“ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวฉันต้องทำงานต่อ”
“คุณพายต้องการกาแฟหรือเปล่าคะ?” เขาโบกมือไปมาจนฉันยันตัวลุกขึ้นและเก็บถ้วยบะหมี่ที่หมดเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่น้ำซุปมาไว้ในมือ “งั้นเพ้นท์ไปนอนก่อน คุณพายเองก็พักผ่อนด้วยนะคะ”
ฉันส่งยิ้มให้กับร่างสูงซึ่งนั่งไขว่ห้างและเลื่อนแท็บฯ ในมือเพื่อทำงาน ส่วนฉันก็เดินเข้าครัวเพื่อเอาถ้วยไปล้าง ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องของตัวเองทิ้งตัวลงบนเตียงหนานุ่มที่ไม่เคยได้สัมผัส ปกติอยู่ที่บ้านคุณท่านฉันได้แต่นอนบนพื้นปูนแข็งๆ แม้ตอนแรกจะไม่ชินสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้รับโอกาสจากคุณพาย ได้รับสิ่งดีๆ จากเขา
รุ่งเช้าฉันตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันดีเลยมั้ง เพราะต้องตื่นมาเนื่องจากมีภารกิจให้ต้องทำทุกวันคือทำอาหารเช้า และต้องเก็บกวาดบ้านให้เรียบร้อยห้ามมีฝุ่นแม้แต่นิด คุณพายแพ้ฝุ่นดังนั้นฉันจึงต้องทำความสะอาดทุกวัน เสื้อผ้าของคุณพายถูกแขวนเรียงกันอยู่ตรงสนามหน้าบ้าน เสียงประตูรั้วเปิดขึ้นทำให้ฉันเอี้ยวใบหน้ามองร่างสูงที่อยู่ในชุดสูทสีเทากำลังเดินตรงเข้าไปในบ้าน
“คุณธนิน สวัสดีตอนเช้าค่ะ” เลขาของคุณพายคนนี้เป็นผู้ชายที่แก่กว่าคุณพายอยู่หลายปี เป็นเหมือนพี่ชายคนหนึ่งที่คุณพายนับถือเลยก็ว่าได้ รอยยิ้มอบอุ่นถูกส่งมาให้ก่อนที่ร่างสูงจนมาหยุดเคียงข้างฉัน
“สวัสดีครับ ตื่นแต่เช้าเลยนะเพ้นท์”
“ค่ะ เพ้นท์ทำข้าวต้มไว้คุณธนินทานอาหารเช้ากับคุณพายสิคะ”
“แน่นอนครับ ดูสิท้องร้องจ้อกๆ แล้วเนี่ย”
พูดพลางลูบหน้าท้องตัวเองไปมาก่อนจะช่วยฉันถือตะกร้าเข้ามาในบ้านและนั่งลงที่โต๊ะอาหาร ฉันจึงตักข้าวต้มปลาทะเลกลิ่นหอมเลื่อนให้คุณธนินและน้ำเย็นหนึ่งแก้ว “ได้ข่าวว่าสอบติดมหาลัย คณะที่ตัวเองใฝ่ฝัน ยินดีด้วยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ ว่าแต่คุณธนินรู้ได้ยังไงเหรอคะ?” ถามออกไปอย่างแปลกใจก็เพราะคุณธนินไม่ได้อยู่ด้วยนี่นา
“คุณพายไงครับ” สบตากับคนตัวสูงที่ตักข้าวต้มเป่าให้คลายความร้อน “คุยว่าเพ้นท์สอบติดให้ผมฟังตั้งแต่เจอหน้า จะไม่รู้ได้ยังไงล่ะ”
“อ๋อ” ถึงกับร้องออกมาด้วยความฉงนใจ ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณพายจะมีมุมแบบนี้ด้วยตอนที่บอกก็ไม่เห็นจะยินดียินร้ายกันเลย ก็คิดว่าคงเป็นเพราะคุณพายเป็นคนนิ่งขรึมและรักษามาดของตัวเอง
“คุณพายดูดีใจแทนเพ้นท์นะ คงจะหวังไว้มากน่ะครับ”
“เพ้นท์ก็อยากให้คุณพายดีใจค่ะ ไม่ผิดหวังที่เลือกให้ชีวิตใหม่กับเพ้นท์”
คุณธนินยิ้มกว้างก่อนจะจัดการข้าวต้มตรงหน้าโดยไม่รอคุณพายเลยสักนิด เมื่อเห็นว่าคุณพายยังไม่ออกมาจากห้องฉันจึงเคาะประตูห้อง “เข้ามา”
เมื่อได้รับอนุญาตจึงเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของคุณพายที่เรียบร้อยทุกอย่างด้วยฝีมือการจัดของฉัน มองร่างสูงซึ่งยืนอยู่หน้ากระจกกำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวอยู่แต่ทว่ากลับไม่ได้ติดเพื่อที่จะสวมเนกไท “คุณธนินมาแล้วค่ะ”
“เหรอ ยังไม่ถึงเวลาเลยนี่” พูดพลางยกข้อมือดูเวลา
“คุณธนินทานข้าวต้มอยู่ค่ะ สงสัยจะหิว”
“ไม่หรอก เห็นบ่นๆ ว่าอยากกินอาหารฝีมือเธอต่างหาก คงจะหิ้วท้องมากินล่ะ” คุณพายหันไปหยิบเสื้อสูทสีดำสวมใส่พร้อมมือถือราคาแพงและยกมือเสยผมตัวเองขึ้นไปอย่างลวกๆ
“วันนี้คุณพายไม่สวมเนกไท แล้วก็ไม่เซตผมเหรอคะ?” มือหนาที่กำลังยีศีรษะอยู่ชะงักทันทีก่อนจะหันมามองฉัน
“ทำไม... ไม่หล่อเหรอ”
“ปะ เปล่าค่ะ เพ้นท์แค่แปลกตาปกติคุณพายจะเนี้ยบตลอด” หัวเราะแห้งๆ ส่งให้เขา ซึ่งได้รอยยิ้มตรงมุมปากเป็นการตอบแทนบวกกับฝ่ามืออุ่นร้อนที่วางทาบทับบนศีรษะและยีเบาๆ
“ขอไม่เนี้ยบสักวันแล้วกัน เหนื่อยจะแต่ง” พูดจบก็เดินสวนฉันออกจากห้องไป ทิ้งฉันไว้กับความอบอุ่นที่อยู่บนศีรษะตัวเองจำต้องยกมือลูบไปตามความรู้สึกที่เพิ่งได้สัมผัส
อาหารเช้าถูกจัดการจนหมดด้วยสองหนุ่มที่ตอนนี้กำลังพากันออกไปทำงาน ฉันจึงเดินออกมาส่งพวกเขาทั้งสองคนที่รถหรูประจำซึ่งวันนี้คุณพายไม่ได้ขับรถไปเอง มองไปมองมาฉันสูงแค่หัวไหล่คุณพายเองเหรอเนี่ย? ลองเอามือวัดศีรษะตัวเองและเทียบกับคนตรงหน้าก็คงจะจริง เหมือนคนแคระเลยนะพาณิภัค!
ตุ้บ
“อุ๊ย!” เพราะคุณพายหยุดเดินกะทันหันทำให้ฉันไม่ทันได้สังเกตมัวแต่วัดส่วนสูงอยู่ทำให้เดินชนแผ่นหลังกว้างๆ ที่มีกลิ่นหอมจากตัวเขาอย่างจังเลย
“ทำอะไร?” คุณพายหันมาเอ็ดเสียงดุ
“ขอโทษค่ะ” รีบยกมือไหว้คุณพายที่ถอนหายใจออกมา “เพ้นท์ไม่ระวังเอง”
ส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินขึ้นรถไป ส่วนคุณธนินก็หัวเราะกับการทำพลาดของฉันทั้งที่ไม่เคยทำให้คุณพายเอ็ดหรือหงุดหงิดเลยสักครั้ง เพราะความสงสัยบ้าๆ นี่แหละทำให้ตัวเองถูกเอ็ดเลย รู้สึกไม่ดีเลยแหะ!
เพราะต้องรอไปมหาลัยอีกสองวันดังนั้นฉันจึงไม่มีอะไรทำ แต่พรุ่งนี้ฉันจะต้องไปรับใบเกรดที่โรงเรียนเก่าจึงแอบลุ้นเหมือนกันนะว่าเกรดมัธยมปลายจะดีแค่ไหน เมื่อไม่มีอะไรทำฉันจึงลุกขึ้นไปส่องกระจกมองหน้าตัวเองและเส้นผมสีดำสนิทที่ยาวถึงกลางหลังก็คิดอะไรขึ้นมาได้
“ตัดสั้นประมาณไหนดีคะน้อง?”
“อืม... ปะบ่าก็ได้ค่ะ”