เวลาต่อมา...
ร้านเมื่อคืน
เอี๊ยดดด!
ผมจอดรถและลงจากรถทันทีเมื่อมาถึงร้านที่ไอ้นัทบอกเอาไว้ความจริงก็ไม่ได้อยากมาหรอกเพราะว่าไม่สนิทและไม่ได้อยากเจอด้วยแต่รำคาญพ่อเลยยอมมา กะว่ามาไม่นานก็กลับแล้วละเพราะตั้งใจจะกลับกรุงเทพพรุ่งนี้เช้า
“เฮ้อ!” ผมมองร้านและถอนหายใจนิดหน่อยความจริงที่ไม่อยากมาเพราะตอนเรียนมอต้นความทรงจำมันไม่ดีเท่าไหร่น่ะ
“มาแล้วเหรออัลมอนด์?” เสียงไอ้นัทที่กำลังเดินเข้าร้านเรียกผม
“อืม กูอยู่ไม่นานนะ” ผมบอกมันเอาไว้ก่อน
“แค่มาก็ดีแล้วเพื่อนคงดีใจอะที่ได้เจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานานป่ะ” หมับ! มันกอดคอผมเดินเข้าร้านแต่ผมไม่ชอบให้ใครมากอดคอเลยเอาเลยและเดินนำเข้าร้านมา
“ทางนี้” มันเรียกและพาเดินไปที่โต๊ะ
“เฮ้ย!!พวกเราดูดิกูพาใครมาด้วย?” เมื่อมาถึงโต๊ะผมก็มองรอบ ๆ ถ้าเมื่อก่อนคงไม่กล้ามองแบบนี้หรอก
“ใครวะ?” ผู้ชายคนหนึ่งถามและมองหน้าผม
“ไอ้อัลมอนด์ไงจำไม่ได้เหรอวะที่มันไปเรียนกรุงเทพตั้งแต่ขึ้นมอปลายอะ” ไอ้นัทบอกและผู้หญิงในโต๊ะก็เริ่มมองผมบ้าง หึ
“หวัดดีอัลมอนด์เรานุ่นนะจำได้ไหม^^” ผู้หญิงคนหนึ่งนแนะนำตัว
“ไม่ได้อะโทษทีนะ”
“เอ่อ เหรอสงสัยเราไม่ได้เจอกันนานจริง ๆ นั่นแหละ”
“นั่งดิจะยืนแอคหล่ออะไรนักหนาวะ” อีกคนพูดขึ้นเอาจริงผมจำใครไม่ได้สักคนเพราะว่าพวกมันไม่น่าจดจำยังไงละ เหอะ!! ผมนั่งลงและมองไปรอบร้านมันเป็นร้านเปิดใหม่คนไม่เยอะเท่าไหร่หรอกเป็นร้านเหล้าแบบเปิดไม่ได้ใหญ่อะไร
“พูดดี ๆ ดิ เออ! อัลมอนด์ยังจำได้ไหมนี่แบงค์ ต้าร์ ....” ไอ้นัทมันก็แนะนำไปผมไม่ได้สนใจหรอกมีแค่ไอ้แบงค์กับไอ้ตาร์ที่มองผมตลอดซึ่งผมก็พอเข้าใจว่ามองทำไม
“อัลมอนด์ดื่มอะไรเหรอเหล้าหรือเบียร์?” ผู้หญิงในโต๊ะชื่อรินถามผม
“เอาเหล้าไหมเรารินให้^^” คนนี้ชื่อฟ้าละมั้ง
“เบียร์ก็ได้นะเราอยู่ใกล้พอดี” นุ่นยกเบียร์จะเทให้
“ปกติดื่มแต่เตกีล่าอะแต่เอาเหล้ามาก็ได้” ผมบอกไปซึ่งนั่นทำให้พวกผู้ชายในโต๊ะมองอย่างไม่พอใจเท่าไหร่
“แหม! เห็นผู้ชายไม่ได้เลยเนอะต้องแย่งกันตอแหลใส่” ไอ้แบงค์พูด
“ปากหมาไอ้แบงค์!!แต่ว่านะอัลมอนด์ก็สมควรได้รับการปรนนิบัติอยู่แล้วนิเพราะหล่อขนาดนี้” ฟ้าหันมายิ้มให้ผม
“ฟ้าผัวนั่งอยู่นี่ระวังหน่อย” ไอ้ต้าร์มันพูดกับฟ้า เหอะ!!
“ไปอยู่กรุงเทพคงจะได้กินแต่ขอดี ๆ ละสิ ลืมเพื่อนไปแล้วมั้ง” ไอ้แบงค์พูด
“ไอ้แบงค์ก็พูดเกินไปอัลมอนด์มันเรียนนิและกรุงเทพก็ไกลด้วยจะมาหาพวกเราบ่อย ๆ ได้ยังไงละเนอะ”
“ไหน ๆ ก็นาน ๆ กลับมาแล้วมึงก็เลี้ยงพวกกูหน่อยแล้วกันพ่อรวยนักนิ” หึ น่าสมเพชไม่เปลี่ยนแหะ เมื่อก่อนพวกมันชอบมาเพื่อนมาหลาย ๆ คนและขู่ให้ผมจ่ายค่าขนมให้บ่อย ๆ ถ้าไม่จ่ายก็รุมตีผมแต่ตอนนี้ผมไม่เหมือนเดิมแล้ว
“ยังขี้ขอเหมือนเดิมเลยนะ” ผมยิ้มมุมปาก
“ว่าไงนะ?”
“ขี้ขอ ขอทาน ไม่มีปัญญาหาแดกเอาแต่เกาะคนอื่นไปวัน ๆ เหมือนเห็บหมาดูดเลือด” ผมพูดไปจิบเหล้าไปด้วยก็พอกินได้อะนะ
“ไอ้สัส!!มากไปแล้วนะ!” ไอแบงค์โมโห
“กูพูดเรื่องจริงนิ...เมื่อก่อนก็ชอบให้กูจ่ายค่าขนมให้พอโตก็ให้จ่ายค่าเหล้าให้อีกแต่แค่นี้กูจ่ายได้นะถือว่าทำบุญให้หมากิน”
“ไอ้มอนด์มากไปป่ะวะนี่เพื่อนนะเว้ย!!” ไอ้นัทตวาดผมแต่แล้วไงทำต้องกลัวมันไหม?
“ใครเพื่อน?”
“กูไม่ได้นับพวกมึงเป็นเพื่อนสักหน่อยอย่าสำคัญตัวผิดไปหน่อยเลยที่มาเพราะอยากมาดูหน้าพวกมึงว่าโตแล้วสันดานจะเปลี่ยนไปไหม แต่ตอนนี้รู้แล้วละว่าไม่มีเปลี่ยนไปเลยสักนิดต่ำเหมือนเดิม” กระดกเหล้าลงคอ
“เออ!!พวกกูไม่เปลี่ยนหรอก!!และมึงก็จะโดนแบบที่โดนตอนเด็กด้วย!!”
“ใช่!!โดนพวกกูกระทืบไง!!”
“เฮ้ยย!!ใจเย็นก่อนนน!!เราไม่ได้เจอกันตั้งนานจะทะเลาะกันทำไมวะ?!” ไอ้นัทพยายามห้าม
“นั่นสิบรรยากาศหมดเลยอะ!!นาน ๆ ทีจะได้เจออัลมอนด์นะ!!เจอแต่พวกแกน่าเบื่อ!!!” ฟ้าบ่น
“หุบปากนะฟ้า!!ถ้าไม่อยากกลับไปแล้วโดนตบ!!” ไอ้ต้าร์ขู่เมียมัน
“ก็เรื่องจริงนิหล่อ ๆ แบบนี้ใช่ว่าจะหากันได้ง่าย ๆ นะมีเพื่อนหล่อและดีก็ควรภูมิใจป่ะนี้อะไรมาขอกินอยู่ได้สมแล้วละที่อัลมอนด์บอกว่าเป็นขอทานอะ!!” หึ
“อีริน!!”
“ทำไมไอ้แบงค์!!”
“เฮ้ย ๆ ๆ ๆ พอแล้วทั้งหมดทั้งนั้นแหละเรามาเที่ยวมาเจอเพื่อนนะเว้ยจะมาทะเลาะกันทำไมอะพอทั้งคู่”
“นั่นสินุ่นก็คิดว่าแบบนั้นและนี่ก็ไม่รู้ว่าอัลมอนด์จะได้มาอีกเมื่อไหร่ด้วย...” นุ่มมองมาทางผมต่อให้ผมกลับที่นี่อีกผมก็ไม่มายุ่งกับคนพวกนี้อยู่แล้ว
“ก็บอกให้มันระวังปากหน่อยแล้วกัน!” ไอ้แบงค์มันมองหน้าผม
“ไอ้มอนด์มึง...”
“กูกลับเลยแล้วกันเพราะว่าระวังปากไม่เป็นคิดอะไรก็พูดแบบนั้น กูไม่ชอบอยู่สังคมพวกมึงวะรังเกียจแปลก ๆ พวกมึงก็อยู่กันให้ได้นะอีกหน่อยคงพากันเจริญ ๆ นั่นแหละ” พรึ่บ!!ผมลุกจากเก้าอี้เพื่อกลับบ้านก็คิดไว้แล้วว่ามันไม่สนุกแต่ได้ด่าคนก็สนุกดี
ติ๊ด ๆ
“ไอ้มอนด์เดี๋ยวดิ!!” ผมเดินมาที่รถแต่ไอ้นัทตามมา
“กูจะกลับแล้วมึงมีอะไร?”
“กูขอโทษแทนพวกนั้นด้วยนะกูไม่คิดว่ามันจะยังแกล้งมึงอยู่ก็เห็นว่าโตแล้วไม่ใช่เด็ก” มันพยายามพูด
“กูไม่อะไรอยู่แล้วแค่ค่าเหล้าไม่กี่บาทกูมีปัญญาจ่ายและอีกอย่างเรื่องตอนเด็กกูก็ลืมไปหมดแล้ว เพื่อนใหม่กูที่กรุงเทพค่อนข้างดีเลยทำให้กูลืมเรื่องเลว ๆ ที่เกิดขึ้นที่นี่ได้หมดเลยวะ” ผมบอกมัน
“ไอ้มอนด์”
“เลิกทำตัวเป็นพระเอกเถอะขอร้องกูเห็นแล้วจะอ้วกวะ เอาจริงกูเกือบลืมมึงไปในความทรงจำแล้วด้วยซ้ำทำมาเป็นบอกว่าเพื่อนสุดท้ายก็แค่ไอ้ขี้ขลาด” ผมเดินเข้าไปพูดต่อหน้ามันความทรงจำจาง ๆ ไหลเข้ามานิดหน่อยผมไม่ได้อะไรแล้วละแต่พอเห็นหน้าพวกมันแล้วก็อยากลองเอาตีนเหยียบหน้าแบบที่ผมเคยโดนบ้าง
พรึ่บ!!และอยู่ ๆ มันก็คุกเข่าต่อหน้าผม
“ไอ้มอนด์เรื่องตอนนั้นกูขอโทษนะเว้ย!!แต่กูก็กลัวไงละเลยไม่กล้าเข้าไปช่วยมึงตอนนั้นขอโทษนะ”
“กูเกือบเชื่อแล้ว...ถ้ากูไม่เห็นรอยยิ้มของมึงตอนนั้นอะ” ผมก้มลงไปกระซิบข้างหูมัน
“อะไอ้มอนด์มันไม่ใช่นะเว้ย! กู...”
“ชู่ววววว!!ไม่ต้องพูดอะไรแล้วละเพราะว่ามึงไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับกูขนาดนั้น ไม่ต้องอธิบายอะไรเพราะเรื่องของมึงมันไร้สาระ” ผมพูดกับมันครั้งสุดท้ายก่อนจะขึ้นลงและขับออกมา
ตอนนั้นตอนปิดเทอมพวกมันพาเพื่อนไถ่เงินผมพอไม่ให้ก็กระทืบผมโดยมีคนที่เรียกตัวเองว่าเพื่อนผมยืนมองด้วยรอยยิ้ม....
บรื้นนนนน!!!
“น่าเบื่อฉิบหาย...” ผมกำลังขับรถกลับบ้านก็พบมีรถอีกคันกำลังขับตามซึ่งผมก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกก็นี้มันถนนใครจะขับก็ได้จนกระทั่ง
ปึก!!
“เหี้ยยยย!!” มันชนรถผม!!
ผมมองกระจกหลังก่อนจะเร่งเครื่องเพิ่มความเร็วและพอมันเข้าซอยหมู่บ้านแล้วถนนมันไม่ดีไง!!!แถมยังเป็นตอนกลางคืนอีกเพราะงั้นเลยยากต่อการขับขี่ แม่งเอ๊ยยย!!อย่าให้รู้นะว่าหมาตัวไหนผมไม่ปล่อยเอาไว้แน่!!
ปัง!!!และมันก็ชนอีกครั้ง!!!
บรื้นนนนน!!มันเร่งจะตีเทียบรถของผมรถมันเป็นกะบะแต่งซิ่งท่อดัง
“แม่งเอ๊ยย!!” ผมก็พยายามเร่งหนีเพราะไม่อยากให้รถเสียหายเดี๋ยวพ่อด่า -.-
บรื้นนนน!!!! ทั้งผมทั้งมันพยายามเร่งเครื่องเพิ่มความเร็วแข่งกันไม่มียั้งแต่ลืมไปที่นี่มันคันนา!!ไม่ใช่ถนนลาดยางดี ๆ !!!!
บรื้นนนน!!!บรื้นนน!!!
“เฮ้ยยยยย!!” และมันก็เร่งเครื่องแซงก่อนจะปราดหน้ารถของผมก่อนจะเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ข้างทาง โครมมมมมมม!!!!!!!!!!!!!!!!!