“เชอร์!”
เสียงเรียกที่ดังขึ้นทำให้เจ้าของชื่อได้แต่หันซ้ายหันขวาเพื่อหาต้นตอของเสียงว่าใครเป็นคนเรียก จนสายตาปะทะเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเดินตรงมายังเธอ
“พี่แซม” เชอร์รีลเอ่ยเรียกอีกฝ่ายด้วยชื่ออย่างคุ้นเคย
“เรียนอยู่ที่เดียวกันแท้ ๆ แต่กว่าจะได้พบกันแต่ะละทีก็ไม่ง่ายเลยนะ” แซมพูดขึ้นในขณะที่สองเท้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอพอดิบพอดี
“ก็คณะของพี่แซมอยู่คนละฟากกับคณะนิเทศฯ เลยนี่คะ เป็นธรรมดาที่จะไม่เจอกันค่ะ” เธอตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แซม เป็นลูกชายของนักธุรกิจที่สนิทกับนายชลิตผู้เป็นพ่อ เลยทำให้เธอพลอยสนิทกับเขาไปด้วย
“แล้วนี่เชอร์ว่างปะ ไปกินไอติมกันไหม” ชายหนุ่มเอ่ยชวนอย่างเป็นกันเอง โดยที่ทั้งสองคนไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครกำลังเดินมา
“ไม่ว่าง อยากแดกก็ไปแดกเอง”
เสียงเข้ม ๆ นั่นทำให้เชอร์รีลขนลุกซู่ขึ้นมาทันที มันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขา และเมื่อหันไปมองก็เห็นเป็นเวคาจริง ๆ อีกทั้งตอนนี้ใบหน้าหล่อ ๆ นั่นก็กำลังบึ้งตึงแสดงถึงความไม่พอใจ
“อ้าว...” แซมอุทานเบา ๆ พร้อมทำหนางุนงง “ลุงชลิตบอกว่าเชอร์เลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอ”
คำถามของแซมทำเอาเชอร์รีลชาวาบไปทั้งตัว เธอหันไปมองเวคาที่ยังทำหน้านิ่ง ๆ แต่ภายใต้ใบหน้านิ่งเรียบนั้น เธอรู้ดีมันเหมือนภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิดออกมา
“จะกลับหรือจะไปกินไอติมกับมัน” เขาถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์ เวคารู้จักผู้ชายตรงหน้าเพราะให้ลูกน้องไปสืบมาบ้างแล้ว
ลูกชายเพียงคนเดียวของนักธุรกิจชื่อดังรายล่าสุด ที่พ่อของเธอต้องการจะเกี่ยวดองด้วย
“พี่แซม เชอร์กลับคอนโดก่อนดีกว่าค่ะ เอาไว้วันหลังค่อยไปกินไอติมกันนะคะ”
เชอร์รีลพูดออกไปด้วยความไม่ได้คิดอะไร เพราะความสนิทกันจึงทำให้ลืมคิดไปว่าตอนนี้มีอีกคนยืนอยู่ด้วย เวคาได้แต่กัดฟันกรอดเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ
สองเท้ารีบก้าวเดินเร็ว ๆ เพื่อจะได้ตามคนตัวโตให้ทัน แต่เวคากับเดินจ้ำเอา ๆ ไม่รอเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ในใจเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปกติ เขากำลังโกรธอยู่แน่ ๆ
จนทั้งคู่เข้ามานั่งอยู่ในรถ ชายหนุ่มเจ้าของรอยสักรูปหัวกะโหลกก็ยังไร้คำพูดจา มันผิดแปลกมาก ปกติหากเขาโมโหก็จะพูดหรือโวยวายออกมาทันที แต่ตอนนี้ทุกอย่างนิ่งเกินไปจนเธอเองก็หวั่นใจ
“ทั้งเธอ ทั้งพ่อเธอ ไม่มีใครละความพยายามเลยจริง ๆ ใช่ไหม”
“เวพูดอะไร เชอร์ไม่เห็นเข้าใจ”
“เดี๋ยวถึงคอนโดเธอก็เข้าใจเอง”
รถยนต์ราคาแพงถูกเร่งความเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมาถึงคอนโดของเขา เวคาลากคนตัวเล็กกว่าให้เดินตามโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้ถามอะไรเลยสักอย่าง จนมาถึงห้อง
ไม่ว่าจะทำอย่างไร อารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ในอกของชายหนุ่มก็ไม่สงบลงเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่เธอพยายามตีตัวออกห่าง พยายามเลิกกับเขา แต่กลับไปยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับผู้ชายอื่นอย่างหน้าชื่นตาบาน แถมมันยังเป็นคนที่พ่อเธอต้องการให้สานสัมพันธ์อีกด้วย
“ไอ้รุ่นพี่นั่นคงเป็นสเปกที่พ่อเธอชอบ” คำพูดของเขาทำเอาสองเท้าที่กำลังจะเดินเข้าห้องนอนหยุดชะงัก
“อะไรอีกอะเว”
“ถ้าฉันไม่ไปเห็นก่อน ก็คงไปถึงไหนต่อไหนกับมันแล้วใช่ไหม”
“เว นั่นรุ่นพี่เชอร์นะ”
“รุ่นพี่หรือว่าที่ผัวใหม่?” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยเสียงกึ่งตวาด ทำเอาหญิงสาวรู้สึกสะอึกในอกอย่างบอกไม่ถูก
“เวอย่ามาปรักปรำกันนะ ถ้าพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้เชอร์จะกลับไปนอนคอนโดตัวเอง” พูดจบเชอร์รีลก็เบี่ยงตัวหลบเพื่อเดินไปอีกทาง แต่ว่าก้าวเดินยังไม่ถึงสองก้าวเลยด้วยซ้ำ
“จะไปไหน คุยกันให้รู้เรื่องก่อน” เวคาคว้าแขนของเธอเอาไว้อย่างแรง ทำให้ร่างเล็กลอยหวือกลับเข้าไปในอ้อมแขนของเขา จนแผ่นหลังบางกระทบอกกว้าง
“เชอร์เจ็บนะ!” เชอร์รีลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด พยายามสะบัดข้อมือหนีจากการจับกุมของอีกฝ่ายแต่ก็ไม่เป็นผลนัก แล้วเวคาก็เหวี่ยงเธอลงบนโซฟาตัวยาวด้วยความแรง จนร่างเล็กล้มหงายลงกระแทกกับเบาะ
“โอ๊ย!” เชอร์รีลรีบตั้งสติ หากเป็นเช่นนี้อีกฝ่ายคงไม่รับฟังอะไรจากเธออีกต่อไปแล้ว
เสือร้ายใช้อำนาจกดบังคับกวางน้อยที่ตัวสั่นระริกให้อยู่ใต้อาณัติ แต่นัยน์ตาคมสวยก็ช้อนขึ้นมองใบหน้าดุดันของอีกฝ่ายอย่างไม่คิดจะยอมแพ้
กระเดือกของชายหนุ่มขยับขึ้นลง บ่งบอกว่าเขากำลังกดกลั้นอารมณ์เป็นอย่างมาก
“เว!” เชอร์รีลร้องเรียก เมื่อเวคาทิ้งน้ำหนักตัวลงคร่อมทับร่างของเธอจนไม่สามารถหลีกหนีได้ สองแขนถูกรวบไปกับพื้นกำมะหยี่ด้วยมือเพียงข้างเดียว จนรู้สึกถึงอาการปวดตึงกล้ามเนื้อขึ้นมา
เวคาสอดเข่าเข้าที่หว่างขาเรียวทั้งสองข้าง มืออีกข้างหนึ่งเปิดประโปรงทรงแคบของเธอขึ้น เผยเห็นชั้นในลายลูกไม้ตัวจิ๋วสีขาวที่ปกปิดยอดเนินสามเหลี่ยมอวบอูมเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่
“อื้อ!”
“ใส่แบบนี้ออกไปข้างนอกเนี่ยนะ ถ้าฉันไปไม่ทันคงจะถึงไหนต่อไหนกับมันแล้วใช่ไหม!” ชายหนุ่มตวาดเสียงเข้ม ใช้นิ้วเกี่ยวสายกางเกงชั้นในเส้นบางแล้วดีดลงบนผิวเนียนเรียบ
“อ๊ะ! เชอร์ก็ใส่แบบนี้อยู่แล้ว!”
เชอร์รีลพยายามดีดดิ้นออกจากพันธนาการของอีกฝ่าย แต่ยิ่งทำเช่นนั้นฝ่ามือหนาก็ยิ่งรุกล้ำเข้ามาจนสัมผัสเข้ากับส่วนอ่อนไหวของเธอ
“วะ...เว...” เชอร์รีลหนีบขาทั้งสองเข้าหากัน เมื่อปลายนิ้วยีวนตรงติ่งบนยอดเนิน
“ทำไม...กับผัวตัวเองถึงขัดขืน” เขาเอ่ยอย่างตัดพ้อ แล้วประกบริมฝีปากบางลงมาอย่างจาบจ้วง ไม่ทันให้หญิงสาวได้หาข้อแก้ต่างให้ตัวเองเลยแม้แต่น้อย
สองลิ้นอุ่นพันเกี่ยวกันจนเกิดเสียงเฉอะแฉะ เวคากวาดไล้สัมผัสไปทั่วทั้งโพรงปากอุ่น จากการขัดขืนในทีแรก เชอร์รีลก็กลายเป็นคล้อยตามในบางจังหวะ เกลียวลิ้นร้อนซอนแทรกเลียจนทั่วโพรงปาก
เมื่อเธอดื้อดึงจนริมฝีปากผละออกจากกันได้แล้ว เวคากลับลากริมฝีปากของเขาลงไปที่ลำคอของเธอแทน ซ้ำดูดทำรอยสีกลีบกุหลาบหลายรอยอย่างรุนแรงจนผิวบอบบางแสบคันไปทั่วบริเวณ ราวกับเขากำลังสร้างอาณาเขตอย่างไรอย่างนั้น
เวคาปล่อยสองแขนของเชอร์รีลออก เปิดโอกาสให้เธอได้ขัดขืน แต่ก็เพียงไม่กี่วินาทีที่เขาเลื่อนลงมากระชากสาบเสื้อของเธออย่างแรง จนเม็ดกระดุมที่ทำหน้าที่จับยึดจุดปกปิดดีดผึงออกไปคนละทิศละทาง
ที่ผ่านมาเวคาโมโหร้ายก็จริงอยู่ แต่ก็ไม่มีครั้งใดเลยที่เขาจะรุนแรงกับเธอเช่นนี้
“เว...เชอร์เจ็บ...” หญิงสาวกัดริมฝีปาก ผิวของเธอขาวมาก เมื่อถูกสัมผัสด้วยความรุนแรงเพียงเล็กน้อยก็เกิดรอยปื้นแดงขึ้นอย่างง่ายดาย
“ถ้าเธอกับพ่อเธอทำตัวดี ๆ ก็จะไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้” พูดจบฝ่ามือหนาก็กระชากปราการลูกไม้สีขาวเข้าคู่กับผ้าผืนบางด้านล่างของเธอจนเปิดออก เนินสวยล้นทะลักออกจากบราทั้งสองด้าน อวดอวยความอัดแน่นของเธอสู่สายตากระหายอยากของเสือร้าย
เขากำลังบ้าคลั่งอย่างหนัก
ใบหน้าคมซุกไซ้สองเต้าอวบอิ่ม ใช้ริมฝีปากครอบครองส่วนยอดเนินแล้วดูดจนแก้มตอบ สลับทำทั้งสองข้างจนหัวนมสีหวานเห่อบวมขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกัน ส่งผลให้เอวบางแอ่นสะท้านขึ้นด้วยความเจ็บ
ในตอนนี้เธอกำลังสับสน ควรจะขัดขืนหรือมีอารมณ์ร่วมกับการกระทำอันป่าเถื่อนของเขาดี
แต่เพราะเธอและเขาคบกันมาถึงสี่ปี เขาจึงรู้ทุกจุดกระสันของหญิงสาวและทำให้เธอมีอารมณ์คล้อยตามได้อย่างไม่ยาก
ฝ่ามือหนาจับขาเรียวตั้งฉากตรงหน้า มืออีกด้านปลดกระดุมกางเกงยีนส์ของตัวเองออกไปกองอยู่ที่สะโพก เสื้อยืดถูกถอดโยนลงบนพื้นจนท่อนบนเปลือยเปล่า ปรากฏแผงอกล่ำสันยั่วยวนสายตา
ในตอนนี้เชอร์รีลเป็นคนที่เสื้อผ้าทุกชิ้นอยู่ครบ ทว่าสายตาของเขากลับแผดเผาจนเธออับอาย ราวกับเธอเป็นฝ่ายที่กำลังเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่อย่างไรอย่างนั้น
ฝ่ามือหนาประคองท่อนลำใหญ่ที่ถูกปลดปล่อยออกมา รูดรั้งด้วยมือเพียงสองสามครั้งส่งสัญญาณพร้อมรบ แล้วจ่อไปที่ปากทางเข้าซึ่งถูกปกปิดไว้ด้วยแพนตี้บาง ๆ เปียกเยิ้มจนเห็นกลีบกุหลาบปิดสนิทที่ซ่อนอยู่ด้านใน
ท่อนเนื้อแข็งดุนดันเนื้อผ้าบางที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำหวานสีใสจนแนบเนื้อ
“อ๊ะ! เวทำอะไรน่ะ” เชอร์รีลกรีดเสียงเครือหวิว เมื่อเนื้อผ้าบางถูกดันผ่านรอยแยกสีสดเข้ามาอย่างตื้น ๆ ช่วงล่างของเธอกระตุก จนกล้ามเนื้อภายในร่องรูสีหวานขมิบรับส่วนหัวป้านที่ดุนดันเนื้อเยื่ออ่อนนุ่มอย่างหยาบคาย
เวคาขมวดคิ้วหนาจนผูกปมกลางหน้าผาก เขาอยากเข้าไปในตัวเธอจนแทบบ้า แต่อีกใจก็อยากให้เธอร้องขอจากเขา
แค่เขาเท่านั้นที่ทำให้เธอพอใจ
สะโพกสอบเคลื่อนเข้าออกอย่างช้า ๆ เสียดแทงเนื้อผ้าแนบเนินนูนอวบ ยิ่งเร่งจังหวะยิ่งรู้สึกได้ว่าภายในของเธอบีบรัดช่วงหัวสีเข้มของเขาอย่างร่ำร้อง
สองนิ้วกร้านยีวนบนติ่งเสียวพร้อมทั้งเสียดแทงตื้น ๆ ถี่รัวจนร่างเล็กคลอนส่าย สองมือจิกยึดพนักพิงของโซฟาแล้วแอ่นอ้ากลีบดอกที่ถูกเสียดสีจนเปิดแง้มด้วยความอยากกระสัน
“เว อย่าแกล้ง จะใส่ก็...ใส่มาเลย” คนตัวเล็กเอ่ยสั่งเสียงเข้ม
หารู้ไม่ว่านั่นคือการสะบั้นเส้นขีดความอดทนของเวคาให้ขาดออก สองมือปล่อยเรียวขาสวย ฉุดกระชากแพนตี้ลูกไม้สีขาวจนเป้าเปียกเยิ้มขาดออกเป็นรูโหว่
ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อจู่ ๆ เวคาก็สอดความเป็นชายของเขาผ่านรูผ้าที่ฉีกขาด แทรกผ่านเข้ามาในรอยแยกของกลีบดอกที่แย้มอ้าแล้วดันพรวดเดียวจนถึงครึ่งลำ
“อ๊ะ!” เชอร์รีลหลับตาแน่น สองขากระดกขึ้นเมื่อรู้สึกถึงความคับแน่นที่สอดใส่อย่างหยาบคาย
“แม่ง แน่นฉิบ” เขาสบถพร้อมพ่นลมหายใจออกมาทางจมูก ชายหนุ่มสูดริมฝีปากอีกหลายครั้งอย่างอดกลั้นแล้วจึงเริ่มขยับเขยื้อนเคลื่อนกาย
ในจังหวะแรกเป็นการเสียดแทงเข้าออกอย่างตื้น ๆ แต่เพียงไม่กี่ทีร่องรูที่เปียกลื่นของเธอก็สามารถรับความใหญ่โตของเขาเข้าไปได้ทั้งลำ
“เชอร์...อย่าตอดแรง” ชายหนุ่มโน้มกายลงต่ำ ใช้ปลายจมูกสูดกลิ่นกายหอมจากซอกคอขาว แล้วทำรอยรักเอาไว้อีกหลายรอย
ทุกรอยเปี่ยมไปด้วยเพลิงแห่งความหึงหวงที่ล้นทะลัก
“เว เบาหน่อย เชอร์จุก” หญิงสาวน้ำตาอาบเอ่อ สองมือจิกข่วนลงบนแผ่นหลังกว้างจนเกิดแผลได้เลือดซึมซิบ
“ทนหน่อย” เวคากระซิบเสียงต่ำ มือด้านหนึ่งถกกระโปรงทรงแคบขึ้นไปกองอยู่บนหน้าท้องแบนราบ ขณะที่สะโพกยังคงเสือกไสจ้วงแทงเข้าไปในร่องรูเปียกเยิ้มน้ำหวาน รุนแรงเสียจนได้ยินเสียงเนื้อที่กระทบกันดังลั่น
“อื้อ อ๊ะ เว...” จากเสียงอึกอักน่าอึดอัดในตอนแรกกลายเป็นเสียงครางหวิวเมื่อเขากดย้ำเข้าไปในจุดที่เธอพอใจ ความเป็นชายเสียดแทงร่องรูคับแน่น ทุกการเคลื่อนไหวนำพาของเหลวสีใสให้ล้นทะลักออกมาจนเลอะเปื้อนโซฟา
เชอร์รีลกัดริมฝีปากแน่นเมื่อเขาถลันกายเข้ามาลึกสุดโคน จนหน้าท้องบอบบางถูกดันขึ้นเป็นรูปลำอย่างน่าสงสาร
เธอจุกจนตัวงอ ยิ่งส่งผลให้ช่วงล่างบีบรัดท่อนลำแน่น ทำเอาเวคาอดไม่ได้ที่จะลงโทษเธอด้วยการหวดฝ่ามือฟาดลงบนก้นกลมอย่างแรง
“อ๊า” เชอร์รีลผวา โผกอดคนรักจนเนินอวบอูมเบียดแผงอกล่ำ สัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจของเขาที่รัวดังอย่างร่ำร้อง
ฝ่ามือหนาจับแขนของเธอออกแล้วจับพลิกร่างเล็กให้นอนคว่ำ วางแขนทั้งสองข้างของเธอลงที่พนักพิงของโซฟา โดยที่เข่าด้านหนึ่งยกวางบนเบาะ
ตามด้วยร่างสูงใหญ่ที่เข้าประกบแผ่นหลังเนียน พร้อมสอดใส่ท่อนเนื้อแข็งกลับเข้าไปในช่องทางร้อนอีกครั้ง ไม่รอให้เชอร์รีลได้ปรับตัวสะโพกสอบก็รัวกระแทกจนกลีบอูมเปิดอ้า กลีบกุหลาบขึ้นสีเข้มจากแรงเสียดสี ปลิ้นเข้าออกตามรูปลำที่สอดใส่เข้าออกอย่างถึงใจ
“เชอร์ห้ามทิ้งเว” เขาย้ำอีกครั้ง ฝ่ามือหนาบีบเข้าที่ปลายคางเรียวแล้วบังคับให้หญิงสาวหันกลับมาประจันหน้าอย่างชัด ๆ ริมฝีปากโผฉกเข้ากับกลีบปากที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกกลิ่นหอม ดูดกลืนรสหวานนั้นอย่างคนตะกละตะกลาม ซึ่งเชอร์รีลก็ตอบรับอย่างดี
เธอดูดดุนลิ้นเขา ในบางจังหวะก็โต้กลับด้วยการเด้งสะโพกสวนจนเวคาเผลอกัดปากเธออย่างแรง
“อื้อ! คนเอาแต่ใจ” เชอร์รีลต่อว่าเขาอย่างไม่จริงจังนัก
“เอาเชอร์ด้วย” เขาตอบกลับ ใช้ฝ่ามือกดศีรษะสวยยอบต่ำจนก้นงอนโค้งขึ้น มืออีกด้านจับยึดสะโพกแล้วเริ่มรัวแรงโยกใส่ร่องรูร้อนระอุอีกระลอกจนเกิดเสียงหยาบโลนดังไปทั่วห้องนั่งเล่น
“อ๊ะ! อื้อ! บะ เบา เสียว..”” เชอร์รีลส่งเสียงกระเส่าเมื่อเขายังคงรัวสะโพกอัดกระแทกความเป็นชายใส่เธออย่างไม่หยุดหย่อน ขาแกร่งยกขึ้นเหยียบเบาะโซฟาด้านหนึ่งขณะที่จับเอวบางยกสูงขึ้นจนได้องศาพอดิบพอดีกัน ส่งให้แท่งร้อนสามารถถลันเข้าไปถึงจุดเร้นลึกสุดในร่างกายของเธอจนมิดด้าม
“จะเสร็จแล้วเชอร์...อา” เวคาเชิดคางขึ้นสูง เร่งจังหวะตอกอัดท่อนเนื้อเข้าไปในร่องกลีบดอกสีช้ำถี่รัวจนร่างของหญิงสาวคลอนสั่นแทบจะยืนไม่ไหว
“อ๊ะ ๆ จะเสร็จแล้ว เชอร์จะเสร็จ อื้อ!” คนตัวเล็กกัดปากแน่น เชิดคางขึ้นสูงแล้วส่งเสียงหายใจหอบหนักออกมา
เมื่อเวคาใกล้สัมผัสขอบสวรรค์ เขากดกระแทก บีบเคล้นเธออย่างรุนแรง สะโพกกลมถูกอัดเบียดเป็นจังหวะถี่รัว แล้วกดแช่สัมผัสสุดท้าย ฉีดพุ่งมวลอุ่นระอุสีขาวขุ่นเข้าไปด้านในช่องทางฉ่ำเยิ้ม พอดีกับที่เธอกระตุกกายถี่แล้วดันสะโพกสวนในทีสุดท้าย
กล้ามเนื้อทุกมัดในกายบีบรัด รีดทุกหยาดหยดเข้ามาในร่างกาย จนน้ำหวานสีขุ่นนั้นล้นทะลักออกมาตามเรียวขาสวยอย่างห้ามไม่อยู่
แท่งร้อนถูกถอนออก เขาตระกองกอดเธอเอาไว้อย่างหวงแหน เธอเป็นของเขาและจะไม่มีวันให้ผู้ชายคนอื่นได้เข้าใกล้อีกเด็ดขาด
///////////////////////////////////////////////////////