เฉินอ้ายเหม่ยแอบค้นตู้เสื้อผ้าเมื่อสามีของนางออกไปทำงาน ผ้าปูที่นอนผืนเมื่อคืนที่เขาม้วนเอาไว้ด้านล่างสุดยับย่นยู่ยี่ นางค่อยๆ เอาออกมาคลี่ดูจึงได้เห็นว่ามีรอยเลือดอยู่เล็กน้อยตรงกลาง หญิงสาวเบิกตาโพลง
‘นี่มิใช่?.........’
นางพลันระลึกได้ในทันทีว่าถ้อยคำที่เขาบอกเรื่องที่นางเป็นภรรยาของเขาแล้วนั้นคือเรื่องโกหก เมื่อคืนวานคือครั้งแรกของนางกับเขา นี่ต่างหากที่เป็นเรื่องจริง...และตอนนี้คำพูดโกหกของเขาก็กลายเป็นความจริงไปแล้วเช่นกัน นั่นคือ...นางเป็นภรรยาของมือปราบเหยาอิงหมิงไปแล้ว!
นางนั่งหน้าบึ้งรอเขาอยู่ที่ระเบียงหน้าเรือนหลังน้อย หลังจากโมโหเสียจนทำความสะอาดบ้านทุกซอกทุกมุมทั้งวัน ในที่สุดเขาก็เดินเข้าประตูบ้านเข้ามา
“น้องหญิง เจ้าดูสิ! นี่อาหารที่ข้าห่อมาฝากเจ้าจากโรงเตี๊ยมเหย้าไคซินที่เปิดใหม่ อร่อยมากเชียว”
นางมองเขาเปิดปิ่นโต หยิบจานเป็ดย่างรมควันกับปลานึ่งซีอิ๊วออกมาวาง กลิ่นหอมของมันทำเอานางทำตาโต
“นี่มันราคามิใช่น้อยเลยนะเจ้าคะ?”
เฉินอ้ายเหม่ยลืมเรื่องขุ่นข้องหมองใจไปเสียสนิท วันนี้นางยังไม่ได้กินอาหารกลางวันเลยสักคำเพราะมัวแต่โกรธให้สามี ครั้นได้กลิ่นอาหารหอมกรุ่นก็รีบกระวีกระวาดลุกไปหยิบตะเกียบและตักข้าวใส่ชามสองชุดมาวางตรงหน้าชายหนุ่ม และตำแหน่งที่นั่งของตนเอง จากนั้นก็หันไปรินน้ำชามายื่นให้เขาจอกหนึ่ง
“ข้าขอโทษที่ไม่ได้ซื้อเป็ดตุ๋นน้ำแดงอย่างที่รับปาก พอดีหัวหน้า มือปราบสวีเลี้ยงอาหารมื้อนี้และนางก็สั่งเป็ดย่างรมควันกับปลานึ่งซีอิ๊วให้ข้าเอากลับบ้านมาด้วย”
“ก็ดีนี่เจ้าคะ ท่านไม่ต้องเสียเงินก็นับเป็นเรื่องดี”
เหยาอิงหมิงคีบเนื้อเป็ดวางบนข้าวในชามให้นาง “เจ้ากินให้มากหน่อย เมื่อคืนเจ้าหมดแรงไปเยอะเลยนี่? ถ้ากินเป็ดกับปลาหมดไปอย่างละครึ่ง คืนนี้เจ้าคงมีแรงมากกว่าเมื่อวานเป็นแน่”
นางคีบเนื้อเป็ดใส่ปากคำหนึ่ง รสชาติของมันถึงกับทำให้นางทำตาโต
“อร่อยมากเลยเจ้าค่ะ ท่านพี่รีบกินเถอะ”
นางพุ้ยข้าวในปาก ไม่สนใจฟังคำพูดของเขาจนมือปราบหนุ่มคิดว่านางอาจจะหิวมากจึงหยุดพูด ก้มหน้าก้มตากินจนอิ่ม กระทั่งนางเก็บถ้วยชามและอาหารที่เหลือไปในครัว ล้างเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปเช็ดเนื้อตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า มายืนจังก้าสองมือเท้าสะเอวอยู่หน้าเตียง
“ท่านพี่! วันนี้พวกเรามีเรื่องต้องคุยกันนะเจ้าคะ!”
ดวงตาของนางช่างคล้ายกับวันนั้น วันที่นางสวมชุดดำแล้วถูกเหล่ามือปราบล้อมเอาไว้ เหยาอิงหมิงที่นั่งรออยู่ริมเตียงรู้สึกหวั่นไหว
“อืม...น้องหญิง เจ้าโกรธอะไรข้าหรือ?”
“ท่านพี่คิดว่าตนเองได้ทำสิ่งใดผิดไปหรือไม่ล่ะเจ้าคะ?”
เหยาอิงหมิงกลอกตาเล็กน้อย ดูท่าแล้วนางยังจำสิ่งเดิมไม่ได้ แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าได้ทำเรื่องใดให้นางขุ่นเคือง?
“ขะ ข้า ข้าคิดไม่ออกเลยจริงๆ” ชายหนุ่มทำหน้าแหยๆ
เฉินอ้ายเหม่ยหมดความอดทนนางจึงตวาดออกมา “ท่านโกหกข้า! ท่านโกหกว่าท่านกับข้าเป็นสามีภรรยากันแล้ว ที่แท้...” นางละคำไว้แล้วไปดึงเอาผ้าปูที่นอนจากตู้เสื้อผ้าออกมาคลี่ต่อหน้าเขา “เมื่อคืนนี้คือครั้งแรกของข้าต่างหาก เหตุใดท่านจึงหลอกข้า?”
แววตาของนางดูผิดหวัง เหยาอิงหมิงหัวใจหักวาบคล้ายตกลงจากหน้าผา เขากำลังจะผวาเข้าไปกอดเพื่อกล่าวขอโทษนาง ทว่าเฉินอ้ายเหม่ยกลับพูดออกมาก่อน
“ข้าก็หลงนึกว่าเราเคยร่วมเตียงกันมาก่อน เมื่อคืนจึงไม่ได้ระมัดระวัง ท่านรู้หรือไม่? เช้านี้เนื้อตัวข้าระบมไปหมด!”
“เอ๋?”
“ท่านพี่ดูนี่สิ!” เฉินอ้ายเหม่ยฉุดเขาที่ยืนอยู่หน้าเตียงให้ขึ้นไปนั่งข้างบนด้วยกัน นางถอดเสื้อออกจนหมดแล้วจับมือเขามาทาบบนทรวงอกเปลือยเปล่า
เหยาอิงหมิงตกใจเมื่อได้เห็นนางทำเช่นนั้น “อันใดหรือน้องหญิง?”
“เพราะเมื่อวานเป็นครั้งแรกของข้า เนื้อตัวข้าระบมเพราะมือของท่านพี่ทั้งนั้นเลยเจ้าค่ะ เมื่อเช้าตอนที่ข้าเช็ดตัวรู้สึกว่าแตะไปโดนก็เจ็บนิด แต่พอเห็นผ้าปูที่นอนผืนนั้นเข้าข้าจึงได้รู้สึกเจ็บยิ่งขึ้น”
ชายหนุ่มได้ฟังก็รู้สึกกังวล “ยังมีที่อื่นอีกหรือไม่?”
นางได้ยินคำถามใบหน้าก็ร้อนราวถูกไฟลวก ขยับเข้าไปชิดอกกว้างก่อนจะกระซิบตอบใต้คางเขา “ข้างล่างก็ระบมเจ้าค่ะ คืนนี้ข้าคงปรนนิบัติท่านพี่ไม่ได้แล้ว ขอโทษด้วยนะเจ้าคะ”
เหยาอิงหมิงจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเอาเข้าจริงแล้ว ภรรยาของเขาโกรธเรื่องอะไร?
“แต่ทั้งหมดคือความผิดของท่านทั้งนั้น! เป็นเพราะท่านหลอกข้า พรุ่งนี้ท่านไปซื้อยามาให้ข้าทาเสียดีๆ เลยนะเจ้าคะ”
เช้าวันต่อมา เหยาอิงหมิงไปยืนหน้าเจื่อนอยู่ข้างหมอหลัวเยี่ยน
“ตกลงว่าเจ้ามีปัญหาอะไรกันแน่?”
“คือว่า....คือ....” ใบหน้าของมือปราบหนุ่มดูอึดอัด ทั้งยังซับสีเลือดระเรื่อบนพวงแก้ม
หลัวเยี่ยนหงุดหงิดเพราะสหายของเขามายืนบิดไปมาได้เป็นเค่อแล้ว
“พูดมาๆ”
เหยาอิงหมิงยื่นหน้าเข้าไปป้องปากกระซิบข้างหูสหายอย่างกระมิดกระเมี้ยน ฟังจบท่านหมอหนุ่มก็หัวเราะร่า
“ฮ่าๆ ฮ่าๆ ในที่สุดสิ่งที่ข้าสงสัยก็เป็นความจริง ที่แท้เจ้าเก็บนางมารักษาเพราะอยากให้นางตอบแทนด้วยร่างกายนี่เอง”
“หึ! ใช่ที่ไหนกัน? นางช่วยชีวิตข้า ข้าจึงช่วยชีวิตนางต่างหาก”
“เล่ามาให้หมดแล้วข้าจะให้ยาเจ้าเปล่าๆ ไม่คิดสักอีแปะ”
เหยาอิงหมิงหน้ามุ่ยแต่ก็ยอมเล่าเหตุการณ์จริงทั้งหมดให้ท่านหมอหนุ่มได้ฟัง หลัวเยี่ยนพยักหน้า “คดีนี้เจ้าบอกว่าปิดไปแล้วมิใช่หรือ?”
“อืม...อีกสองวันข้าจะพานางกลับไปทำพิธิแต่งงานที่บ้านนอก นางบอกข้าก่อนหน้านี้ว่าเป็นเด็กกำพร้าที่สำนักนักฆ่าจับเอามาเลี้ยง เช่นนั้นตอนนี้ก็เท่ากับไม่มีเจ้านายและครอบครัวแล้ว”
“ดีแล้วที่นางจำไม่ได้ เจ้ารีบพานางไปแต่งงานให้เสร็จเถอะ จากนี้กลับมาอีกที นางก็กลายเป็นภรรยาเจ้าไปแล้ว”
มือปราบหนุ่มพยักหน้ายื่นมือไปรับยาตลับกับห่อยาต้มแล้วรีบร้อนกลับบ้านเอาไปให้ภรรยาของตน
************************