ตอนที่ 2 ผู้ชายไม่เอาถ่าน

1938 คำ
ตอนที่ 2 ผู้ชายไม่เอาถ่าน "ขอบคุณมากนะกวินทร์ที่มาส่ง ให้เราเลี้ยงข้าวเอาไหม" รอยยิ้มของกวินทร์กระจายเกลื่อนอยู่เต็มใบหน้า ริมฝีปากสีสุขภาพดียกยิ้มขึ้นมาด้วยความถูกใจ มันก็จริงอยู่ที่ว่าเขาไม่ได้หวังอะไรตอบแทน แต่ก็ไม่ได้บอกว่าถ้ามีโอกาสจะไม่คว้าเอาไว้ "ก็ดีนะ เรากำลังอยากกิน..." แต่ไม่รู้ว่าบุญมีแต่โดนกรรมบังหรืออย่างไรก็ไม่รู้ เมื่อความสุขใจของกวินทร์ที่เบ่งบานเมื่อครู่ถูกปิดสวิตช์ลงชั่วขณะ เมื่อเสียงเรียกเข้าของมือถือมันดังแผดเสียงเรียกร้องความสนใจอยู่ "คุณแม่..." เสียงนั้นแม่จะค่อนข้างเบา แต่ถึงอย่างนั้นเฟยก็ยังคงสังเกตเห็นได้ถึงสีหน้าคล้ายกำลังลังเลของคนเป็นเพื่อนอยู่ดี สาวเจ้าเลยตัดสินใจเอ่ยออกไปเพื่อหวังลดความกังวลของอีกฝ่ายลง "ถ้ามีเรื่องต้องไปทำก็ไปเถอะ เอาไว้คราวหน้าก็ได้ เราไม่เบี้ยวหรอกน่า" ถึงจะได้ยินแบบนั้น แต่คนตัวสูงก็อดเสียดายไม่ได้อยู่ดี แต่เพราะจำได้ดีว่าวันนี้ตนมีเรื่องต้องไปทำให้ตามที่คนเป็นแม่ร้องขอ มันเลยทำให้กวินทร์เลือกที่จะกลับไปอย่างว่าง่าย แม้ว่าในใจจะเสียดายไม่น้อยก็ตาม ฝ่ายของเฟยที่เห็นว่ารถของคนเป็นเพื่อนขับพ้นออกไปจากระยะสายตาแล้ว เจ้าตัวก็เริ่มขยับกายเดินตรงไปที่รถคู่ใจของตนทันที สายตาและมือก็ควานหากุญแจในกระเป๋าของตนไปด้วย จนไม่ทันระวังสิ่งรอบกายเพราะคิดว่าพื้นที่ปลอดคนและอยู่ในที่โล่งแจ้งอย่างริมถนนที่มีรถผ่านไปมาแบบนี้นั้น จะมีอันตราย หรือใครแอบซ่อนเอาไว้อยู่ "ตะเอ๋!" "ว๊าย! ตาเถรตบยุง" เพี๊ยะ! กว่าเสียงอุทานจะจบลง มือเล็กก็ออกแรงตบออกไปเต็มแรงตามความตกใจที่มี เล่นเอาคนที่โดนแรงตบอัดกระทบชนิดว่าหลบไม่ทันแบบนี้นั้นหน้าหันและชาไปทั้งแถบก็ว่าได้ "เอ่อ ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ พอดีอยู่ ๆ คุณก็ส่งเสียงออกมาแบบนี้ ใครจะไม่ตกใจกันละคะ เอ่อ ขอฉันดูหน่อยนะคะ" เฟยว่าพร้อมกับพยายามจะสำรวจดูใบหน้าของอีกฝ่ายเพื่อหารอยฟกช้ำที่อาจจะมี แต่เพียงแค่ชั่วครู่จากตกใจก็ต้องเปลี่ยนเป็นนิ่งงันไปอีกเกือบครึ่งนาที พร้อมลมหายใจที่ถูกถอนตามออกมาเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ตนเพิ่งตบไป "อ้าว คุณนี่เอง" ท่าทีของเฟยเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เมื่อจำได้ว่าคนตรงหน้านั้นคือคนเดียวกับคนเมื่อเช้าที่ไปส่งตนเข้ามหาลัย ซึ่งสภาพของอีกฝ่ายเวลานี้นั้น ทำเอาเฟยต้องถอนหายใจอย่างระอา ภาพลักษณ์ที่ไม่ได้สกปรกน้อยลงกว่าเจอกันเมื่อเช้าเลย หรือจะให้ตรง ๆ ก็คือ เหมือนจะสกปรกกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะใบหน้าของเจ้าตัวเวลานี้ มันมีแต่เขม่าและคราบน้ำมันดำๆ ติดอยู่ตามเสื้อผ้าและใบหน้าจนดูตลกในสายตาของคนคุ้นชิน "แล้วคุณมาทำอะไรตรงนี้ มาส่งผู้โดยสารเหรอ แต่แปลกเมื่อกี้นี้ฉันไม่เห็นคุณเลย" "ผมมารอคุณไง รู้ว่ายังไงคุณก็ต้องมาเอารถ กะจะทักทายเล่นๆ แต่โดนตบจริงซะงั้น" เม่นเอ่ยตอบออกมาพร้อมกับปลายนิ้วมือที่ชี้ไปยังเงาวับรถของเฟย มันทำเอาหญิงสาวได้แต่ถอนหายใจออกมาอีกหน แต่ถามว่าคนถูกมองสลดไหมดูได้จากท่าทีของอีกฝ่ายก็น่าจะรู้ดี แถมดูเหมือนว่าคะแนนของเจ้าตัวจะยิ่งติดลบมากขึ้นไปอีก เมื่อท้องเจ้ากรรมดันมาร้องครางต่อหน้าสาวตัวหอมเสียอย่างนั้น "หิวเหรอคุณ" "เอ่อ ครับ พอดีผมยังไม่ได้กินข้าวเลย พึ่งออกมาจากอู่ซ่อมรถ" เม่นตอบออกไปตามความจริง ด้วยว่าตนนั้นเพิ่งจะแยกออกมาจากอู่ของ เฮียเป็ด ที่ตนเพิ่งไปทำธุระมา สภาพร่างกายในชุดขาดวิ่นเกือบทั้งตัวรวม ถึงการทำงานของกระเพาะอาหาร ถึงได้ดูน่าสงสารขนาดนี้ อย่างน้อยก็สาวเจ้าที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาเวลานี้ก็แล้วกันที่เกิดความรู้สึกนั้น "งั้นไปกินข้าวกัน" เธอว่าเพียงแค่นั้นแล้วออกเดินตรงไปยังร้านก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ไม่ไกลกัน ซึ่งเม่นเองพอเห็นแบบนั้นไหนเลยจะรอช้าได้อีก พาสองขาของตัวเองเร่งก้าวตามอีกฝ่ายไปติดๆ "เอาอะไรดีครับ" เสียงทักทายของเฮียเจ้าของร้านดังขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม เช่นเดียวกับเจ้าตัวที่กุลีกุจอเข้ามาหาลูกค้าผู้มาใหม่ ก่อนที่เสียงทักทายอย่างคนคุ้นเคยกันดีจะเอ่ยขึ้นกับพ่อหนุ่มทรงไม่อาบน้ำคนนี้ "อ้าว อาเม่น วันนี้ควงสาวที่ไหนมาเนี่ย สวยเชียว" "อ่อ เรื่องมันยาวน่ะเฮีย ว่าแต่วันนี้มีไรน่ากินบ้าง" "เอ้า นั่งกันก่อน ลูกชิ้นปลากรายหากินยากนะช่วงนี้" "โอเค งั้นเอาอันนั้นแหละ" "ไม่มี ก็มันหากินยาก จะมีได้ไง" "แฮร่!" เท่านั้นเสียงหัวเราะของสองหนุ่มต่างวัยก็ดังขึ้นมาพร้อมกัน ท่ามกลางสายตาของเฟยที่ขยับขึ้นรถปริบ ๆ มองการเล่นมุกห้าบาทสิบบาทที่ตนยังคงไม่เข้าใจอยู่ด้วยท่าทีออกไปทางงุนงงอย่างเห็นได้ชัด "เฮ้อ เฮียนี่ไม่เปลี่ยนเลย งั้นผมเอาเหมือนเดิมแล้วกันนะ" "ได้ๆ แล้วหนูคนสวยเอาอะไรดีครับ" "เส้นหมี่ขาวน้ำใสไม่ใส่ถั่วงอกค่ะ" เฟยตอบออกไปด้วยท่าทีที่ยังไม่คลายความสงสัยจากมุกลูกชิ้นปลาเมื่อครู่เลยด้วยซ้ำ ฝ่ายเฮียเจ้าของร้านเองก็ไม่ได้อธิบายอะไรต่อ รับออเดอร์เสร็จก็ถอยออกไปทันที "เสียดายเนอะคุณเลยอดชิมเมนูหากินยากเลย" เฟยที่ได้ยินแบบนั้นได้แต่แอบกลอกตาไปมาพร้อมกับพ่นลมหายใจเบา ๆ แต่เม่นก็ไม่ได้ละความพยายามในการชวนคุยแต่อย่างใด "ว่าแต่คุณชื่ออะไรครับ ผมชื่อเม่น" "ฉันชื่อเฟยค่ะ" ในใจเฟยนึกอยากบอกออกไปตามความคิดด้วยซ้ำ ว่าที่ตนชวนเพราะอดรู้สึกสงสารเจ้าตัวไม่ได้ ด้วยเข้าใจว่าอีกฝ่ายคงไม่ค่อยมีสตางค์เท่าไหร่เลยตั้งใจจะอดข้าวไว้ก่อนแน่ ๆ "แล้วนี่คุณต้องไปวิ่งวินอีกรึเปล่าคะ" "หือ ไม่นะครับ เอาตรง ๆ เลยนะ คือผมไม่ได้เป็นมอไซค์รับจ้างแบบคุณเข้าใจหรอก เรื่องเมื่อเช้าคุณน่ะเข้าใจผิดไปเองต่างหาก" "อ้าวเหรอ ตายแล้ว แล้วทำไมมาใส่เสื้อส้มในเวลาที่ฉันต้องการใช้วินพอดีล่ะ" "ผมไม่ได้ตั้งใจแบบนั้นสักหน่อย แค่เห็นคุณยืนเก้ๆ กังๆ ข้างรถก็นึกว่ามีไรให้ช่วย" ฟังจากที่เขาพูดขึ้นเฟยก็มองเขาดีขึ้นมานิดหนึ่ง จากติดลบก็น่าจะกลับมาเป็นสองเต็มสิบ "งั้นเหรอ ฉันขอบคุณมากนะคะ งั้น...อันที่จริงคุณทำงานอะไรคะ" "เอ่อ คือผม...ตอนนี้ยังไม่ได้ทำงาน..." ท่าทีของเม่นอึกอักขึ้นมาทันที เพราะตนไม่สามารถตอบได้ว่ากำลังทำงานอะไร ก็จะให้เขาตอบได้อย่างไร ในเมื่อตัวของเขามันไม่ยอมทำงานเอง! ส่วนทางด้านเฟย คะแนนที่ให้ไปเมื่อกี้ขอเอาคืน "หมายถึงว่าตอนนี้ยังหางานทำไม่ได้ ใช่ไหมคะ?" "ไม่ใช่ครับมีงานให้ผมทำเยอะมาก แต่..." "คุณไม่ยอมทำงาน" เฟยพูดเสียงแผ่ว ในใจคิดว่าตัวเองได้เจอกับผู้ชายไม่เอาถ่านเข้าให้จริงๆ เสียแล้ว ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้งเมื่อคนตรงหน้าไม่ได้รู้สึกว่า การที่เขาไม่มีงานทำเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนปกติทั่วไป ใบหน้ายังคงทะเล้น และยิ้มอย่างไม่สลด "คือฉันไม่ได้อยากยุ่งหรอกนะ ก็แค่เสียดายเวลาชีวิตแทน" แล้วบทสนทนาก็ถูกตัดลงเมื่อก๋วยเตี๋ยวที่ทั้งคู่ร้องสั่งถูกเสิร์ฟในนาทีต่อมา นั่นมันเลยทำให้ทั้งคู่หันมาสนใจอาหารตรงหน้าที่มันยั่วน้ำลายและดึงความสนใจมากกว่า "เฮีย เก็บตังค์ด้วย" เสียงของเม่นตะโกนร้องบอกในนาทีต่อมาเมื่ออาหารตรงหน้าถูกจัดการลงจนหมดเกลี้ยง ก่อนที่มือใหญ่จะล้วงควักหาเงินในกระเป๋าตัวเองอยู่ครู่ใหญ่ ตามกระเป๋าหน้าบ้าง กระเป๋าหลังบ้าง จนกระทั่งเจอแบงก์สีเขียวยับย่นอยู่ในนั้นสองใบ "ห้าสิบใช่ไหมเฮีย แปะไว้ก่อนนะ มีแค่นี้อะ" เฮียเจ้าของร้านถอนหายใจออกมาพร้อมกับล้วงเอาสมุดจดเล็กๆ ที่พอคลี่ออกจะเห็นเป็นแผ่นกระดาษซึ่งมีตัวเลขสีน้ำเงินเขียนอยู่ในนั้นยาวเหยียดและกำลังจะถูกเพิ่มเลขใหม่เข้าไปอีกแล้ว "แล้วของหนูคนสวยนี่ล่ะ จ่ายให้ด้วยไหม" "ครับ ผมจ่าย..." "เอ่อ ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวหนูจ่ายเอง แล้วก็ของเขาวันนี้ด้วย" "หนูจะจ่ายใช่ไหม งั้นอั้วะ ไม่ลงบิลนะ" เฮียว่าพร้อมกับขีดยุกยิกลงบนกระดาษของตัวเอง แล้วเดินออกไปอีกครั้งเมื่อมือรับเงินจากสาวสวยตรงหน้ามาแล้ว นั่นจึงเปิดโอกาสให้เฟยได้มีโอกาสพูดกับคนตรงหน้าต่อ "นี่อย่าบอกนะคุณ ว่าเมื่อกี้บิลที่คุณค้างเอาไว้?" "แน่นอนครับ ของผมคนเดียวเลย" เม่นเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มที่เหมือนภูมิใจเต็มประดาและไม่ได้ขยายความอันใดต่อ แต่คนฟังนี่สิถึงกับยิ้มแห้งออกมาทันที ในความรู้สึกขอเฟย ยิ่งรู้สึกติดลบตัวแดงกับชายหนุ่มนิรนามตรงหน้าเข้าไปอีก เพราะถ้าเอาตามจริงราคาอาหารมื้อนี่มันก็เพียงแค่ห้าสิบบาทขนาดนั้น แต่คนตรงหน้าก็ยังเลือกจะแปะโป้งเอาไว้ ไหนจะบัญชีที่เธอแอบเห็นว่ายาวเป็นหางว่าวนั่นอีก มันทำให้หญิงสาวรู้สึกอยากพาตัวเองออกไปจากตรงนี้เร็ว ๆ ซะแล้วสิ 'บ้าจริง ไม่น่ามายุ่งกับเด็กแว้นคนนี้เลย ไม่เอาแล้วขอไม่ยุ่งเกี่ยวอีกแบบเด็ดขาด ดูทรงแล้วไม่น่าคบสักนิด ไม่รู้ติดยา ติดน้ำท่อมไหม หน้าตาก็ดีไม่น่าเป็นแบบนี้เลย' หญิงสาวได้แต่คิดในใจอยู่แบบนั้นแล้วรีบพาตัวเองลุกออกจากโต๊ะมาทันทีเมื่อได้ตังค์ทอนจากเฮียเจ้าของร้าน ทว่า เพียงแค่ก้าวออกมาสองสาวก้าวก็ต้องถอนหายใจอีกครั้ง แล้วอดจะหันหลังกลับไปไม่ได้ "นี่คุณ เอานี่ไว้นะ คืออย่าหาว่าฉันยุ่งเลย คุณเก็บเงินนี่ไว้ซื้อข้าวกินนะ แล้วก็ถ้าจะให้ดีฉันแนะนำว่าคุณน่าจะลองหางานทำแบบจริงจังดู จะได้ไม่ถูกมองว่าเป็นขยะสังคม" พูดเพียงแค่นั้นเจ้าตัวพร้อมกับยัดธนบัตรใส่มืออีกคนแล้วเดินจากไปทันที ท่ามกลางความงุนงงของเม่น ที่จู่ ๆ ก็ถูกยัดเงินแบงก์เทาเข้าใส่มือมาให้แบบนี้ ***
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม