การถ่ายทำวันนี้คือฉากสุดท้ายของเรื่องเป็นฉากจบ โดยมีพระอาทิตย์ยามอัสดงเป็นฉากหลัง แต่ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมทำให้ทีมงานและนักแสดงต้องนั่งรอกันก่อน
ครองภพนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย สายตาเอาแต่จ้องมองข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ใจลอยไปถึงไหนต่อไหนทำให้ไม่ได้ยินเสียงเรียกของนางเอกสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ติดกัน
“พี่ไม้คะ พี่ไม้” น้องหยก หรือหยกสวรรค์นางเอกหน้าสวยราวกับนางฟ้าเรียกครองภพเสียงหวาน แต่ชายหนุ่มยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมหันมาคุยกับเธอ
“...”
“พี่ไม้คะ”
“...”
“พี่ไม้” คราวนี้หญิงสาวเอื้อมมือไปสะกิดแขนชายหนุ่มทำให้คนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ คิดถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้รวมถึงเรื่องคนร้ายรู้สึกตัว
“ครับ น้องหยกเรียกพี่เหรอ” เขาหันมาถามด้วยความงุนงง ลืมไปเลยว่าไม่ได้นั่งเพียงลำพัง
“ค่ะ เป็นอะไรรึเปล่าคะ ดูพี่ไม้ใจลอยจังเลย” เธอถามด้วยความกังวล เพราะปกติไม่เคยเห็นครองภพมีอาการแบบนี้ วันนี้ชายหนุ่มดูเงียบผิดปกติเหมือนมีอะไรในใจ
“ไม่มีอะไรครับ พี่แค่คิดว่าต่อไปไม่ได้ถ่ายละครแล้วคงคิดถึงกองน่าดู” เพราะทำงานนี้มาหลายปี บทจะต้องจากลาก็แอบใจหายไม่น้อย
ครองภพกวาดสายตามองบรรยากาศรอบตัวอีกครั้งเพื่อเก็บความทรงจำ ต่อไปเขาจะไม่มีโอกาสทำแบบนี้อีกแล้ว
“ตกลงพี่ไม้จะออกจากวงการจริงเหรอคะ” หยกสวรรค์เพิ่งเข้าวงการบันเทิงได้ไม่นาน แต่ได้ประกบคู่กับพระเอกคนดัง ทำให้เธอกลายเป็นคนมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว
“จริงครับน้องหยก”
ถ้าไม่จริงเขาจะประกาศอำลาวงการบันเทิงทำไม
ครองภพเอ่ยในใจก่อนจะยิ้มโปรยเสน่ห์ เรียกคะแนนนิยมทำให้หยกสวรรค์ใจเต้นแรง รู้สึกเขินยามที่ได้รับรอยยิ้มละมุนของพระเอกหนุ่ม
“น่าเสียดายจังเลย เพิ่งได้เล่นละครด้วยกันเรื่องเดียวเอง”
ไม่ใช่เสียดายธรรมดา ต้องบอกว่าเสียดายมาก เธออยากสานสัมพันธ์กับเขา ไม่อยากเป็นแค่เพื่อนหรือพี่น้องตามที่เขาให้สัมภาษณ์ บอกตามตรงครองภพคือผู้ชายในฝัน
“พี่ต้องกลับไปช่วยธุรกิจครอบครัวครับ”
ครองภพคิดถึงบุพการีกับน้องสาวก็อดยิ้มไม่ได้ เขาอยากให้ท่านทั้งสองได้ไปใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ
มารดาของเขางอแงถามอยู่ตลอด ลูกไม้จะมาทำงานตอนไหนคุณแม่จะไปฮันนีมูนกับคุณพ่อ ถ้าลูกไม้ไม่ยอมรับงานเต็มตัวคุณพ่อก็ไม่ยอมไปกับคุณแม่ เพราะแบบนี้อย่างไรเล่าเขาถึงต้องกลับไปรับตำแหน่งประธานบริษัทแทนบิดาในเร็ววัน
“พี่ไม้ทั้งหล่อ ทั้งรวย ไม่มีแฟนจริงเหรอคะ หยกไม่อยากเชื่อเลย” ใครๆ ก็รู้ว่าคุณพระเอกหนุ่มยังไม่มีหวานใจ แต่โสดสนิทไหมอันนั้นคือสิ่งที่หยกสวรรค์อยากฟัง
“โสดสนิท คนคุยก็ไม่มีเลย ไม่น่าเชื่อใช่ไหมครับ”
บอกด้วยรอยยิ้มจริงใจ เขาไม่มีแฟนไม่มีคนคุยไม่มีใครเลย เพราะงานทำให้คุณพระเอกสุดฮอตไม่มีเวลาไปสนใจสาวคนไหน ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงหรือนางแบบ นางเอกที่เล่นละครด้วยกันก็ไม่เคยมีความรู้สึกพิเศษให้สักคน
“ไม่น่าเชื่อจริงๆ คนหล่ออย่างพี่ไม้เหรอจะโสด”
หญิงสาวตาวาวด้วยความดีใจโอกาสทอดสะพานมาถึงแล้วใช่ไหม เธอทั้งสาวทั้งสวยมีเหรอผู้ชายไม่อยากได้
หยกสวรรค์คิดในใจ
“พี่ทำแต่งาน เอาเวลาไหนไปจีบสาว ผู้หญิงที่คุยมากสุดตอนนี้ก็มีคุณแม่ น้องสาวแล้วก็น้องหยกนี่แหละ”
คำพูดคำจาของชายหนุ่มทำให้คนฟังเริ่มคิดไปไกล คิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาอาจจะกำลังบอกเป็นนัยว่าเธอคือคนสำคัญ
“หยกก็เหมือนกันค่ะ นอกจากครอบครัวก็สนิทกับพี่ไม้ที่สุด”
ไม่ใช่ความจริง เธอสนิทกับผู้ชายหลายคนตามประสาคนชอบบริหารเสน่ห์ แต่กล้าพูดแบบนี้เพราะอยากให้ชายหนุ่มรู้ว่าเธอมีใจให้เขา
“ไม่มีใครจีบน้องหยกเลยเหรอ พี่ว่าไม่น่าจะใช่นะครับ”
ครองภพยิ้มมุมปากเหมือนรู้อะไรมาบางอย่าง แววตาของเขาฉายแววไม่พอใจขึ้นมา ก่อนจะหายไปชั่วพริบตากลายเป็นพระเอกแสนอบอุ่นเหมือนเดิม
“คนจีบก็มีค่ะ แต่หยกไม่เล่นด้วย ดูก็รู้จีบเล่นๆ ฆ่าเวลา ไม่เอาด้วยหรอก หยกไม่อยากเป็นของเล่นของใคร”
“เหรอครับ แล้วแบบนี้น้องหยกจะมีแฟนตอนไหน แต่น้องหยกอายุยังน้อยค่อยๆ มองไปก็ไม่เสียหาย คนสมัยนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ บางคนดูดีแต่ใจร้าย บางคนดูร้ายแต่ใจดี”
“ใช่ค่ะ เห็นจากข่าวทุกวันนี้แล้วสยอง ถ้าหยกจะเปิดใจให้ใครสักคนคงต้องขอใช้เวลาศึกษาดูหน่อย เขาเป็นคนดีไหม”
หญิงสาวเอ่ยได้อย่างหน้าตาเฉยทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสะอิดสะเอียนแต่ไม่แสดงอาการออกมา เขายังคงยิ้มโปรยเสน่ห์เหมือนตัวเองไม่ได้รู้อะไรมาก่อนเลย
เบญญาพรรับอาสาเสิร์ฟน้ำให้คนในกอง หลังจากเอาไปให้คนนั้นคนนี้เสร็จก็ถึงคิวของพระเอกกับนางเอก
เธอค่อยๆ วางขวดน้ำตรงหน้าทั้งสองคนอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางสายตาจ้องจับผิดของพระเอกหน้าหยก ที่กำลังมองขวดน้ำอย่างชั่งใจ มันกินได้ใช่ไหม เธอไม่ได้ใส่อะไรลงไปใช่รึเปล่า
“แก้วนี้เป็นน้ำของคุณหยกค่ะ ส่วนแก้วนี้น้ำของคุณครองภพ” หญิงสาวชี้ไปยังแก้วน้ำทั้งสองที่ไม่มีชื่อแปะเพราะไม่มีอุปกรณ์ ปกติแก้วน้ำของดาราจะมีชื่อติดอยู่เพื่อบอกให้รู้ว่าเป็นของใคร
“ยังเรียกครองภพอีกเหรอ เรียกผมว่าไม้ก็ได้นะครับคุณเหมือนฝัน” ทำไมเขาถึงได้รู้สึกขัดหูก็ไม่รู้ เธอเรียกคนอื่นด้วยชื่อเล่นแต่กับเขากลับเรียกชื่อเต็ม
คำพูดของพระเอกหนุ่มทำให้นางเอกสาวเกิดคำถามจึงหันไปจ้องหน้าเบญญาพรด้วยความสงสัย ก่อนจะหันกลับมาตั้งคำถามกับครองภพที่ยังไม่ละสายตาไปจากสาวแว่น
“พี่ไม้กับทีมงานคนนี้รู้จักกันเหรอคะ ว่าแต่ทำไมหยกไม่คุ้นหน้าเลย”
“ครับเรารู้จักกัน แต่เพิ่งรู้จักได้ไหมนาน ใช่ไหมคุณเหมือนฝัน” ชายหนุ่มอารมณ์ดีอย่างประหลาด หลังจากได้เห็นสีหน้าของคุณป้าแว่นหน้าจืด
เขาอยากไปซื้อลิปสติกให้เธอสักแท่งเหลือเกิน ปากที่กำลังเม้มอยู่นั้นจะได้มีสีสัน คนอะไรหน้าไม่แต่งปากไม่เติมซีดเหมือนศพเดินได้ไม่มีผิด
“คือฝันเพิ่งมาทำงานในกองได้ไม่นานค่ะ ปกติอยู่ที่บริษัท”
คนที่ได้รับฉายาคุณป้าแว่นยิ้มเล็กน้อยก่อนตอบ ถ้าไม่ใช่เพราะหนึ่งในทีมงานลาออกกะทันหันเธอคงไม่ต้องมาทำงานนี้ บอกตามตรงทำงานในออฟฟิศสนุกกว่าอีก
“อ้อ แบบนี้เอง ขอบคุณมากนะคะสำหรับน้ำ”
“ยินดีค่ะ ฝันขอตัวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสิคุณยังไม่ตอบคำถามผมเลย แล้วแก้วนี้ผมดื่มได้ใช่ไหม”
“ทำไมจะดื่มไม่ได้ล่ะคะ แก้วนี้เป็นน้ำของพี่ไม้ไม่ใช่เหรอ”
“พี่ก็ถามไปงั้นแหละ เผื่อคุณเหมือนฝันหยิบมาผิด”
“ถูกแน่นอนค่ะ งั้นฝันขอตัวก่อนนะคะ”
เบญญาพรรีบเดินออกไปหลังได้ยินทีมงานเรียก
ครองภพยังคงมองหญิงสาวอย่างไม่ละสายตาทำให้นางเอกสาวรู้สึกไม่ค่อยพอใจจึงกำมือแน่นด้วยความอิจฉา เขาไม่เคยให้ความสนใจเธอขนาดนี้เลย
“พี่ไม้รู้จักกับเธอมาก่อนเหรอคะ ทำไมดูสนิทกันจัง”
“ครับ บังเอิญรู้จัก สนิทไหม ก็ไม่ได้สนิท เราไปกันเถอะถึงเวลาถ่ายแล้ว”
“ค่ะ” ถึงจะไม่พอใจอย่างไรแต่หยกสวรรค์ก็ยังคงยิ้มหวานให้พระเอกหนุ่มก่อนจะเดินเคียงข้างกันเพื่อไปเข้าฉากสำคัญ
หลังจากทุกอย่างพร้อมสองนักแสดงก็เริ่มทำตามบท พระเอกกับนางเอกจ้องตากันอย่างหวานซึ้ง ทว่าครองภพกลับเห็นใบหน้าของเบญญาพรซ้อนทับขึ้นมาบนใบหน้าของหยกสวรรค์จึงผละออกด้วยความตกใจ ก่อนจะสะบัดหัวเบาๆ แล้วมองอีกครั้ง
คนตรงหน้ายังเป็นนางเอกสาวไม่ใช่คุณป้าแว่น เขาถอนหายใจเล็กน้อย จากนั้นก็ตะโกนบอกทีมงาน ที่กำลังจ้องมองด้วยความใคร่รู้ว่า ครองภพเป็นอะไรทำไมถึงทำท่าทางเหมือนเห็นผี
“ขอโทษครับ ผมเสียสมาธิไปหน่อย ขออีกรอบ”
“พี่ไม้เป็นอะไรไหมคะ ทำไมหน้าซีด”
“เปล่าครับ ไม่ได้เป็นอะไร เรามาต่อกันเถอะ”