รถยนต์คันใหญ่แล่นอยู่บนถนนนานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ แต่ในความรู้สึกของเชอร์รีลมันนานมาก ราวกับว่าผ่านไปแล้วหลายชั่วโมงแต่ก็ยังไม่ถึงคอนโดของเขาสักที การที่ต้องอยู่ในรถซึ่งบรรยากาศกำลังครุกรุ่นไปด้วยความโกรธทำให้เธอรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย
นับวันเวคาก็ยิ่งอารมณ์รุนแรง เข้าใจดีว่าสาเหตุเกิดจากตัวเองที่บอกเลิกเขาก่อน แต่ว่า คนเราแค่บอกเลิกจำเป็นจะต้องทำเรื่องร้าย ๆ ใส่กันขนาดนี้เลยหรือไง ทำไมถึงต่างคนต่างแยกย้ายไม่ได้
ไม่ใช่ว่าไม่รัก เธอเองก็รักเวคามากไม่ต่างกัน แต่หากยังคบกันอยู่ผู้เป็นพ่อก็จะพาลน้อยเนื้อต่ำใจ จึงทำให้ไม่มีทางเลือกจริง ๆ
ครู่ใหญ่รถก็มาจอดหน้าคอนโด ทันทีที่ประตูรถเปิดออกเขาก็กระชากเธอให้ลงตาม แม้ว่าเชอร์รีลจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ตัวเล็กบอบบางขนาดนั้น แต่แรงของผู้ชายร่างกายกำยำอย่างเขาก็ลากเธอให้เดินตามได้ไม่ยาก
“เวปล่อยนะ เชอร์เดินเองได้ คนมองหมดแล้ว”
“ทำไม อาย? ทีไปนั่งอยู่กับผู้ชายคนอื่นสองต่อสองลับหลังผัวทำไมไม่รู้จักอาย” เขาพูดด้วยเสียงที่ไม่ดังมากนักแค่พอได้ยินกันเพียงสองคน แต่ว่าเวคาก็ยังไม่หยุดลากเธอให้เดินตาม
“เชอร์ก็บอกแล้วไงว่าแค่ไปธุระ”
“ธุระ? ธุระที่พ่อเธอส่งไปเพื่อให้ผู้ชายคนอื่นเลือกน่ะเหรอฮะ”
พยายามอ้างเหตุผลเท่าไหร่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นประโยชน์ เมื่อเวคายังลากเธอให้เดินตามเร็ว ๆ จนมาถึงห้องนอนของเขา
“โอ๊ย!” เชอร์รีลหวีดร้องด้วยความตกใจเมื่อถูกอีกฝ่ายเหวี่ยงเข้ามาในห้องนอนอย่างแรงจนชนกับผนัง เขาก้าวเดินตามมาอย่างช้า ๆ สายตาคู่นั้นดูน่ากลัวกว่าทุกวัน
“เวจะทำอะไร” ระหว่างที่ถามสองขาก็ก้าวถอยหลังไปด้วยอย่างระมัดระวัง แต่มันยังไม่พอเมื่อเธอสะดุดเข้ากับขอบเตียงแล้วล้มลงไปบนที่นอน
“คิดว่าจะทำอะไรดีล่ะ เมียดื้อขนาดที่หนีไปนั่งกินข้าวกับผู้ชายคนอื่น คนเป็นผัวก็ต้องลงโทษหน่อยไหม” ระหว่างที่พูดเสื้อสูทตัวนอกที่สวมอยู่ก็ถูกถอดแล้วเหวี่ยงลงบนพื้นอย่างไม่ไยดี
“ไม่ทำนะเว”
“ไม่ทำ? เธอคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ปฏิเสธเหรอเชอร์”
และตอนนี้ เสื้อเชิ้ตของเขาก็ถูกแกะกระดุมออกจนหมดแล้วโยนลงพื้นตามเสื้อตัวนอกไปติด ๆ ในตอนนี้ช่วงบนของเขาเปล่าเปลือยเผยให้เห็นกล้ามแน่น ๆ บนลำตัว
“แต่เชอร์กับคุณกรเราไม่ได้ทำอะไรไม่ดีนะเว”
“แล้วยังไง! ต้องรอให้เธอไปเอากับมันก่อนหรือไง” มือหนาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กแล้วดึงกระชากเธอเข้าหาตัว “หรือว่าไปเอากับมันมาแล้ว”
คำถามเชิงดูถูกพร้อมกับสายตาที่ไล่มองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ราวกับกำลังประเมินความเป็นไปได้ในสิ่งที่ตนเองคิด
“มันจะมากเกินไปแล้วนะเว!” เชอร์รีลใช้สองมือผลักหน้าอกเขาเต็มแรง ด้วยความไม่ทันตั้งตัวทำให้เวคาเซถลาจนมือที่จับเธออยู่หลุดออก
“มากเกินไปเหรอ เธอไม่มีสิทธิ์พูดคำนั้นนะเชอร์ ลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อกี้ฉันเพิ่งซื้อเธอด้วยลายเซ็นของฉันเลยนะ”
คำพูดของเขาทำให้เธอทำได้เพียงเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น เจ็บใจที่ตัวเองเหมือนเป็นแค่สิ่งของที่คนตรงหน้าจะซื้อจะขายอย่างไรก็ได้
“แล้วยังไง เวซื้อเชอร์มาแล้วอยากจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ”
“ถูกต้อง และตอนนี้ฉันก็มีอารมณ์มากด้วย”
“เวจะทำอะไร” คนตัวเล็กกระเถิบถอยไปจนสุดเตียง แต่อีกฝ่ายก็เคลื่อนตัวเข้ามาหาเช่นกัน
ไม่ใช่ว่าเล่นตัว แต่เวลาที่เวคากำลังโกรธเขาจะรุนแรงกับเธอมากกว่าตอนที่อารมณ์ปกติ ทำให้บางครั้งจากความรู้สึกวาบหวามมันก็กลายเป็นเจ็บ เธอไม่ชอบความรู้สึกแบบนั้น
ฝ่ามือของคนตัวโตคว้าเข้าที่ข้อเท้าเรียวแล้วดึงลากเธอให้เข้ามาชิดตัวเขา ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดต้นคอเมื่อจมูกคมโน้มลงมาใกล้ลากสัมผัสไปตามผิวเนียน
“เธอเป็นของฉันเชอร์ ไม่มีสิทธิ์ไปเป็นของคนอื่น”
แคว่ก!
ชุดเดรสแสนเรียบร้อยที่สวมอยู่ถูกเขาฉีกขาดออกจากกันในทันทีที่พูดจบประโยค เผยให้เห็นหน้าอกใหญ่และผิวขาวเนียนละเอียดที่อยู่ใต้บราสีขาว
“เว เจ็บ!” เชอร์รีลกรีดร้องแล้วพยายามจะผลักเขาออก เมื่อเวคาออกแรงดูดเม้มลงบนเนินอกอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บ แต่สองมือของเธอก็ถูกเขาจับตรึงกดลงบนที่นอน
ริมฝีปากหยักยังไล่ทำรอยความเป็นเจ้าของจนทั่วทั้งเนินอกขึ้นมาจนถึงลำคอระหง
“เว หยุด” ร่างเล็กที่อยู่ภายใต้คนตัวโตดีดดิ้นไปมาพร้อมเอ่ยขอร้องให้เขาหยุดการกระทำ แต่เวคาก็ยังไม่ยอมหยุดง่าย ๆ จนผิวเนียนขาวขึ้นรอยจ้ำกุหลาบไปทั่วบริเวณ
“ผัวทำรอยนิด ๆ หน่อย ๆ จะตายหรือไง”
คำพูดของเขาพาลให้น้ำใสเอ่อคลอที่ดวงตาคู่สวย ก่อนที่มันจะไหลออกมาจนหยดเปื้อนที่นอน
“ทำไมเวถึงได้ใจร้ายขนาดนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนเวใจดีกับเชอร์มากเลยนะ” เธอเอ่ยถามทั้งที่ร้องไห้ เขาเป็นคนใจดีแค่ไหนเธอรู้ดี แต่ในตอนนี้เวคาเหมือนไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป
“ใจร้ายเหรอเชอร์” เวคาปล่อยแขนเรียวทั้งสองข้างให้เป็นอิสระแล้วผละตัวออกจากคนใต้ร่าง “ไม่ถามตัวเองล่ะว่าทำไมถึงทำให้ผู้ชายคนหนึ่งเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้”
“เชอร์รู้ว่าเชอร์ผิดที่บอกเลิกเวไปแบบนั้น แต่คนเราเลิกกันแล้วต้องทำร้ายกันเหรอเว ต่างคนต่างแยกย้ายไม่ได้เหรอ ตอนนี้เวทำให้เชอร์กลัวมากรู้หรือเปล่า”
ริมฝีปากหยักกดยิ้มมุมปาก ใบหน้าหล่อเหลาของเขาตอนนี้มันดูน่ากลัวไปหมด
“ฉันยังร้ายได้มากกว่านี้อีกเชอร์ รอดูเอาเองก็แล้วกัน ถ้ายังทำตัวเหมือนวันนี้ ทั้งพ่อเธอ ทั้งบริษัท ได้ฉิบหายแน่นอน”
จบคำพูดเวคาก็เดินออกไปจากห้องโดยที่ไม่หันกลับมามองดูเธออีกเลย เชอร์รีลทำได้เพียงซบหน้าลงบนเข่าแล้วร้องไห้อยู่แบบนั้น มันเจ็บนะ จากคนที่รักกันดีไม่เคยทะเลาะกันสักครั้งต้องมาทำตัวร้าย ๆ ใส่กันแบบนี้
‘เรียนจบแต่งงานกันนะเชอร์ เวสัญญาว่าจะดูแลเชอร์อย่างดี จะไม่ทำให้เชอร์ร้องไห้แม้แต่ครั้งเดียว’
ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มบางเบาเมื่อนึกถึงคำสัญญาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน จริง ๆ เรารักกันมาตลอดเลยนะ ถ้าหากพ่อของเธอยอมรับการช่วยเหลือจาก PN กรุ๊ป ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็คงจะดีกว่านี้
แต่ในเมื่อพ่อยอมรับไม่ได้ แล้วคนเป็นลูกจะทำให้พ่อลำบากใจได้อย่างไร
เสียงสะอื้นของคนตัวเล็กที่ดังออกมาจากห้องนอนบีบหัวใจของผู้ชายอย่างเขาเหลือเกิน เวคาทิ้งตัวลงบนโซฟาเอนหลังพิงพนักอย่างเหนื่อยใจ ใบหน้าคมแหงนขึ้นมองแสงไฟจากฝ้าเพดาน เขาไม่อยากทำร้ายเธอเลยสักนิด แต่นี่มันเป็นหนทางเดียวที่จะรั้งเชอร์รีลให้อยู่ข้างกายได้ตลอดไป
ทั้งที่ตัวเขามีเพียบพร้อมทุกอย่างทั้งเงินทองและอำนาจ สามารถทำให้บริษัทของนายชลิตกลับมาเติบโตได้ไม่ยาก ทั้งที่เรื่องมันง่ายแค่นี้เอง PN กรุ๊ป ไม่ใช่อันธพาลที่หาเรื่องใครไปทั่ว แต่ทำไมพ่อของเธอถึงมองไม่เห็นข้อดีบ้าง
แล้วขณะที่กำลังคิดอะไรอยู่เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเกงก็ดังขึ้นดึงสติของเขาให้กลับคืนมา เวคาล้วงไปหยิบโทรศัพท์ออกมาเมื่อเห็นเบอร์ปลายสายก็รีบกดรับ
“มีอะไร”
//เรื่องที่คุณเวบอกให้ผมไปสืบให้ ตอนนี้ได้ข้อมูลมาแล้วนะครับ// คีลรายงานมาตามสาย
“ว่ายังไงบ้าง”
//ตามที่คุณเวคิดเลยครับ พวกนั้นเห็นบริษัทของนายชลิตกำลังเข้าตาจน เลยทำการบีบให้เซ็นสัญญาที่ต่ำกว่ามูลค่าตลาด คิดว่าคงกำลังจะหาทางรวบเอาบริษัทของนายชลิตครับ//
“อย่างนั้นเหรอ นายให้คนทำเอกสารได้เลย ทำยังไงก็ได้ให้บริษัทของนายชลิตมาอยู่ใต้การดูแลของ PN กรุ๊ป”
//ได้ครับคุณเว ผมจะรีบจัดการให้ครับ//
ลูกน้องคนสนิทวางสายไปแล้วเวคาก็ได้แต่ถอนหายใจอีกครั้ง หากไม่ใช่เพราะคำว่ารัก เขาคงไม่พยายามรักษาบริษัทของพ่อเธอเอาไว้หรอก มันเป็นสิ่งที่เชอร์รีลรัก เขาจะปล่อยให้ใครมาฉวยโอกาสเอาไปไม่ได้เด็ดขาด
///////////////////////////////////////////////////////