอกก็เขา ไหนจะคนงานของเขาที่เป็นคนพื้นที่อีกเล่า หนีไปก็คงไม่รอด และจากอาการของเขาหลังจากที่ได้รู้ว่าเธอยังบริสุทธิ์ เห็นได้ชัดว่าตกใจและผละหนีไปเลย น้ำฟ้าอนุมานเอาเองว่าเขาคงรู้สึกผิดบ้างไม่มากก็น้อย “ คนทุเรศ ไม่ว่าเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์หรือไม่ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะลวนลามใครทั้งนั้นหากหล่อนไม่เต็มใจ ” เธอพึมพำอย่างหงุดหงิด แต่ก็ยิ่งหงุดหงิดไปกว่านั้นเมื่อคิดได้ว่าตอนแรกตัวเองก็ขืนขัดต่อสู้ หากตอนหลังกลับอ้าขากดหน้าเขาจนจะจมเข้าไปตรงกลางหว่างขาของตัวเองอยู่แล้ว กับความรู้สึกสุดยอดตอนเขาใช้ลิ้นส่งเธอไปถึง... “ พอแล้ว พอ ! ” หญิงสาวตวาดออกมาสกัดกั้นความคิดของตัวเองให้มันหยุดแค่ตรงนั้น ‘ พ่อเลี้ยงดินเป็นคนดีค่ะ ใจดี คนที่นี่รักพ่อเลี้ยงกันทั้งนั้น ’ นี่คือคำตอบจากพี่เรียมที่เมื่อเธอแอบเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามว่าเขาเป็นคนอย่างไร เพื่อประเมินสถานการณ์ที่ตนเองต้องเจอ คนดีอย่างนั้นเหรอ คนดีตอนไหนคะ ทำไมตอนอยู่กับเธอทั้งกักขฬะ ทั้งหื่นกาม ! อย่างไรก็แล้วแต่ วันนี้เธอจะต้องได้พูดคุย ได้เจรจากับเขาให้รู้เรื่อง หยุดจมจ่อมกับปัญหาแล้วหาทางออกให้มันดีกว่า คิดได้ดังนั้นก็ลึกขึ้นจากเตียงทันที “ กี่โมงแล้วเนี่ย ” เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเวลาเจ็ดโมงกว่าแล้ว มีหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่ได้รับสองสายนั่นก็คือคุณย่า แต่เธอไม่สนใจที่จะโทรกลับใด ๆ ทั้งนั้น ก็เพราะคุณย่านั่นแหละที่ทำให้เธอต้องมารับเคราะห์ กรรมอยู่แบบนี้ หญิงสาวทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างหงุดหงิดใจเมื่อพบว่าอินเตอร์เน็ตแย่มาก มีสัญญาณเพียงขีดเดียว บางครั้งก็หายไปเลย จะกดเข้าไปท่องโลกโซเชียลอย่างที่เคยทำไม่ได้เลย ‘ ที่นี่มีไวไฟไหมคะพี่เรียม ’ หล่อนถามพี่เรียมเมื่อเย็นวาน ‘ มีค่ะ แต่ต้องให้พ่อเลี้ยงมาเปิด ’ ‘ อินเตอร์เน็ตสัญญาณแย่มาก ๆ เลยนะคะพี่ ลำบากแย่ ’ พี่เรียมมุ่นคิ้วแล้วโคลงศีรษะ ‘ ลำบากอะไรคะ ’ ‘ ก็ไม่มีอินเตอร์เน็ตดี ๆ ใช้ไง จะท่องโลกโซเชียล จะคุยกับใครก็ไม่ได้สักอย่าง ’ พี่เรียมยังคงทำหน้าไม่เข้าใจว่าการไม่ได้ท่องโลกอะไรที่คู่สนทนาพูดมันจะมีสร้างปัญหาหรือลำบากอะไรเลย เพราะคนที่นี่มีชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ทำไร่ ทำสวน คุยกับคู่สนทนาตรงหน้ามากกว่า เธอใช้ปลายนิ้วเรียวลูบใบหน้าและขยี้ตาก่อนจะพาร่างในชุดนอนผ้าซาตินสีขาวเรียบลื่นไปยืนตรงหน้าต่าง เปิดม่าน เปิดหน้าต่างแล้วมองวิวทิวทัศน์ด้านนอกที่เขียวขจีไปด้วยไม้ดอกไม้ผลที่คงได้รับการบำรุงรักษาดูแลอย่างดี ต้นไม้ใบหญ้าถูกตัดแต่งอย่างเรียบร้อย เมื่อนึกถึงตรงนี้ภาพใครคนหนึ่งที่ถือเครื่องตัดหญ้าก็แว่บเข้ามาในหัวทันที “ บ้าเอ๊ย นี่จะตามหลอกหลอนฉันไปถึงไหน ” เธอพึมพำแต่มีอย่างอื่นที่เข้ามาแทนที่ความหงุดหงิด เพราะลมโชยอ่อนพัดพาอากาศอันสดชื่นเข้ามาเต็มปอด กลิ่นหอมอ่อนของไม้ดอกบางที่เธอไม่รู้จักลอยมาตามลมพาให้สดชื่น อากาศยามเช้าที่นี่ดีมาก ไม่ร้อนเหมือนตอนที่เธอมาถึงเมื่อบ่ายวาน อย่างน้อยก็ยังมีสิ่งดี ๆ อยู่บ้างแหละนะ... “ สดชื่นจังเลย ” เธอพึมพำ ปล่อยกายใจให้ละเลียดอยู่กับความงามตามธรรมชาติไม่นานก่อนรีบเข้าไปอาบน้ำอาบท่า เช้านี้เธอจะเจรจากับพ่อเลี้ยงปฐพีให้รู้เรื่อง หญิงสาวเปลือยกายแล้วเดินเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำอุ่นจากฝักบัวให้รินรด หากแปลกนัก ยามสายน้ำโลมลูบไปบนผิวเนื้อ กายสาวกลับร้อนผ่าววูบวาบนึกถึงสิ่งที่เขากระทำกับเธอ น้ำไหลไปจุดไหน ในจินตนาการกลับกลายเป็นมือ ปาก ไรเคราสาก และลมหายใจร้อนเร่า จนตรงกลางระหว่างขาของเธอฉ่ำชื้นกะทันหัน หญิงสาวสะบัดหน้าไปมาจนผมกระจายเพื่อสลัดความคิดบ้า ๆ นั่นออกจากสมองก่อนจะรีบจัดการธุระส่วนตัวให้เสร็จสิ้น ไม่นานร่างระหงก็เปิดประตูก้าวออกมาจากห้อง เธออยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวพอดีตัวกับกางเกงยีนสีเข้มรัดรูปดูทะมัดทะแมง กางเกงยีนเอวสูงเน้นเอวคอดกิ่วสะโพกผายบั้นท้ายงอนงาม น้ำฟ้าเป็นผู้หญิงที่มีหุ่นแบบนาฬิกาทราย สวมใส่อะไรก็สะสวยเหมาะเจาะ เธอเดินหา ใช้สายตาสอดส่ายไปทั่วทั้งบนเรือน ลงมาเดินหาทั่วบริเวณโดยรอบ แต่ก็ไม่พบร่างสูงใหญ่ของพ่อเลี้ยงปฐพีจนนึกหงุดหงิด “ บ้าเอ๊ย ไม่รู้ว่าหายหัวไปไหนอีก ไม่เห็นบอกว่าจะให้ทำงานทำการยังไงจะได้เริ่มชดใช้หนี้ให้หมด ๆ ไปซะที ” เธอบ่นอุบก่อนจะเดินขึ้นไปบนเรือนใหญ่อีกครั้ง ก็พบพี่เรียมที่กำลังยกขันโตกขึ้นมาบนเรือนพอดี “ อ้าวคุณฟ้า ตื่นแล้วเหรอคะ ไปไหนมาเอ่ย พี่เรียมเอามื้อเช้ามาให้ค่ะ เป็นข้าวต้มปลาทับทิมและก็มีผลไม้เป็นมะละกอสุกหวาน ๆ มีลิ้นจี่ของที่นี่ด้วย ทีแรกว่าจะทำข้าวต้มกุ้งเพราะเมื่อวานพ่อเลี้ยงเข้าเมืองไปซื้อกับข้าวมาเยอะแยะ มีอาหารทะเลด้วย แต่พ่อเลี้ยงว่าคุณฟ้าแพ้อาหารทะเล ” นั่นทำให้น้ำฟ้าเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ อีตาพ่อเลี้ยงหน้าหินหื่นกามนั่นรู้เรื่องของเธอด้วยแฮะว่าแพ้อาหารทะเล แน่ล่ะสิ เขาต้องรู้ข้อมูลของลูกหนี้หรือคนที่จะมาทำงานด้วย เพราะหากทำอะไรไม่ถูกใจจะได้ฆ่าปิดปากได้เนียน ๆ สินะ น้ำฟ้าคิดอย่างพาล ๆ “ ไม่รู้จะถูกปากคุณหรือเปล่า ลองทานดูนะคะ ” เรียมยกขันโตกไปวางบนเสื่อที่ปูอยู่บนพื้นที่ยกสูงขึ้นมาตรงหน้าระเบียง บนขันโตกมีชามข้าวต้มและผลไม้ที่ปิดฝาเอาไว้เรียบร้อย น้ำฟ้านั่งลงแล้วเอื้อมมือไปเปิดฝาชามเหล่านั้นออก ควันข้าวต้มหอมฉุยลอยมาเตะจมูก “ อื้อหือ หอมจังเลยค่ะ ต้องถูกปากอยู่แล้วล่ะค่ะ เพราะอาหารเมื่อเย็นวานที่พี่เรียมทำให้ ฟ้าก็กินเสียพุงกางเลย ถ้าอยู่ที่นี่นานไปฟ้าคงอ้วนเป็นหมูแน่ ๆ ” นั่นทำให้พี่เรียมหัวเราะร่วน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม