เพ้นท์ของพาย #3
:: รอยยิ้มของเธอ ::
:: PAAI TALK ::
ผมมีงานด่วนที่จะต้องมาเคลียร์ก่อนที่ธนินจะมา หลังจากพาเพ้นท์ไปทำภารกิจจนเสร็จก็ว่าจะพาไปหาอะไรกินสักหน่อยแต่ดันมีงานเข้ามาซะก่อนที่จะได้ไป ผละสายตาจากงานตรงหน้ามองเวลาในข้อมือก็พบว่าตอนนี้ค่ำมากแล้ว ในห้องเงียบเกินไปจึงเบนสายตาไปมองร่างเล็กก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นเธอกำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินเข้าไปอีกห้องที่เป็นห้องนอนสำหรับค้างคืนที่โชว์รูม ดึงเอาผ้าห่มสีขาวออกมาและเดินมาห่มให้กับเพ้นท์ที่หลับสนิทราวกับกำลังสบายที่ได้นอนในห้องนี้ ฝ่ามือของผมเลื่อนไปปัดเส้นผมออกจากใบหน้าเรียวสวย
แพขนตางอนยาวรับกับดวงตากลมๆ จมูกโด่งได้รูปกับริมฝีปากแดงชมพูตามธรรมชาติ แต่อาจจะมีแต่งเติมนิดหน่อยคงจะเป็นเพียงลิปมันธรรมดาๆ ผิวขาวซีดของเธอไม่ได้ทำให้ดูเหมือนคนเป็นโรคขาดเลือด แต่บางทีผิวขาวแบบนี้ทำให้ผมจับใบหน้าของเธอได้ตลอดเวลาที่เขินหรือตกใจ มันจะบ่งบอกได้ชัดเลยว่าเธอรู้สึกยังไง
Rrr
เสียงมือถือดังขึ้นผมจึงไปนั่งประจำที่และทำงานที่เหลืออีกนิดให้เสร็จ กดรับสายที่ไม่ค่อยอยากจะรับเท่าที่ควร (“มึง ไปผับกันวันนี้ไอ้คัทไปด้วย”)
“ทำงาน เสร็จจะตามไป”
(“ดีมาก มีสาวอยากรู้จักด้วย พร้อมจัดปะ?”)
“ก็ดี” ตอบไอ้ดรีมไปพลางเซ็นเอกสารตรงหน้า “แค่นี้นะ ขอเวลาครึ่งชั่วโมง”
(“เออ เจอกันที่ร้านเดิม”)
วางสายจากไอ้ดรีมผมก็ทำงานในส่วนของตัวเองจนเสร็จในเวลาที่คาดการณ์เอาไว้ บิดตัวไปมาบนเก้าอี้หมุนวางปากกาประจำกายลงบนโต๊ะก่อนจะเดินไปหยุดที่ข้างโซฟา นั่งยองมองคนตัวเล็กที่ยังคงหลับใหลจนผมไม่กล้าแม้แต่จะปลุกเธอด้วยซ้ำ กระทั่งเพ้นท์พลิกตัวไปมาพร้อมกับทำหน้ายู่จนผมขมวดคิ้ว
“คุณพาย...” เธอเรียกชื่อผม แต่ไม่ได้ตื่นหมายความว่าคงนอนละเมอแน่นอน “เพ้นท์เก่งไหมคะ”
“หือ?” เรียกรอยยิ้มตรงมุมปาก เพราะอยากฟังว่าเธอจะพูดอะไรเกี่ยวกับผม นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ได้ฟังเพ้นท์ละเมอแบบนี้
“ได้เกรดดีด้วย คุณพายภูมิใจ...”
“หึ” หัวเราะในลำคอ จะบอกว่าไม่ภูมิใจก็คงจะไม่ได้สินะเพราะผมหวังว่าเพ้นท์จะทำได้ดีในสิ่งที่ตัวเองต้องการ และผมอยากสนับสนุนเรื่องการเรียนของเธอมันก็เท่านั้น ฝ่ามือเลื่อนไปลูบศีรษะเธอและไล่ไปตามกรอบหน้าเรียว “ภูมิใจสิ”
“คุณพายเป็นพ่อทูนหัวเพ้นท์”
“...”
“เพ้นท์นับถือคุณพาย... เคารพที่สุด” พูดจบก็เงียบไปในทันที ตอนที่เธอบอกกับเพื่อนตัวเองว่าผมเป็นใคร ตอนนั้นรู้สึกตัวเองแก่มาก พ่อทูนหัวอะไร? ผมไม่รู้จักจึงต้องถามเธอออกไปนั่นแหละ ในความคิดของเธอผมคือคนที่น่ายกย่องและเคารพ แต่คำว่าทูนหัวผมก็ยังคงมึนอยู่ดีหรือเพราะใช้ได้ทุกสถานการณ์อย่างเช่นเรื่องเซ็กส์ที่ผมเล่าให้เธอฟัง
“คุณพายครับ!”
“ชู่ว...” ประตูห้องเปิดขึ้นตามด้วยร่างสูงของธนินที่เข้ามาตะโกนเรียกหาอย่างดังจนผมต้องยกนิ้วชี้ทาบริมฝีปากให้เขาลดเสียง ธนินเห็นดังนั้นจึงเม้มริมฝีปากตัวเองจนผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “งานผมเซ็นหมดแล้วครับ”
“ครับ แล้วเพ้นท์มาอยู่ที่นี่ได้ไงครับ?”
“วันนี้พาไปเอาใบเกรดแล้วก็พาไปถ่ายรูป พรุ่งนี้ต้องไปรายงานตัวที่มหาลัยแล้วไง” พูดพลางล้วงมือลงกระเป๋ากางเกงก่อนจะเดินไปหาธนินและตบบ่าเขาเบาๆ “ฝากไปส่งที่บ้านด้วยแล้วกัน ผมมีนัดกับไอ้ดรีม”
“รับทราบครับผม”
“จริงสิ ผมถามอะไรคุณหน่อย” ก่อนจะเดินจากไป สิ่งที่ยังแคลงใจผมอยู่ก็ยังคงไม่หมด “คำว่าทูนหัวมันแปลได้หลายความหมายเหรอ?”
“ครับ” ธนินทำหน้ามึนงง จริงสิ ผมจะไปถามธนินทำไมกันในเมื่อเขาเองก็ไม่ได้กลับมาที่นี่มานานพอๆ กับผม
“ช่างเหอะ ไม่มีอะไร”
ผมโบกมือไปมาก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานและขับรถตรงไปยังสถานที่ที่นัดกับไอ้ครีมไว้ ผมมาถึงคลับ X ในเวลาต่อมา เสียงเพลงดังกระหึ่มบวกกับนักท่องราตรีที่กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามเสียงเพลง สายตาของผมสาดส่องมองหากลุ่มเพื่อนจนเจอไอ้ดรีมที่กำลังนั่งล่อสาวสวยอยู่ ตามด้วยไอ้ ‘คัท’ เพื่อนผมที่เป็นจิตรกร ออกแนวโลกส่วนตัวสูงที่โดนลากออกมาในที่แบบนี้ได้ ไอ้ดรีมมันโคตรเก่งเลย!
“ไง” ทักทายไอ้คัทก่อน มันยกเหล้าขึ้นดื่มและพยักหน้ารับเป็นเชิงบอกทำนองว่ารับรู้แล้วว่าผมมา
“มาสักทีนะมึง รอจนรากงอกแล้ว”
“กูมีงานมาการต้องทำ ไอ้คัทก็เหมือนกัน มีแต่มึงเนี่ยล่ะ!” ว่าเสร็จก็หันไปสั่งเครื่องดื่มที่เบาๆ เพราะไม่อยากดื่มหนักสักเท่าไหร่ พรุ่งนี้ผมมีงานต้องทำอีกเยอะ “ไอ้ดรีม”
“ว่า” เรียกเพื่อนให้เลิกสนใจสาวข้างกาย ก่อนจะทำหน้าครุ่นคิดและจิบเหล้าในมือ
“คำว่าทูนหัวเนี่ย มันแปลได้หลายความหมายเหรอ?” ไอ้ดรีมมองหน้าผมอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็หยิบบุหรี่คีบเข้าปากและจุดไฟเพื่อสูบเอานิโคตินเข้าร่างกาย
“อากู๋มี ไม่เปิดหาล่ะครับ”
“ไม่โอ” จู่ๆ ไอ้คัทก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความฉงนใจของผม “อากู๋บางทีก็แปลมั่ว”
“เออจริง แล้วมึงจะถามทำไมอะ”
“เพ้นท์น่ะ” ผมจิบเหล้าในมืออีกครั้งเพื่อลดอาการคอแห้ง “วันนี้เธอบอกกับเพื่อนตัวเองว่ากูเป็นพ่อทูนหัว”
“ถามจริง?” ไอ้ดรีมถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น ส่วนไอ้คัทก็นั่งฟังเงียบๆ
“อือ ก็เพื่อนเธอหาว่ากูเป็นเสี่ย เธอเป็นเด็กเสี่ย เพ้นท์ก็เลยตวาดไปว่ากูเป็นพ่อทูนหัว”
“แหม น้องเพ้นท์ของกูนี่น่ารักเนาะ” ถอนหายใจออกมาก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบบ้าง
“ทูนหัวน่ะความหมายจริงๆ แสดงให้เห็นถึงความรักใคร่ยกย่อง” ไอ้คัทเป็นคนเดียวที่ดูเหมือนจะเข้าใจความหมายนี่ดีและมันคงจะรู้ว่าผมต้องการคำตอบที่ออกมาจากความคิดของคนมากกว่าการไปเสิร์ชหาในอินเตอร์เน็ต
“แล้ว... อย่างผู้หญิงที่กูนอนด้วยล่ะ พอจะเสร็จหล่อนจะบอกเสมอว่าใกล้แล้วทูนหัว”
“อ๋อ กูเข้าใจล่ะ” ไอ้ดรีมขัดจังหวะผม “ที่สงสัยคือเพราะเพ้นท์พูดด้วย บวกกับมึงเคยได้ยินคำนี้มาจากปากผู้หญิงที่มึงนอนด้วย กูเข้าใจถูกปะ”
ผมพยักหน้าให้ไอ้ดรีมซึ่งมันถึงกับดีดนิ้วจนเกิดเสียงดัง เพราะสิ่งที่คิดมันเข้าใจถูกต้องแล้ว “ใช่ แม้ว่าคำนี้จะสามารถแปลได้หลายความหมาย แต่ต้องดูที่เจตนาของคนๆ นั้น”
“หมายความว่ายังไงไอ้คัท?” ถามเพื่อนออกไป มันทำหน้าหงุดหงิดไม่น้อยแต่ก็เลือกที่จะให้คำตอบที่คาใจผม
“เจตนาของผู้หญิงที่มึงนอนด้วยคือการยกย่องมึง รักใคร่มึงในทางมีเพศสัมพันธ์” ไอ้คัทจิบไวน์แดงในมือและมองสีของมันที่ส่องประกายสวยงามเมื่อกระทบกับแสงสีภายในผับ “แต่กับเพ้นท์ เธอยกย่องมึง เคารพมึงไม่ใช่เชิงแบบนั้น”
“...”
“เจตนาของเพ้นท์คือเธอแค่รู้สึกว่ามึงน่านับถือ เป็นที่เคารพ ยกไว้เหนือหัว อะไรทำนองนี้”
“หัวแหลมมากเพื่อนกู” ไอ้ดรีมปรบมือให้กับไอ้คัทที่อธิบายในส่วนที่ผมสงสัยไว้จนเข้าใจถึงคำว่า ‘ทูนหัว’ จริงจังแล้ว และพอได้ฟังเจตนาที่เพ้นท์ยกย่องก็พาให้ผมอมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ “น้องกุ้งเต้นกำลังมา รอก่อนแล้วกัน”
“ไม่อะ กูจะกลับแล้ว”
“หือ? มึงรีบหรือไงวะไอ้พาย”
“กูด้วย ต้องกลับไปวาดรูปต่อ” ไอ้คัทลุกขึ้นตามผม ส่วนไอ้ดรีมก็ทำหน้าบูดบึ้งราวกับไม่พอใจ “หางานหาการทำซะ จะได้เลิกฟุ้งซ่านเรื่องใต้สะดือ”
“ไอ้เหี้ยคัท! ด่ากูคนเดียว ไมไม่ด่าไอ้พายมั้งอะ”
“ไอ้พายไม่ได้บ้าคลั่งเหมือนมึง มันรู้อะไรควรไม่ควร อีกอย่างมันเสพผู้หญิงพกวนั้นก็เพราะเหงา” ผมยักไหล่เมื่อไอ้คัทเข้าข้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่ค่อยอยากจะสนใจมันคือ... “มันมีเจ้าของแล้ว มึงคงไม่ลืม”