ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวในชุดเดรสสีหวานให้ความสนใจ เธอเหลือบตาตาไปมองนาฬิกาก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าในสวยขึ้นมาสะพายไหล่
แกรก
"คุณท่านให้หนูขึ้นมาตามคุณธารน้ำค่ะ"หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยพยักหน้า ก่อนธารน้ำจะเดินออกมาจากห้องพักซึ่งเป็นห้องนอนเก่าของเธอ
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้ายามเมื่อเธอก้าวขาลงบันไดดังขึ้น เสียงพูดคุยของบิดากับผู้มาใหม่ดังแว่วหูมาแต่ไกล
"นั่นไงครับธารน้ำ มาพอดีเลย"ธารน้ำเดินเข้าไปหาเธอไม่สนใจสายตาของสองแม่ลูกที่มองมาด้วยความไม่พึงพอใจตั้งแต่เธอย้ายเข้ามาอยู่ภายในบ้านหลังนี้ได้หนึ่งอาทิตย์พอดิบพอดี
"สวัสดีค่ะคุณอัคนี"
"สวัสดีครับ"ชายหนุ่มในชุดสูทดูดียิ้มรับเมื่อเห็นว่าที่เจ้าสาวเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้ายิ้มรับ
"ลูกรู้แล้วใช่ไหมธารน้ำว่าวันนี้คุณอัคนีจะพาลูกไปดูชุดกับเลือกการ์ดแต่งานและของขวัญ"
"ค่ะ หนูทราบแล้ว"เพราะเมื่อคืนชายหนุ่มได้ส่งข้อความมาบอกเธอแล้วว่าเช้าของวันนี้จะมารับเพื่อไปดูชุดแต่งงานซึ่งการแต่งงานระหว่างเธอกับอัคนีจะถูกจัดขึ้นภายในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากแม้ธารน้ำจะรู้อยู่เต็มอกว่าเธอจะต้องแต่งงานแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วทันใจขนาดนี้ ชนิดที่เธอเองยังตั้งตัวรับแทบไม่ทัน
"ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลยดีกว่านะครับ เผื่อรถติด"
"ก็ได้ค่ะ"
"ไม่ทานอาหารเช้าที่บ้านของเราก่อนเหรอคะ"เสียงหวานของเขมจิราในชุดนักศึกษาดังขึ้นทำให้ทุกคนต่างหันไปมองหน้าของเธอเป็นสายตาเดียวกัน จนหญิงสาวนั้นที่ได้พลั้งปากออกมาชะงักไป
"เราไปกันดีกว่าครับคุณธารน้ำ"อัคนีละสายตาจากร่างสวยในชุดนักศึกษาก่อนคุณหมอหนุ่มจะหันไปให้ความสนใจกับว่าที่เจ้าสาวในอนาคตก่อนทั้งสองคนจะเดินขึ้นรถแล้วขับมันออกไป
ซึ่งการกระทำของอัคนีคล้ายกับการหักหน้าเขมจิรา เพราะการที่เธอพยายามสร้างตัวตนเพื่อเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเขานั้นมันช่างเป็นการกระทำที่โง่เขลา ทั้งที่ก่อนหน้านี้หญิงสาวเป็นฝ่ายยืนกรานปฏิเสธการแต่งงานกับเขาเอง แล้วตอนนี้เธออยากจะมาสร้างบทบาทในชีวิตของเขาทำไมกัน
"คุณหมอไม่ทำงานเหรอคะวันนี้"
"วันนี้ผมมีเข้าเวรตอนบ่ายครับ แล้ววันนี้คุณธารน้ำไม่มีเรียนเหรอครับ"
"ธารมีเรียนอีกทีก็วันจันทร์หน้าเลยค่ะ"เธอตอบชายหนุ่มอย่างตรงไปตรงมาหญิงสาวให้ความสนใจกับชายหนุ่มในตำแหน่งคนขับไม่คิดแม้จะคว้าโทรที่กำลังสั่นในกระเป๋าสะพายขึ้นมากดรับสาย
"อีกไม่กี่วันก็เรียนจบแล้วใช่ไหมล่ะครับ"
"ใช่ค่ะ"
เธอยอมรับเลยว่าตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอพยายามทำความรู้จักตัวตนของอัคนีมากขึ้น แม้เขาจะมีอายุที่มากกว่าเธอแต่การพูดคุยหรือการวางตัวนั้นมันไม่ได้เข้มงวดเหมือนกับคุณหมอมาดขรึมเหมือนในละครหลังข่าว
และก็ดูเหมือนว่าเขาเองก็พยายามปรับตัวเข้าหาเธอเช่นเดียวกัน ซึ่งมันก็ดีต่อการพัฒนาต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองซึ่งต่อไปในภายภาคหน้าเธอและเขาต้องอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน
แต่แม้ว่าธารน้ำจะพยายามก้าวพาชีวิตของตัวเองให้เดินไปข้างหน้าแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายเมื่อนิติหอพักที่เธอพักอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ได้โทรมาบอกว่าอดีตแฟนหนุ่มยังคงตามมาเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องตลอดทั้งหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา
ห้างสรรพสินค้า
อัคนีพาธารน้ำมายังห้างสรรพสินค้าสุดหรูใจกลางเมืองหลวงซึ่งเป็นศูนย์รวบรวมสินค้าและของใช้แบรนด์มากมายไม่เว้นแม้แต่ร้านขายชุดคู่บ่าวสาวซึ่งมีทั้งเซเล็บไฮโซต่างพากันมาใช้บริการของทางร้านนี้
"สวัสดีค่ะคุณอัคนี สวัสดีค่ะคุณธารน้ำ"พนักงานของร้านกล่าวสวัสดีทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเมื่อว่าที่บ่าวสาวก้าวขาเข้ามาภายในร้าน
"ที่ผมนัดเอาไว้"
"เชิญทางนี้ได้เลยค่ะ"ธารน้ำที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากเดินตามแรงจูงมือของชายหนุ่มเข้าไปยังห้องรับรองลูกค้า
"ไม่ทราบว่าคุณอัคนีกับคุณธารน้ำต้องการการ์ดเชิญในโทนสีอะไรและแบบไหนดีคะ ทางร้านของเรามีให้เลือกตามความต้องการของคุณลูกค้า"พนักงานนำเฉดสีและตัวอย่างการ์ดวางลงบนโต๊ะเพื่อให้มั้งสองนั้นได้เลือก
"เรื่องแบบนี้ผมคงต้องให้ทางเจ้าสาวเป็นคนเลือกแล้วล่ะครับ ผมไม่ถนัดเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่"อัคนีผู้ที่ไม่ค่อยจะมีความรู้ในเรื่องนี้พูดติดเสียงหัวเราะก่อนจะหันไปมองหน้าของว่าที่เจ้าสาวข้างกาย
หญิงสาวส่งยิ้มบาง ๆ ไปให้เพราะเธอก็ไม่รู้เช่นกันว่าการ์ดแต่งงานควรเลือกแบบไหน แต่สุดท้ายเธอก็ต้องจำใจยื่นมือไปหยิบแบบตัวอย่างการ์ดขึ้นมามอง
ตัวอักษรสีทองบนการ์ดแผ่นเรียบมีลวดลายประดับขอบข้างอย่างเรียบหรูมันดูเรียบและหรูหราแบบที่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรให้มันมากเกินไป
"เอาแบบนี้ก็ได้ค่ะ"
"แบบนี้เลยนะคะ"พนักงานสาวยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าที่เจ้าสาวพยักหน้า หลังจากเลือกการ์ดแต่งงานเสร็จก็ถึงเวลาเลือกของชำร่วยซึ่งอัคนีเองก็ให้ธารน้ำว่าที่เจ้าสาวของเขาเป็นคนตัดสินใจ
ซึ่งเธอก็ไม่ทำให้เขาได้ผิดหวัง แม้ทั้งคู่จะไม่ได้แต่งงานด้วยกันเพราะความรักแต่หญิงสาวก็ยังเอาใจใส่ถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ
อย่างเช่นเทียนหอมคู่รักที่ได้กลิ่นหอมมาจากน้ำหอมประจำตัวของทั้งสอง
อัคนีมองหน้าธารน้ำอย่างไม่ละสายตา แม้เธอจะดูเด็กมากกว่าเขาหลายปีแต่ก็มีบางมุมที่ดูดีมีความคิดเหมือนกับผู้ใหญ่
หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกของทั้งสองอย่างก็ถึงเวลาในการเลือกและลองชุดที่จะใส่ภายในงาน
"ที่เลขาของคุณอัคนีแจ้งมานั้นมีทั้งหมดสามชุดนะคะ"
"สะ...สามชุดเลยเหรอคะ"ธารน้ำหันไปมองหน้าว่าที่เจ้าบ่าวซึ่งชายหนุ่มเองก็กำลังจ้องมองมาที่เธอ
"ชุดไทยในพิธีตอนเช้า ชุดเลี้ยงฉลองในตอนค่ำและชุดที่จะใส่อาฟเตอร์ปาร์ตี้ครับ"
"มันไม่เยอะเกินไปใช่ไหมคะ"ธารน้ำกระซิบกับชายหนุ่มให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน
"ราคาของชุดแต่ละชุดมันไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะคะ"อัคนีอมยิ้มกับความประหม่าของหญิงสาว เธอเป็นผู้หญิงที่ผิดแปลกแบบที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น ๆ ได้สวมชุดเจ้าสาวราคาแพง ๆ แบบนี้พวกเธอคงไม่รีรอที่จะกระโจนเข้าใส่ชี้นิ้วสั่งตามความต้องการที่อยากจะได้ แต่ธารน้ำลูกสาวของเจ้าหนี้รายนี้กลับไม่ เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ดูหิวกระหายในเงินตราเหมือนกับพวกผู้หญิงพวกนั้น
"เอาแค่ชุดไทยกับชุดฉลองงานกลางคืนก็ได้ครับ"ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มออกมาได้ทันที แม้ในใจจะยังมีความกังวลกับราคาของชุดเจ้าสาวทั้งสองชุดซึ่งดูเหมือนว่าราคาของมันจะแพงไม่ต่างกัน
"เชิญคุณธารน้ำมาเดินเลือกชุดทางนี้ได้เลยค่ะ"หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะเดินตามหลังพนักงานไป โดยมีร่างสูงใหญ่ของอัคนีเดินตามแรงชักจูงของหญิงสาว
ทั้งเขาและเธอต่างเดินดูชุดแต่งงานภายในร้ายโดยมีพนักงานคอยอำนวยให้ความสะดวกอย่างเต็มที่ ชุดนั้นก็ดูดี ชุดนี้ก็สวยสง่าจนธารน้ำละลานตาเลือกไม่ถูก อีกทั้งราคาของชุดแต่งงานแต่ละชุดทำเอาเธอแทบเป็นลมล้มจับไป ซึ่งสีหน้าตื่นตระหนกของเธอนั้นทำให้คุณหมอผู้เงียบขรึมยิ้มหัวเราะออกมาได้
กระจกภายในร้านเป็นแบบใสทำให้คนภายนอกสามารถมองผ่านทะลุเข้ามาเห็นถึงภาพทุกอย่างภายในร้านได้ ซึ่งทำให้คนที่กำลังเดินผ่านไปมาซึ่งได้มองเข้ามาภายในต่างพากันอิจฉาคู่บ่าวสาวซึ่งกำลังเลือกชุดเพื่อเข้าพิธีวิวาห์ภายในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าแต่กลับมีสายตาคู่หนึ่งที่มองภาพนั้นด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นว่าคนที่เขารู้จักถึงสองคนกำลังยืนเลือกชุดแต่งงานด้วยกันอย่างมีความสุข
"ฉิบหายแล้วไง ไอ้เพลิง"