Chapter 3

2003 คำ
"อย่านะนี่ อย่าช้าใช่มั้ย" "!!!!!!!" “หื้มว่าไง” “พะ..พี่แบล็ค” เอวาที่กำลังถูกมาเฟียหนุ่มซุกไซ้ไปตามซอกคอ กลิ่นหอมอ่อนๆในแบบของผู้ชายจากตัวของเขาทำให้เธอทำตัวไม่ถูก แม่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่แบล็คถึงตัวเธอแบบนี้ก็ตาม “ว่าไง เราทำเรื่องนั้นกันเลยดีมั้ย” “ไม่ได้ค่ะ อื้ออออ” “โอ๊ยเอวา!!” มาเฟียหนุ่มร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆเอวาก็กัดเข้าที่ใบหูของเขาในขณะที่เขากำลังสูดกลิ่นหอมจากร่างกายของเธอ “ก็ไม่ยอมหยุดนี่คะ” “เป็นหมาหรือไง” “ปล่อยเลย” “หิวมั้ย” จู่ๆแบล็คก็เอ่ยถามขึ้น “หิวค่ะ พี่จะพาไปเลี้ยงข้าวเหรอคะ” “ถ้าไม่เลี้ยงจะถามทำไม ดูเวลาด้วย ป่านนี้แล้ว” รถคันหรูขับออกตากคอนโดโดยที่มีหญิงสาวนั่งหน้าราวกับตุ๊กตาหน้ารถ ไม่นานรถหรูก็มาจอดที่ร้านก๋วยเตี๋ยวไม่ห่างจากหอของเอวามากนัก “พี่แบล็คกินได้มั้ย” “ฉันไม่ใช่รนกินยากขนาดนั้น สั่งมาเลย เหมือนเธอนั่นแหละ” “ค่ะ” ครืด ครืด ระหว่างที่กำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวได้ไม่ถึงสองคำ โทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดังขึ้น “เดี๋ยวฉันไปรับโทรศัพท์แปปเดี๋ยวมา” “ตามสบายค่ะ” เอวาเอ่ยก่อนนั่งกินต่อ ทางด้านมาเฟียหนุ่มที่รับสายสำคัญก็เดินออกไปคุยห่างจากร้านไม่มากเพราะก็ไม่ต้องการให้ใครได้ยินบทสนทนานี้ “ร้านไม่มีเก้าอี้เลย อยากนั่งกับคนสวยโต๊ะนี้จัง” ขายหนุ่มวัยรุ่นสองคนท่าทางไม่เป็นมิตรมองเอวาด้วยสายตาลามก เดินเข้าไปหาเรื่องจะลวนลามเอวาที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยว ร้านนี้เป็นร้านริมทางเล็กๆมีโต๊ะแค่ไม่เยอะ และมันก็เริ่มค่ำมากๆ “มีคนนั่งแล้วค่ะ” เอวาเอ่ย “พี่อยากนั่ง หรือขอนั่งตักได้มั้ยละ” ชายคนแรกเอ่ย “นี่!!!” “ไอ้พวกนี้ อย่ามาวุ่นวายกับแม่หนูนี่นะ” ป้าเจ้าของร้านเอ่ย “หุบปากไปเลยป้า!” ซ่า!!!! เอวายกแก้วน้ำสาดใส่หน้าชายคนนั้นก่อนที่เขาจะนิ่งแล้วกดมือเอวาลงกับโต๊ะแล้วเอ่ยขึ้น “ซ่าแบบนี้คงจะเด็ดดีนะ!!” “ปล่อย!!!” เอวาที่พยายามจะสะบัดมือออกเพราะถูกชายคนนั้นจับจนเริ่มแดงช้ำ ทางด้านมาเฟียหนุ่มที่หันมาเห็นเหตุการณ์ก่อนจะสบถและวางสายสำคัญที่กำลังคุย “แม่งเอ้ย” ขาแกร่งก้าวนิ่งๆเดินตรงเข้าไปที่โต๊ะ เอวาที่ถูกกระชากอยู่เธอก็เบิกตากว้างเมื่อจู่ๆมีมือขาวเห็นนาฬิกาแบรนด์หรูราคา7หลักนั่นกระชากมือของชายที่กำลังหาเรื่องเธอออกจึงรู้ทันทีว่าแบล็คเดินกลับมาแล้ว “ทำกูเสียอารมณ์จริงๆ” “โอ๊ยยยย!!!!!!!!!!!” มาเฟียหนุ่มกระชากมือของชายอันธพาลนั้นออกก่อนวางมือของชายคนนั้นแบคว่ำกับโต๊ะ ก่อนตะเกียบที่เขาใช้กินก๋วยเตี๋ยวอันนึงจะถูกหยิบแล้วปักลงเต็มแรงกลางฝ่ามือจนเลือดพุ่งทะลุเรื่อถึงด้านล่าง “อย่าเสือกเอามือสกปรกมาแตะคนของกู!” พูดจบมาเฟียหนุ่มก็วางเงินค่าก๋วยเตี๋ยวก่อนจูงมือเอวาออกจากร้านไปขึ้นรถ “เจ็บมากมั้ย” เขาเอ่ยเมื่อเห็นแขนเธอเป็นรอยแดงช้ำ “นิดหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะที่พี่ช่วยวา” “เดี๋ยวฉันพาไปกินอย่างอื่นแทนแล้วกัน” “ไม่เป็นไรค่ะ วากลับหอเลยดีกว่า เห็นพี่รับสายคงจะมีธุระ เดี๋ยววากลับเลยดีกว่า” “กินข้าวกับฉันก่อน” สุดท้ายแบล็คก็พาเอวามาที่โกดังริมน้ำ ซึ่ฃเขาบอกจะพาเธอไปกินข้าว แต่พามาที่แบบนี้จะไปกินข้าวที่ไหน “พี่พาวามาที่นี่ทำไมคะ” “ฉันมีงานสำคัญต้องทำ และจะกินข้าวกับเธอด้วย” “คะ??” “ตามมาเถอะ” หญิงสาวเดินตามมาเฟียหนุ่มเข้าด้านในซึ่งมันมีแต่ลังไม้หน้าตาแปลกๆเยอะมาก ราวกับในหนังที่เขาค่าอาวุธสงครามแบบนั้น ก่อนตะเดินตรงผ่านเข้าไปที่ออฟฟิศและไปถึงริมน้ำ ซึ่งเหมือนกับคนละโลกกับด้านในโกดัง “เธอไปนั่งรอฉันก่อน เดี๋ยวฉันตามไป” “ค่ะ” “เชิญทางนี้ครับคุณเอวา” ลูกน้องคนสนิทของแบล็คเอ่ยขึ้น “รู้จักวาด้วยเหรอคะ?” “รู้ครับ เชิญที่โต๊ะอาหารดีกว่าครับ เดี๋ยวนายตามไปครับ” เอวาที่นั่งที่โต๊ะอาหารโดยที่บนโต๊ะมีอาหารจัดวางไว้เรียบร้อย ไม่อยากจะเชื่อว่ามีแต่ของโปรดเธอทั้งนั้นเลยจริงๆ แต่ไม่นานก็เหมือนสวรรค์แกล้ง เสียงปืนดังขึ้นจากด้านหน้าโกดัง ทำให้ลูกน้องคนสนิทของแบล็ครีบสั่งลูกน้องคุ้มกันเอวาทันที “คุ้มกันคุณเอวาไปที่ห้องพักนายด้านในเร็ว!!” “ครับ!!” “มะ..มันเกิดอะไรขึ้นคะ” เอวาเอ่ยพรางมองซ้ายมองขวาอย่างระวัง “ผมยังไม่ทราบครับ คุณเอวารีบไปหลบที่ห้องนายก่อนครับ เดี๋ยวผมจะไปดูนายก่อน ถ้าคุณเอวาเป็นอะไรไป นายเอาพวกผมตายแน่” เอวาที่ถูกพาตัวไปที่ห้องพักขนาดใหญ่มีหลายส่วนราวกับบ้านขนาดย่อมก่อนจะมองไปมาอย่างระแวง เธอรออยู่ที่นั่นจนรอไม่ไหวจึงเดินออกไปดูด้านนอกเมื่อเห็นว่าเสียงปืนเงียบไป “ไปไหนกันหมด” “เฮ้ยนั้นใครวะยิงให้หมด!!” “กรี๊ดดดด!!!” “เอวา!!!!” ปัง!!! ปัง!!!! เสียงกระสุนสองนัดดังขึ้นก่อนที่จะเห็นมือปืนที่จะยิงเธอล้มลงโดยที่เธอถูกมาเฟียที่มาทันเวลากระชากไปหลบที่ด้านหลังของเขา “ออกมาทำไม!” “พี่แบล็ค!!!!” “เธอนี่มัน…” “แขนพี่เลือดออกเต็มเลย ทะ…ทำยังไงคะ” “พานายเข้าห้องเร็ว!!” แบล็คถูกพาเข้าห้องพัก ก่อนนอนพิงหลังกับเตียงโดยที่แขนเลือดไหลทะลักไม่หยุด “ตะ..ต้องทำยังไง วาต้องทำยังไงคะ เลือดพี่ไหลไม่หยุดเลย” เอวาที่ร้อนลนเมื่อเห็นมาเฟียหนุ่มบาดเจ็บเพราะช่วยเธอ เสื้อถูกถอดออกจนเผยร่างแกร่ง เหงื่อที่ผุดออกมาทั่วใบหน้าและลำตัวเพราะเขาเริ่มเสียเลือด “อย่าดู” “แต่เลือดพี่ออกเต็มเลย วาทำอะไรได้บ้าง พี่ไปหาหมอมั้ยคะ” แบล็คที่พยายามปิดตาของเอวาเพราะไม่อยากให้เธอเห็นแผลที่เขาถูกยิง “ไม่เป็นไร ทำแผลหน่อยก็หาย เธอไม่ต้องตกใจไป” “แต่….” “ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก” ไม่นานหมอถูกตามตัวมาก่อนะริ่มทำแผลมห้มาเฟียหนุ่ม โชคดีที่กระสุนไม่ฝังใน แค่ก็ทำแขนเนื้อเปิดจนต้องเย็บเช่นกัน “คุณแบล็คพักผ่อนเลยครับ ผมฉีดยาให้แล้ว คืนนี้อาจจะมีไข้สักหน่อย ระวังอย่าขยับแขนมากนะครับเดี๋ยวแผลจะฉีก” “อืม” เอวาที่ยืนมองด้วยสายตากังวลก็ทำให้มาเฟียหนุ่มกดยิ้ม “เป็นห่วงหรือไง” “เป็นห่วงค่ะ” “แค่นี้ ฉันก็อยากจะหายแล้ว” “อะไรของพี่คะ” “เดี๋ยวฉันให้ลูกน้องไปส่งเธอกลับหอ” “แล้วพี่ละคะ จะไม่ไปโพยาบาลจริงๆเหรอ” “หมอเพิ่งตรวจเสร็จไง จะไปทำไมอีก” “งั้นพี่ก็นอนไปเลยซิคะ เดี๋ยววาอยู่เป็นเพื่อน เผื่อพี่ไข้ขึ้น” “เธอกลับไปเถอะ ที่นี่อันตราย” สุดท้ายเอวาก็ออกจากโกดังนั่นมาพร้อมลูกน้องคนสนิทของมาเฟียหนุ่มเพื่อกลับหอ “พี่คะ พี่แบล็คไม่ไปโรงพยาบาลแบบนี้จะไม่เป็นอะไรเหรอคะ” เอวาเอ่ยกับลูกน้องคนสนิทของมาเฟียหนุ่มในขณะที่เขากำลังขับรถพาเธอกลับไปส่งที่หอ “ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณหมอเอเป็นหมอประจำตัวนายมานาน ดูแลนายไม่ให้อันตรายได้ครับ” “แต่นั่นแผลถูกยิงนะคะ” “ครับ นายไม่ค่อยอยากให้คุณผู้หญิงเป็นกังวลมากด้วยครับ เลยไม่อยากให้ใครรู้เยอะ” “อ่อ” “คุณเอวาก็อย่าเพิ่งบอกคุณหนูพิงค์นะครับ” “อ่อ ไม่บอกหรอกค่ะ” เอวาคิดในใจว่าจะให้บอกยังไง หากบอกไป พิงค์ต้องรู้แน่ๆว่าเธออยู่กับพี่ชายตัวเองจนดึกดื่นแบบนี้ หลังจากกลับมาถึงหอ เอวาเดินวนไปวนมา มือพรางถือโทรศัพท์กำลังคิดว่าจะโทรไปหาแบล็คดีหรือไม่ แต่ตอนนี้เขาอาจจะพักผ่อนและหลับสนิทไปแล้ว เธอไม่ควรกวนเขา เช้า เอวาที่เตรียมทำเรื่องเพื่อขอพักการเรียนชั่วคราวก็เตรียมตัวมาแต่เช้าเพื่อติดต่องานทะเบียน เธอได้ข่อมูลเพื่อตัดสินใจในการหยุดพัก ก่อนที่จะเดินออกมาที่ด้านหน้าตึกคณะและเห็นพิงค์ที่เพิ่งมาเรียนโดยที่มีรถคันหรูมาส่ง “เอวา” เอวาขมวดคิ้วไม่น้อยเมื่อเห็นมาเฟียหนุ่มเดินลงจากรถด้วยท่าทางนิ่งๆพรางถือของมาส่งพิงค์ทั้งที่เมื่อคืนเขาถูกยิงจนเดี้ยงนอนหมดแรงอยู่บนเตียง แต่ทำไมเช้านี้เขากลับดูปกตินัก “นึกว่าขับรถมาเอง” “พิงค์ไม่ค่อยสบายน่ะ เลยให้เฮียมาส่ง” “อ่อ” “เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วโทรหาเฮียนะครับ” “ค่ะ ถ้าเฮียไม่ว่างเดี๋ยวหนูให้คนขับรถคุณพ่อมารับก็ได้” พิงค์เอ่ย “ยังไงก็โทรหาเฮียก่อนครับ” “ค่ะ หนูถือของเองค่ะเฮีย อ๊ะ!” พิงค์ที่รับหนังสือจากมือพี่ชายแต่กลับหลุดมือจนมาเฟียหนุ่มต้องก้มตัวทันทีเพื่อคว้าหนังสือ นั่นทำให้เขาแสดงสีหน้าไม่ดีออกมาจนเอวาสังเกตุได้ “หนูไปเรียนก่อนนะคะเฮีย” “โอเคครับ” แบล็คที่ค่อยๆเดินนิ่งๆกลับขึ้นรถไปทันที มันทำให้เอวามองตามเขาจนกระทั่งขับรถออกไป ตอนนี้ในหัวสมองเธอมีแต่ภาพสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของมาเฟียหนุ่มวนเวียนจนเรียนไม่ได้ ขาเรียวกึ่งเดินกึ่งวิ่ง เมื่อเธอแยกกับพิงค์ที่คลาสเรียนแรก และออกจากมหาลัยทันทีก่อนจะมาหยุดที่หน้าคอนโดหรูของมาเฟียหนุ่ม เธอขมวดคิ้วเมื่อเห็นรถคันนึงกระจกใสจนเห็นคนขับ เธอจำได้ว่านั่นคือหมอเอที่เป็นคนทำแผลให้แบล็คเมื่อคืนที่โกดัง หลังจากนั้น เธอติดต่อที่เคาท์เตอร์และที่นั่นก็จำเธอได้เพราะเป็นคนที่มาเฟียหนุ่มอนุญาตให้ขึ้นไปพร้อมคีย์สำรองตลอดเวลา แต่เอวากลับไม่ได้รู้ตัวแถมยังงงว่าทำไมเธอถึงได้คีย์ห้องเขาง่ายๆ ทั้งที่คอนโดราคาแสนแพง แต่ทำไมอนุญาตอะไรง่ายๆแบบนี้ เมื่อเข้ามาด้านใน เอวาเดินไปรอบๆปรากฏว่าแบล็คอยู่ที่นี่จริงๆ เธอเห็นกระเป๋าเงินใบเรียบหรูของเขาวางอยู่พร้อมปืนอีกกระบอกและสมาร์ทคีย์รถหรู เมื่อเห็นว่าไม่มีร่างแกร่งของมาเฟียหนุ่ม เธอจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องนอนก่อนจะเห็นร่างแกร่งที่ปลดกระดุมเสื้อสีดำสนิทถึงกลางอกพรางหลับ เอวาค่อยๆก้มหน้าลงไปมองใบหน้าหล่อเหลาของมาเฟียหนุ่มใกล้ๆ “อ๊ะ!” “จะปล้ำฉันหรือไง” มาเฟียหนุ่มที่ถือสิสาสะกอดหญิงสาวลงมาจนนอนบนเตียงก็เอ่ยขึ้น “เปล่าสักหน่อยค่ะ” “แล้วเธอมาทำไม” “วาเห็นพี่ทำท่าเหมือนเจ็บตอนที่พิงค์ทำหนังสือหล่น อีกอย่างวาเห็นหมอเอเพิ่งออกจากคอนโดพี่ด้วย แผลฉีกเหรอคะ หรือเป็นอะไรคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม