หญิงสาวนั่งอยู่ริมระเบียงมองออกไปยังน้ำตกที่ไหลผ่านตรงหน้าอย่างเหม่อลอย คิดอะไรไม่ออกเลยตอนนี้มันตันไปหมด หรือเธอควรจะออกไปหาใครสักคนแล้วขอยืมโทรศัพท์ เป็นความคิดที่ไม่เลวเลยนะเธอควรจะคิดได้ตั้งนานแล้ว และเมื่อคิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็รีบเดินออกไปจากห้องนอนมองหาแม่บ้านที่เจอในตอนที่เข้ามาใหม่ และตอนนี้พวกเขากำลังทำอาหารกันอยู่ในครัว ญาดายิ้มกว้างออกมาก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหาทันที
“คุณญาดาต้องการอะไรรึเปล่าคะ เรียกใช้ได้เลยนะคะ”
เธอส่ายหน้าทันทีก่อนจะเดินมานั่งลงข้างๆพวกแม่บ้านจากนั้นก็มองซ้ายมองขวาแล้วเอ่ยออกมาเสียงเบา
“พอดีว่าญาดามีเรื่องจะรบกวนหน่อยน่ะค่ะ อยากจะยืมโทรศัพท์หน่อยพอดีว่าโทรศัพท์ไม่มีค่ะ อยากจะโทรหาพ่อแป๊บหนึ่ง”
เธอเอ่ยออกมาเสียงอ้อนวอน แม่บ้านหันไปมองหน้ากันอย่างลังเล ก่อนหน้านี้เฮียอาร์ตเจ้านายของพวกเธอเพิ่งจะโทรศัพท์เข้ามาสั่งไม่ให้ทุกคนเอาโทรศัพท์ให้คุณญาดายืม ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่พวกเธอต้องทำตามหน้าที่ คือห้ามให้โทรศัพท์เธอยืมเด็ดขาด
“นะคะพี่ๆ ญาดาขอยืมแป๊บเดียวเอง สองนาทีค่ะ”
“พวกเราก็อยากให้คุณญาดายืมนะคะแต่ว่าเฮียอาร์ตสั่งไว้ไม่ให้เอาโทรศัพท์ให้คุณญาดายืมค่ะ ถ้าเฮียรู้พวกเราจะซวยกันหมด”
“อย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลยนะคะ พวกพี่เป็นแค่แม่บ้านต้องทำตามคำสั่งเจ้านายค่ะ”
ญาดาใบหน้าเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น นึกว่าจะรอดซะแล้วแต่ผิดคาดเขารอบคอบกว่าที่เธอคิดเยอะเลย
“ขอโทษจริงๆนะคะ”
“ไม่เป็นไรอะไรค่ะญาดาเข้าใจ ถ้าพวกพี่ใจดีกับญาดาอาจจะถูกไล่ออกได้ แต่ไม่เป็นไรค่ะงั้นญาดาไปก่อนนะคะ”
เธอฝืนยิ้มออกมาก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที สงสัยคงต้องหาวิธีอื่นเพราะเขาคงสั่งลูกน้องทุกคนไว้แล้วว่าไม่ให้เธอยืมโทรศัพท์ เพราะฉะนั้นมีอีกวิธีที่เธอจะทำได้ก็คือโซเชียล เธอจะเนียนเข้าไปทำงานแล้วจะเข้าโซเชียลทักไปหาพี่สาว ถึงตอนนั้นรับรองว่าเธอรอดออกไปจากที่นี่แน่นอน
“ไง… มีใครให้ยืมโทรศัพท์มั้ย”
เฮียอาร์ตที่บังเอิญมาได้ยินหญิงสาวไปอ้อนขอโทรศัพท์จากแม่บ้านก็เลยเลือกที่จะหยุดดูปล่อยให้เธอหาวิธีออกไปจากที่นี่คนเดียว ในเมื่อห้ามไม่ฟังก็ปล่อยให้เธอจัดการตัวเองไปและเขาก็จะจัดการเธอเช่นกัน
“คุณมันเป็นคนใจร้าย”
“ก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองใจดีซะหน่อย อยากไปทำงานมั้ยจะพาไป”
ญาดาได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ายิ้มกว้างออกมาทันที ถ้าเธอได้จับคอมพิวเตอร์รับรองว่ามีวิธีในการออกไปจากที่นี่แน่นอนเลยแต่ต้องทำตัวให้เป็นปกติเขาจะได้ไม่สังเกต
“ไปค่ะไปตอนนี้เลย”
“ได้สิมีงานให้ทำด้วย ตามมาสิ”
ญาดาวิ่งตามชายหนุ่มออกไปอย่างอารมณ์ดี และแผนต่อไปเธอคิดว่าจะใช้อินเตอร์เน็ตช่วยและเขาคงคาดไม่ถึงแน่นอน
และเมื่อมาถึงที่ออฟฟิศเขาก็พาเธอไปนั่งในห้องทำงานของตัวเอง ตอนนี้มีโต๊ะพร้อมเก้าอี้วางไว้ให้พร้อมและมีคอมพิวเตอร์ให้ด้วย หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความหวังก่อนจะหุบยิ้มทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ดูดีใจนะที่ได้ออกมาข้างนอก อยากทำงานเหรอไง”
ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มกว้าง แปลกใจไม่น้อยที่คราวนี้ไม่โวยวายเหมือนก่อนหน้านี้ แถมยังดูเต็มใจอยากจะมาทำงานกับเขาอีกหรือว่าอาจจะทำใจยอมรับทุกสิ่งได้แล้ว
“ค่ะญาดาชอบทำงานมากมาก งั้นขอทำงานนะคะคุณมีอะไรให้ญาดาทำรึเปล่า”
เธอเดินไปนั่งลงที่โต๊ะของตัวเองมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย มีอินเตอร์เน็ตให้เล่นด้วยรับรองว่าคืนนี้เธอจะต้องได้ไปจากที่นี่แน่ๆ
“เอกสารตรงหน้าเป็นเมลที่ลูกค้าต่างประเทศส่งมา เก่งภาษาไม่ใช่เหรอแปลให้หน่อยสิ”
“ได้ค่ะสบายมาก”
เธอหยิบแฟ้มเอกสารมาเปิดดูก่อนจะอ่านคร่าวๆให้พอเข้าในเนื้อหา แล้วเดี๋ยวค่อยแปลแบบมีรายละเอียดส่งไปให้เขาอีกที เธอถือเมาส์กดเข้าไปในการค้นหาตั้งใจจะเปิดโซเชียลของตัวเองแต่ก็ถูกปฏิเสธหมดไม่สามารถเข้าถึงได้เลยสักเว็บ
“นี่มันอะไรกัน…”
“อ่อลืมบอกไปนะคอมพิวเตอร์ที่ออฟฟิศเข้าได้เฉพาะเมลกับเว็บบางเว็บเท่านั้น แล้วก็โซเชียลต่างๆเข้าไม่ถึงนะบอกไว้ก่อนเผื่อกำลังมองหาอยู่”
ชายหนุ่มอมยิ้มอย่างกวนประสาทมองหญิงสาวที่ตอนนี้มีสีหน้าที่ไม่ค้อยสู้ดีมากนักเมื่อเขารู้ทันและปิดกั้นทุกอย่างไม่ให้เธอติดต่อโลกภายนอกได้ แบบนี้เธอคงหมดหวังที่จะได้ติดต่อกับคนรู้จักแล้ว
‘สงสัยต้องทนอยู่ที่นี่เสียแล้วล่ะมั่ง เฮ้อ!’
ญาดานั่งหน้าบึ้งบูดแปลเอกสารให้ชายหนุ่ม ตอนแรกมาด้วยใบหน้าสวยยิ้มแย้มตอนนี้กลับแสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งพอจะเดาได้ว่าเธอเป็นอะไรกันแน่และตอนนี้คงกำลังโกรธเขาหนักมากจึงไม่ยอมแม้แต่จะคุยด้วย
“ญาดาทำไปถึงไหนแล้ว”
“จะเสร็จแล้วค่ะ คุณเพิ่งให้หนูมาไม่ถึงยี่สิบนาทีเลยจะรีบไปไหนคะ”
“ก็นึกว่าเก่งไงแป๊บเดียวเสร็จ”
หญิงสาวเบะปากออกมาใส่ชายหนุ่มแสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจก่อนจะลุกขึ้นเดินถือแฟ้มเอกสารแปลงานมาวางไว้ให้ตรงหน้า
“นี่ค่ะ”
“ขอบคุณนะนั่งลงก่อนสิเผื่อต้องแก้ไขตรงไหนจะได้บอกทีเดียวไม่ต้องบอกหลายรอบ”
“ไม่ผิดหรอกค่ะ เกียรตินิยมอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดังไม่แปลเอกสารมั่วหรอกค่ะไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรแล้วหนูขอตัวนะคะ”
เธอลุกขึ้นเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานและพยายามที่จะลองเข้าดูอีกครั้งแต่ก็เหมือนเดิมคือไม่สามารถเข้าถึงงเว็บดังกล่าวได้ เธอรู้สึกเสียอารมณ์มากที่ไม่สามารถทำอะไรเขาได้จึงต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรมต่อไป
“เก่งนะเนี่ยแปลสวยมาก”
“ขอบคุณค่ะที่ชม”
ญาดาเอ่ยออกมาเสียงห้วนเปิดแฟ้มเอกสารดูด้วยใบหน้าที่บอกบุญไม่รับสุดขีด เฮียอาร์ตเหลือบสายตามองหญิงสาวก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู ท่าทางจะโกรธมากที่ไม่สามารถเข้าถึงเว็บที่ต้องการ ก็เพราะว่าเขารู้อยู่แล้วว่าเธอต้องหาทางทุกอย่างที่ทำได้จึงต้องทำการปิดการเข้าถึงบางอย่างเพื่อไม่ให้ญาดาทำตามความต้องการของตัวเองได้
“ดื่มอะไรมั้ยเดี๋ยวเลี้ยง”
“ไม่มีอารมณ์กินค่ะ มีงานให้ทำอีกมั้ยคะน่าเบื่ออยากหาอะไรทำค่ะ”
เธอไม่สนใจและไม่แคร์แล้วว่าชายหนุ่มจะมองเธอแบบไหน เพราะเท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เขาก็มองว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดีแย่งแฟนคนอื่นไปแล้ว ถ้าหวังให้เธอสร้างภาพเป็นคนดีเหมือนคนอื่นต่อหน้าเขาก็ฝันไปเถอะ
‘เพราะคนอย่างเธอไม่มีทางทำแน่นอน!’