"อย่านะนี่ อย่าช้าใช่มั้ย"
"!!!!!!!"
“หื้มว่าไง”
“พะ..พี่แบล็ค”
เอวาที่กำลังถูกมาเฟียหนุ่มซุกไซ้ไปตามซอกคอ กลิ่นหอมอ่อนๆในแบบของผู้ชายจากตัวของเขาทำให้เธอทำตัวไม่ถูก แม่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่แบล็คถึงตัวเธอแบบนี้ก็ตาม
“ว่าไง เราทำเรื่องนั้นกันเลยดีมั้ย”
“ไม่ได้ค่ะ อื้ออออ”
“โอ๊ยเอวา!!”
มาเฟียหนุ่มร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆเอวาก็กัดเข้าที่ใบหูของเขาในขณะที่เขากำลังสูดกลิ่นหอมจากร่างกายของเธอ
“ก็ไม่ยอมหยุดนี่คะ”
“เป็นหมาหรือไง”
“ปล่อยเลย”
“หิวมั้ย” จู่ๆแบล็คก็เอ่ยถามขึ้น
“หิวค่ะ พี่จะพาไปเลี้ยงข้าวเหรอคะ”
“ถ้าไม่เลี้ยงจะถามทำไม ดูเวลาด้วย ป่านนี้แล้ว”
รถคันหรูขับออกตากคอนโดโดยที่มีหญิงสาวนั่งหน้าราวกับตุ๊กตาหน้ารถ
ไม่นานรถหรูก็มาจอดที่ร้านก๋วยเตี๋ยวไม่ห่างจากหอของเอวามากนัก
“พี่แบล็คกินได้มั้ย”
“ฉันไม่ใช่รนกินยากขนาดนั้น สั่งมาเลย เหมือนเธอนั่นแหละ”
“ค่ะ”
ครืด ครืด ระหว่างที่กำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวได้ไม่ถึงสองคำ โทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดังขึ้น
“เดี๋ยวฉันไปรับโทรศัพท์แปปเดี๋ยวมา”
“ตามสบายค่ะ” เอวาเอ่ยก่อนนั่งกินต่อ ทางด้านมาเฟียหนุ่มที่รับสายสำคัญก็เดินออกไปคุยห่างจากร้านไม่มากเพราะก็ไม่ต้องการให้ใครได้ยินบทสนทนานี้
“ร้านไม่มีเก้าอี้เลย อยากนั่งกับคนสวยโต๊ะนี้จัง”
ขายหนุ่มวัยรุ่นสองคนท่าทางไม่เป็นมิตรมองเอวาด้วยสายตาลามก เดินเข้าไปหาเรื่องจะลวนลามเอวาที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยว ร้านนี้เป็นร้านริมทางเล็กๆมีโต๊ะแค่ไม่เยอะ และมันก็เริ่มค่ำมากๆ
“มีคนนั่งแล้วค่ะ” เอวาเอ่ย
“พี่อยากนั่ง หรือขอนั่งตักได้มั้ยละ” ชายคนแรกเอ่ย
“นี่!!!”
“ไอ้พวกนี้ อย่ามาวุ่นวายกับแม่หนูนี่นะ” ป้าเจ้าของร้านเอ่ย
“หุบปากไปเลยป้า!”
ซ่า!!!! เอวายกแก้วน้ำสาดใส่หน้าชายคนนั้นก่อนที่เขาจะนิ่งแล้วกดมือเอวาลงกับโต๊ะแล้วเอ่ยขึ้น
“ซ่าแบบนี้คงจะเด็ดดีนะ!!”
“ปล่อย!!!” เอวาที่พยายามจะสะบัดมือออกเพราะถูกชายคนนั้นจับจนเริ่มแดงช้ำ
ทางด้านมาเฟียหนุ่มที่หันมาเห็นเหตุการณ์ก่อนจะสบถและวางสายสำคัญที่กำลังคุย
“แม่งเอ้ย”
ขาแกร่งก้าวนิ่งๆเดินตรงเข้าไปที่โต๊ะ เอวาที่ถูกกระชากอยู่เธอก็เบิกตากว้างเมื่อจู่ๆมีมือขาวเห็นนาฬิกาแบรนด์หรูราคา7หลักนั่นกระชากมือของชายที่กำลังหาเรื่องเธอออกจึงรู้ทันทีว่าแบล็คเดินกลับมาแล้ว
“ทำกูเสียอารมณ์จริงๆ”
“โอ๊ยยยย!!!!!!!!!!!”
มาเฟียหนุ่มกระชากมือของชายอันธพาลนั้นออกก่อนวางมือของชายคนนั้นแบคว่ำกับโต๊ะ ก่อนตะเกียบที่เขาใช้กินก๋วยเตี๋ยวอันนึงจะถูกหยิบแล้วปักลงเต็มแรงกลางฝ่ามือจนเลือดพุ่งทะลุเรื่อถึงด้านล่าง
“อย่าเสือกเอามือสกปรกมาแตะคนของกู!”
พูดจบมาเฟียหนุ่มก็วางเงินค่าก๋วยเตี๋ยวก่อนจูงมือเอวาออกจากร้านไปขึ้นรถ
“เจ็บมากมั้ย” เขาเอ่ยเมื่อเห็นแขนเธอเป็นรอยแดงช้ำ
“นิดหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะที่พี่ช่วยวา”
“เดี๋ยวฉันพาไปกินอย่างอื่นแทนแล้วกัน”
“ไม่เป็นไรค่ะ วากลับหอเลยดีกว่า เห็นพี่รับสายคงจะมีธุระ เดี๋ยววากลับเลยดีกว่า”
“กินข้าวกับฉันก่อน”
สุดท้ายแบล็คก็พาเอวามาที่โกดังริมน้ำ ซึ่ฃเขาบอกจะพาเธอไปกินข้าว แต่พามาที่แบบนี้จะไปกินข้าวที่ไหน
“พี่พาวามาที่นี่ทำไมคะ”
“ฉันมีงานสำคัญต้องทำ และจะกินข้าวกับเธอด้วย”
“คะ??”
“ตามมาเถอะ”
หญิงสาวเดินตามมาเฟียหนุ่มเข้าด้านในซึ่งมันมีแต่ลังไม้หน้าตาแปลกๆเยอะมาก ราวกับในหนังที่เขาค่าอาวุธสงครามแบบนั้น ก่อนตะเดินตรงผ่านเข้าไปที่ออฟฟิศและไปถึงริมน้ำ ซึ่งเหมือนกับคนละโลกกับด้านในโกดัง
“เธอไปนั่งรอฉันก่อน เดี๋ยวฉันตามไป”
“ค่ะ”
“เชิญทางนี้ครับคุณเอวา” ลูกน้องคนสนิทของแบล็คเอ่ยขึ้น
“รู้จักวาด้วยเหรอคะ?”
“รู้ครับ เชิญที่โต๊ะอาหารดีกว่าครับ เดี๋ยวนายตามไปครับ”
เอวาที่นั่งที่โต๊ะอาหารโดยที่บนโต๊ะมีอาหารจัดวางไว้เรียบร้อย ไม่อยากจะเชื่อว่ามีแต่ของโปรดเธอทั้งนั้นเลยจริงๆ แต่ไม่นานก็เหมือนสวรรค์แกล้ง เสียงปืนดังขึ้นจากด้านหน้าโกดัง ทำให้ลูกน้องคนสนิทของแบล็ครีบสั่งลูกน้องคุ้มกันเอวาทันที
“คุ้มกันคุณเอวาไปที่ห้องพักนายด้านในเร็ว!!”
“ครับ!!”
“มะ..มันเกิดอะไรขึ้นคะ” เอวาเอ่ยพรางมองซ้ายมองขวาอย่างระวัง
“ผมยังไม่ทราบครับ คุณเอวารีบไปหลบที่ห้องนายก่อนครับ เดี๋ยวผมจะไปดูนายก่อน ถ้าคุณเอวาเป็นอะไรไป นายเอาพวกผมตายแน่”
เอวาที่ถูกพาตัวไปที่ห้องพักขนาดใหญ่มีหลายส่วนราวกับบ้านขนาดย่อมก่อนจะมองไปมาอย่างระแวง เธอรออยู่ที่นั่นจนรอไม่ไหวจึงเดินออกไปดูด้านนอกเมื่อเห็นว่าเสียงปืนเงียบไป
“ไปไหนกันหมด”
“เฮ้ยนั้นใครวะยิงให้หมด!!”
“กรี๊ดดดด!!!”
“เอวา!!!!”
ปัง!!! ปัง!!!! เสียงกระสุนสองนัดดังขึ้นก่อนที่จะเห็นมือปืนที่จะยิงเธอล้มลงโดยที่เธอถูกมาเฟียที่มาทันเวลากระชากไปหลบที่ด้านหลังของเขา
“ออกมาทำไม!”
“พี่แบล็ค!!!!”
“เธอนี่มัน…”
“แขนพี่เลือดออกเต็มเลย ทะ…ทำยังไงคะ”
“พานายเข้าห้องเร็ว!!”
แบล็คถูกพาเข้าห้องพัก ก่อนนอนพิงหลังกับเตียงโดยที่แขนเลือดไหลทะลักไม่หยุด
“ตะ..ต้องทำยังไง วาต้องทำยังไงคะ เลือดพี่ไหลไม่หยุดเลย”
เอวาที่ร้อนลนเมื่อเห็นมาเฟียหนุ่มบาดเจ็บเพราะช่วยเธอ เสื้อถูกถอดออกจนเผยร่างแกร่ง เหงื่อที่ผุดออกมาทั่วใบหน้าและลำตัวเพราะเขาเริ่มเสียเลือด
“อย่าดู”
“แต่เลือดพี่ออกเต็มเลย วาทำอะไรได้บ้าง พี่ไปหาหมอมั้ยคะ” แบล็คที่พยายามปิดตาของเอวาเพราะไม่อยากให้เธอเห็นแผลที่เขาถูกยิง
“ไม่เป็นไร ทำแผลหน่อยก็หาย เธอไม่ต้องตกใจไป”
“แต่….”
“ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก”
ไม่นานหมอถูกตามตัวมาก่อนะริ่มทำแผลมห้มาเฟียหนุ่ม โชคดีที่กระสุนไม่ฝังใน แค่ก็ทำแขนเนื้อเปิดจนต้องเย็บเช่นกัน
“คุณแบล็คพักผ่อนเลยครับ ผมฉีดยาให้แล้ว คืนนี้อาจจะมีไข้สักหน่อย ระวังอย่าขยับแขนมากนะครับเดี๋ยวแผลจะฉีก”
“อืม”
เอวาที่ยืนมองด้วยสายตากังวลก็ทำให้มาเฟียหนุ่มกดยิ้ม
“เป็นห่วงหรือไง”
“เป็นห่วงค่ะ”
“แค่นี้ ฉันก็อยากจะหายแล้ว”
“อะไรของพี่คะ”
“เดี๋ยวฉันให้ลูกน้องไปส่งเธอกลับหอ”
“แล้วพี่ละคะ จะไม่ไปโพยาบาลจริงๆเหรอ”
“หมอเพิ่งตรวจเสร็จไง จะไปทำไมอีก”
“งั้นพี่ก็นอนไปเลยซิคะ เดี๋ยววาอยู่เป็นเพื่อน เผื่อพี่ไข้ขึ้น”
“เธอกลับไปเถอะ ที่นี่อันตราย”
สุดท้ายเอวาก็ออกจากโกดังนั่นมาพร้อมลูกน้องคนสนิทของมาเฟียหนุ่มเพื่อกลับหอ
“พี่คะ พี่แบล็คไม่ไปโรงพยาบาลแบบนี้จะไม่เป็นอะไรเหรอคะ” เอวาเอ่ยกับลูกน้องคนสนิทของมาเฟียหนุ่มในขณะที่เขากำลังขับรถพาเธอกลับไปส่งที่หอ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณหมอเอเป็นหมอประจำตัวนายมานาน ดูแลนายไม่ให้อันตรายได้ครับ”
“แต่นั่นแผลถูกยิงนะคะ”
“ครับ นายไม่ค่อยอยากให้คุณผู้หญิงเป็นกังวลมากด้วยครับ เลยไม่อยากให้ใครรู้เยอะ”
“อ่อ”
“คุณเอวาก็อย่าเพิ่งบอกคุณหนูพิงค์นะครับ”
“อ่อ ไม่บอกหรอกค่ะ”
เอวาคิดในใจว่าจะให้บอกยังไง หากบอกไป พิงค์ต้องรู้แน่ๆว่าเธออยู่กับพี่ชายตัวเองจนดึกดื่นแบบนี้
หลังจากกลับมาถึงหอ เอวาเดินวนไปวนมา มือพรางถือโทรศัพท์กำลังคิดว่าจะโทรไปหาแบล็คดีหรือไม่ แต่ตอนนี้เขาอาจจะพักผ่อนและหลับสนิทไปแล้ว เธอไม่ควรกวนเขา
เช้า
เอวาที่เตรียมทำเรื่องเพื่อขอพักการเรียนชั่วคราวก็เตรียมตัวมาแต่เช้าเพื่อติดต่องานทะเบียน เธอได้ข่อมูลเพื่อตัดสินใจในการหยุดพัก ก่อนที่จะเดินออกมาที่ด้านหน้าตึกคณะและเห็นพิงค์ที่เพิ่งมาเรียนโดยที่มีรถคันหรูมาส่ง
“เอวา”
เอวาขมวดคิ้วไม่น้อยเมื่อเห็นมาเฟียหนุ่มเดินลงจากรถด้วยท่าทางนิ่งๆพรางถือของมาส่งพิงค์ทั้งที่เมื่อคืนเขาถูกยิงจนเดี้ยงนอนหมดแรงอยู่บนเตียง แต่ทำไมเช้านี้เขากลับดูปกตินัก
“นึกว่าขับรถมาเอง”
“พิงค์ไม่ค่อยสบายน่ะ เลยให้เฮียมาส่ง”
“อ่อ”
“เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วโทรหาเฮียนะครับ”
“ค่ะ ถ้าเฮียไม่ว่างเดี๋ยวหนูให้คนขับรถคุณพ่อมารับก็ได้” พิงค์เอ่ย
“ยังไงก็โทรหาเฮียก่อนครับ”
“ค่ะ หนูถือของเองค่ะเฮีย อ๊ะ!”
พิงค์ที่รับหนังสือจากมือพี่ชายแต่กลับหลุดมือจนมาเฟียหนุ่มต้องก้มตัวทันทีเพื่อคว้าหนังสือ นั่นทำให้เขาแสดงสีหน้าไม่ดีออกมาจนเอวาสังเกตุได้
“หนูไปเรียนก่อนนะคะเฮีย”
“โอเคครับ”
แบล็คที่ค่อยๆเดินนิ่งๆกลับขึ้นรถไปทันที มันทำให้เอวามองตามเขาจนกระทั่งขับรถออกไป ตอนนี้ในหัวสมองเธอมีแต่ภาพสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของมาเฟียหนุ่มวนเวียนจนเรียนไม่ได้
ขาเรียวกึ่งเดินกึ่งวิ่ง เมื่อเธอแยกกับพิงค์ที่คลาสเรียนแรก และออกจากมหาลัยทันทีก่อนจะมาหยุดที่หน้าคอนโดหรูของมาเฟียหนุ่ม เธอขมวดคิ้วเมื่อเห็นรถคันนึงกระจกใสจนเห็นคนขับ เธอจำได้ว่านั่นคือหมอเอที่เป็นคนทำแผลให้แบล็คเมื่อคืนที่โกดัง หลังจากนั้น เธอติดต่อที่เคาท์เตอร์และที่นั่นก็จำเธอได้เพราะเป็นคนที่มาเฟียหนุ่มอนุญาตให้ขึ้นไปพร้อมคีย์สำรองตลอดเวลา แต่เอวากลับไม่ได้รู้ตัวแถมยังงงว่าทำไมเธอถึงได้คีย์ห้องเขาง่ายๆ ทั้งที่คอนโดราคาแสนแพง แต่ทำไมอนุญาตอะไรง่ายๆแบบนี้
เมื่อเข้ามาด้านใน เอวาเดินไปรอบๆปรากฏว่าแบล็คอยู่ที่นี่จริงๆ เธอเห็นกระเป๋าเงินใบเรียบหรูของเขาวางอยู่พร้อมปืนอีกกระบอกและสมาร์ทคีย์รถหรู
เมื่อเห็นว่าไม่มีร่างแกร่งของมาเฟียหนุ่ม เธอจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องนอนก่อนจะเห็นร่างแกร่งที่ปลดกระดุมเสื้อสีดำสนิทถึงกลางอกพรางหลับ
เอวาค่อยๆก้มหน้าลงไปมองใบหน้าหล่อเหลาของมาเฟียหนุ่มใกล้ๆ
“อ๊ะ!”
“จะปล้ำฉันหรือไง”
มาเฟียหนุ่มที่ถือสิสาสะกอดหญิงสาวลงมาจนนอนบนเตียงก็เอ่ยขึ้น
“เปล่าสักหน่อยค่ะ”
“แล้วเธอมาทำไม”
“วาเห็นพี่ทำท่าเหมือนเจ็บตอนที่พิงค์ทำหนังสือหล่น อีกอย่างวาเห็นหมอเอเพิ่งออกจากคอนโดพี่ด้วย แผลฉีกเหรอคะ หรือเป็นอะไรคะ”